ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
29 ส.ค. 2008, 10:04 pm |
  |
อยู่กับความขัดแย้งการเมืองอย่างไร....ไม่ให้ทุกข์!?!?
มีผู้กล่าวไว้ว่า หากอยากรักษาไมตรีกับใคร
ก็อย่าคุยเรื่องการเมือง
เพราะลักษณะของการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
มักจะทำให้เกิด “คู่” ความขัดแย้ง
ที่เห็นแตกต่างกันคนละขั้วอยู่เสมอ
นำไปสู่การแยกเขา-แยกเรา
ความเครียด ความโกรธ เกลียด
อยากเอาชนะ ฯลฯ เกิดความไม่สบายใจ
ซึ่งหากไม่รู้จักวิธีการผ่อนและคลาย
ก็จะสะสมกลายเป็นความทุกข์ก่อผลร้ายแก่ร่างกายและจิตใจ
ข่าวจากการทำโพลระบุว่า คนไทยไม่น้อยกำลังเครียด
และทุกข์จากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
ไม่ว่าในที่ทำงาน ที่บ้าน ฯลฯ
วิธีการต่อไปนี้สามารถช่วยให้เรามีสภาพจิตใจและร่างกาย
ที่ไปพ้นจากความเครียดความทุกข์
ที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองได้
หากทดลองปฏิบัติกันดู คือ
๑. เปิดใจกว้าง ไม่มองผู้ที่เห็นต่างจากเราเป็นศัตรู
คนเรานั้นเห็นต่างกันได้
จึงเป็นธรรมดาที่มีบางคนหรือหลายคนยังนิยมชมชื่นคนที่เราไม่ชอบ
การที่เขาเห็นต่างจากเราเพราะได้รับข้อมูลต่างจากเรา
หรือเพราะมีเกณฑ์วัดความดีหรือความสำเร็จไม่เหมือนเรา ฯลฯ
จะเป็นเพราะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
ข้อสำคัญก็คือคนที่เห็นต่างจากเราไม่ใช่คนเลว
คนดีก็มีสิทธิเห็นต่างจากเราได้
ดังนั้นจึงไม่ควรเห็นเขาเป็นศัตรู
ขอให้ระลึกว่า
เขาอาจเห็นต่างจากเราในเรื่องนี้
แต่เรื่องอื่นอาจเห็นเหมือนกับเรา
และเรื่องที่เห็นเหมือนกันนั้นอาจมีมากกว่าเรื่องที่เห็นต่างกันก็ได้
๒. มองให้ไกล แล้วช่องว่างจะลดลง
แม้สองฟากถนนจะห่างกัน
แต่เมื่อมองไกลสุดสายตา ทั้งหมดก็ไปบรรจบที่จุดเดียวกัน
ฉันใดก็ฉันนั้น วันนี้เรากับเขาอาจอยู่คนละมุม
แต่พรุ่งนี้เรากับเขาอาจร่วมมือร่วมใจกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ได้
(ปรากฏการณ์ที่เห็นชัดที่สุดคือ ตอนที่คนไทยร่วมใจกู้ภัยสึนามิ)
เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติด
วันพรุ่งนี้ยังรอให้เรามาจับมือกันทำงานใหญ่ก็ได้
อย่าลืมว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนไทยเช่นเดียวกับเรา
มิหนำซ้ำบางคนก็เป็นคู่รักและผู้มีพระคุณกับเรา
บุคคลที่เป็นชนวนให้เกิดความเห็นแตกต่างกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น
ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องไป (จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่)
แต่เราทุกคนที่เหลือยังจะต้องอยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินนี้
และบางคนก็ยังต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ร่วมสำนักงานเดียวกัน
ในเมื่อเราทุกคนยังจะต้องอยู่ร่วมกันไปอีกนาน
ดังนั้นจะทะเลาะวิวาทกันไปทำไม
อย่าให้ใครคนเดียว
มาเป็นเหตุให้เราต้องเหินห่างหมางเมินกับคู่รัก
พ่อแม่พี่น้อง หรือมิตรสหายเลย
สายสัมพันธ์ของเรามีค่ากว่านั้นมาก
๓. เอาคู่ตรงข้ามออกจากใจบ้าง
อย่าให้คู่ตรงข้ามที่เราไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย ยึดครองจิตใจของเรา
จนไม่มีที่ว่างให้กับเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญเลย
ชีวิตเรายังมีอีกหลายเรื่องที่สำคัญ
เอาเขาออกไปจากใจของเราเสียบ้าง
จิตใจของเราจะได้โปร่งโล่งหายอึดอัดกลัดกลุ้ม
อย่างน้อยเวลากิน เวลานอน ก็อย่าไปหมกมุ่นครุ่นคิดว่า
ใครจะอยู่หรือไป ใครแพ้ใครชนะ
เวลาทำงานก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่
อย่าเอาเขามาเป็นอารมณ์จนไม่เป็นอันทำงานหรือเสียสมาธิ
ข่าวสารการเมืองจากหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์
เป็นสิ่งที่เราควรสนใจก็จริงอยู่
แต่อย่าเสียเวลากับข่าวเหล่านั้น
จนไม่เป็นอันทำอย่างอื่น
อย่าลืมว่าการเมืองไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเรา
หากเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น
ชีวิตเรายังมีอีกหลายเรื่องที่ควรใส่ใจ
๔. แผ่เมตตาให้คู่ตรงข้ามบ้าง
ความโกรธเกลียดไม่เป็นผลดีแก่จิตใจของเรา
ทุกครั้งที่เรารู้สึกโกรธเกลียด มีจิตปรารถนาร้ายต่อใคร
คนแรกที่ถูกทำร้ายคือเรา
ความโกรธเกลียดนั้นทำร้ายเราก่อนที่จะไปทำร้ายคนอื่นเสียอีก
เพียงแค่คิดถึงเขาก่อนนอน ก็อาจทำให้เรานอนไม่หลับ
เกิดความเครียด ความดันโลหิตขึ้น
อย่าปล่อยให้ความโกรธเกลียดบั่นทอนจิตใจของเรา
ขับไล่ความโกรธเกลียดไปด้วยการแผ่เมตตา ทุกคืนก่อนนอน
ลองแผ่เมตตาให้คู่ตรงข้ามกับความคิดของเรา
อธิษฐานด้วยความปรารถนาดี
ขอให้เขาหลุดพ้นจากวังวนแห่งความทุกข์
ขอให้ความโลภ โกรธ หลงอย่าได้เกาะกุมจิตใจเขาเลย
ขอให้เขามีสัมมาทิฏฐิ
และมีโอกาสเข้าถึงความสงบสุขที่ลึกซึ้งในชีวิตด้วยเทอญ
เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ
หรือดูโทรทัศน์พบเห็นภาพของคู่ตรงข้ามที่เราไม่ชอบใจ
ก็แผ่เมตตาทำนองนี้ให้เขาด้วยก็ดี
อย่างน้อยใจเราจะได้ไม่เร่าร้อนหรือถูกเผาลนด้วยความโกรธเกลียด
๕. ผ่อนคลายด้วยลมหายใจ
เมื่อมีความเครียดหรือรู้สึกโกรธเกลียด
ลองดับความเร่าร้อนด้วยลมหายใจดูบ้าง
โดยหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ หายใจออกยาวๆ ช้าๆ
น้อมใจมาอยู่ที่ลมหายใจทั้งเข้าและออก
ให้ใจอิงแอบอยู่กับลมหายใจอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
พร้อมกับนับทุกครั้งที่หายใจออก
เริ่มจาก ๑ ไปถึง ๑๐ จะทำกี่รอบก็ได้ ยิ่งนานยิ่งดี
บางครั้งใจจะเผลอแวบไปนึกเรื่องอื่น
รู้ตัวเมื่อไร ก็ดึงจิตกลับมาที่ลมหายใจ
ถ้าจำไม่ได้ว่านับไปถึงไหนแล้ว ก็ให้เริ่มนับ ๑ ใหม่
วิธีนี้ทำได้ทุกที่ ระหว่างชุมนุมก็ได้
ดูทีวี หรือระหว่างนั่งรถก็ได้
หรือระหว่างที่กำลังฟังคนที่เห็นต่างจากเราก็ได้
วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย หายเร่าร้อนแล้ว
ยังทำให้เกิดความสงบภายใน
และช่วยให้สมองปลอดโปร่ง คิดอะไรได้ดีขึ้น
๖. พักผ่อนให้เต็มที่
อย่าให้การเมืองแย่งเวลาของการพักผ่อนและนอนหลับอย่างเต็มที่
การอดนอนอย่างสะสมจะทำให้สมองตื้อและเครียด
หงุดหงิดฉุนเฉียวได้ง่าย เรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่
ดังนั้นควรหาเวลาพักผ่อน
ไม่จดจ่อแต่การเมือง การอยากเอาชนะ
การจัดเวลาจึงมีความสำคัญ
นอกจากการพักกายแล้ว ก็ควรพักใจด้วย
โดยการปล่อยวางจากเรื่องที่เคร่งเครียดบ้าง
หรือถอนตัวออกจากเหตุการณ์ที่วุ่นวายสักระยะหนึ่ง
จะใช้ลมหายใจช่วยด้วยก็ได้ เมื่อจิตใจปลอดโปร่ง
ตั้งหลักให้สบายคลายเครียดแล้ว ค่อยมาติดตามต่อไป
หากทำได้อย่างนี้ ก็จะอยู่อย่างไม่ทุกข์
หรือทุกข์น้อย ทุกข์ไม่นาน
กับสถานการณ์ความขัดแย้งในวิกฤตการณ์ปัจจุบัน
และยังอาจมีพลังของการสร้างสรรค์สิ่งดีงามได้อีกด้วย
ที่มา : เครือข่ายพุทธิกา http://budnet.info/ |
|
|
|
    |
 |
ชาญวิทย์
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2008
ตอบ: 152
|
ตอบเมื่อ:
30 ส.ค. 2008, 8:23 pm |
  |
ทุกคนในโลก เป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น รักกัน อภัยให้กัน นะครับผม ขอบคุณคุณกุหลาบสีชาครับ  |
|
_________________ ธรรมะคือธรรมชาติ |
|
   |
 |
chill
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 ก.พ. 2008
ตอบ: 85
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2008, 10:15 pm |
  |
อนุโมทนานะคะ  |
|
_________________ มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี.. |
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
11 ก.ย. 2008, 8:00 pm |
  |
 |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
|