Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สิ่งที่ขาดหายไปของชาวพุทธ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
ผู้ตั้ง ข้อความ
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 10:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ คุณ ศุภมณฑา

ทุกอย่างต้องมาจากความปกติก่อน แม้แรกเริ่มเดิมทีจิตเดิมแท้นั้นก็ปกติ แต่เพราะยังมีความไม่รุ้ เมื่อไปกระทบไปพบเจออะไรเข้าก็ ตามสิ่งนั้นไปด้วยความไม่รุ้ เมื่อนั้น จึงต้องใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา

ก็ถ้าปัญญามาก่อนแล้ว จะมีได้อย่างไรหากไม่ประสบกับความโง่
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 4:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
สาธุครับ คุณ ศุภมณฑา

ทุกอย่างต้องมาจากความปกติก่อน แม้แรกเริ่มเดิมทีจิตเดิมแท้นั้นก็ปกติ แต่เพราะยังมีความไม่รุ้ เมื่อไปกระทบไปพบเจออะไรเข้าก็ ตามสิ่งนั้นไปด้วยความไม่รุ้ เมื่อนั้น จึงต้องใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา

ก็ถ้าปัญญามาก่อนแล้ว จะมีได้อย่างไรหากไม่ประสบกับความโง่


ปัญญาต้องมาก่อนครับ

ต้องมีปัญญาถึงเพ่งเล็งเห็นโทษของอกุศลธรรม

เมื่อเล็งเห็นเช่นนั้นจึงเกิดปัญญารักษาศีล

เมื่อศีลมั่นคงมากยิ่งขึ้น

สมาธิจัมีมากตาม

ปํญญาจะเจริญมากยิ่งๆขึ้นเป็นวงจรต่อเนือง


กล่าวอีกปริยายหนึ่ง(เพิ่งรู้คำแปลมา)

ปํญญามาพร้อมกับเกิด

เราเติบโตมากับปัญญา

เมื่อปัญญาเจริญมองเห็นภัยของวัฏฏสงสาร

จึงเห็นอริยะมรรคองค์8 ที่เป็นทางหลุดพ้น

อริยะมรรคที่มีองค์8ประกอบด้วย

ศีล สมาธิ ปัญญา

แต่ทั้งนี้สามส่วนนี้ก็เป็นเนื้อนาบุญเดียวกัน

คาวมเห็นของผมครับ

บังเอิญเป็นคนพูดเท่าที่จำได้

ไม่ค่อยพกตำรา

จึงไม่ได้อ้างอิง

แต่หลักการจากหนังสือพุทธธรรมครับ ของท่าน ป.อ. ปยุตโต
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 9:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ mes คุณ มีปัญญาเมื่อไร ตอนคุณนับถือพุทธ ตอนเด็กนี่คุณมีปัญญา หรือเปล่า
คุณ mes คุณ ต้องศึกษาให้มากกว่านี้นะครับ อ่านเหตุผลของผมดีๆ
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 9:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คุณ mes คุณ มีปัญญาเมื่อไร ตอนคุณนับถือพุทธ ตอนเด็กนี่คุณมีปัญญา หรือเปล่า
คุณ mes คุณ ต้องศึกษาให้มากกว่านี้นะครับ อ่านเหตุผลของผมดีๆ


แล้วคุณขันธ์มีปัญญาเมื่อไหร่
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 10:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ mes ถามผมกลับ ผมก็จะบอกให้ว่า ปัญญามีเมื่อตอน มองตามความเป็นจริงออกนะสิครับ ก่อนหน้านี้มันจะต้องใช้ปัญญาอะไร ในเมื่อ กินก็ไม่ต้องใช้ปัญญา
นอนก็ไม่ต้องใช้ปัญญา เดิน ก็ไม่ต้องใช้ปัญญา

ทีนี้ พอมองความจริง ว่า คนเราเกิดมาเพื่ออะไร อันนี้ก็จะเริ่มต้องมองหาข้อเท็จจริง พอมองความจริงต่อว่า ทำไมเราจึงมีทุกข์ ทั้งๆ ที่ กิน เดิน ยืน นั่งนอน มันก็ไม่น่าจะทุกข์อะไร ก็ต้องมองความจริงต่อไป นั้นแหละ จึงเรียกว่า ปัญญา เมื่อ เกิด ทุกข์ แล้ว รู้จักทุกข์ มองไปจนเห็นเหตุ และ ดับเหตุ นั้นได้

คนอยู่ในที่มืด มองไม่เห็นเงา ฉันใด
ก็เปรียบกับคนที่ ยังมีใจไม่ปกติ พยายามหาธรรม

ดังนั้น ออกจากความคิด ฉลาด หรือ โง่ก่อน แล้ว ให้ใช้ ผัสสะ ตามธรรมชาติ ที่มี อย่างเรียบง่ายที่สุด นั้นแหละ อธิศีล และจะนำไปสู่การเห็นสัจธรรมแห่งการแตกออกไป ปรุงออกไปของจิตนี้
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 12:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:
คุณ mes ถามผมกลับ ผมก็จะบอกให้ว่า ปัญญามีเมื่อตอน มองตามความเป็นจริงออกนะสิครับ ก่อนหน้านี้มันจะต้องใช้ปัญญาอะไร ในเมื่อ กินก็ไม่ต้องใช้ปัญญา
นอนก็ไม่ต้องใช้ปัญญา เดิน ก็ไม่ต้องใช้ปัญญา

ทีนี้ พอมองความจริง ว่า คนเราเกิดมาเพื่ออะไร อันนี้ก็จะเริ่มต้องมองหาข้อเท็จจริง พอมองความจริงต่อว่า ทำไมเราจึงมีทุกข์ ทั้งๆ ที่ กิน เดิน ยืน นั่งนอน มันก็ไม่น่าจะทุกข์อะไร ก็ต้องมองความจริงต่อไป นั้นแหละ จึงเรียกว่า ปัญญา เมื่อ เกิด ทุกข์ แล้ว รู้จักทุกข์ มองไปจนเห็นเหตุ และ ดับเหตุ นั้นได้

คนอยู่ในที่มืด มองไม่เห็นเงา ฉันใด
ก็เปรียบกับคนที่ ยังมีใจไม่ปกติ พยายามหาธรรม

ดังนั้น ออกจากความคิด ฉลาด หรือ โง่ก่อน แล้ว ให้ใช้ ผัสสะ ตามธรรมชาติ ที่มี อย่างเรียบง่ายที่สุด นั้นแหละ อธิศีล และจะนำไปสู่การเห็นสัจธรรมแห่งการแตกออกไป ปรุงออกไปของจิตนี้


ขันธ์มั่ว
คิดว่าปัญญาเกิดจากสมองคิด
มิน่าล่ะ อวยยศให้ตัวเองเป็นอริยะ เพราะปัญญาแบบนี้นี่เอง
มั่วๆๆๆๆ

ปัญญาที่เป็นอริยะ มาจากการภาวนาเท่านั้นจ๊า
แล้วก็ไม่ได้มีปุ๊บๆ ปั๊บๆ มันมีขั้นมีตอน มีอ่อนมีแก่

เขาถามว่าปัญญามีขึ้นตอนไหน ตอบสามวาสองศอก
ตำราไหนเนียะ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
guest
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 1:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ ขันธ์

คนขายปลาในตลาด
เวลาคนซื้อเค้าบอกว่าให้ฆ่าปลาตัวนั้นให้ด้วย
คนขายปลาก็ฆ่าปลาตัวนั้นไปด้วย
แล้วก็บริกรรม พุทโธ พุทโธ...... ไปด้วย
ทำได้มั้ย

แล้วอย่างนี้ทำสมาธิต้องมีศีลก่อนหรือไม่

ช่วยตอบด้วยนะครับ
อันเก่าก็ยังไม่ตอบ
คุณก็มัวแต่ยกย่องคนที่มีความเห็นอย่างเดียวกับคุณ

ใครค้านคุณ
คุณว่าเค้าโง่อย่างเดียว

ธรรมที่ตัวเองยังไม่ถึงอย่าทำเป็นมั่วนิ่มนะคุณ
คุณรู้จักกรรมมั้ย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 9:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:
เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มา คุณมีศีลมาก่อน หรือว่า ปัญญามาก่อน

คงจะจบได้นะ

ถ้าไม่เข้าใจอีกผมจะได้ แสดงอรรถาธิบายให้ฟัง ต่อ


เกิดมากระผมก็จำไม่ได้อ่ะครับว่ามีอะไรก่อน แต่เท่าที่จำได้ก็คือแม่สอนว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี อะไรถูก อะไรผิด พอโตมาอีกหน่อยก็รู้ว่าเป็นชาวพุทธและก็รู้ว่าศาสนาสอนให้รู้จักประโยชน์ของการทำความดี และสอนให้ทำความดีคือรักษาศีล.....

สรุปครับ....พิจารณาแล้วกระผมได้ปัญญาก่อนที่จะรู้จักรักษาศีลครับ

แต่ปัญญาที่ได้เป็นปัญญาแบบธรรมดาๆ ไม่ใช่ปัญญาญาณครับ

จบได้แล้วครับ

ขอบคุณครับกับสิ่งที่ท่านพยายามสอน....แต่กระผมยังด้อยปัญญาอยู่จึงยังเข้าไม่ถึงธรรมที่ท่านแสดงครับ....หากท่านจะวางอุเบกขาก็แล้วแต่ท่านครับ.... สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 10:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คนขายปลาในตลาด
เวลาคนซื้อเค้าบอกว่าให้ฆ่าปลาตัวนั้นให้ด้วย
คนขายปลาก็ฆ่าปลาตัวนั้นไปด้วย
แล้วก็บริกรรม พุทโธ พุทโธ...... ไปด้วย
ทำได้มั้ย


ถามคำถาม ไม่ฉลาดเลย ไม่ได้เป็นไปเพื่อ การลดละกิเลส แต่ก็จะตอบให้
ว่า ไม่ได้ เพราะหากมันมีสติ และ มีศีลขึ้นมามันจะทำไม่ได้ มันจะเกิดความสลดสังเวช

อ้างอิงจาก:
อันเก่าก็ยังไม่ตอบ
คุณก็มัวแต่ยกย่องคนที่มีความเห็นอย่างเดียวกับคุณ

ใครค้านคุณ
คุณว่าเค้าโง่อย่างเดียว

ธรรมที่ตัวเองยังไม่ถึงอย่าทำเป็นมั่วนิ่มนะคุณ
คุณรู้จักกรรมมั้ย


คุณไปยกมา ข้อที่คุณกล่าวหา ว่าผมว่าเขาโง่อย่างเดียว
คุณไปยกมา ข้อที่ผมมัวแต่ยกย่องคนที่มีความเห็นอย่างผม
คุณไปยกมา ในข้อธรรมที่ผมยังไม่ถึง

กรรมหนาเนี่ย คุณ อยู่ดีๆ แท้ๆ เข้ามาในเว็บนี้ ตอนแรกก็เห็นดีเห็นงามกับผม หลังๆ มาพอโดนด่าทีเดียว เปลี่ยนจริตไปเลย
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
อิทธิกร
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 28 ส.ค. 2008
ตอบ: 137
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จริงคับ
 

_________________
ชีวิตที่รู้
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
guest
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 4:18 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ ขันธ์

แล้วจะไม่ทำมาหากินเหรอคุณขันธ์ที่ว่าถ้ามีสติจะไม่ฆ่าปลานั้น
นี่ล่ะเค้าเรียกว่ากรรมเก่าผลักไสให้เป็นไป
ถึงต้องได้มีอาชีพอย่างนี้

เรื่องกรรมและผลของกรรมมันสลับซับซ้อน

คุณรู้อะไรก็รู้เพียงแคบ ๆ
แต่อยากเป็นอาจารย์คนทั้งเวป
น่าอายมากคุณรู้ตัวหรือยัง

ผมกล่าวแค่นี้ทำเป็นเต้นแร้งเต้นกา
ใส่บาปใส่กรรมผม

ผมไม่ได้ว่าคุณด้วยเจตนาร้ายอะไร
เพียงแค่เตือนว่าคุณชอบแสดงตัวว่าตัวเองเป็นพระโสดาบัน
มันไม่ถูกต้อง
ถ้าคุณเป็นจริง ๆ ผมจะไม่เตือนเลย
แต่นี่มันไม่ใช่ ดูแค่นี้ก็รู้
ผมเตือนด้วยความเมตตาต่างหาก
จะหนักจะเบาก็ด้วยความเมตตา

ผมเห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ดีที่งามของทุกคน
และไม่เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามของทุกคน
ก็เท่านั้น

นิสัยของคุณแสดงออกเสมอ ๆ อย่างที่ผมกล่าวเอาไว้
ไม่เชื่อคุณโหวตถามทุกท่านในเวปก็ได้
ว่าเป็นอย่างที่ผมกล่าวหรือเปล่า

ก็ธรรมขั้นโสดาบันที่คุณชอบทำเป็นว่าตัวเองบรรลุนี่ไงที่คุณยังไม่ถึง
หรือคุณเป็นพระโสดาบัน ถ้าเป็นก็ว่ามาผมจะได้ถอนคำพูด
ผมให้ความเป็นธรรมกับคุณเสมอ
ถ้าเป็นพระโสดาบันจริงก็ว่ามา

คุณนี่มองคนไม่ละเอียดนะ
คนอย่างคุณไม่รู้หรอกว่าผมคิดอะไร
ใส่บาปใส่กรรมผมเข้าไปเถอะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 4:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ guest ผมโหวตให้
ว่านายขันทีน่ารังเกียจจริงๆ บรื๋ยยยยยยส์

นิสัยอย่างนี้แหละ

เที่ยวท้าคนมาพูด "ธรรม"
พอเขาพูดธรรมแล้วตัวเองแก้ไม่ตก ก็แหกลงข้างทาง
หาเรื่อง หาเงื่อน หาข้ออ้างเฉๆไฉๆ เพื่อจะกลบเกลือนไม่ตอบ



ผมว่า ผมเจอคนเพี้ยนในเว็บธรรมะหลายคน คิดว่าได้เคยเจอคนเพี้ยนสุดๆมาแล้ว


แต่นายขันธ์คนนี้ ... เพี้ยนทึ่สุดในสากลโลก

คาดว่าน่าจะเป็นกรรมจากการ"กร่าง" จนไปล่วงเกินพระอริยะเจ้าเข้า
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 9:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมคงไม่ต้องแก้ต่างอะไรหรอก

เพราะคนพาล จะให้แก้ต่าง มันจะไปรู้เรื่องได้อย่างไร
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 9:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คุณรู้อะไรก็รู้เพียงแคบ ๆ
แต่อยากเป็นอาจารย์คนทั้งเวป
น่าอายมากคุณรู้ตัวหรือยัง


คุณ พูดจาแบบนี้ ยกมาด้วยว่า ข้อใดที่ผมบอกว่า ผมอยากเป็นอาจารย์คนทั้งเว็บ กรุณายกมา ถ้าคุณยกมาไม่ได้ คุณกำลังมุสา

ข้อใดที่ผมบอกว่า ผมบรรลุพระโสดาบัน กรุณายกมา

ถ้ายกไม่ได้ ผมขอให้คุณมีหิริโอตัปปะั และ แสดงความรับผิดชอบคำพูดตนเอง ให้ดี
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 9:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สำหรับ คามิน

คนที่ ขาดสติ คือ คนที่นึกคิดอะไรแล้ว ตามความคิดนั้นไป โดยไม่ได้ทบทวนเหตุการณ์ ที่ตนเองทำว่า อะไรคืออะไร และ ตัวเองกำลังรุ้สึกอะไร
แยกอารมณ์และข้อเท็จจริงไม่ออก
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

ข้อใดที่ผมบอกว่า ผมบรรลุพระโสดาบัน กรุณายกมา


ใช่ คุณไม่เคยพูดจริงๆ ว่าตัวเองเป็นโสดาบัน
แต่คุณพูดว่า คุณเป็น"อริยะ"

คุณก็จำได้หนิ ว่าพูดโดยตรงอย่างนี้กับผม.. จริงหรือเปล่า
ผมล่ะแทบตกเก้าอี้ตาย ไม่นึกว่าคุณจะบ๊องส์ถึงขนาดนี้

ถ้าไม่เป้นโสดาบันก่อน จะเป้นอริยะได้ยังไง
ตลกที่สุด ไม่อายาปาก ไม่อายฟ้าดิน

ตายๆๆๆ หิริโอตัปปะไม่มีจริงๆ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ


แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 02 ก.ย. 2008, 10:23 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:18 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:
สำหรับ คามิน

คนที่ ขาดสติ คือ คนที่นึกคิดอะไรแล้ว ตามความคิดนั้นไป โดยไม่ได้ทบทวนเหตุการณ์ ที่ตนเองทำว่า อะไรคืออะไร และ ตัวเองกำลังรุ้สึกอะไร
แยกอารมณ์และข้อเท็จจริงไม่ออก


พยามจะบอกอะไรอะ
จะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง ให้ผมฟังเหรอ



ไม่ต้องงงง... ทุนหัว.... ผมรู้จักคุณมากกว่านั้น
มากจนอยากจะอ๊วก


ไม่ต้องมาสอนเรื่อง"สติ"กับผมหรอก
คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ


เพราะถ้าจะให้ผมมีสติแบบที่คุณมี ผมไม่เอานะ ผมรักชีวิตผม
ขนาดคนสอนเป้นอย่างนี้ อย่ามาหวังเลยว่าผมจะฟังคุณ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ


แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 02 ก.ย. 2008, 10:20 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
guest
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:20 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ ขันธ์

คุณรู้จัก perceptions มั้ย

ผมอ่านความคิดเห็นของคุณหลาย ๆ ครั้ง
แล้วแปรความหมายในความคิดว่า

คุณต้องการแสดงให้เห็นเป็นสองแง่สองง่าม
เพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณอาจเป็นพระโสดาบันก็ได้
โดยเฉพาะใช้คำว่า "อริยะ" เกี่ยวกับตัวคุณ บ่อย ๆ

ตัวคุณก็รู้แก่ใจตัวเองดีอยู่แล้ว
ขอให้คุณเปลี่ยนความเห็นใหม่เสียเถอะ

ส่วนเรื่องอยากเป็นอาจารย์คนอื่น
พฤติกรรมของคุณมันส่อ แล้วจะให้ว่ายังไง
ผมมี perceptions แบบนี้

ยกต้วอย่างก็ได้ คุณบอกว่าให้คุณ mes เรียกคุณว่าอาจารย์ก่อน

แล้วผมมุสาที่ตรงไหน

คุณต่างหากที่มีเจตนาส่อให้คนอื่นเข้าใจอย่างนี้
ทั้งที่ไม่เป็นจริง นี่ล่ะมุสาของแท้ตัวคุณนี่ล่ะ

พอผมตล่อมเข้ามาว่าให้คุณบอกว่าเป็นพระโสดาบันหรือไม่
คุณก็ไม่กล้า

แต่ทีคนอื่นทำเป็นไม่ตอบส่อให้เค้าคิดว่าคุณอาจเป็นพระโสดาบัน แต่เค้าไม่เชื่อคุณหรอก

่คุณนี่ชอบใส่บาปใส่กรรมผมนะ
ผมไม่ได้พยาบาทอะไรคุณเลย
ผมก็แสดงความคิดเห็น
ตามความเห็นของผมก็เท่านั้น
มันจะมีวิวาทะกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
ผมไม่ได้เอามาเป็นเครื่องขุ่นข้องหมองใจอะไร
กล่าวไปแล้วก็จบเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ใช่ คุณไม่เคยพูดจริงๆ ว่าตัวเองเป็นโสดาบัน
แต่คุณพูดว่า คุณเป็น"อริยะ"


คุณ ไปยกมาคำที่ผมบอกว่า ผมเป็น อริยะ

และถึงแม้ผมจะพูดเป็นนัยยะ ให้คนตีความ

แต่คุณ guest อยากดูไหม ที่คุณ guest บอกว่า คุณหมดสงสัยและดับกิเลสแล้ว ข้อนั้นหมายถึงอะไรคุณ guest

อีกทั้งคำพูดที่ว่า ผมไปใส่บาปกรรมกับคุณ คุณควรยกมา ว่าข้อใดที่ผมใส่บาปกรรมกับคุณ ถ้าคุณไม่มา กล่าวว่า ผม

คุณ guest คุณควรจะพิจารณาตนเองให้อยู่เฉยๆ อย่าตามกระแสดีกว่า

คุณ อย่ามาสร้างกระแสในตอนที่ คามึน ออกมาสร้าง
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

คุณ ไปยกมาคำที่ผมบอกว่า ผมเป็น อริยะ


ใช่สิ admin ลบข้อความไปแล้วหนิ ผมจะไปยกได้ไง

แต่ผมกับคุณ walaiporn เห็นทั้งสองคน
ว่าคุณเรียกตัวเองว่าอริยะ


แถมยังมาบอกผมอีกว่า อย่าเอาไปล้อเลียน
เสร็จแล้วก้บอกต่อไปอีกว่า ให้เอาไปล้อเลียนได้ เพราะคุณต้องการให้ล้อเลียน
จะได้เกิดกิเลสมาให้คุณได้กระแทกอีก

คุณขันธ์
ผมไม่แน่ใจว่าคุณเจตนาจะขี้ตู่ โกหก
หรือความจำเสื่อม
หรือความจำสั้น

ที่ผมรู้แน่ๆคือความจำผมไม่เสื่อม
และเพิ่งจะได้อ่านเมื่อวานนี้


ยิ่งคุยด้วย ยิ่งป่วยการ
คุณเป้นม้าที่พระพุทธเจ้าตรัสให้ฆ่าทิ้ง (ชักสะพานเสีย)
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ


แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 02 ก.ย. 2008, 10:54 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง