Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ขอคำแนะนำและความเห็น
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
คนบาป
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 13 มี.ค.2005, 1:30 pm
ผมมีอาชีพขายปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ถ้าจะเรียกให้ดูดีก็ต้องเรียกว่าผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ท่านทั้งหลายคิดว่าเป็นหนึ่งในอาชีพไม่ควรทำของชาวพุทธอันได้แก่ 1.การค้าขายอาวุธ 2. การค้าขายสิ่งมีชีวิต 3.การค้าขายเนื้อสัตว์ 4.การค้าขายน้ำเมาสิ่งเสพติด 5.การค้าขายยาพิษ
ยาฆ่าแมลงเป็นยาพิษหรือไม่ อาชีพนี้เป็นสัมมาอาชีวะหรือไม่ มีผลกรรมอย่างไร มีผลต่อการปฏิบัติสมาธิเจริญสติประการใดหรือไม่
ผมมีความปรารถนาจะเลิกอาชีพนี้ แต่ก็เป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากบิดามารดาซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาจากอาชีพนี้ และยังไม่รู้ว่าจะไปประกอบอาชีพอะไรเพื่อเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง ปัจจุบันทำให้ดีที่สุดคือ แนะนำให้เกษตรกรใช้สารอย่างเท่าที่จำเป็น มีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยเท่าที่จำเป็น ไม่ขายสารให้บุคคลที่จะเอาไปฆ่าหมา หรือแมว จะใช้ไปเพื่อฆ่าแมลงศัตรูพืช หรือมดปลวกซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผมหวังว่าผมจะสามารถออกจากอาชีพนี้ได้ในที่สุด อย่างช้าก็เมื่อบุตรทั้ง 3 เรียนจบมีงานทำกันเรียบร้อยแล้ว
โปรดช่วยแสดงความคิดเห็นกันมาด้วยนะครับ
ผู้ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 13 มี.ค.2005, 2:24 pm
ผมไม่มีความรู้เรื่องธรรมมะครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นสวนตัว ผมคิดว่าตราบใดที่เราไม่มีเจตนาในการทำบาป แต่ต้องทำกิจกรรมของชีวิตในแต่ละวันที่ต้องดำเนินไปด้วยกรรมในชาติก่อนนำไป ไม่น่าจะส่งผลความชั่วร้ายย้อนกลับเข้ามาหาตัวเอง แต่ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องของการทำจิตใจให้บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะขณะที่ทำกิจกรรมนั้นมากกว่า คงไม่ต่างจากหากกรรมนำเราให้ไปเจอเงินก้อนโตสักล้านนึง เราจะทำจิตใจให้ไม่สนค่าของเงินตรงนั้นแล้วคิดในทางกุศลโดยไตร่ตรองหาวิธีคืนให้เจ้าของแทนความรู้สึกอยากได้แทนได้หรือไม่ ดังนั้นผมคิดว่าหากคุณเลิกทำมันสุดท้ายชึวิตครอบครัวกลับต้องมาลำบากก็ไม่น่าจะเป็นเพราะว่าคุณตั้งใจทำดีหยุดฆ่าสัตว์ตัดชึวิต แต่เป็นเพราะกรรมเก่าคุณอีกนั่นแหละที่ทำให้คุณต้องคิดหยุดทำมันโดยที่ยังไม่สามารถหารายได้อะไรมาทดแทนได้ ผมจึงคิดว่าการฝึกรักษาจิตให้อยู่ตรงกลางไม่หวั่นวิตกกับกรรมที่เราจะต้องรับหรือหลงติดกับประโยชน์ทางโลกที่เราจะต้องได้น่าจะเป็นการดำเนินชึวิตที่ดีทึ่สุดครับ ก็ไม่ทราบว่าความคิดเห็นนี้ไม่ดีหรือไม่ เพราะผมเองก็ไม่ได้ศึกษาธรรมมะโดยตรงเสียด้วยครับ
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 14 มี.ค.2005, 5:06 pm
อาชีพขายปุ๋ย ไม่เป็นปัญหาใดๆ ครับ สามารถขายต่อไปได้ตลอดชีวิตเลยล่ะครับ
ส่วนอาชีพขายยาฆ่าแมลง ถือเป็นหนึ่งในอาชีพต้องห้ามครับ เพราะแมลงทั้งหลายนั้น อดีตชาติก็คือ มนุษย์ที่สร้างบาปสร้างกรรม หลายรูปแบบ ชาติปัจจุบันมาเกิดเป็นแมลง ดังนั้นเมื่อเราขายสิ่งที่จะไปฆ่า บาปกรรมก็จะเกิดขึ้นกับเราครับ แต่บาปกรรมจะมากหรือน้อยขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้ครับ
1. สัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็ก แมลงถือเป็นสัตว์เล็ก บาปก็จะน้อยกว่า ฆ่าสัตว์ใหญ่เช่น วัวควาย ครับ
2. สัตว์นั้นมาก่อความเดือดร้อนให้เรามากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่ก่อความเดือดร้อนให้เราแล้วเราไปฆ่า ก็บาปมากครับ
3. เรามีเจตนาจะฆ่ารุนแรงขนาดไหน ถ้าทำไปด้วยความไม่เต็มใจเลย แต่ทำไปเพราะความจำเป็น บาบก็เบาบางลงมา
ผลของการขายยาฆ่าแมลงเช่นนี้ ผลอย่างเบาก็จะทำให้ภพชาติต่อๆไป เราเกิดมาร่างกายอ่อนแอ เจ็บปวดเป็นโรคต่างๆ ง่าย หนักขึ้นมาก็อายุสั้นครับ
สิ่งที่คุณควรทำถ้ายังมีความจำเป็นอยู่นะครับ หมั่นทำใจให้ผ่องใส ละบาปด้านอื่นๆ (ถ้ามีให้หมด) หมั่นสร้างกุศล แล้วอธิษฐานจิตทุกวันว่า ขอให้บุญกุศลที่ทำนี้ดลบันดาลให้ได้มีช่องทางที่จะประกอบ สัมมาอาชีวะ เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ หากเราตั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้า สร้างบุญแล้วอธิษฐานจิตเช่นนี้ทุกๆ วัน เดี๋ยวเราจะพบช่องทางให้ประกอบอาชีพที่ไม่เป็นบาปได้ครับ
ผู้ตั้งคำถาม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2005, 1:01 pm
ขอบคุณสำหรับคำตอบและความเห็นทั้งหลาย
สรุปได้ว่ามนุษย์มีกรรมเป็นที่ตั้ง จิตใจเป็นใหญ่ ควรยึดหลักใหญ่ของศาสนาคือ 1 ทำดี 2 ไม่ทำบาป 3 ทำใจให้บริสุทธิ
เมื่อยังอยู่ในเพศฆราวาสย่อมมีโอกาสที่จะก่อบาปกรรม หรือสร้างพันธะให้จิตไม่บริสุทธิ เช่นการรับประทานอาหารโดยติดในรสชาติ หรือการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ถึงจะไม่ผิดศีล 5 แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จิตใจเกี่ยวพันกับกามราคะ เหมือนกับอาชีพที่ผมทำเพียงแต่อาชีพนี้มีผลกระทบต่อสัตว์อื่น ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการก่อเวรผูกพันกันมากกว่า
เมื่อเราปฏิบัติธรรม หรือศึกษาธรรม ทางที่ถูกต้องคือจะต้องไม่เกิดความเศร้าหมองหรือหดหู่ใจจากการดำเนินชีวิตของเรา และจะต้องไม่เกิดความยินดีหรือชอบใจในการดำเนินชีวิตที่มีส่วนทำให้จิตใจของเราไม่บริสุทธิ
เมื่อเราเผลอไปตบยุงที่กำลังดูดเลือด ก็ไม่ต้องมาทุกข์โศรกเศร้าเสียใจและเก็บมายึดติดกับความผิดนี้จนเป็นอุปสรรคในการภาวนา แต่ควรจะแผ่เมตตาและพยายามรักษาสติให้ดียิ่งขึ้นอย่าให้เกิดเหตุการ์ณเช่นนี้อีกเหมือนอย่างคำที่ว่า อดีตไม่สำคัญ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ทางสายกลางของฆราวาส ย่อมไม่เหมือนทางสายกลางของภิกษุ
ตั้งใจดำเนินชีวิตไปในทางที่เราคิดว่าดีที่สุดตามปัญญาที่เราจะมองเห็น ไม่ต้องไปหวังผลว่าจะต้องได้ญาณขั้นนั้นขั้นนี้ ทุกอย่างจะเป็นไปเองตามความบริสุทธิของศีล ความเจริญในสมาธิ และปัญญาที่แจ้งชัดขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็อยู่ที่การปฏิบัติตัวของเราทั้งกาย วาจา และใจ ว่าจะทำได้แค่ไหนนั้นเอง และอย่ายินดีเมื่อปฏิบัติได้ดี และไม่เสียใจเมื่อปฏิบัติได้ไม่ดี แต่ต้องตั้งใจปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้นสม่ำเสมอ
ผมขอสรุปความเห็นไว้ตรงนี้ ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกท่านครับ
แวะมาอ่าน
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2005, 12:17 pm
กระทู้นี้เป็นคำถามที่ดีมากๆคำถามหนึ่ง และคุณเกียรติ และผู้ผ่านมาก็ตอบได้ดีมีประโยชน์ให้ข้อคิดที่เป็นกุศลจิตแก่ส่วนรวมซึ่งเป็นภาคปฏิบัติโดยตรง คิดว่าผู้ให้ข้อคิดนี้เป็นธรรมทานไม่ได้ยึดติดในภาคปริยัติหรือท่องตำรามาตอบ เป็นคำตอบที่เป็นรูปธรรมและผู้ปฏิบัติสามารถนำไปปฏิบัติได้ กระผมขอเสริมแง่คิดอีกนิดเดียวครับ คือผมมีเพื่อนทำงานเป็นนักวิทยาศาตร์ในห้องทดลอง การที่เค้าจะทดลองยารักษาโรค แต่ละชนิดเค้าต้องใช้หนูทดลองเป็นจำนวนมาก และหนูทดลองเหล่านั้นก็ตายกันเป็นเบือในแต่ละวัน และเค้าก็เคยผ่ากบฆ่ากบตายในการศึกษาและงานทดลองแต่ละอย่างอยู่เป็นประจำ เค้าจึงหาโอกาสไปทำบุญปฏิบัติจิตภาวนาและแผ่เมตตาให้กับชีวิตสัตว์ทดลองเหล่านั้นที่ตายไป และประพฤฒิตนอยู่ในศีลในธรรม ชีวิตของเพื่อนผมเค้าก็อยู่เป็นปกติสุขสมควรแก่เอกตภาพ ครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th