ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
i
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 18 ส.ค. 2008
ตอบ: 6
|
ตอบเมื่อ:
25 ส.ค. 2008, 9:41 am |
  |
มีคำถามให้ช่วยกันตอบ
คือเราปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมะมาก็พอสมควร หลายๆ คนก็คงเป็นอย่างนั้น ถ้าเราอยากรู้ว่า เราปฏิบัติธรรมอยู่ในระดับใด หมายถึงใกล้ความหลุดพ้นหรือยัง สังเกตได้จากสิ่งใด คือปฏิบัติไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองก้าวหน้าหรืออยู่กับที่ เพื่อนๆ ที่ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรบ้าง มีสัญญาณอะไรบ้างไหมคะที่บ่งบอกความก้าวหน้า ร่วมแบ่งปันผลการปฏิบัติธรรมให้ทราบบ้างนะคะ เผื่อจะได้รู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน (ทางเดียวกัน) จะได้รู้สึกว่าไม่อ้างว้างเท่าไหร่บนเส้นทางนี้ |
|
|
|
  |
 |
ใบโพธิ์
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
25 ส.ค. 2008, 10:07 am |
  |
จะวัดผลการปฏิบัติธรรมจากสิ่งใด
วัดที่ “จิตใจ” อ่ะค่ะ
เมื่อปฏิบัติแล้ว เวลามีสิ่งมากระทบแล้ว เจอโลกธรรม ๘
จิตสงบเย็นมากขึ้น ปล่อยวางมากขึ้น จิตทุกข์น้อยลง  |
|
_________________ ทำความดีทุกๆ วัน |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
25 ส.ค. 2008, 10:44 am |
  |
คุณ ใบโพธิ์ ตอบดีแล้ว ครับ
แต่ผมเสนอ ดังนี้ คือ
1 ศีล จะเป็นเครื่องวัด คือ ศีลคือความปกติ ถ้าหากว่าเรามาถูกทาง ก็จะมีความปกติ ของความประพฤติ จิตใจ มากขึ้น ไม่ใช่ว่าถือศีลมากขึ้นนะครับ แต่จาก การคิดอ่าน การทำงาน การดำเนินชีวิต ก็จะมีความปกติ คือ ไม่ขึ้นๆ ลงๆ จิตใจ ไม่ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวฟู เดี๋ยวแฟบ อันนั้นเรียกว่า ไม่ปกติ ถ้าปกติ ก็จะมีจิตใจที่ไม่ไปทางนั้นทางนี้ ไม่คิดวุ่นวาย ไม่หาทางนั้นทางนี้ให้วุ่นวาย
2 สมาธิ จะเป็นเครื่องวัด คือ จิตใจมีความหนักแน่น มั่นคง คิดจะทำอะไรก็พรุ่งตรง มีกำลัง แน่วแน่ เพิ่มขึ้น เช่นคิดจะอ่านหนังสือ ก็อ่านได้ยาวนาน คิดจะทำงานก็มีสมาธิทำได้ยาวนาน ไม่มีความเกียจคร้าน มาปน มาทำลาย ไม่มีความลังเลมาบั่นทอน ไม่มีความง่วงมาบั่นทอน ไม่มีความฟุ้งซ่านมาบั่นทอน ไม่มีความพยาบาทมาบั่นทอน ไม่มีความอยากอย่างอื่นมาบั่นทอน
3 ปัญญา จะเป็นเครื่องวัด คือ มองเห็นสรรพสิ่งตามความเป็นจริงมากขึ้น มีปัญญา คิดอ่าน ตรึกตรอง มากขึ้น มองเห็นธรรม มากขึ้น คิดอ่านเฉียบคม มากขึ้น แก้ไขปัญหาอย่างเรียบง่ายมากขึ้น
ทั้งสามตัวนี้จะเป็นตัววัด ตัวเราเอง ขออย่างเดียว สติอย่าให้ขาดแล้วเราจะรับทราบตัวเองและประเมินตนเองได้ด้วยสติ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
25 ส.ค. 2008, 8:21 pm |
  |
ถ้าถึงกระแสหรือโสดาบันจะรู้ด้วยตนเอง
จากญาณครับ
เป็นความคิดความเชื่อส่วนตัว
ต่ำจากนั้นคงหามิเตอร์วัดยาก |
|
|
|
   |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
28 ส.ค. 2008, 12:34 pm |
  |
ใช้หลักกิโลเมตรวัดอะครับ
มีผ่าน 3 หลักแรก และ 7 หลักหลังก็จบแล้วครับ |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
มิตรตัวน้อย
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 12 พ.ค. 2008
ตอบ: 48
|
ตอบเมื่อ:
28 ส.ค. 2008, 12:44 pm |
  |
ธรรมของพระพุทธองค์นั้น เมื่อได้ประพฤติปฏิบัติแล้ว
ปัจจัตตัง = รู้ได้เฉพาะตน
สันทิฐิโก = ผู้ประพฤติปฏิบัติ รู้เห็นได้เอง
เหมือนกินข้าว อิ่มก็รู้ไม่ต้องถามใคร
 |
|
|
|
  |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
02 ก.ย. 2008, 9:44 pm |
  |
มิตรตัวน้อย พิมพ์ว่า: |
ธรรมของพระพุทธองค์นั้น เมื่อได้ประพฤติปฏิบัติแล้ว
ปัจจัตตัง = รู้ได้เฉพาะตน
สันทิฐิโก = ผู้ประพฤติปฏิบัติ รู้เห็นได้เอง
เหมือนกินข้าว อิ่มก็รู้ไม่ต้องถามใคร
 |
จริงแท้แน่นอน น้องมิตรตัวน้อย จิ๋วแต่แจ๋ว  |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
|