Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อยากทราบเรื่องของคุณไสย ยาสั่ง ว่า เดรัจฉานวิชาพวกนี้ผู้ที่ใ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2005, 12:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองคุณอโหสิกรรมครับ การภาวนาจากการสวดมนตร์ของผม ก็จะเป็นแรงบุญxxxกแรงหนึ่งที่ช่วยคุณ ผมจะอธิษฐานแผ่เมตตาแผ่สวนกุศลให้คุณด้วยและทุกครั้งที่ผมทำบุญกรวดน้ำก็จะอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณด้วยครับ

อาการที่ผมเล่าให้คุณฟังเป็นอาการก่อนที่จะสวดมนตร์ อาบน้ำมนตร์น่ะครับ ปัจจุบันได้น้ำหนักคืนมา 5 กิโลกรัมแล้ว ยอดพระกัณไตรปิฏก ก็เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มากนะครับ ผีร้ายตนใดก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงผู้ที่สวดพระคาถานี้ได้ ผมสวดเป็นบางครั้ง แล้วก็ อิติปิโสเท่าอายุบวกหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังได้ไม่ครบเลย บวกเรียบร้อยแล้ว 37 ครับ ก็ค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆ เคยพยายามสวดแบบ108จบ ตามลูกประคำเลยครับ(ใช้ลูกประคำนับ) ผลปรากฏว่า เครียดมาก เพราะไม่เคยทำมาก่อน พอสตาร์ตก็คิดจะเร่งเครื่องเต็มสูบเลย เลยเอาตามกำลังที่ทำได้ไปก่อน พอจิตเราพัฒนามีสมาธิขึ้นแล้วจึงค่อยๆเพิ่มแบบไม่ไปจับจ้องจนเกิดความเครียด



คิดถึงเมื่อก่อน ใครพูดเรื่องนี้ผมเถียงสุดฤทธิ์ จนเพื่อนโกรธล่ะครับ เธอบอกว่า คนเป็นอะไรจากคุณไสย มีหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่คนทำน่ะมีแน่ ประกอบกับน้ำหนักลด เกรี้ยวกราด แบบไม่ทราบสาเหตุ ผลการตรวจทางร่างกายปกติทุกอย่าง จึงมาพิจารณา แรกๆกลัว แต่ยิ่งผ่านไปยิ่งคิดว่า ทำให้เรากลับไปเป็นอย่างเดิมxxxกไม่ได้แน่นอน เพราะสมาธิเราเริ่มแกร่ง แกร่งของผมคือ ดีกว่าเดิมนิดนึงและจะพยายามพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วผมกับเพื่อนก็คุยกัน มีวิธี หรือ น้ำมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็แบ่งปันกัน ผมยังคิดว่า นี่ถ้ามีสวดภาณยักษ์ที่ไหนน่าจะไปฟัง แต่กลัว กลัวแสดงอาการอะไรนอกเหนือที่อำนาจจิตใจที่เราจะควบคุมได้ออกมา คิดถึงเมื่อก่อน แม่ผมเป็นสมาชิกนิตยสารโลกลี้ลับ ผมก็มองเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงนิยายสยองขวัญ ไม่คิดว่าจะจริง และยิ่งไม่คิดว่าเราจะต้องมาเจอ แต่บางครั้งท่าทีของคนที่ไม่เชื่อก็ทำร้ายจิตใจเรามากเหมือนกัน แต่ก็เงียบเฉยดีกว่า อุเบกขาบารมี ผมไม่อยากให้พวกนั้นต้องโดนเหมือนผมหรอก(ยังมีหิริโอตัปปะอยู่) แต่ผมเคยอ่านในหนังสือว่า

เมื่อคนโกรธเราถ้าเราโกรธตอบก็เสมือนกับเราทำตัวเป็นเครื่องรับวิทยุคลื่นความโกรธ ถ้าเราเฉยเสีย ไม่สน ก็เหมือนกับ เราไม่มีอุปกรณ์ที่จะมารับกระแสความโกรธนี้ แต่บางทีก็ทำใจไม่โกรธยากเหมือนกัน(ก็ต้องพยายามหัด) ผมเคยบวชเป็นพระครับ 19 วันหลังจากเรียนจบ ผมไม่พยายามที่จะล่วงละเมิดศีล ผมอยากให้พ่อแม่ของผมได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ไม่อยากให้เกาะชายผ้าเหลืองลงนรกน่ะครับ แต่ไม่เคยเรียนวิชาคาถาอาคมใดๆ สวดมนตร์ธรรมดาครับ ทำวัดเช้าเย็น บางทีอยากเอาระเบิดไปปาบ้านคนทำ(เร็วดี คุณไสยช้า ไม่ทันใจ) ก็แค่พูดเล่นๆสนุกๆกับเพื่อน ไม่มีจิตใจใครโหดxxxมอัมหิตแบบนั้นทั้งๆที่รู้ว่าเขาxxxมกับเราก่อน ผมสึกมา ประมาณ 14 ปีแล้วล่ะครับ ไม่นึกเลยว่าวิชาหมอผีจะมาทำอะไรให้เราเป็นไปได้มากขนาดนี้



ขอคุณพระคุ้มครองและช่วยขับไล่สิ่งอัปมงคลและสื่อของสิ่งเหล่านี้ออกจากตัวคุณครับ

ไม่ว่าจะเป็นคุณไสย มนตร์ดำ ยาพิษ ยาสั่ง ผมขอเป็นแรงบุญxxxกแรงนึงที่จะแผ่ไปสู่คุณครับ คุณ อโหสิกรรม
 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2005, 12:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำที่เป็นกากบาทคือคำว่า EEK กับคำว่า เxxx้--ยม ครับ
 
อโหสิกรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2005, 7:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนากับจิตอันเป็นกุศลของคุณรักแม่ด้วยค่ะ และขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองคุณเช่นกันค่ะ เรื่องการไปฟังสวดภาณยักษ์ จริงๆเราก้อเคยมีความคิดที่จาไปฟังด้วย เพื่อให้เราขจัดของได้เร็วขึ้น แต่ครูบาอาจารย์ของเราท่านเตือนว่า ไม่เหมาะสำหรับคนที่ดวงตก เพราะของจาออกจากคนอื่นๆมากมาย ถ้าเราดวงตกอยู้มันเหมือนกับภูมิคุ้มกันบกพร่อง ดีไม่ดีสิ่งเหล่านี้อาจเข้ามาสู่ตัวเราเพิ่มมากขึ้นก้อได้ ดังนั้น เราเลยไม่เคยไปฟัง ธรรมะคุ้มครองนะค่ะ
 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2005, 12:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อคืนผมสวดมนตร์อธิษฐานจิตเผื่อคุณและเจ้ากรรมนายเวรของคุณด้วย



ผมจะเป็นอีกแรงบุญที่ช่วยคุณไปตลอดครับ คุณมีพระคุณกับผม คุณเข้าใจ แนะนำ ไม่หัวเราะเยาะในสิ่งที่ผมเล่าไม่เหมือนคนในสังคมรอบข้างเลย(ประมาณว่า รักแม่เชิญยิ้มเลยแหละ) ขอนุโมทนาในบุญกุศล(อย่างที่บอก บางครั้งเราไม่ได้ต้องการให้ใครมาช่วยมากมาย แค่ฟังอย่างเข้าใจและเห็นใจ ก็ คลายทุกข์ได้มากแล้ว แต่เรื่องที่ว่าจะให้คนที่เราไปเล่าให้เขาฟังมาช่วยเหลืออะไร ไม่ต้องการเลย เดี๋ยวจะโดนไปด้วย) ขอบคุณที่คุณรับฟังอย่างเข้าใจ เห็นใจและช่วยแบ่งปันข้อมูลมากนะครับ ช่วยทางด้านจิตใจได้มากเลย



ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองครับ



 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 มี.ค.2005, 11:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยังคงสวดมนตร์ถือศีลและแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณอโหสิกรรมอยู่ทุกคืนครับ

และขอให้คุณแคล้วคลาดปลอดภัยในอุปัทวอันตรายทั้งปวงที่เป็นสิ่งที่บาป สิ่งที่ไม่ดี สวนทางกับคำสอนของพระพุทธองค์ จากบทสวดทุกบทที่ผมสวดครับ



ผมได้ไปอ่านมาจากเว็บแห่งหนึ่งว่า บางครั้งสิ่งที่เป็นสื่อทางรูปธรรมนั้นไม่มีหรอก แต่สื่อทางนามธรรมคือใจของเราปริวิตกอยู่ตลอด นี่ก็เป็นสื่อที่ได้ผลมากในการรับคลื่นพลังแห่งการทำลายนี้ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้คุณลืมเรื่องเหล่านี้เสีย ให้ทาน ถือศีล สวดมนตร์ เจริญภาวนา โดยไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องนี้เลย ก็จะตัดทำลายสื่อทางนามธรรมไปได้ แรงบุญที่จะช่วยคุณ เผื่อแผ่ให้คุณ ผมว่าท่านอื่นที่ได้มาอ่านก็อาจจะช่วยอย่างเงียบๆนะครับ แต่ ไม่ใช่ต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้าม ต้องการเพียงพ้นจากสิ่งเหล่านี้ไป เท่านั้นเอง ผมอโหสิกรรมตามคำแนะนำของคุณครับ แม้ความคิดเราจะเปลี่ยนไม่ได้ชั่วข้ามคืนแต่ก็จะพยายามให้ค่อยๆลดน้อยถอยลงจนหมดไป ส่วนในทางโลก คุณคือผู้ผิดหรือถูก ผู้พิพากษาคือผู้ตัดสิน

ผมไม่อยากเห็นว่า มีการใช้คุณไสยมาตัดสินใครครับ เพราะเป็นการใช้งานวิญญาณตายโหง บังคับให้เขาทำบาปยิ่งๆขึ้นไปอีกโดยที่จริงๆเขาอาจจะไม่ได้อยากสร้างกรรมชั่วก็ได้แต่ตกอยู่ใต้อำนาจแห่งการบังคับ



สุดท้ายนี้ ความรู้ที่ได้รับมาใหม่คือ กำจัดสื่อทางใจ ลืมเรื่องนี้กระทุ้นี้ไปเลยนะครับ จำไว้แต่สิ่งที่เป็นกุศลคือ คุณได้รับฟังอย่างเข้าใจ เห็นใจและให้คำแนะนำจากประสบการณ์ของคุณ แก่ผม ซึ่งไปพูดให้ใครฟัง เขาก็มองว่าเรางมงาย เราเป็นตัวตลก ทั้งๆที่แต่เด็กจนโตเราไม่ใช่คนงมงายเลย ขอให้กุศลบุญอันยิ่งใหญ่(ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่มีความทุกข์เช่นผม)นี้ จงช่วยให้คุณเจริญยิ่งๆขึ้นไปในศีลธรรมและมีอำนาจความดีที่เป็นเกราะคุ้มกันคุณจากสิ่งเหล่านี้ด้วยเทอญ



ลืมรายละเอียดซะเถิดนะครับ ขอให้คุณระลึกได้ว่าเคยสร้างกุศลกับผม กระทู้นี้คือกระทู้แห่งกุศลธรรมสำหรับคุณ ขออนุโมทนา และขอให้คุณพระคุ้มครองครับ





 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 มี.ค.2005, 12:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนาและขอให้ผู้เขียนบทความที่ผมได้ไปอ่านเจริญในธรรมยิ่งยิ่งขึ้นไปครับ





 
อโหสิกรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 มี.ค.2005, 9:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนากับปัญญาที่เกิดแต่การณ์นี้ของคุณรักแม่ค่ะ สิ่งที่แนะนำชอบแล้วด้วยธรรมค่ะ ทำได้แล้ว จริงๆตอนนี้แทบลืมรายละเอียดทั้งหมดไปแล้วเพราะรายละเอียดเยอะมากๆ เรามีญาติธรรมที่รับทราบเรื่องราวเหล่านี้โดยตลอดเพียง 1 คน และก้อคุณรักแม่นี่แหละ กับบุคคลทั่วไปนั้นสิ่งไรพูดแล้วไม่เกิดประโยชน์ เราหลีกเลี่ยงที่จากล่าว ศีล สมาธิ และปัญญาไม่เท่ากัน การกล่าวเรื่องนี้ก่อประโยชน์แก่ผู้ไม่รู้น้อยเกินไปค่ะ แล้วก้อเป็นการทำให้เค้าเหล่านั้นสร้างเศษกรรมจากการกล่าวดูถูกเสียดสี เยาะเย้ยซ๊ะเปล่าๆ พุทโธ แนบใจค่ะ
 
อโหสิกรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 มี.ค.2005, 10:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอขอบพระคุณสำหรับเมตตาที่คุณรักแม่มีให้นะค่ะ พรประเสริฐทั้งหลายจงอำนวยให้คุณรักแม่และครอบครัวแคล้วคลาดปลอดภัยและเจริญยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ
 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2005, 11:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ



 
ระมุงระมัง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 มี.ค.2005, 3:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากเห็นของจริง อยากเรียนวิชาไสยสาสตร์
 
รักแม่(รักพ่อด้วยนะ)
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 เม.ย.2005, 11:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อย่าเรียนเลยครับสิ่งไม่ดี ถึงทำได้ก็ไม่มีใครชมว่าเก่งหรอกมีแต่คนระแวงและตีตัวออกห่าง เรียนอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ดีกว่า ในอินเตอร์เน็ตนี่ก็มีหลายวิชาที่น่าเรียนรู้นะครับ ภาษาอังกฤษ นักธรรม คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต สารพัดแขนงวิชาครับ ถ้าเรียนจนชำนาญ จะเป็นประโยชน์มากเลยครับ บางทีก็สามารถเผื่อแผ่สิ่งเหล่านั้นไปให้ผู้อื่นได้อีก เช่น ช่วยซ่อมคอมพิวเตอร์ ช่วยแปลภาษา ผมยังอยากเรียนสร้างเว็บเลยครับ แต่หาหัวข้อก่อนว่าจะทำเว็บเกี่ยวกับอะไรดี อยากมีเว็บขายของ จะได้ไปจากที่ที่เราอยู่แล้วลำบากใจ กลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด



 
thamma02
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 25 มี.ค. 2005
ตอบ: 77

ตอบตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2005, 9:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านมาเกือบหมด เยอะจริง ๆ ครับเพื่อนบุญ ยินดีและอนุโมทนากับทุกคนด้วยนะครับที่เป็นห่วงเพื่อนบุญด้วยกัน ผมขอสรุปให้คุณรักแม่นะครับ สั้น ๆ ว่า

เรื่องไสยศาสตร์หรือสิ่งลี้ลับอย่างที่คุณได้กล่าวไว้นั้น ผมเชื่อครับว่ามีจริง หากคุณอ่านหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน คงจะทราบดี และเรื่องการป้องกันนั้น ผมคิดว่าหากเราทรงพรหมวิหารสี่ อย่างมั่นคง ตามที่หลวงพ่อได้อบรมผมมาว่าไม่ว่าสิ่งใดก็ตามไม่สามารถทำอันตรายเราได้ครับ ในความคิดส่วนตัวของผมเองนะครับ ผมคิดว่ากรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเรานั้นเป็นผลจากการกระทำของเราเองทั้งสิ้น ผมเชื่ออย่างนั้นครับ พระพุทธองค์ท่านก็เคยเจอมาแล้วในสมัยพระพุทธกาล มีทั้งยักษ์ มาร ช้าง นาค ฯลฯ ยังไม่สามารถทำอันตรายท่านได้แม้แต่ขี้เล็บ(พูดอย่างชาวบ้านนะครับ ขออภัย) เพราะอะไร เพราะว่าท่านได้แสดงเมตตาต่อสัตว์เหล่านั้น มีพุทธานุภาพเป็นอาวุธ หากคุณมีบทสวดมนต์แปลลองอ่านบทพาหุงดูนะครับแล้วจะเข้าใจ

ในกรณีของคุณที่เล่ามานั้น ผมคิดว่าคุณอย่าไปกังวลใจเลยครับ เพราะจะทำให้จิตเศร้าหมองไปเปล่าว ๆ ยึดถือและเดินตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ดีกว่าครับ จะช่วยคุณให้คลายวิตกได้ หมั่นเจริญพรหมวิหารสี่เป็นประจำ คือ มีเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา ทำให้เป็นสมาธิ เพียงเท่านี้ก็ไม่มีอะไรที่จะมาทำร้ายคุณได้หรอกครับ

ตั้งมั่นในพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ ทำจิตใจให้เบิกบาน อย่าเบียดเบียนใครทั้ง กาย วาจา ใจ มีเมตตาต่อศัตรูและหมู่มิตร คิดมั่นไว้เสมอว่าธรรมะเท่านั้นที่ชนะสิ่งทั้งปวง มั่นใจไว้เสมอว่าไม่มีศัตรูใด ๆ ที่จะทำเราเราได้ แผ่เมตตาไปให้เขาบ่อย ๆ ตั้งจิตให้แจ่มใสทุกวันเป็นปกติ

ผมก็เคยเป็นอย่างคุณมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ปฏิบัติตามที่ผมบอกนี่แหละ ทุกสิ่งทุกอย่างก็สงบเงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนถึงทุกวันนี้

เรื่องไสย์ดำผมค้นหาและศึกษามาตั้งแต่ผมอายุ 20 เสาะแสวงหาไปทุกที่ที่มีคนบอกว่าที่นั่นดี ที่นี่ดี บุรีรัมย์ ปราจีน สุรินทร์ อีกหลายจังหวัด ที่ผมไป แต่ละที่ก็ได้ลองกับเขาดู แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง แรก ๆ ก้กลัวครับ แต่มาระยะหลังรู้สึกเฉย ๆ แต่ก็ไม่ไปลบหลู่เพราะเชื่อว่าคนเหล่านี้หากปฏิบัติได้ก็สามารถทำอะไรตามที่ตัวเองต้องการได้ เพราะว่าท่านเหล่านี้จะต้องมีสมาธิจิตดีเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ใช้ในทางที่ผิดครับ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้พุทธานุภาพครับ เชื่อผมเถอะ อย่าไปกังวล จะทำให้ไม่สบายใจ

ไปปล่าว ๆ

ยังมีอีกมากครับแล้วจะเล่าให้ฟังหากคุณสนใจ ก็ขออำนาจพุทธานุภาพและพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมจงปกปักษ์รักษาคุณ รักแม่ ให้ปลอดภัยจากภัยของศัตรูผู้คิดร้ายคุณ ไม่ว่าจะเป็นศาตร์ใด ๆ หรือวิชาใดก็ตามหากคิด

ปองร้ายคุณก็ขอให้กรรมนั้นจงสนองกลับไปหาคนที่ทำคุณ หรือมีเจตนาร้ายกับคุณครับ

อีกนิดครับ อยากจะให้คุณลองทำและปฏิบัติดูนะครับ เป็นคาถาป้องกันคุณไสย และกันยาพิษ ยาสั่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านได้มีเมตตาพิมพ์มาให้ลูกหลานและศิษย์ยานุศิษย์ ได้ไว้ป้องกันครับ มีดังนี้

เมสัมมุขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขา

ท่านให้ว่าก่อนที่จะกินของทุกอย่าง ก่อนว่าคาถานี้ให้นึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอารมณ์ให้เป็นสมาธิ ลองใช้ดูนะครับ

สัมปจิตฉามิ เป็นคาถาสนองกลับ คาถานี้พระองค์ที่ 10 มาบอกหลวงพ่อ ก่อนนอนหลวงพ่อภาวนาเป็นปกติ ก่อนนอนให้ภาวนาโดยตั้ง นะโม 3 จบ

แล้วต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

และสวดอิติปิโส 3 จบ จากนั้นก็ภาวนา ว่า สัมปจิตฉามิ ว่าไปเรื่อย ๆ ทำใจให้สบาย ผลของคาถานี้จะมีผลต่อผู้สั่ง ผู้รับคำสั่ง ผู้ร่วมมือ และผู้กระทำไสยศาสตร์ มายังเราโดยฉับพลัน แต่คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้นนะครับ ไม่มีผลสำหรับผู้เป็น มิจฉาทิฏฐิ

คัดมาจากหนังสือ สมบัติพ่อให้ ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) ครับ หลวงพ่อท่านมีเมตตาพิมพ์ไว้ให้ลูกหลานอย่างที่บอกครับ ลองทำดูนะครับ ด้วยความห่วงใย จากใจจริง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2005, 12:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณคุณคุณ thamma02 มากนะครับ คาถาที่คุณมอบให้ผมทราบแล้วครับ แต่ไม่ทราบว่า สัมปจิตฉามิ ต้องตามด้วย ไตรสรณาคม ขอบคุณสำหรับข้อมูลทั้งหมดและคำอวยพรมากๆนะครับคำอวยพรที่ได้เปรียบเสมือนคาถาที่วิเศษที่สุดในการต่อสู้กับคุณไสยเลย แล้วยังทำให้มีกำลังใจในด้านอื่นๆอีก แต่ไม่ได้สวดแล้วล่ะครับ(หมายถึงคาถาป้องกันคุณไสยยาพิษยาสั่ง คาถาสะท้อนกลับ) จากคำพูดที่ผมสนทนากับหลายๆคนนะครับ ล้วนบอกว่า ไม่สามารถเอาชนะพระพุทธคุณพระธรรมคุณพระสังฆคุณได้ ผมและคุณอโหสิกรรมตัดสินใจแล้วว่าจะอภัยให้เขาน่ะครับ แล้วก็ไม่นำมาคิดอีก เดี๋ยวจิตจะจดจำเป็นสัญญาและเป็นสื่อพาเรื่องอย่างนี้มาหาตัวอีก ก็ สวดตามหนังสือที่หลวงพ่อจรัลท่านแนะนำอ่ะครับ แล้วก็แผ่เมตตาถือศีล เมื่อเราไม่คิด จะตัดสื่อทุกสื่อที่จะนำสิ่งนี้มาสู่ตัวเราได้(แต่ต้องทราบนะครับว่าเราตกเป็นเป้าหมายของเขา และอาราธนาอำนาจของคุณพระศรีรัตนตรัยช่วยปกป้อง)เพราะถ้าคิด สมาธิจิตผมต่ำกว่า ผมต้องรับของแน่ๆเลย(แม้ว่าเราไม่อยากรับ) ปัจจุบันผมยังสวดมนตร์แผ่เมตาให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณอโหสิกรรมอยู่เลยครับ(แผ่แบบเอ่ยชื่อ)

เขามีประสบการณืคล้ายๆผม มันโหดร้ายน่ะครับ แต่ถ้าเป้าหมายรู้ตัว สิ่งเหล่านี้แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยครับ ผมเอง สวดมนตร์ถือศีลก็เพราะความกลัวคุณไสยนี่แหละครับ แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว อาการต่างดีขึ้น เพราะเราระวังจิตด้วย ช่วยได้มากครับ ส่วนอนาคตในทางคดีความใดๆก็ ให้เป็นเรื่องของอนาคตไปน่ะครับ ได้อ่านบทความว่า ถ้าเราทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะดีไปเอง





ขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่คุณมอบให้นะครับ นอกจากจะป้องกันคุณไสยได้ชะงัดแล้วยังทำให้ผมมีกำลังใจที่จะพยามยามลดละเลิกในสิ่งที่เป็นกิเลสขั้นต้น(ขอขั้นต้นก่อนแล้วกัน)

อีก เมื่อวานมีเหตุการณ์ที่ทำให้ท้อมากๆ จากคนในบ้านเดียวกัน ท้อแต่ไม่ถอยครับ ผมจะไม่ถอยหลังลงคลองอีกแล้ว แต่เดินหน้าคงทำได้เพียงค่อยๆคลาน ยังเหมือนเด็กๆน่ะครับ คลานอยู่นานเชียว กว่าจะยืนได้ จากนั้นก็ก้าวต้วมเตี้ยม พัฒนาเป็นก้าวที่มั่นคงแล้วกว่าจะวิ่งได้ คงยากพอสมควรอ่ะครับ แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็คลานไปข้างหน้าแล้วล่ะครับจากเดิมที่เอาแต่ถอยหลังลงคลอง พรอันใดที่ดีแล้ว ประเสริฐแล้ว ขอให้เป็นของคุณเช่นกันครับ คุณจะต้องรับความดีนั้นกลับไปจากจิตใจที่ทราบซึ้งในบุญคุณของคุณเช่นกัน ในทางพุทธศาสนา การให้ด้วยความเมตตาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เป็นกุศลอันสูงส่ง แต่กลับนำไปสู่ผลตอบแทนที่สูงค่ากว่าสิ่งที่จะหวังได้เสียอีก สิ่งที่ตอบแทนกลับไป ไม่ใช่การถูกหวยรางวัลที่1 ไม่ใช่การลาภยศสรรเสริญ หากคือความปรารถนาดีที่หวังให้คุณพ้นจากทุกข์หากคุณได้ประสบ อนาคตจะเป็นอย่างไร เราทุกคนต่างไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมขออราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองคุณและบันดาลให้คุณมีอนาคตที่ดีครับ ทุกข์คงมีแต่ขอให้คุณอย่าตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์และพิจารณาทุกได้ ขอให้ทุกข์ใดๆก็ไม่มีความหมายต่อจิตใจของคุณเลยครับ
 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2005, 1:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมอาจจะหายไปสักช่วงนะครับ เพราะทุกวันนี้ ผลจากการใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตมากเกินในแต่ละวัน ปวดตาหรือเครียดก็ฝืน เลยทำให้ผมต้องปรับลดเวลาในส่วนนี้ลงไป กลัวว่าผมไม่มาคุยแล้วคุณจะคิดว่าผมไม่สนใจคำพูดของคุณน่ะครับ สนครับ แม้ต้องห่างหายไปก็ใช่ว่าผมจะขาดไปเลย แต่ใช้เวลากับคอมป์แต่ละวันนานๆก็แย่น่ะครับ ผมขอใช้เวลาพยายามที่จะฝึกจิตก่อน ถึงตอนนี้ไม่ทุกข์กับคุณไสยใดๆอีกแล้วแต่ก็ยังไม่พ้นวังวนของจิตใจตัวเอง ช่วงเวลาที่ผมมาที่นี่ ผมไม่ได้นับนะครับว่ากี่วัน แต่ได้พบกัลยาณมิตรมากมาย

จากตอนแรกใจเสีย กลายมาเป็นใจชื้น ใจฟื้น แล้วก็ทำท่าที่จะกลับไปดำรงตนอยู่ในโลกแห่งความประมาทเช่นเดิม โดยกระโดดกลับไปสู่โลกียโลกอย่างเต็มตัว แต่ตอนนี้กลับมีสติ ว่าไม่ควรแล้วนะ ควรปรับทุกอย่างให้กลมกลืนกันมากกว่าเพราะถ้าเกิด มิจฉาทิฐิก้าวกลับไปสู่โลกียโลกอย่างเดิมแล้ว ก็เหมือนการที่ผมมาที่นี่ ไม่ได้อะไรเลย ประมาณว่า ช่วยด้วย โดนคุณไสยเล่นงาน พอมีคนมาช่วยชี้ทางให้เสร็จแล้วก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม ผมไม่เอาแล้วครับ เดินทางนี้ ร่วมกับกัลยาณมิตรหลายๆคนรวมทั้งคุณด้วย มันสงบ ถึงแม้ทางจะไม่สวยใสล่อตาล่อใจ แต่ก็เป็นทางที่ร่มรื่น สงบเย็น แม้จะเดินไปไม่ถึงปลายทางผมก็ยินดีที่จะเลือกทางนี้มากกว่า โชคดีนะครับ



 
ปลา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 ม.ค. 2006, 2:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดี
 
เบ๊ท่าน ฯ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 ม.ค. 2006, 2:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมว่าพวกที่มีคุณไสยฯนี้ เอาไปใช้ช่วยโลกดีกว่าครับ จะได้ประหยัดอะไรหลายๆอย่าง เช่น



ฟัน ยิง ไม่เข้านี้ เอามาช่วย ทหาร ตำรวจ ที่อยู่ภาคใต้ได้ ประหยัดงบประมาณของชาติ



เสกอะไรให้คนตายได้นี้ ยิ่งดีครับ จะได้ช่วยงานชาติ ช่วยงานโลกได้ ประหยัดเงินติดตามสืบหาผู้ก่อการร้ายที่หลบอยู่ทั่วโลก ประหยัดทรัพยากรโลก รักษาสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก



คุณจะได้เป็น พระเอก และ จะได้เงินอย่างมากมายมหาศาล มากกว่าที่ไปรับงานกับชาวบ้าน โลกจะจารึกชื่อคุณไว้ตลอดกาล



ถ้าสิ่งพวกนี้มีอยู่จริง ก็ขอได้โปรดนำไปใช้อย่างที่บอกไว้ คุณจะรวยไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง