นินทานั้น ไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 11:44 am

นินทานั้น ไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย ถ้าไม่รับ คือไม่ตอบ

เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ
ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ
แต่คำนินทาว่าร้ายทั้งจะตกเป็นของผู้นินทาทั้งหมด

ผู้นินทาคือผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี ไม่ว่าผู้ถูกนินทาจะรับหรือไม่รับก็ตาม ผู้นินทาย่อมต้องได้รับผลไม่ดีแห่งกรรมไม่ดีของเขาอย่างแน่นอน

ดังนั้น แม้เมื่อถูกนินทาแล้ว ก็ให้คิดว่าผู้นินทาเรานั้นได้รับการตอบแทนแล้ว คือได้รับผลของกรรมไม่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ปรากฏช้าหรือเร็วเท่านั้น

ผลของกรรมไม่ดีนั่นแหละได้ตอบแทนเขาผู้นินทาแล้ว
เราไม่มีความจำเป็นต้องตอบแทนแต่อย่างใด

ความเชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรมมีคุณอย่างที่สุด ผู้ใดทำกรรมใดไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น ความเชื่อเช่นนี้จักทำให้ไม่คิดร้ายตอบผู้คิดร้าย เป็นการระงับเวรภัยไม่ให้เกิดแก่ตน

เป็นการปกป้องตนมิให้ทำกรรมไม่ดี ทั้งกาย วาจาและใจ โดยมุ่งให้เป็นการแก้แค้นตอบแทน ผลจักเป็นความสงบสุขแก่ตนและแก่ผู้อื่นด้วย

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

สาธุ

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 1:17 pm

การนินทา ควรปล่อยไป และเราไม่ควรไปเดือดไปร้อนครับ เพราะว่าเราไม่ได้ยินด้วยตนเอง
แต่ถ้าคน มาถกธรรม เราควรตอบครับ
และ ถ้ามีคนมากล่าวหา เราก็ควรโต้ตอบครับ
ยิ่งถ้ามีคนด่า เราก็ควรโต้ตอบแต่โต้ตอบในกรอบที่ควร
และหากว่า คนนั้นไม่หยุด เราก็ควรหยุด และวางอุเบกขาครับ

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 3:56 pm

คุณ ขันธ์

เห็นมั้ยคุณก็แสดงธรรมในจริตที่นุ่มนวลได้เหมือนกัน

ไม่ใช่กระแทกกิเลสก่อนแล้วค่อยแสดงธรรมเหมือนทุกครั้ง

สาธุ

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 11:59 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

การนินทา ควรปล่อยไป และเราไม่ควรไปเดือดไปร้อนครับ เพราะว่าเราไม่ได้ยินด้วยตนเอง
แต่ถ้าคน มาถกธรรม เราควรตอบครับ
และ ถ้ามีคนมากล่าวหา เราก็ควรโต้ตอบครับ
ยิ่งถ้ามีคนด่า เราก็ควรโต้ตอบแต่โต้ตอบในกรอบที่ควร
และหากว่า คนนั้นไม่หยุด เราก็ควรหยุด และวางอุเบกขาครับ

พูดได้แต่ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ไม่มีความหมายอะไร

ตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2008, 12:08 am

นินทานั้น ไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย ถ้าไม่รับ คือไม่ตอบ

เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ
ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ
แต่คำนินทาว่าร้ายทั้งจะตกเป็นของผู้นินทาทั้งหมด

ถูกต้องแล้ว น้องมิตรตัวน้อย (แต่ปัญญาไม่น้อย) สู้ สู้