Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ตกบันไดขาหักมีเจ้ากรรมนายเวรไหม?
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 11 ธ.ค.2004, 4:11 pm
ก่อนอื่นนั้นผมต้องบอกว่าผมเคารพอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างยิ่ง แม้ไม่รู้จักท่าน แต่ผมฟังธรรมะที่ท่านบรรยาย พระภิกษุที่ผมเคารพหลายรูปท่านบอกว่าไม่มีเจ้ากรรมนายเวรหรอก
เรื่องเจ้ากรรมนายเวรนี่ก็ไม่สามารถนิยามได้ว่าความหมายเป็นอย่างไร แต่อาจนิยามได้ว่าเป็นคู่เวรตั้งแต่มีความอาฆาตมากลงมาจนถึงเวรอันเล็กน้อย ผู้เป็นคู่เวรนั้นอยู่ในภพอื่นก็มี
หรืออาจมีความหมายกว้างแคบออกไปต่างกันกว่านี้บ้างแล้วแต่กรณี แล้วก็มีปุจฉาขึ้นมาว่าสามารถทำบุญลดเวรกรรมกันได้หรือ
สำหรับผม ผมจะแสดงว่าเป็นไปได้อย่างไร
ในกรณีตกบันไดขาหักมีเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ ?
ย่อมไม่สามารถตอบได้ แต่ผมจะแสดงให้เห็นว่าในกรณีนี้มีเจ้ากรรมนายเวรได้อย่างไร ผมจึงต้องแสดงบุคลาธิษฐานแบบสมมุติเพื่อเป็นตัวอย่างคร่าวๆ และแต่งเป็นเรื่องเพื่อเป็นการทำความเข้าใจระบบของเจ้ากรรมนายเวร
สมมุติว่ามีชายคนหนึ่งชื่อนายแดง ไปมีเรื่องทะเลาะกัยนายดำ จนเกิดใช้กำลังต่อสู้กัน นายแดงผลักนายดำตกบันไดขาหัก
นายดำเจ็บและโกรธมากอาฆาตไว้ว่าจะทำร้ายนายแดง แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ นายดำไปทำชั่วเรื่องอื่นและทำให้ตัวเองเสียชีวิต แล้วนายดำนั้นไปเกิดในนรกแห่งหนึ่ง
ส่วนนายแดงนั้นก็ได้ตายไปและกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกชาติหนึ่ง เป็นชาวพุทธทำบุญตักบาตรเหมือนคนธรรมดา แต่มีโอกาสทำบุญบ้าง
ต่อมาในเมืองนรกที่นายดำอยู่นั้น มียมบาลไปบอกว่านายแดงต้องลดโทษในเมืองนรกให้ลดลงบ้างมั้ย ถ้าลดโทสะที่มีอยู่ออกเสียบ้าง ก็จะได้ลดโทษบ้าง
นายดำก็เห็นว่าตนยังโกรธนายแดงอยู่ ยังไม่รู้สึกจะให้อภัย จึงขอชำระความแค้นเพื่อจะลดโทสะของตน
ยมบาลก็บอกให้นายแดงไปจับตัวนายดำมา ถ้านายแดงสามารถไปจับตัวนายดำได้ กรรมของนายดำก็มาถึง
แต่นายดำอยู่ในนรกจะไปจับตัวนายแดงที่อยู่ในโลกมนุษย์ได้อย่างไร
นายดำและพวกวิญญาณในนรกไม่ได้สงสัยในเรื่องอย่างนี้ อย่างที่มนุษย์สงสัยกัน พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ แม้นายแดงจะอยู่ในโลกมนุษย์ แต่นายแดงมีกายชนิดหนึ่ง ผมไม่สามารถเรียกได้ ผมไม่ทราบว่าเรื่องนี้มีในอภิธรรมหรือไม่ ผมจะเรียกโดยบัญญัติขึ้นเองว่า "กายวิญญาณ"
ผมจะนิยามว่ากายวิญญาณเป็นอย่างไร กายวิญญาณนั้นก็เหมือนตัวของนายแดง แต่ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆได้ กายนี้ผมจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากายในกาย เพราะว่ามันมีอยู่ในกายเรา
กายมนุษย์นั้นไม่เคยรู้ว่ากายวิญญาณไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ไม่ได้สนใจกายนี้ กายนี้มิใช่กายทิพย์ ทีนี้พวกอยู่ในนรกจะจับกายวิญญาณของนายแดงได้อย่างไร เพราะว่ากายวิญญาณนายแดงอยู่ในร่างกายนายแดง นายดำอยู่ในนรกอยู่คนละที่กัน
พวกนรกก็ไม่วิตกในเรื่องอย่างนี้ เพราะเขาทำให้กายวิญญาณไปอยู่ในนรกได้ หรือให้นรกมาอยู่ในกายของนายแดง อันให้ทั้งสองเป็นคู่เวรพบกันในโลกวิญญาณ
ในลักษณะการเชื่อมโลกทั้งสองเข้าด้วยกันนี่ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาเอง แต่เป็นสิ่งที่ผมเห็นมาจนชิน เป็นความจริงอย่างหนึ่ง
โลกนรกของนายดำนั้นย่อตัวให้ขนาดเล็กลง มาอยู่ในร่างกายหรือซ้อนทับ นายแดงนี่ในตัวเขามีเวบไซต์ วิธีการของเจ้ากรรมนั้น นายแดงจะดาวโหลดนรกเข้ามาในเวบไซต์ที่เป็นกายของตน อีกนัยหนึ่งนายดำและนรกก็มีเวบไซต์แห่งนรก และดาวโหลดกายวิญญาณของนายแดงที่อยู่ในร่างกายมาสู่นรก
คนที่อยู่บนโลกมนุษย์ไม่รู้เรื่องว่ากรรมกำลังจะตามมาแล้ว ภพทั้งสองแห่งดาวโหลดเข้ามาแล้ว
นายดำนั้นก็จะจับนายแดง นายแดงก็ใช้กำลังวิ่งหนี เพราะกายวิญญาณของนายแดงมีความรู้ในเรื่องนี้เหมือนกัน แต่กายวิญญาณนี้ถึงจะมีญาณรู้อย่างไรก็ติดต่อกับตัวนายแดงที่เป็นกายหยาบไม่ได้ บอกให้กายหยาบทราบไม่ได้ เว้นแต่นายแดงจะทำสมาธิเกิดสมาธิแล้วนำญาณรู้จากกายวิญญาณไปล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ถ้ากรรมมีกำลังนายดำก็จับนายแดงได้ ไปให้ยมบาล เมื่อนายแดงถูกจับได้ นายดำดีใจแล้ว เพราะรู้ว่าอีกไม่กี่วันนายแดงจะต้องตกบันไดขาหักในโลกมนุษย์ด้วยการชดใช้กรรมอย่างแน่นอน
ถ้าไม่มีเจ้ากรรมนายเวรนายแดงก็ยังจะได้รับกรรม แต่จะไม่รับกรรมในลักษณะนี้ ให้ดูต่อไป
เมื่อนายดำจับนายแดงได้แล้ว ก็บอกว่าอีกสองวันจะทำให้นายแดงตกบันได แล้วแสดงกรรมที่นายแดงทำกับนายดำให้นายดำดู ให้นายแดงที่เป็นกายวิญญาณไปทำให้นายแดงที่เป็นกายหยาบตกบันได ในที่ใดในเวลาใด ไปเตรียมการให้นายแดงไปที่นั่นแล้วให้มีอากรเผอเรอ
เพื่อจะให้มีความเป็นไปได้ นายดำตามไปด้วย พอถึงที่เกิดเหตุขณะนายแดงก้าวลงบันได กายวิญญาณนั้นเดินอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม นายดำที่อยู่ในนรกมองเห็นทั้งหมด แล้วกลัวว่าจะไม่ได้ผล เลยใช้เท้าเตะตัดขานายแดงที่เป็นกายวิญญาณ กายวิญญาณเสียหลักล้มลงโดยไม่รู้ตัว ประจวบกับนายแดงที่กายหยาบก็พลาดตกบันไดลงพอดี ขาขัดกับบันไดขาหัก
เมื่อนายแดงขาหักแล้ว ก็ไปหาหมอ ไปเข้าเฝือกดูแลรักษาเป็นอย่างดี
ยมบาลก็ถามนายดำว่า "เป็นไงความโกระลดลงไปบ้างแล้วยัง ทำไมยังโกรธอยู่อีก" นายดำบอกว่า ผมยังไม่หายแค้น มันทำผมเจ็บกว่านี้ ผมต้องการทำมันอีกให้สาสมใจ ให้ขาของมันปวดหรืออักเสบเจ็บอย่างแรงไปสักเดือน
ยมบาลถามว่าจะทำได้ยังไง ก็หมอเขารักษาอย่างดีอยู่ นายดำก็เถียงว่า ก็ความแค้นผมยังไม่หาย ผมต้องการให้ขามันอักเสบ ไม่ว่าหมอจะฉีดยาป้องกันไปแล้วหรือไม่ก็ตาม
ยมบาลก็จับกายวิญญาณนายแดงมาให้แล้วบอกว่าก็นายแดงยังถูกจับอยู่จะทำยังไงก็ทำเสีย มีเวลาอยู่ไม่มาก จะต้องปล่อยเขาไปแล้ว
นายดำก็ใช้อาวุธแทงที่ขานายแดงที่เป็นกายวิญญาณ แล้วบอกยมบาลว่าผมจะให้มันอักเสบตรงบริเวณนี้แหละ แล้วไปเอาของสกปรกของที่เรียกว่าเสนียดจัญไร รวมทั้งตะปูเส้นผม เสกทำเป็นคุณไสย์แบบเดรัจฉานวิชชา ที่พวกเขามีความถนัดอยู่แล้ว แล้วเอาของที่ทำนั้นใส่ลงไปในแผลกายวิญญาณ กายวิญญาณของนายแดงได้รับทุกข์ทรมานมาก
นายดำบอกว่าได้ลงโทษนายแดงแล้ว อีกสองวันกายหยาบจะเริ่มอักเสบ และรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้ามันไปหาหมอ ผมจะเอาคุณไสย์ใส่เพิ่มไปเรื่อยๆ ให้เชื้อโรคมันดื้อยา และเจ็บอยู่สักเดือน
ในขณะที่โลกมนุษย์เอาแต่เรื่องรักษากายหยาบอย่างเดียว โลกวิญญาณแห่งเจากรรมนายเวรทำร้ายที่กายวิญญาณเป็นหลัก เพื่อส่งผลกรรมนั้นไปให้กายหยาบในลีกษณะนี้
ต่อมานายดำป่วยหนักอักเสบ หมองงมากรักษาอย่างดีแล้วยังเป็นหนอง อาจต้องขูดเนื้อออกหมด นายแดงนึกไม่ถึงวาแค่ตกบันได้ ทำไมโรคมันกลายอย่างนี้ มันเชื้อโรคอะไรที่ยาปฏิชีวนะใช้ไม่ได้ผล
บังเอิญนายแดงไปพบชาวบ้านคนหนึ่ง แกแนะนำลองไปทำบุญถวายทานอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เผื่อมันจะดีขึ้นบ้าง นายแดงเจ็บมาหลายวันแล้ว แต่ก็นึกว่าลองดูสักหน่อย แล้วไปทำบุญถวายทานสองสามวันอุทิศส่วนกุศลให้นายเจ้ากรรมนายเวร
ยมบาลก็บอกว่า "นั่นบุญมาถึงแล้ว จะยอมเอาบุญแล้ว อโหสิกรรมให้เขาไหม นายดำว่าเอาซีครับ เรื่องอะไรผมจะยอมอยู่ในนรกนานๆ ผมก็ให้อโหสิกรรมเขา เอาบุญ แล้วเอากายวิญญาณมาล้างแผลเอาคุณไสย์ที่ทำไว้ออกไป
นายแดงในโลกมนุษย์ก็เริ่มอาการดีขึ้นเรื่อย คนไปถามว่าหายแล้วยัง นายแดงก็บอกว่าหายแล้วได้หมอดี ชาวบ้านว่าไม่ใช่หายด้วยการทำบุญหรือ นายแดงตอบว่าคงไม่หรอก คงหายกับหมอมากกว่า
กายวิญญาณที่ว่านี่ต่างกับกายทิพยื เราอาศัยกายวิญญาณนี่ไปดูที่ต่างเช่นในนรกได้เหมือนกัน แต่เราไม่ต้องถอดจิตออกจากร่าง เราดาวโลหดทุกอย่างเข้ามาในร่างกายเราแล้วนั่งดูอย่างรู้ตัว อาจคุยกับคนอื่นได้บ้างในขณะนั้น คนบางคนเรียกว่าญาณ เห็นด้วยกายใน
แต่ถ้ากายทิพย์ถอดออกไปแล้วแยกไม่รู้เรื่องกับกายหยาบเลย แต่กายทิพย์เห็นอะไรชัดแจ้ง กายวิญญาณเห็นไม่ชัด เหมือนเดือนแรมแปดค่ำ และก็ไม่ใช่ตาทิพย์ ตาทิพย์เห็นด้วยญาณตาทิพย์ ไม่มีกายวิญญาณ แต่เห็นจากตาในของกายหยาบ ตาทิพย์นั้นเห็นเหมือนกายหยาบเห็นเอง แต่กายวิญญาณจะมีตัวร่างกายอีกกายหนึ่ง
สิ่งพวกนี้โยงใยเป็นเครือข่ายเข้าด้วยกันทั้งจักรวาลเลย ระบบกรรมจึงทำงานและให้ผลได้อย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมาสมเหตุสมผล
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 11 ธ.ค.2004, 4:49 pm
มันยาวจังอ่ะค่ะ
แต่อมัยก็เชื่อน๊ะค่ะเรื่องเจ้ากรรมนายเวรอ่ะ
แต่เป็นกายทิพย์กายหยาบโลกวิญญาณ
นี่ สับสนอ่ะค่ะ
อมัยเชื่อเรื่อง ขอขมากรรม กะอโหสิกรรมค่ะ
ไม่ได้หมายความว่าคนที่ทำกรรมไม่ดีแล้วก็ไม่ต้องรับผล
เพียงแต่ว่าผลที่ได้รับอาจลดหย่อนลง
แต่ฝ่ายที่ให้อภัยได้หมายความว่าตัดกรรมไม่ต้องไปต่อภพต่อชาติกะจำเลยอีก
อมัยเข้าใจตามนี่แหละค่ะ
ถ้าเข้าใจผิดไง แก้ไขให้ด้วยน๊ะค่ะ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2004, 3:26 pm
กรรมนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปตามนั้น
เราอย่าไปหวังว่ากรรมชั่วที่เราเคยทำไว้ในอดีตจะหมดไป
กรรมนั้นจะมาหาเราเหมือนกระแสน้ำไหล ถึงคราวดีก็ดี ถึงคราวร้ายก็ร้าย
แม้เราจะทำดีชาติหนึ่ง กรรมนั้นก็คุ้มครองเราได้ไม่มาก ไม่เป็นที่ปลอดภัยในวัฏฏะ
ดังนั้นควรคิดว่าทำอย่างไรเราจะทำดีได้มากที่สุดในชีวิตที่มีอยู่ เรามีกำลังของเราเท่าไรที่จะทำอะไร เราควรวางแผนการชีวิตแบบนี้
เราไม่ควรแต่วางแผนการชีวิตในชาตินี้ชาติเดียว แต่ควรวางแผนการประกอบบุญในชาติหน้าด้วย
เราไม่ควรวางแผนการทำบุญในชาติหน้าเท่านั้น แต่ควรวางแผนการในชาติต่อไปๆ ด้วย
เราควรวางแผนการทำความดีในทุกชาติที่เกิดมา และทำให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าที่ได้ทำมาแล้ว
เมื่อไม่มีศาสนาแล้ว เราก็ต้องเกิดมา เราควรวางแผนการว่าจะสร้างบุญอย่างไรในโลกที่ปราศจากเนื้อนาบุญ
เมื่อมีพระปัจเจกพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก เราวางแผนอย่างไร ก็ต้องวางแผนเพื่อให้เป็นไปได้
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดในโลกในครั้งต่อไป เราก็วางแผนให้ได้ว่าจะทำอะไรในศาสนาพระพุทธเจ้าองค์นั้น ด้วยความดีอันเลิศ
เราควรวางแผนของเราทุกชาติ จวบจนถึงพระนิพพาน ไม่ควรทอดทิ้งธุระในการทำความดีแม้ชาติเดียว
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2008, 3:01 pm
เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมค่ะ
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th