ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ตัวตุ่น
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
21 มี.ค.2005, 4:55 pm |
  |
ศีล นี่ก็ทางอ้อมครับ...
แต่ก็ดีครับ ไม่ใช่ไม่ดี
ทางลัดตือตรงเข้ามาเรียนรู้กายใจนี่ |
|
|
|
   |
 |
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 มี.ค.2005, 5:35 pm |
  |
อย่าคิดว่าแสดงตามอาจารย์แล้วจะถูก เพราะอาจารย์นั้นแสดงนัยอย่างหนึ่ง คนฟังเข้าใจอีกนัยหนึ่ง ยกนัยนั้นมาแสดงอีกความหมายก็ได้
ถ้าจะพิจารณาต้องทำถ้อยคำให้ชัดอย่าให้คลุมเครือ เพราะคำที่อธิบายไม่ได้ทำคำถามของตนเองให้ชัดเลย |
|
|
|
|
 |
ตัวตุ่น
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
21 มี.ค.2005, 10:16 pm |
  |
|
   |
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 มี.ค.2005, 8:36 am |
  |
ตอบคุณตัวตุ่น
ศีลนี่ทางตรงเลยล่ะครับ ไม่เชื่อลองปฏิบัติตามความเห็นของคุณไป แล้วทำผิดศีลตามไปด้วยสิครับ แล้วจะรู้ว่า ทำอย่างไรก็ไม่มีวันได้ผลทั้งสิ้นครับ เพราะภาพความผิดศีลที่อยู่ในใจนี่แหละ จะมารบกวนจิตใจไปตลอดชีวิต
จนกว่าจะตั้งใจรักษาศีลขึ้นมาเสียก่อน ถ้าไม่เช่นนั้นผมบอกได้คำเดียวว่า ไม่มีวันครับ
ยกตัวอย่างง่ายๆ นะครับ สมมุติมีเรือลำหนึ่ง มีน้ำรั่วออกจากเรือ เราเผชิญไปได้ขันมหึมา ตักน้ำออกจากเรือได้ทีละเยอะๆ มาก ต่อให้ตักตลอดชีวิต แต่ถ้าไม่ยอมอุดรอยรั่วให้น้ำเข้ามาเสียก่อน ก็ไม่มีวันเอาน้ำออกไปจากเรือได้ และเมื่อหมดแรงตักน้ำ เรือก็จะจมในที่สุด
เช่นเดียวกัน คุณเชื่อมั่นว่าการปฏิบัติธรรมของคุณเร็วที่สุด เอาล่ะในเบื้องต้นผมเชื่อตามคุณก่อน โดยอุปมาว่า การปฏิบัติธรรมของคุณเปรียบเหมือนขันมหึมาตักกิเลสออกได้ทีละเยอะๆ แต่ถ้าคุณไม่รักษาศีล กิเลสใหม่ก็จะไหลเข้ามาตลอดเวลา เหมือนเรือที่ไม่อุดรอยรั่ว เอาแต่ตักน้ำออกจากเรืออย่างเดียวนั่นแหละครับ ถ้ายังไม่เชื่อก็ไปทดลองทำดูได้นะครับ แล้วจะรู้ว่า
"ศีล เป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย และเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง บุคคลใดชำระศีลให้บริสุทธิ์แล้ว จะเป็นเหตุให้เว้นจากความทุจริต จิตจะร่าเริงแจ่มใส และเป็นท่าหยั่งลงมหาสมุทรคือ นิพพาน" พระพุทธเจ้า ท่านพูดไม่เคยผิดครับ
|
|
|
|
|
 |
ตัวตุ่น
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 มี.ค.2005, 9:02 am |
  |
ถ้ามีสัมมาสติ ศีลจะไม่มีวันขาดไปได้เลย
กิเลสทั้งหลายแหล่ ส่งผลตรงมาที่ทำให้เราขาดสติเป็นอันดับแรกก่อน
การผิดศีลคือผล ไม่ใช่เหตุ
เหตุเกิดจากการขาดสติ
ระงับเหตุได้ ผลก็เกิดไม่ได้
ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับ แต่ขอเป็นความคิดเห็นถกกันในทางสร้างสรรค์ครับ  |
|
|
|
|
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 มี.ค.2005, 12:03 pm |
  |
ก็แสดงว่า ตอบแล้วใช่มั้ยครับว่า ต้องรักษาศีล จะรักษาด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ แต่ต้องรักษา
คุณต้องการบอกว่า การรักษาสติของคุณ ก็เป็นบำเพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญา ไปพร้อมๆกันกับการรักษาสติเลย ก็เป็นวิธีการหนึ่งครับ เพียงแต่ว่า ผมก็ยังยืนยันว่า การบรรลุธรรม ไม่ใช่การเรียนในมหาวิทยาลัย 4 ปีจบ หรือการตั้งบริษัทที่ 20 ปี ต้องเจริญรุ่งเรือง แต่การปฏิบัติธรรมมีอะไรมากกว่านั้นครับ เวลาที่นับกันในโลกมนุษย์ว่าวัน เดือน ปี ไม่พอให้นับหรอกครับ เขาต้องนับเวลากันเป็นกัปๆ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับ จะรักษาสติไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ถ้าจะเป็นพระอรหันต์ เวลาอย่างน้อยคือ 1 แสนมหากัปครับ (แต่ OK ว่า มันไม่ได้นับเริ่มต้นที่ชาตินี้ ชาติก่อนคุณอาจสั่งสมมาไว้พอสมควรแล้วก็ได้ ก็ต้องลองดูครับ) |
|
|
|
|
 |
ด้วยปัญญา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 มี.ค.2005, 12:38 pm |
  |
|
|
 |
ตัวตุ่น
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
23 มี.ค.2005, 9:18 am |
  |
====================================
เวลาที่นับกันในโลกมนุษย์ว่าวัน เดือน ปี ไม่พอให้นับหรอกครับ เขาต้องนับเวลากันเป็นกัปๆ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับ จะรักษาสติไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ถ้าจะเป็นพระอรหันต์ เวลาอย่างน้อยคือ 1 แสนมหากัปครับ
====================================
นั่นคือสิ่งที่คุณเชื่อครับ ถึงแม้มันจะพิสูจน์ไม่ได้ก็ตามที
แต่ถ้ามันนำมาให้คุณปฎิบัติได้ ก็โมทนาด้วยครับ
ผมไม่ชอบโต้เถียงครับ |
|
|
|
   |
 |
ตัวตุ่น
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 มี.ค.2005, 4:15 pm |
  |
webmaster ครับ
รบกวนช่วยลบกระทู้นี้ออกไปด้วยครับ
ขอบคุณครับ |
|
|
|
|
 |
เว็บมาสเตอร์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 มี.ค.2005, 10:45 pm |
  |
|
|
 |
ตัวตุ่น
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
24 มี.ค.2005, 9:21 am |
  |
|
   |
 |
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
24 มี.ค.2005, 11:05 am |
  |
ปรารถนาสิ่งใดไว้ ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์
พรัดพรากจากของรักของชอบใจ ก็เป็นทุกข์
ประสพกับสิ่งไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์
ถามว่า ทุกข์/สุขมันอยู่ที่ไหน ?
น่าจะอยุ่ที่ความรู้สึกน่ะ
เราไปบัญญัติว่า นี่เราชอบใจ
นี่เราไม่ชอบใจ
หรอไง ?
การยอมรับกับสิ่งที่เราชอบใจได้และไม่ชอบใจได้
น่าจะประเสริฐที่สุด
เท่ากับว่าเราอยุ่เหนือสุขและทุกข์
อย่าร้อนรนไปเลย ร้อนใจเปล่า ๆ
ด้วยความปรารถนาดี
|
|
|
|
|
 |
|