Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สงบไว้เมื่อภัยมา (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2004, 8:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



48674867.jpg


สงบไว้เมื่อภัยมา
นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



ตรงบริเวณชายแดนมีอาณาเขตติดต่อกับป่าหิมพานต์ มีหมู่บ้านอยู่หมู่หนึ่ง ซึ่งมีคนอยู่ไม่แน่นอน บางคราวก็มีคนอยู่มาก บางคราวก็มีคนอยู่น้อย ในขณะเดียวกันในป่าหิมพานต์ก็มีฝูงลิง อาศัยอยู่ถึง ๘๐,๐๐๐ ตัว ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นพญาลิง มีลิงหลานชายชื่อ เสนกะ ลิงลุงกับลิงหลานทั้ง ๒ นี้ช่วยกันดูแลฝูงลิงที่อยู่ด้วยกัน

ที่ตรงนั้นมีต้นมะพลับใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ออกผลดกมากเกือบตลอดปี เวลาที่หมู่บ้านนั้นเป็นหมู่บ้านร้างไม่มีคนอยู่ ฝูงลิงจะพากันมาเก็บผลมะพลับกิน แต่ถ้าคราวใดที่มีคนกลับมาอยู่อีก แม้ต้นมะพลับจะมีผลดกฝูงลิงก็ไม่กล้ามาเก็บกินเพราะกลัวว่าจะถูกจับทำร้าย

อยู่มาคราวหนึ่ง ต้นมะพลับมีผลดกอีก แต่คราวนี้หมู่บ้านมีคนกลับมาอยู่กันมากและดูจะอยู่ถาวรกว่าคราวอื่นๆ “พวกเราต้องช่วยกันล้อมรั้วหมู่บ้านและติดประตูให้แน่นหนาแข็งแรง” หัวหน้าหมู่บ้านบอกลูกบ้าน

“ทำไมละนาย” ลูกบ้านถาม

“พวกเราจะอยู่กันถาวรเลยเพราะที่นี่ก็พอทำมาหากินได้ อีกอย่างหนึ่งที่ต้องล้อมรั้วก็เพราะว่าหมู่บ้านเราอยู่ติดกับป่าหิมพานต์ซึ่งมีสัตว์ร้ายชุกชุม หากไม่ระวังให้ดีบางทีสัตว์เหล่านั้นอาจเข้ามาทำร้ายเราก็ได้”

พวกลูกบ้านเห็นชอบด้วยตามที่หัวหน้าหมู่บ้านเสนอ จึงได้ช่วยกันล้อมรั้วและติดประตูหมู่บ้านอย่างแน่นหนาแข็งแรง ฝ่ายฝูงลิงก็รู้ดีว่าเมื่อถึงฤดูกาลนี้ต้นมะพลับก็ออกผลแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนก็จะพากันมาเพราะสามารถมองเห็นต้นมะพลับได้แต่ไกล แต่คราวนี้ไม่มั่นใจเพราะมีรั้วล้อมหมู่บ้าน จึงบังไม่ให้เห็นต้นมะพลับ

“เมื่อก่อนมา ถึงฤดูนี้ต้นมะพลับจะออกผลดก พวกเราไปเก็บกินอย่างสบาย แต่คราวนี้ไม่มั่นใจว่าจะมีผลหรือไม่” ลิงตัวหนึ่งพูดกับเพื่อนๆ

“ก็ส่งพวกเราไปดูซี่” ลิงตัวแรกให้ความเห็นพร้อมกับหันไปบอกลิงตัวหนึ่งซึ่งนั่งจับเจ่าอยู่ใกล้ๆ “เฮ้ย..... ไอ้จ๋อ เอ็งไปดูซีวะ”

ลิงตัวดังกล่าวไปด้อมๆ มองๆ ตามรั้วล้อมหมู่บ้าน จนเห็นแน่ชัดว่าต้นไม้ออกผลแล้วจึงรีบกลับมาบอกฝูงลิงด้วยความยินดี “เพื่อนลิงทั้งหลาย ต้นมะพลับออกผลแล้ว แหมดกเหมือนเมื่อก่อน หรือบางทีจะดกกว่าด้วยซ้ำ ข้าเห็นบางกิ่งผลเป็นพวงย้อยลงมาเลย”

ฝูงลิงได้ฟังดังนั้นแล้วตื่นเต้น บางตัวถึงกับแลบลิ้นเลียปากเพราะนึกถึงผลมะพลับที่อร่อยซึ่งตนเก็บกินมาเมื่อคราวก่อน “คราวนี้ข้าจะกินให้หนำใจเลยโว้ย” ฝูงลิงต่างกระโดดโลดเต้นอย่างอารมณ์ดีแล้วพากันไปหาพญาลิงเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบ

“ที่หมู่บ้านมีคนมาอยู่กันแล้วหรือยัง” พญาลิงถาม

“มีแล้ว” ฝูงลิงตอบ

“รู้ได้ยังไง”

“ไอ้จ๋อตัวแสบไปสืบลาดเลามาแล้วจ้านาย” ฝูงลิงชี้มือไปที่ไอ้จ๋อซึ่งยืนยิ้มเผล่อยู่อย่างสง่าผ่าเผย

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปเลย” พญาลิงห้ามปราม

“ทำไมล่ะ” ฝูงลิงสงสัย

“พวกมนุษย์มีเล่ห์เหลี่ยมมาก บางทีอาจทำอันตรายพวกเราได้” พญาลิงให้เหตุผล

“แต่พวกเรามีแผนนะนาย” ลิงตัวที่สั่งไอ้จ๋อให้ไปดูลาดเลาชี้แจง

“แผนอะไร”

“พวกเรากะว่าจะไปตอนเที่ยงคืน เพราะเวลานั้นพวกมนุษย์หลับหมดแล้ว และเชื่อว่าไปเวลานี้พวกเราจะปลอดภัย”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ”

เมื่อได้รับอนุญาตจากพญาลิงแล้ว ฝูงลิงก็ดีใจรีบพากันลงมาจากป่าหิมพานต์ แล้วซุ่มรอเวลาอยู่ใกล้ๆ หมู่บ้านนั้น

ครั้นถึงเวลาเที่ยงคืน เมื่อมนุษย์หลับกันหมดแล้ว ฝูงลิงก็แอบเข้าไปกลางหมู่บ้านแล้วปีนขึ้นต้นมะพลับกินเพลินอยู่นั้น ก็มีชายคนหนึ่งเกิดปวดท้องจึงออกจากบ้านไปถ่ายอุจจาระข้างป่า เขารู้สึกแปลกใจที่เห็นกิ่งต้นมะพลับไหวยวบยาบ จึงขยี้ตาแล้วยืนจ้องมองอยู่นาน จนในที่สุดก็เห็นชัดว่ามีฝูงลิงจำนวนมากยั้วเยี้ยอยู่บนต้นมะพลับ

“ลิงป่าโว๊ย ลิงป่า พากันมาบุกกินลูกมะพลับ” เขาร้องตะโกนเสียงดังลั่นจนทำให้คนในหมู่บ้านตื่นกันหมด

“พวกเรามาช่วยกันจับลิงป่าโว๊ย” เสียงบอกต่อดังไปทั่วหมู่บ้าน

ไม่นานนัก พวกชาวบ้านก็พากันล้อมต้นมะพลับไว้ บางคนถือธนู บ้างก็ถือท่อนไม้ บางคนไม่รู้จะถืออะไรก็กำก้อนดินไว้แน่น

“พวกเราล้อมกันไว้ให้ถึงสว่างนะจะได้จับได้ง่ายๆ“ หัวหน้าหมู่บ้านออกคำสั่ง

ฝูงลิงเห็นพวกชาวบ้านถืออาวุธมาล้อมต้นไม้ไว้ก็กลัวตาย ต่างนั่งตัวเกร็งอยู่บนต้นมะพลับ ขณะนั้นก็มีลิงจำนวนหนึ่งลอดหลบหนีออกจากรั้วไปได้ ลิงพวกนั้นรีบกลับไปหาพญาลิง แล้วแจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้ทราบ

“อย่าตกใจไปเลย” พญาลิงปลอบ “พวกมนุษย์มีกิจธุระที่ต้องทำมาก ตอนนี้ยังเป็นเวลาเที่ยงคืนอยู่ ขอให้พวกเจ้าเก็บผลไม้กินให้ตามสบาย เพราะตอนใกล้สางพวกมนุษย์ก็จะต้องไปทำงานอื่นกัน ถึงเวลานั้นพวกเจ้าก็จะปลอดภัย ข้อสำคัญอย่าตีโพยตีพาย”

พญาลิงปลอบบริวารให้สบายใจ แต่ก็มีฝูงลิงจำนวนหนึ่งที่ยังตกใจไม่หาย แม้จะได้รับการปลอบโยนอย่างไรก็ควบคุมใจไว้ไม่ได้และหัวใจวายตายไปในที่สุด พญาลิงสั่งให้แยกลิงที่ตายไว้ต่างหาก แล้วสั่งให้นับดูลิงทั้งที่ตายและไม่ตาย

“เห็นเจ้าเสนกะไหม” พญาลิงถามบริวาร

“ไม่เห็น นาย” ลิงตัวหนึ่งตอบ

“ถ้าเสนกะยังไม่ตาย หากเขายังอยู่ที่หมู่บ้าน พวกเจ้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เจ้าเสนกะนั่นแหละจะช่วยเราให้ปลอดภัย” พญาลิงให้ความหวัง

กล่าวถึงลิงเสนกะ เวลาที่ฝูงลิงพากันปีนรั้วเข้าไปกินผลมะพลับนั้น เขานอนหลับอยู่บนแผ่นหิน พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นมีฝูงลิงอยู่จึงเดินตามมาภายหลัง แต่ครั้นมาเห็นพวกชาวบ้านยืนล้อมต้นมะพลับอยู่ถืออาวุธน่ากลัว จึงรู้ทันทีว่ามีอันตรายเกิดขึ้นแก่ฝูงลิงแล้ว

“เราจะต้องช่วยเหลือ” เขาคิดพลางคิดหาวิธีช่วยเหลือ

ขณะนั้นก็เห็นแสงไฟที่เรือนหลังหนึ่งจึงเดินไปตามแสงไฟนั้น ที่เรือนหลังนั้น เขาเห็นหญิงแก่คนหนึ่งกำลังกรอด้ายอยู่ จึงเห็นทางพอช่วยเหลือ เขาทำทีเป็นเหมือนเด็กชาวบ้านกำลังจะไปนา เข้าไปหาหญิงแก่แล้วคว้าฟืนดุ้นหนึ่งมาถือ เดินไปยืนอยู่ที่เหนือลมใกล้บ้านหลังหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็มีลมพัดเอาเปลวไฟไปตกที่บ้านหลังนั้น ทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

พวกชาวบ้านที่ยืนล้อมต้นมะพลับอยู่เห็นไฟไหม้บ้านหลังนั้นลุกโชติช่วง ก็ตกใจรีบผละจากต้นมะพลับไปช่วยกันดับไฟ ฝ่ายฝูงลิงบนต้นมะพลับเห็นไฟลุกไหม้เช่นนั้นก็รู้ได้ทันทีว่า ต้องเป็นแผนช่วยเหลือพวกตนของลิงเสนกะ จึงรีบคว้าผลมะพลับกันตัวละผลแล้วหนีลงจากต้นไม้ ปีนรั้วกลับไปป่าหิมพานต์ ฝูงลิงกลับมาได้อย่างปลอดภัยจึงได้ตอบแทนลิงเสนกะด้วยการมอบผลมะพลับที่ถือมาให้



นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความสุขุมเยือกเย็นเวลาที่มีภัยเกิดขึ้นย่อมทำให้มองเห็นทางแก้ปัญหาและสามารถเอาตัวรอดได้ เหมือนฝูงลิงถูกล้อมและเอาตัวรอดมาได้ฉะนั้น



..................... เอวัง .....................
 

_________________
สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศแล้ว
ลมหนาวกำลังมาเยือนแล้ว

จันทร์ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๑
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2004, 5:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
เด็กน้อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2006, 11:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 12 มิ.ย.2008, 4:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ขอบคุณครับ มึน
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 9:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณจ้า สาธุ ยิ้ม
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง