Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความสัมพันธ์ของ อานาปานสติ สติปัฏฐานสี่ โพชฌงค์เจ็ด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 4:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมขออนุญาต เสนอเพิ่มเติมน่ะครับ ว่า




เวลาที่เรา-ท่าน เสวนากันถึงอาการต่างๆของจิต ที่อาจจะเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับ สมถะ นั้น


ควรจะระบุให้ชัดเจนไปเลย

ว่า อาการของจิตที่กล่าวนั้น

1.เป็นอาการของ สมาธิ หรือ ไม่เป็นอาการของสมาธิ
(เช่น ไปเรียก นิวรณ์ประเภทถีนมิทธะ ว่าเป็นอาการของสมาธินั้น คงไม่ถูก เมื่อย้อนไปเทียบเคียงดูกับในพุทธพจน์)

2.ถ้าเป็นสมาธิแล้ว จะจัดว่าเป็นสมาธิแบบใด
ระหว่าง
2.1มิจฉาสมาธิ
2.2สัมมาสมาธิ(สมถะ ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้)


ถ้าไม่แยกให้ชัดเจนเสียก่อน เวลา เรา-ท่าน เสวนาในเรื่อง สมาธินี้ จะกลายเป็นพูดกันคนล่ะภาษาไปเลย

หรือ ถ้าเรา-ท่าน ใช้ ข้อ1 หรือ 2.1 มาเป็นบรรทัดฐาน ในการกล่าวว่า ในปัจจุบันชาวพุทธไม่ควรเจริญอานาปานสติสมาธิภาวนา(ที่นำไปสู่ 2.2)กันแล้ว เพราะ สมาธิมีผลเสียเช่นนั้น เช่นนี้(นำข้อเสีย ของข้อ1 และ2.1มากล่าว โดยเหมารวมข้อ2.2ไปด้วย) .... ก็คงไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการกล่าวรวมแบบไม่แยกแยะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
wv
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 13 ก.ย. 2008
ตอบ: 5

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 5:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติอานาปานสติครับ

อนุโมทนา กับคุณตรงประเด็นครับ ที่สนทนาเรื่อง อานาปานสติ ผมขอเล่าประสบการณ์ เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง

ปกติผมก็ปฏิบัติอานาปา บ้างตามแต่เวลาจะอำนวย

วันหนึ่งตอนดึกอยู่ดีๆ ก็ปวดฟันมาก ปวดจนนอนไม่ได้ ต้องเดินไปมาหาทุกวิถีทางที่จะเบี่ยงเบนความรุ้สึก ก็ไม่บรรเทา เลยต้องจำใจกินยา สักพักก็ดีขึ้นจนนอนหลับได้

พอวันรุ่งขึ้น ประมาณบ่ายๆ เริ่มปวดอย่างมากอีกคงหมดฤทธิ์ยา ที่แรกก็คิดจะกินยา แต่คิดว่าดูเวทนาดีกว่า แต่พบว่าดูไม่ได้กำลังไม่พอน้ำตาซึมเอง เลยคิดถึง โพชฌงค์เจ็ด ที่ว่าพระท่านใช้ตอนป่วย
โดยจากทฤษฎีที่รู้มาเริ่มจาก สติ และ ธรรมมะวิจยะ ...
ก็เลยเข้าห้องพระนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ (ขณะนั้นก็ยังปวดอยู่มาก) แต่เมื่อเริ่มกำหนดลมหายใจไปได้สักระยะ พบว่า กำลังของสมาธิ มีประโยชน์อย่างมาก ทำให้กายระงับ ไม่ดิ้นรนตามความปวด
และก็กำหนด ธรรมะ เรื่องปฏิจสมุปบาท มาพิจารณา โดยพิจารณาไปที่การรับรู้ลมที่จมูก(กาย) กับ การรับรู้ความปวด(เวทนา) กลับไปมาเพื่อเห็นการทำงานของจิตที่เกิดดับ

เพียงไม่นาน ความปวดฟันหายไปเลย ซึ่งเกินความคาดหมายอย่างยิ่ง ออกจากการทำอานาปา ก็ไม่ได้ปวดอีก

ก็เลยอยากให้ลองใช้โพชฌงค์ เมื่อตอนเจ็บป่วยดูครับ พิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง
สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2008, 7:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนา คุณwv เช่นกันครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง