Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทุกข์คืออะไร ในมุมมองของคนเมือง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ชัช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 มี.ค.2005, 8:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



- ไม่มีเงินพอเลี้ยงครอบครัว ทำให้เกิดความขัดสนในการดำรงชีวิต (ไม่มีเงินพอเลี้ยงครอบครัว เป็นเหตุแห่งทุกข์หรือเป็นผลของทุกข์ ?)

- ตกงาน ไม่มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน ( ตกงาน เป็นเหตุแห่งทุกข์หรือเป็นผลของทุกข์ ?)

-ไม่มีความสุข กับการทำงาน และสิ่งแวดล้วมในที่ทำงาน ( ไม่มีความสุข กับการทำงาน เป็นเหตุแห่งทุกข์หรือเป็นผลของทุกข์ ?)

-ไม่พอใจใน ผลของงาน, ท้อเพราะงานไม่สำเร็จตามควร

-ต้องทำงานหนักจน ( ต้องทำงานหนักจนได้รับความลำบาก เป็นเหตุแห่งทุกข์หรือเป็นผลของทุกข์ ?)





แล้ว มี ทุกข์อื่นอีกไหมครับ ?

แล้ว วิธีดับมัน ควรจะเป็นแบบใด ตาม วิถีพุทร และในมุมมองของคนเมืองด้วย ?
 
เปลวเทียน
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2004
ตอบ: 20

ตอบตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2005, 12:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทั้งหมดที่คุณว่ามารวมลงที่ทุกข์เพราะความไม่สบายใจความคับแค้นใจก็เป็นทุกข์

ทางออกตามวิถีพุทธผมยังตอบไม่ได้กำลังเดินทางเตาะแตะอยู่เลยทั้งล้มทั้งลุก

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2005, 2:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก็ทุกข์ที่ต้องทนวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏนั่นเอง ส่วนวิธีดับทุกข์ก็ต้องลงมือฝึกปฏิบัติ ทีนี้จะดับถึงสาเหตุแห่งทุกข์ได้หรือไม่ หรือจะพบเหตุแห่งทุกข์ได้หรือไม่ ก็ต้องตั้งมั่น ตั้งจิต ตั้งใจ และอดทนในการปฏิบัติธรรมให้ถึงที่สุด



ยังเป็นมนุษย์อยู่ ก็ปรับดับ ปรับดับ จะให้มันราบเรียบเตียนโล่งทันใจในครั้งเดียวก็เป็นไปไม่ได้ ทำซ้ำๆๆๆๆๆอยู่อย่างนั้น สภาวะธรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติก็เช่นเดียวกัน ทุกข์ก็มีหลายระดับ สุขก็มีหลายระดับ เวทนาก็มีหลายระดับ ที่ว่าจ้าแล้วก็ยังมีหลายระดับเช่นกัน มืดแล้วสว่าง สว่างแล้วก็มืดอีกเช่นเดียวกัน ก็ให้มันละเอียดลงไปเรื่อยๆ ประเดี๋ยวมันก็ดับได้เอง...ก็เท่านั้น...



ไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากสายลม แสงแดด แสงจันทร์ กิ้งกือ ไส้เดือน แมลงตัวเล็กตัวน้อย...และ...หน่อไม้...



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ผู้เดินทาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2005, 1:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปัจจุบันเป็นอนาคตของอดีต ปัจจุบันจึงเป็นผล

ปัจจุบันเป็นอดีตของอนาคต ปัจจุบันจึงเป็นเหตุ

ปัจจุบันที่เป็นผลของอดีตได้เกิดขึ้นแล้วเราแก้ไขไม่ได้

ปัจจุบันที่จะเป็นอดีตของอนาคตเราแก้ไขได้อยู่ที่เราจะปฏิบัติต่อไปอย่างไร

จะต้องเห็นหรือเข้าใจคำพูดนี้ด้วยตนเอง

 
Decha
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 มี.ค.2005, 9:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกข์ใจเพราะสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามตัณหาคือความอยาก ตัณหาในใจเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ลดละตัณหาลงซะบ้างหรือขจัดมันออกไปซะ ใจก็จะไม่เป็นทุกข์ แบกปูนไปโบกตึกจนหลังแอ่นทั้งวันก็ยังยิ้มได้ นอนป่วยจะตายมิตายแหล่ก็ยังยิ้มได้ (เพระทุกข์กายแต่ใจไม่ออกไปจับยึดทุกข์กายเข้ามา)อดมื้อกินมื้อ ก็ยังยิ้มได้ (สมัยผมเป็นนักศึกษา ไม่ค่อยจะมีเงินซื้อข้าวกิน หิวก็หิว แต่ก็ยังยิ้มหัวเราะกับเพื่อนฝูงได้) พยายามมองทุกอย่างโดยภาพรวมอย่าคิดถึงแต่จะสนองตัณหาของตัวเอง การตกงานบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป ดูตัวอย่างตึกเวิลด์เทรดถล่มซิครับ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน มีหลายคนไปสมัครงานบริษัทในตึกนั้น หลายต่อหลายคนถูกปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน แล้วเป็นไง เกิดเหตุการณ์ 911ขึ้น พวกที่ไม่ได้รับจ้างเข้าทำงานในตึกนั้น รอดชีวิต ส่วนพวกที่ทำงานในตึกกลับต้องกระโดดหนีตายจากชั้นสามสิบลงมานอนตายเกลื่อนกลาดอยู่กลางถนน ถ้ามัวมองแต่ด้านเดียวก็จะต้องสนองตัณหาในใจไม่มีที่สิ้นสุด เป็นทุกข์ร่ำไป
 
ข้อเสนอ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 มี.ค.2005, 12:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1.เงินไม่พอเลี้ยงครอบครัว เท่าไรจะพอ บางครอบครัวใช้เงินวันละ50บาท บางครอบครัวใช้วันละ10,000 บาทก็ยังไม่พอใช้

2.ตกงาน ไม่มีความมั่นคงในงาน ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอนคนที่ทำงานที่เขาหลักวูบเดียวไม่ใช่แค่ตกงานบางคนถึงตาย บาดเจ็บ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้วคนตกงานผมคิดว่ามีทุกวัน ๆละหลาย ๆ คน และมีหลายสาเหตุที่ตกงานด้วย

3.ไม่มีความสุขกับการทำงาน ไม่พอใจผลของงาน ต้องทำงานหนัก ตรงนี้อยู่ที่ใจของแต่ละคน ผมมีลูกน้องแบกของหนัก วัน ๆ รายได้ก็ไม่เท่าไร แต่ตกเย็นเป็นต้องกินเหล้า แต่เขาก็มีความสุขของเขาไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่คนรู้จักบางคนตำแหน่งหน้าที่ก็ใหญ่โตเป็นพนักงานธนาคาร พนักงานบริษัท บางคนเคยเป็นเจ้าของบริษัทมีลูกน้องหลายคน ทุกคนก็มีความทุกข์ ความเครียดเป็นของตนเอง คนเคยเป็นเจ้าของบริษัท ตอนนี้หนีหนี้สินไปไหนก็ไม่รู้ พนักงานธนาคาร พนักงานบริษัทก็เปลี่ยนงานกันไป คุณยังจำคุณอะไรผมจำชื่อไม่ได้ที่ไปขายแซนวิชได้ไหมครับ

ลองมองโลกให้กว้าง คนที่สบายกว่าเราก็มาก คนทีลำบากกว่าเราก็ไม่ใช่น้อย ยิ่งทางทวีปแอฟริกายิ่งมากจนนับไม่ถ้วน พวกอิรัค อิสราเอล พวกนี้จะตายเมื่อไรก็บอกไม่ได้เหมือนกัน

มนุษย์ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ใครจะวางตัววางใจมองเห็นทางหรือไม่ก็แล้วแต่ ศีล สมาธิ ปัญญาของแต่ละคน พระพุทธเจ้าพระองค์ได้ให้แผนที่ไว้แล้ว ต้องดูให้เข้าใจเห็นแจ้ง และต้องปฏิบัติตามด้วยเป็นข้อสำคัญ ถ้ารู้แต่ไม่ปฏิบัติให้ถึง ก็คงเดินไม่ถึงเป้าหมาย

"เมื่อเราหัวเราะ โลกจะหัวเราะไปกับเรา แต่เมื่อเราร้องไห้ เราต้องร้องไห้คนเดียว"
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 มี.ค.2005, 5:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ว่าจะเป็นคำถามหรือคำตอบ การสื่อสารที่ชัดเจนมีความสำคัญ
 
นิดนึง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2005, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกข์คือ ไม่สบายกาย,ไม่สบายใจ อาจจะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ก็ล้วนเกิดทุกข์ ความทุกข์ไม่มีเครื่องมือวัด ที่จะหาปริมาณของความทุกข์ ทุกคนต่างก็มีความทุกข์ในรูปแบบ ของตัวเอง หากคุณยังอยู่ในสังคมเมืองไม่มีวันที่จะหลุดพ้นทุกข์ไปได้ หากจะหลุดพ้นทุกข์ก็ต้องหาเหตุแห่งทุกข์
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง