ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
พระสมจิตร ไพรบึง
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 14 ก.ย. 2008
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): อาชีวศึกษาจุลมณีกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ย. 2008, 9:38 pm |
  |
คนเราดิ้นรนค้นหาในสิ่งที่ตนไม่เคยมี จึงทำให้ตนเองเดือดร้อน
เมื่อได้มาแล้วก็ไม่ได้มีความสุขอย่างเดียวต้น เฝ้าต้องระวังทำให้เป็นทุกข์ในการ
เฝ้าทรัพท์ของตน
คนเราเกิดมาได้ก็เพราะความอยาก
ถ้าไม่มีความอยากเราก็ไม่เกิด
เราจะทานข้าว ถามว่าเราทานเพื่ออะไร
เพื่อความอยากความหิวใช่หรือไม่
ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยความอยาก
ธรรมะเจริญพร |
|
_________________ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้
คิดทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิด |
|
     |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ย. 2008, 11:17 pm |
  |
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
อ้างอิงจาก: |
เมื่อได้มาแล้วก็ไม่ได้มีความสุขอย่างเดียวต้น เฝ้าต้องระวังทำให้เป็นทุกข์ในการเฝ้าทรัพท์ของตน |
จริงๆครับ ผมชอบคำนี้จริงๆ
ได้มาแล้วก็เบื่อ อยากหาอันใหม่อีกเรื่อยไป...
เหมือนกลิ้งลูกบอลไปข้างหน้า แล้วก็วิ่งแย่งจับลูกบอลนั้น...
เมื่อได้แล้วก็โยนออกไปใหม่ วิ่งไล่จับใหม่อยู่ร่ำไป....โอ้หนอ...ชีวิต
 |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
15 ก.ย. 2008, 1:01 am |
  |
พระสมจิตร ไพรบึง พิมพ์ว่า: |
เราจะทานข้าว ถามว่าเราทานเพื่ออะไร
เพื่อความอยากความหิวใช่หรือไม่
ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยความอยาก
|
ขอแสดงความเห็นแย้งหน่อยนึงนะคับ
คนเราทานข้าวเพื่อระงับเวทนาคือความหิว
และสงเคราะห์สังขารร่างกายให้ดำรงอยู่ต่อไปได้
การทานอาหารทานข้าว จึงเป็นธรรมชาติ
แรงขับดันของการกินข้าวคือธรรมชาติ ไม่ใช่ตันหา
หาไม่แล้ว พระอรหันต์ทุกรูปต้องไม่กินข้าว เพราะจัดว่าเป็นความอยาก
ความอยากที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ เป็นความอยากของใจ
ไม่ใช่ความอยาก(ความต้องการ)ตามธรรมชาติ
การกินที่มีใจเข้ามาเกี่ยวข้องล้วนเป้นตันหา เกิดจากตันหา เช่น
อยากกินเป๊ปซี่ อันนี้อร่อย อันนั้นของโปรด อันนี้บำรุงทางเพศ อันนั้นบำรุงผิว อยากกินข้าวมันไก่จ้าวนั้น ขาหมูจ้าวนี้ ปิ่นโตโยมคนนั้น อาหารโยมคนนี้ ...ฯลฯ
แม้แต่พระที่ฉันโดยคลุกเคล้าอาหารสวยๆงามๆ ทั้งของหวานของคาวเทรวมกันหมด
แล้วฉันไปอย่างนั้น ก็ถือว่ามีตันหาผลักดัน
คืออยากจะได้อะไรบางอย่างจากการกระทำ
แต่ถ้าฉันอะไร คลุกหรือไม่คลุกก็ไม่เกี่ยง
ขอแต่ให้ทราบว่าเป็นอาหารกินแล้วไม่ตาย ไม่เป็นโทษเบียดเบียนร่างกาย
เมื่อฉันแล้วก้ระลึกรู้ไปตามที่ฉัน อร่อยรู้ว่าอร่อย เผ็ดก็รู้ว่าเผ็ด
เกิดแสบเกิดร้อน เกิดเย็น เกิดหวาน เกิดแข็ง เกิดอ่อน ก็รับรู้ไปตามที่ได้รู้สึก
กายรู้สึกก็รู้ว่ากายรู้สึก ใจรู้สึกก้รู้ว่าใจรู้สึก
รู้ว่าเกิดกระบวนการกระทบอายตนะแล้วเกิดอารมณ์ต่างๆขึ้น
อยู่กับธรรมชาติไปอย่างนี้ อันนี้จึงเรียกว่า"มีตันหามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุดในบรรดาที่กล่าวมา"
และเป็นการกินแบบพุทธ ตื่นรู้
ผมคิดอย่างนั้นนะคับ
 |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
พลับ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2008
ตอบ: 24
ที่อยู่ (จังหวัด): ยโสธร
|
ตอบเมื่อ:
15 ก.ย. 2008, 7:01 pm |
  |
อด ความอดทนต่อเวทนา ต่อความยากลำบาก ทั้งหลายทั่งปวง
อัด ไม่ให้สิ่งไม่ดี สิ่งมัวหมอง เข้ามารบกวนจิต
อุด ไม่ให้จิตออกไปรับรู้อารมณ์ สิ่งกระตุ้นจากภายนอก
 |
|
|
|
   |
 |
ใบโพธิ์
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
16 ก.ย. 2008, 8:54 am |
  |
 |
|
_________________ ทำความดีทุกๆ วัน |
|
  |
 |
|