Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 หนูต้องทำตัวยังไง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ทิพย์ธัญญา
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 26 ส.ค. 2008
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 11:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนนี้หนูเศร้ามากไม่เป็นอันทำอะไร พอรู้ว่าแม่ป่วยหนูก็ร้องไห้ทุกวัน หนูกลัวว่าจะเสียแม่ไป หนูรักแม่มากที่สุด ใครก็ได้ช่วยตอบหนูว่าหนุต้องปฏิบัติตัวยังไง หนูไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ครอบครัวเรามีความสุขมาตลอด ก็ไม่ได้คิดเรื่องแบบนี้เลย หนูไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ทั้งที่ก็รู้นะว่าแม่ยังไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่หนูก็คืดถึงวันข้างหน้าแล้ว หนูกลัวมากๆตอนนี้ แต่แม่หนูเข้มแข็งมากแต่หนูสิอ่อนแอใจมากๆ ช่วยตอบหนูหน่อยนะคะหาทางออกทางใจให้หนูหน่อย ร้องไห้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 11:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เอาใจช่วยนะคับ สู้ๆ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 5:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ อย่าเพิ่งกังวลถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึงเลยครับ ส่วนมากมันไม่เกิดอย่างที่เรากลัวหรอกครับ วันนี้ทำดีที่สุดไว้ คือดูแลปรนนิบัติคุณแม่ นี่เป็นสิ่งที่เราทำได้ ส่วนเรื่องที่เราทำไม่ได้ก็ให้ปล่อยวาง หากแม่รู้ว่าเราทุกข์ท่านคงจะทุกข์เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยสำหรับแม่เวลาที่ท่านกำลังป่วย

ขอให้ พยายามรักษาศีล หมั่นสวดมนต์ ทำทานไว้เสมอ กุศลจะเป็นที่พึ่งของเราได้ครับ
 

_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 7:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


ยังมีเด็กกำพร้าที่ขาดทั้งพ่อไร้แม่เลี้ยงดู ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อาศัยอยู่กับปู่ตาย่ายายซึ่งมีฐานะยากจน อย่าว่าแต่การศึกษาจนจบปริญญาเลย อาหารอิ่มท้องแต่ละมื้อๆ ก็ได้โดยยาก บุคคลหรือเด็กเหล่านี้ยังมีอีกมากนักในประเทศนี้ เศร้า

เมื่อจะว่าไปแล้วคุณทิพย์ธัญญา ปัจจุบันมีชีวิตการเป็นอยู่สะดวกสบายกว่าเด็กเหล่านั้นหลายเท่านัก
เรียนก็ใกล้จบแล้วด้วย พ่อก็ยังมีชีวิตอยู่ด้วย นึกถึงความจริงข้อนี้ ก็น่าจะทำให้สบายใจขึ้น

การพลัดพรากเป็นสัจธรรมของชีวิตครับ คุณลองถามเพื่อนๆก็ได้ว่า ใครไม่เคยสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักบ้าง มีแต่เคยสูญเสียอย่างใดก็อย่างหนึ่งทั้งนั้น ต่างเคยร้องไห้เพราะการพลัดพรากทั้งสิ้น ร้องไห้

หน้าที่ของคุณทิพย์ธัญญาตอนนี้ก็ คือ ทำวันนี้เดี๋ยวนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถ เพราะวันนี้จะเป็นผลของพรุ่งนี้และวันต่อๆไป สู้ สู้

สมมุติวันรับปริญญาไม่มีแม่อยู่เคียงข้างเรา ก็ยังมีพ่อมีพี่หรือมีน้องลุงป้าน้าอาพลอยยินดีกับเรา ซึ่งเค้าเหล่านั้นก็เป็นตัวแทนแม่เรา และเราก็ได้ชื่อว่าทำให้วงศ์ตระกูลสมหวังและยิ้มได้ แม่ซึ่งอยู่บนสวรรค์ก็จะยิ้มไปกับเรา ยิ้ม ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 8:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หนู"ทิพย์ธัญญา" ครับ


ลุงเองก็เคยเสียพ่อเสียเม่ พี่น้องของลุงทุกคนก็เสียใจ เพราะไม่เคยคิดว่า
จะถึงวันนั้น แต่คนในโลกทุกคนก็ต้องเสียพ่อเสียแม่ทั้งนั้น นี่เป็นความจริง

การเศร้ามากของหนูเป็นภาวะปกติ แต่ลุงจะบอกความลับของฟ้าให้ ไม่มี
ใครเคยตายจริงสักคน
เขาไปใช้วิบากกรรมในนรกสวรรค์แล้วก็กลับมาเกิดอีก
บางทีอีก 50 ปีหนูตาย เวลาที่แม่ของหนูอยู่ในปรโลก อาจจะผ่านไปแค่ไม่ก็วัน
แล้วเขาก็จะมารับหนูเอง


ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา มันเป็นอย่างนี้ พวกเราเกิดมาเพื่อรับรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง
มันเป็นของไม่เที่ยง (อนิจจัง) แม้แต่ความทุกข์ของหนูก็ไม่เที่ยง ทุกข์วันนี้
พร่งนี้ก็หายทุกข์

ตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีครอบครัวไหนมีความสุขตลอด
แม้แต่รายเดียว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
guest
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 9:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หนูต้องเข้มแข็งนะครับ

ไม่ว่าจะทุกข์กังวลใจเพียงใด
ให้เอาใจของหนูฝากไว้ที่ พระพุทธเจ้า นะครับ

"พุทโธ" คำเดียวกระเทือนถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ครับ

ที่ทุกข์เพราะเราคิดครับ เพราะความคิดของเรา
ต้องบังคับไม่ให้คิดเรื่องนี้ครับ
บังคับด้วยการคิดถึงแต่ "พุทโธ" อย่างเดียว

เมื่อระลึกรู้ว่าเรากำลังคิดถึงเรื่องที่ทำให้เราทุกข์ใจ ได้เมื่อไร
ให้คิดถึง "พุทโธ" แทนครับ

วันแรก ๆ อาจยากซักหน่อย
ฝืนทำไปเรื่อย ๆ
ความคิดในเรื่องที่ทุกข์ใจจะค่อย ๆ อ่อนลงครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 11:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ๆคับน้อง สู้ สู้ สู้ สู้
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 12:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ สู้ สู้

สู้ครับ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

ตอบตอบเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 1:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ ให้นึกถึงความเป็นจริงที่พระพุทธเจ้าท่านได้สั่งสอนไว้ว่า มีเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา

มีของคู่กันอยู่มากมายเช่น มีเกิด ต้องมีตาย มีได้ก็ต้องมีเสีย มีดีก็ต้องมีชั่ว มีเห็นก็ต้องมีไม่เห็น มีเป็นก้ต้องมีไม่เป็น มีบาปก็ต้องมีบุญ
มีคุณก็ต้องมีโทษ มีโกรธก็ต้องมีใจดี มีสุขก็ต้องมีทุกข์ ตั้งความหวังไว้มากถ้าไม่ได้ก็ผิดหวังมากและทุกข์มาก ต้องความหวังไว้น้อยถ้าผิหวังก็ทุกข์น้อย ถ้าทำใจให้เป็นกลางไว้ก็สบายเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นก็ทำใจได้

หมั่นทำบุญไว้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา
รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวติอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคราะโลงลุกขึ้นมารักษาศีล เรื่องนี้เห็นบ่อยมากเลย คนโบราญทำให้คนคิดได้ แต่เดี่ยวนี้ทำเป็นประเพณีไปเสียแล้วต้องการคำอธิบายก็ www.supasok.com
เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลยฯ
จากพระครูอมรศีลวืสุทธิ์
ท่านใดมีปัญหาถามส่ง อีแมว ที tanaphom,supashok99@gmail.com
จะตอบให้ตามความรู้ที่มีเพื่อจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาและปฏิบัติมา 25 ปี
 

_________________
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMYahoo MessengerMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 2:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมชอบคำสอน ของท่านใบไม้ หรือ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ครับ

อ้างอิงจาก:
ลุงเองก็เคยเสียพ่อเสียเม่ พี่น้องของลุงทุกคนก็เสียใจ เพราะไม่เคยคิดว่า
จะถึงวันนั้น แต่คนในโลกทุกคนก็ต้องเสียพ่อเสียแม่ทั้งนั้น นี่เป็นความจริง

การเศร้ามากของหนูเป็นภาวะปกติ แต่ลุงจะบอกความลับของฟ้าให้ ไม่มี
ใครเคยตายจริงสักคน เขาไปใช้วิบากกรรมในนรกสวรรค์แล้วก็กลับมาเกิดอีก
บางทีอีก 50 ปีหนูตาย เวลาที่แม่ของหนูอยู่ในปรโลก อาจจะผ่านไปแค่ไม่ก็วัน
แล้วเขาก็จะมารับหนูเอง


ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา มันเป็นอย่างนี้ พวกเราเกิดมาเพื่อรับรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง
มันเป็นของไม่เที่ยง (อนิจจัง) แม้แต่ความทุกข์ของหนูก็ไม่เที่ยง ทุกข์วันนี้
พร่งนี้ก็หายทุกข์

ตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีครอบครัวไหนมีความสุขตลอด
แม้แต่รายเดียว
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง