ลหุกาบัติ คือตอนที่สวดว่า สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย...

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 10:58 am

1.ลหุกาบัติ คือตอนที่สวดว่า สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย อาโรเจมิ
(ว่าสามหน) ใช่หรือเปล่าครับ รบกานอีกทีนะครับ

ตอบ ใช่
2.ฝ่ายมหานิกาย คือฝ่ายไหนครับ ส่งสัยอีกนิดครับว่า

ตอบ ดูจากรูปแบบการปลงอาบัติแล้ว เป็นแบบฝ่ายมหานิกาย

3.ถ้าเป็นการปลงอาบัติฝ่ายมหานิกาย ก็จะมีคำปลงอาบัติสังฆาทิเสส อยู่แล้ว คือตอนกล่าว "ลหุกาบัติ" คืออาบัติหนักที่แก้ไขได้ คือสังฆาทิเสสนั้นเอง (แต่การปลงอาบัติมันปลงสังฆาทิเสสไม่ได้ไม่ใช่หรอครับต้องไปอยู่กรรมไม่ใช่หรอครับ)

ตอบ คำกล่าวว่า "สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย อาโรเจมิ" ก็คือคำปลงอาบัติสังฆาทิเสสอยู่แล้ว

แล้วการปลงอาบัติ ที่กล่าวว่า
สัพพา ตา อาปัตติโย อาโรเจมิ (ว่า 3 หน)
สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย อาโรเจมิ (ว่าสามหน)
อะหัง ภันเต สัมพะหุลา นานาวัตถุกาโย อาปัตติโย
อาปัชชิง ตา ตุมหะ มูเล ปฎิเทเสมิ

4.บทสวดข้างบนเป็นการบอกว่าเราต้องอาบัติสังฆาทิเสสใด้หรือเปล่าครับ
แล้วถ้าเราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วเราปลงอาบัติ ถือว่าเราปกปิดไว้หรือเปล่าครับ หรือว่าเราปลงอาบัติไปแล้วเราก็ไม่ได้ปกปิดแล้วครับ

ตอบ ใช่ ถ้าเราได้ปลงอาบัติแล้ว ถือว่าเราได้บอกอาบัตินั้นไปแล้วแก่เพื่อนภิกษุด้วยกัน ไม่ถือว่าปกปิด บางวัดก็จะปลงอาบัติทุกวัน เพื่อกันอาบัติที่เราละเมิดแต่ไม่รู้ เพื่อป้องกันพระใหม่ที่พึงบวชมาใหม่ยังไม่เข้าใจในตัวอาบัตินั้นๆ

5.การปลงอาบัติตามบทสวดข้างบนไม่มีคำว่าสังฆาทิเสสอยู่เลยแล้วอย่างนี้จะเป็นการบอกว่าเราอาบัติสังฆาทิเสสได้หรือเปล่าครับ
ช่วยตอบทุกข้อด้วยนะครับ ตอบทีนะครับ จะขอบพระคุณมากครับ
ผมเครียดมากครับ เผลอไปทำอาบัติเข้านะครับ

ตอบ เหมือนคำถาม/ตอบ ข้อ 3 แล้ว คือคำปลงอาบัติดังกล่าว ถือว่าปลงอาบัติสังฆาทิเสสไปในตัวแล้ว เพราะอาบัติหนักที่แก้ไข หรือลหุกาบัตินั้น มีอยู่ตัวเดียว คืออาบัติสังฆาทิเสส ส่วนอาบัติหนักที่แก้ไขไม่ได้ คืออาบัติปาราชิก ตัวเดียวเท่านั้น

ฉะนั้นเมื่อทราบอย่างนี้ว่าเมื่อเราได้ปลงอาบัติเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเราได้แสดงอาบัติหรือเปิดเผยอาบัตินั้นๆ แล้ว ไม่ว่าจะละเมิดหรือไม่ละเมิด

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 1:54 pm

ถ้าต้องสังฆาทิเสสในช่วงอยู่พรรษา แต่กว่าจะจัดงานปริวาสกรรมก็เป็นช่วงออกพรรษา ช่วงที่อาบัติสังฆาทิเสสอยู่สามารถรวมทำสังฆกรรมได้หรือไม่ครับ

ตอบว่า ในช่วงพรรษาก็สามารถทำได้ แต่ต้องทำในเขตอาวาสหรือวัดที่เราได้อธิฐานเข้าพรรษานั้นๆ จะไปเข้าปริวาส ณ ที่อื่นๆ ไม่ได้ โดยเข้าไปกราบเรียนแก่พระผู้ใหญ่หรือเจ้าอาวาสทราบความประสงค์ของเรา

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 7:19 pm

ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ จะขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 7:42 pm

jacksparo พิมพ์ว่า:

1.ลหุกาบัติ คือตอนที่สวดว่า สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย อาโรเจมิ
(ว่าสามหน) ใช่หรือเปล่าครับ รบกานอีกทีนะครับ

ตอบ ใช่
2.ฝ่ายมหานิกาย คือฝ่ายไหนครับ ส่งสัยอีกนิดครับว่า

ตอบ ดูจากรูปแบบการปลงอาบัติแล้ว เป็นแบบฝ่ายมหานิกาย

3.ถ้าเป็นการปลงอาบัติฝ่ายมหานิกาย ก็จะมีคำปลงอาบัติสังฆาทิเสส อยู่แล้ว คือตอนกล่าว "ลหุกาบัติ" คืออาบัติหนักที่แก้ไขได้ คือสังฆาทิเสสนั้นเอง (แต่การปลงอาบัติมันปลงสังฆาทิเสสไม่ได้ไม่ใช่หรอครับต้องไปอยู่กรรมไม่ใช่หรอครับ)

ตอบ คำกล่าวว่า "สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย อาโรเจมิ" ก็คือคำปลงอาบัติสังฆาทิเสสอยู่แล้ว

แล้วการปลงอาบัติ ที่กล่าวว่า
สัพพา ตา อาปัตติโย อาโรเจมิ (ว่า 3 หน)
สัพพา คะรุละหุกา อาปัตติโย อาโรเจมิ (ว่าสามหน)
อะหัง ภันเต สัมพะหุลา นานาวัตถุกาโย อาปัตติโย
อาปัชชิง ตา ตุมหะ มูเล ปฎิเทเสมิ

4.บทสวดข้างบนเป็นการบอกว่าเราต้องอาบัติสังฆาทิเสสใด้หรือเปล่าครับ
แล้วถ้าเราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วเราปลงอาบัติ ถือว่าเราปกปิดไว้หรือเปล่าครับ หรือว่าเราปลงอาบัติไปแล้วเราก็ไม่ได้ปกปิดแล้วครับ

ตอบ ใช่ ถ้าเราได้ปลงอาบัติแล้ว ถือว่าเราได้บอกอาบัตินั้นไปแล้วแก่เพื่อนภิกษุด้วยกัน ไม่ถือว่าปกปิด บางวัดก็จะปลงอาบัติทุกวัน เพื่อกันอาบัติที่เราละเมิดแต่ไม่รู้ เพื่อป้องกันพระใหม่ที่พึงบวชมาใหม่ยังไม่เข้าใจในตัวอาบัตินั้นๆ

5.การปลงอาบัติตามบทสวดข้างบนไม่มีคำว่าสังฆาทิเสสอยู่เลยแล้วอย่างนี้จะเป็นการบอกว่าเราอาบัติสังฆาทิเสสได้หรือเปล่าครับ
ช่วยตอบทุกข้อด้วยนะครับ ตอบทีนะครับ จะขอบพระคุณมากครับ
ผมเครียดมากครับ เผลอไปทำอาบัติเข้านะครับ

ตอบ เหมือนคำถาม/ตอบ ข้อ 3 แล้ว คือคำปลงอาบัติดังกล่าว ถือว่าปลงอาบัติสังฆาทิเสสไปในตัวแล้ว เพราะอาบัติหนักที่แก้ไข หรือลหุกาบัตินั้น มีอยู่ตัวเดียว คืออาบัติสังฆาทิเสส ส่วนอาบัติหนักที่แก้ไขไม่ได้ คืออาบัติปาราชิก ตัวเดียวเท่านั้น

ฉะนั้นเมื่อทราบอย่างนี้ว่าเมื่อเราได้ปลงอาบัติเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเราได้แสดงอาบัติหรือเปิดเผยอาบัตินั้นๆ แล้ว ไม่ว่าจะละเมิดหรือไม่ละเมิด

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 7:43 pm

jacksparo พิมพ์ว่า:

ถ้าต้องสังฆาทิเสสในช่วงอยู่พรรษา แต่กว่าจะจัดงานปริวาสกรรมก็เป็นช่วงออกพรรษา ช่วงที่อาบัติสังฆาทิเสสอยู่สามารถรวมทำสังฆกรรมได้หรือไม่ครับ

ตอบว่า ในช่วงพรรษาก็สามารถทำได้ แต่ต้องทำในเขตอาวาสหรือวัดที่เราได้อธิฐานเข้าพรรษานั้นๆ จะไปเข้าปริวาส ณ ที่อื่นๆ ไม่ได้ โดยเข้าไปกราบเรียนแก่พระผู้ใหญ่หรือเจ้าอาวาสทราบความประสงค์ของเรา

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 10:45 am

ขอถามอีกนิดครับ ถ้าเราอาบัติสังฆาทิเสสแล้วเราสามารถทำสังฆกรรมได้หรือเปล่าครับ เช่น รับกฐิน หรือฟังปาติโมค เราสามารถทำได้หรือเปล่าครับ

ถ้าเราบวชพรรษาเดียว แต่ว่าตอนที่เราอยู่ในพรรษาได้ละเมิดอาบัติสังฆาทิเสสไป เรายังได้บุญ หรืออานิสงค์ของการบวชอยู่หรือเปล่าครับ

ช่วยตอบอีกนิดนะครับ อย่าหาว่าเป็นการรบกวนเลยนะครับ จะขอบคุณมากครับ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 12:42 pm

jacksparo พิมพ์ว่า:

ขอถามอีกนิดครับ ถ้าเราอาบัติสังฆาทิเสสแล้วเราสามารถทำสังฆกรรมได้หรือเปล่าครับ เช่น รับกฐิน หรือฟังปาติโมค เราสามารถทำได้หรือเปล่าครับ

ถ้าเราบวชพรรษาเดียว แต่ว่าตอนที่เราอยู่ในพรรษาได้ละเมิดอาบัติสังฆาทิเสสไป เรายังได้บุญ หรืออานิสงค์ของการบวชอยู่หรือเปล่าครับ

ช่วยตอบอีกนิดนะครับ อย่าหาว่าเป็นการรบกวนเลยนะครับ จะขอบคุณมากครับ

สามารถยังทำสังฆกรรมได้ทุกอย่างเหมือนปกติ และได้รับอานิสงส์การเข้าพรรษาเหมือนปกติเช่นกัน อีกอย่างเราก็ได้ทำการปลงอาบัติเรียบร้อยแล้ว เป็นการหยุดอาบัตินั้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการออกจากอาบัตินั้น คือการเข้าอยู่ปริวาสกรรม

การจะทำสังกรรมใดๆ ไม่ว่าฟังปาฏิโมกข์หรืออื่นๆ ก็จะมีการปลงอาบัติก่อนเสมอ ส่วนอานิสงส์การเข้าไม่พรรษานั้นไม่มีบอกว่าผู้ต้องอาบัตินั้นๆ ต้องไม่รับอานิสงส์การเข้าพรรษา หรือไม่สามารถเข้าร่วมทำสังฆกรรมใดๆ ได้ ยกเว้นผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิกตัวเดียวเท่านั้น

ฉะนั้นจึงขอให้สบายใจได้ในเรื่องนี้ และควรระมัดระวังสำรวมต่อไป

สาธุ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 2:40 pm

ขอขอบคุณ คุณสายลมมากครับ

ข้อความที่คุณสายลมบอกมาเป็นจริงทั้งหมดเลยใช้เปล่าครับ
อย่าหลอกให้ผมสบายใจนะครับ
บอกกันตรง ๆเลยนะครับ ช่วยตอบด้วยนะครับ

ถ้าผมเขียนอะไรไม่เข้าหูไปบ้าง ต้องขอโทษด้วยนะครับ

ช่วยตอบด้วยนะครับ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 6:27 pm

ควรศึกษาค้นคว้า หรือสอบถามจากครูอาจารย์ที่ท่านมีความรู้ทางด้านนี้เพิ่มเติมอีกครั้ง แต่ขอยืนยันว่าไม่มีความประสงค์เพื่อให้เกิดความสบายใจเพียงอย่างเดียว แต่ทั้งหมดย่อมมีเหตุและผลอยู่ในตัวแล้ว

ออกพรรษาแล้วขอแนะนำให้ไปเข้าปริวาสกรรมที่

วัดชากสมอ (สุขใจดี) อ.เมือง จ.ชลบุรี

สาธุ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 8:25 pm

คุณสายลมอยู่วัดชากเสมอ หรอครับ
แล้วคุณสายลมหาข้อมูลมาจากไหนหรอครับ ขอความรู้หน่อย

แต่ผมถามพระอาจารย์ที่สอนวินัยให้แล้วท่านก็พูดเหมือนกับคุณสายลมเลยครับ อย่างนี้ข้อมูลน่าจะถูกต้องนะครับ ขอความคิดเห็นหน่อยครับ

ตอบด้วยนะครับ จะขอบคุณอย่างสูง

ขอบคุณมากนะครับ แล้วถ้ามีปัญหาแล้วจะมาถามอีกนะครับ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 8:39 pm

ดูจากข้อมูลการจัดปริวาสกรรม ทั่วประเทศ

http://www.dhammathai.org/newspr/parivas.php

สาธุ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2008, 10:33 pm

คุณสายลมอยู่วัดชากเสมอ หรอครับ
แล้วคุณสายลมหาข้อมูลมาจากไหนหรอครับ ขอความรู้หน่อย

แต่ผมถามพระอาจารย์ที่สอนวินัยให้แล้วท่านก็พูดเหมือนกับคุณสายลมเลยครับ อย่างนี้ข้อมูลน่าจะถูกต้องนะครับ ขอความคิดเห็นหน่อยครับ

ตอบด้วยนะครับ จะขอบคุณอย่างสูง

ขอบคุณมากนะครับ แล้วถ้ามีปัญหาแล้วจะมาถามอีกนะครับ

ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามหน่อยครับ

ตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2008, 2:12 am

jacksparo พิมพ์ว่า:

คุณสายลมอยู่วัดชากเสมอ หรอครับ
แล้วคุณสายลมหาข้อมูลมาจากไหนหรอครับ ขอความรู้หน่อย

แต่ผมถามพระอาจารย์ที่สอนวินัยให้แล้วท่านก็พูดเหมือนกับคุณสายลมเลยครับ อย่างนี้ข้อมูลน่าจะถูกต้องนะครับ ขอความคิดเห็นหน่อยครับ

ตอบด้วยนะครับ จะขอบคุณอย่างสูง

ขอบคุณมากนะครับ แล้วถ้ามีปัญหาแล้วจะมาถามอีกนะครับ

ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามหน่อยครับ

ไม่ได้อยู่หรอก แต่ดูจากข้อมูลการจัดปริวาสกรรม ทั่วประเทศ

http://www.dhammathai.org/newspr/parivas.php

สาธุ

ตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2008, 12:00 pm

แล้วคุณสายลมหาข้อมูลมาจากไหนหรอครับ ขอความรู้หน่อยครับ

แต่ผมถามพระอาจารย์ที่สอนวินัยให้แล้วท่านก็พูดเหมือนกับคุณสายลมเลยครับ อย่างนี้ข้อมูลน่าจะถูกต้องนะครับ ขอความคิดเห็นหน่อยครับ

ขอบคุณครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2008, 8:47 pm

คิดว่าถามพระอาจารย์ที่สอนวินัยในตอนนี้ จะเป็นการดีกว่า จะได้หายตอบข้อสงสัยของเราได้ดีกว่า เพราะท่านสอนวินัยซึ่งเป็นบทบัญญัติอันเป็นข้อประพฤติปฏิบัติและข้อห้ามของพระภิกษุสงฆ์อยู่นะครับ

สาธุ

ตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2008, 9:04 pm

ขอบคุณ คุณสายลมมากครับ

แล้วผมอยากฟังความคิดเห็นของคยอื่นบ้างครับกลับคำถามที่ผมถามไป

ช่วยตอบแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ ประดับความรู้ไว้ครับ

ขอบคุณครับมากนะครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 07 ก.ย. 2008, 7:39 pm

แล้วผมอยากฟังความคิดเห็นของคยอื่นบ้างครับกลับคำถามที่ผมถามไป

ช่วยตอบแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ ประดับความรู้ไว้ครับ

ขอบคุณครับมากนะครับ

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 12:12 pm

แล้วผมอยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้างครับกลับคำถามที่ผมถามไป

ช่วยตอบแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ ประดับความรู้ไว้ครับ

ขอบคุณครับมากนะครับ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 12:25 am

คิดว่าถามพระอาจารย์ที่สอนวินัยในตอนนี้ จะเป็นการดีกว่า จะได้หายตอบข้อสงสัยของเราได้ดีกว่า เพราะท่านสอนวินัยซึ่งเป็นบทบัญญัติอันเป็นข้อประพฤติปฏิบัติและข้อห้ามของพระภิกษุสงฆ์อยู่นะครับ

เห็นด้วยกับ ท่านสายลมเป็นอย่างยิ่งจ้า สาธุ