| ผู้ตั้ง | ข้อความ | 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 542
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2008, 9:17 pm |   |  
| ยอดรักตาย  เพราะเมียไม่ให้ใส่หมอเครื่องช่วยชีวิต เพื่อยื้อเวลาตาย คุณว่าเมียยอดรักทำบาปข้อหา
 ฆ่ายอดรัก  หรือทำบุญใหญ่กันแน่
 
 ก่อนตาย ยอดรักเคยขอหมอให้ยาที่ทำให้ตายไวๆ  แต่หมอไม่กล้าทำ  กลัวไปผิดศีลข้อหาฆ่าคน
 ทำให้ยอดรักต้องทนทรมานอีกหลายวัน  สุดท้ายเมียเลยตัดสินใจไม่ให้ใส่หมอเครื่องช่วยชีวิต
 เพื่อยื้อเวลาตายของยอดรัก
 
 คุณคามินธรรม คุณเมธี และอีกหลายท่านลองตรองดู  เจตนาในจิตของเมียยอดรักนั้นเป็นกุศลอย่าง
 ไม่ต้องสงสัย  พวกคุณจะตอบว่าเป็นบาปก็ไม่เป็นไร
 
 แต่ผมตอบว่า
 
 เมียของยอดรักทำบุญใหญ่  ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า  ยอดรักตายแหงๆ
 
 ถ้าเมียยอดรัก ตัดสินใจให้หมอยื้อชีวิต  ยอดรักก็จะทรมานไปอีกหลายวัน  การช่วยยื้อชีวิตจึงเป็นบาป
 การไม่ยื้อชีวิตจึงเป็นบุญใหญ่
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| คามินธรรม บัวบานเต็มที่
 
  
  
 เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
 ตอบ: 860
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2008, 9:23 pm |   |  
| (ใช้สิทธิพาดพิง)
 
 แต่ขอ no comment นะคับ มัน sensitive
 
 เพราะเป็นเหตุการณืจริงๆ เมียเขาไม่อยู่ชี้แจง
 ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ ผมไม่ทราบวาระจิตของเมียเขา
 ผมขอไม่ก้าวล่วงไปตรงนั้น
 |  
          |  |  
| _________________
 ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
 
 |  | 
|   | 
|  | 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 542
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2008, 9:32 pm |   |  
| 
 
| คามินธรรม พิมพ์ว่า: |  
| (ใช้สิทธิพาดพิง) 
 แต่ขอ no comment นะคับ มัน sensitive
 
 เพราะเป็นเหตุการณืจริงๆ เมียเขาไม่อยู่ชี้แจง
 ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ ผมไม่ทราบวาระจิตของเมียเขา
 ผมขอไม่ก้าวล่วงไปตรงนั้น
 |  
 
 จะใช้คำว่า "ถ้า" "สมมุติ" ก็น่าจะได้นะครับ
 
 การที่คุณไม่ตอบ  แสดงว่าคุณเริ่มรู้แล้วว่า  สิ่งที่ผมบอกคุณเรี่องทำผิดศีล 5 แต่จิตเป็นกุศล
 นั่นคือบุญใหญ่  เพียงแต่ด้วยทิฏฐิมานะ  ทำให้คุณยอมรับในสิ่งที่ผมพูดไม่ได้
 
 ไม่เป็นไรครับ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| คามินธรรม บัวบานเต็มที่
 
  
  
 เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
 ตอบ: 860
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2008, 9:42 pm |   |  
| 
 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า: |  
| 
 การที่คุณไม่ตอบ  แสดงว่าคุณเริ่มรู้แล้วว่า  สิ่งที่ผมบอกคุณเรี่องทำผิดศีล 5 แต่จิตเป็นกุศล
 นั่นคือบุญใหญ่  เพียงแต่ด้วยทิฏฐิมานะ  ทำให้คุณยอมรับในสิ่งที่ผมพูดไม่ได้
 
 ไม่เป็นไรครับ
 |  
 เปล่าเลย ผมเชื่อว่า ฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกกรณี เป็นบาป
 หลงผิดคิดว่าฆ่าแล้วดี ก็ได้บุญไป
 แต่ผลกรรมเป็นเอกเทศ ต้องรับแน่นอน
 
 สั้นๆ ง่ายๆ แค่นั้นเอง
 
 เพียงแต่ด้วยทิฏฐิมานะ  ทำให้คุณยอมรับในสิ่งที่ผมพูดไม่ได้
 |  
          |  |  
| _________________
 ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
 
 |  | 
|   | 
|  | 
| ขันธ์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
 ตอบ: 520
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2008, 11:32 pm |   |  
| ใบไม้ครับ มันเป็น บุญทั้งคู่ครับ เพราะว่า ตั้งด้วยเจตนาดี คืออยากให้ ยอดรัก พ้นทุกข์ คือ มี เมตตา กรุณา มุทิตา แต่ไม่อุเบกขา
 
 ก็ เจตนาที่ประกอบไปด้วย พรหมวิหาร 3 ประการ
 
 ทีนี้ กรรม ในส่วนที่ทำก็ ไม่สืบเนื่อง เพราะไม่ได้ประกอบด้วยอกุศล และไม่ได้ประมาท
 |  
          |  |  
| _________________
 เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
 สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
 |  | 
|   | 
|  | 
| เมธี บัวตูม
 
  
 
 เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
 ตอบ: 222
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 8:54 am |   |  
| 
 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า: |  
| ยอดรักตาย  เพราะเมียไม่ให้ใส่หมอเครื่องช่วยชีวิต เพื่อยื้อเวลาตาย คุณว่าเมียยอดรักทำบาปข้อหา ฆ่ายอดรัก  หรือทำบุญใหญ่กันแน่
 
 ก่อนตาย ยอดรักเคยขอหมอให้ยาที่ทำให้ตายไวๆ  แต่หมอไม่กล้าทำ  กลัวไปผิดศีลข้อหาฆ่าคน
 ทำให้ยอดรักต้องทนทรมานอีกหลายวัน  สุดท้ายเมียเลยตัดสินใจไม่ให้ใส่หมอเครื่องช่วยชีวิต
 เพื่อยื้อเวลาตายของยอดรัก
 
 คุณคามินธรรม คุณเมธี และอีกหลายท่านลองตรองดู  เจตนาในจิตของเมียยอดรักนั้นเป็นกุศลอย่าง
 ไม่ต้องสงสัย  พวกคุณจะตอบว่าเป็นบาปก็ไม่เป็นไร
 
 แต่ผมตอบว่า
 
 เมียของยอดรักทำบุญใหญ่  ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า  ยอดรักตายแหงๆ
 
 ถ้าเมียยอดรัก ตัดสินใจให้หมอยื้อชีวิต  ยอดรักก็จะทรมานไปอีกหลายวัน  การช่วยยื้อชีวิตจึงเป็นบาป
 การไม่ยื้อชีวิตจึงเป็นบุญใหญ่
 |  
 ผมขอตอบเป็นเรื่องสมมุตินะครับ ผมไม่ทราบว่าภรรยาคุณยอดรักคิดอย่างไรอยู่
 
 หมอใส่เครื่องช่วยชีวิต เพื่อยื้อเวลาตาย เป็น เมตตาและกรุณาครับ
 
 เมื่อเห็นว่าช่วยไม่ไหวแล้ว ภรรยา จึง วางอุเบกขาครับ
 
 องค์ของการฆ่าสัตว์ สัตว์นั้นมีชีวิต จิตคิดจะฆ่า พยายามฆ่า สำเร็จด้วยความพยายามนั้น
 
 ภรรยาคุณยอดรักนั้น ไม่ได้มีจิตคิดจะฆ่า ไม่ได้พยายามฆ่า และคุณยอดรักนั้นก็ไม่ได้ตายด้วยความพยายามของใครเลย
 เมื่อไม่อาจยื้อชีวิตไว้ด้วย ก็วางอุเบกขา เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้ภรรยาคุณยอดรักจึงไม่ได้บาปเพราะการฆ่า ได้บุญเพราะการวางอุเบกขา(หลังจากเมตตาและกรุณามานาน)
 
 เรามาช่วยกันแยกระหว่างการฆ่า กับการ วางอุเบกขา ดีกว่าครับ
 
 ไม่งั้นพระพุทธเจ้าก็ต้องช่วงทุกคนสิครับ เพราะทุกวันท่านต้องส่องญาณดูว่าจะโปรดใคร ขนาดห้ามญาติท่านยังห้ามได้แค่สามครั้ง จนสุดท้ายต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ไงครับ
 
 ตัวอย่างที่คุณพลศักดิ์ยกมา ไม่ได้เป็นเจตนาฆ่านะครับ แต่เป็นการวางอุเบกขา ที่น่านับถือของภรรยาคุณยอดรัก
 
 ผมจะรอความเห็นท่านอื่นๆบ้างนะครับ ว่าเห็นว่าอย่างไรกันบ้าง
 |  
          |  |  
|  |  | 
|     | 
|  | 
| นิรินธน์ บัวใต้ดิน
 
  
  
 เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 12
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 1:01 pm |   |  
| 
   สาธุค่ะ  คุณเมธี
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| mes บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
 ตอบ: 643
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 9:02 pm |   |  
| ท่านทั้งหลาย
 
 ผมเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มา
 
 ด้วยความเคารพครับ
 
 ญาติผู้สูญเสียมีความทุกข์โศกมากมาย
 
 ในฐานะมนุษย์ด้วยกันโปรดให้เกียรติต่อญาติผู้จากไปด้วย  ยิ่งในเวลาใกล้ๆเช่นนี้  ไม่ควรวิพากวิจาญเป็นอย่างยิ่ง
 ขอกราบเรียนว่าอะไรควรอะไรไม่ควรได้โปรดกรุณาพิจารณา
 ส่วนจะได้ผลหรือไม่
 
 ก็สุดแต่ท่านทั้งหลาย
 
 ขออภัยท่านหากเห็นว่าเป็นเอกสิทธิ์ของท่าน
 |  
          |  |  
|  |  | 
|    | 
|  | 
| ฌาณ บัวเงิน
 
  
  
 เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
 ตอบ: 1145
 ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 10:12 pm |   |  
| 
  เห็นด้วยครับอาจารย์ mes  |  
          |  |  
| _________________
 ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
 |  | 
|   | 
|  | 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 542
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 11:27 pm |   |  
| ทุกท่านครับ
 
 
 
 พระพุทธเจ้าตรัสว่า " เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ " ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนา
 คือกรรม
 
 เจตนาอกุศล = บาป
 เจตนากุศล = บุญ
 
 ในกรณีผิดศีล 5
 
 อาจจะ 95%ของผู้ที่ฆ่าสัตว์ชีวิต ผู้ที่ขโมย เป็นชู้ ผู้ที่โกหก และ ผู้ที่ดื่มสุรา ส่วนใหญ่ทำด้วยจิต
 อกุศลเห็นแก่ตัว จึงเป็น บาป
 
 แต่พึงเข้าใจว่า  ส่วนน้อยในจำนวนนั้น เช่น
 
 5%ของผู้ที่ฆ่าสัตว์ชีวิต ผู้ที่ขโมย เป็นชู้ ผู้ที่โกหก ผู้ที่ดื่มสุรา ส่วนน้อยเหล่านี้ทำด้วยจิตกุศล
 ไม่เห็นแก่ตัว กล้าผิดศีล 5 เสียสละให้ผู้อื่น  กรณีนี้จึงเป็นกุศล
 
 ผมขอยกตัวอย่างผู้ที่ทำผิดศีล 5 แต่ไม่ใช่บาป เป็นบุญ ดังนี้
 
 - ผู้ที่ฆ่าสัตว์ชีวิต
 
 ตัวอย่าง เช่น
 1.พระญี่ปุ่นยอมควักตาตัวเอง และนั่งกรรมฐาน 30 วัน โดยไม่กินอะไรเพื่อชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น
 2. เมียยอดรักไม่ยอมยื้อชีวิตยอดรักเอาไว้ ยอดรักจึงตาย
 3. พ่อแม่ฉีดยาฆ่ายุงเพื่อป้องกันคนในบ้านไม่ให้ถูกยุงกัด
 
 - ผู้ที่ลักทรัพย์ช่วยคนอื่น
 
 ตัวอย่าง เช่น
 1. โรบินฮู๊ด 2. แม่ที่ขโมยนมมาเลี้ยงบุตร
 
 - ผู้ที่เป็นชู้
 
 ตัวอย่าง เช่น
 แม่ชีที่ถอดจิตได้ เล่าให้ฟังว่า พระยายมราชตัดสินให้หญิงคนหนึ่งขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึง หลังจาก
 พบว่าผู้หญิงคนนั้นนอกใจสามี ไปขายตัวเอาเงินมาจ่ายค่าเทอมลูก และเลี้ยงผัวที่พิการ
 
 - ผู้ที่โกหก
 
 ตัวอย่าง เช่น
 หลวงพี่เท่งตะโกนโกหกว่า ตำรวจมา ตำรวจมา คนร้ายที่รุมกระทืบคนอื่นจึงหนีไป คนนั้นเลยรอดตาย
 จากการโดนยำตีน
 
 - ผู้ที่ดื่มสุราเมรัย
 
 พระอรหันต์จี้กงเป็นตัวอย่างClassic ที่สุด
 |  
          |  |  
| 
 แก้ไขล่าสุดโดย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เมื่อ 13 ส.ค. 2008, 11:32 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
 |  | 
|   | 
|  | 
| เมธี บัวตูม
 
  
 
 เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
 ตอบ: 222
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 11:31 pm |   |  
| ขอบพระคุณคุณ mes ที่ช่วยเตือนสติครับ
 
 กระผมมิได้มีเจตนาทำการใดๆ ลบหลู่ผู้ตายและญาติๆครับ
 
 ขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
 
 กระทู้นี้ผมขอบายแล้วกันนะครับ
 
 ถ้าจะถกกันเรื่องนี้ เราไปกระทู้ใหม่กันดีกว่า แล้วไม่เอาเรื่องนี้มาพูดด้วย
 
 ขอบคุณครับ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|     | 
|  | 
| เมธี บัวตูม
 
  
 
 เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
 ตอบ: 222
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 11:33 pm |   |  
| 
 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า: |  
| ทุกท่านครับ 
 
 
 พระพุทธเจ้าตรัสว่า " เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ " ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนา
 คือกรรม
 
 อาจจะ 95%ของผู้ที่ฆ่าสัตว์ชีวิต ผู้ที่ขโมย เป็นชู้ ผู้ที่โกหก และ ผู้ที่ดื่มสุรา ส่วนใหญ่ทำด้วยจิต
 อกุศลเห็นแก่ตัว จึงเป็น บาป
 
 แต่พึงเข้าใจว่า  ส่วนน้อยในจำนวนนั้น เช่น
 
 5%ของผู้ที่ฆ่าสัตว์ชีวิต ผู้ที่ขโมย เป็นชู้ ผู้ที่โกหก ผู้ที่ดื่มสุรา ส่วนน้อยเหล่านี้ทำด้วยจิตกุศล
 ไม่เห็นแก่ตัว กล้าผิดศีล 5 เสียสละให้ผู้อื่น  กรณีนี้จึงเป็นกุศล
 
 ผมขอยกตัวอย่างผู้ที่ทำผิดศีล 5 แต่ไม่ใช่บาป เป็นบุญ ดังนี้
 
 - ผู้ที่ฆ่าสัตว์ชีวิต
 
 ตัวอย่าง เช่น
 1.พระญี่ปุ่นยอมควักตาตัวเอง และนั่งกรรมฐาน 30 วัน โดยไม่กินอะไรเพื่อชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น
 2. เมียยอดรักไม่ยอมยื้อชีวิตยอดรักเอาไว้ ยอดรักจึงตาย
 3. พ่อแม่ฉีดยาฆ่ายุงเพื่อป้องกันคนในบ้านไม่ให้ถูกยุงกัด
 
 - ผู้ที่ลักทรัพย์ช่วยคนอื่น
 
 ตัวอย่าง เช่น
 1. โรบินฮู๊ด 2. แม่ที่ขโมยนมมาเลี้ยงบุตร
 
 - ผู้ที่เป็นชู้
 
 ตัวอย่าง เช่น
 แม่ชีที่ถอดจิตได้ เล่าให้ฟังว่า พระยายมราชตัดสินให้หญิงคนหนึ่งขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึง หลังจาก
 พบว่าผู้หญิงคนนั้นนอกใจสามี ไปขายตัวเอาเงินมาจ่ายค่าเทอมลูก และเลี้ยงผัวที่พิการ
 
 - ผู้ที่โกหก
 
 ตัวอย่าง เช่น
 หลวงพี่เท่งตะโกนโกหกว่า ตำรวจมา ตำรวจมา คนร้ายที่รุมกระทืบคนอื่นจึงหนีไป คนนั้นเลยรอดตาย
 จากการโดนยำตีน
 
 - ผู้ที่ดื่มสุราเมรัย
 
 พระอรหันต์จี้กงเป็นตัวอย่างClassic ที่สุด
 |  
 รบกวนตั้งกระทู้ใหม่(หากคุณพลศักดิ์ยังอยากถกปัญหานี้อยู่) แล้วยกความคิดเห็นนี้มาด้วยครับ ผมมีหลายเหตุผลที่จะแย้งได้ครับ
 
 แต่คืนนี้ง่วงแล้วครบ
  |  
          |  |  
|  |  | 
|     | 
|  | 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 542
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 11:39 pm |   |  
| คุณเมธี  คุณmess และท่านอื่นๆครับ
 
 
 
 ผมว่าไม่มีใครไปลบหลู่คุณยอดรักและญาติๆคุณยอดรักหรอกครับ  คุณยอดรักจงใจมาตายใน
 ช่วงนี้พอดี  เหมือนกับมีเจตนาให้ผมเขียนหลักธรรมแท้จริงของศีล 5 ออกมา  ฟ้าเขากำหนดมาแล้วครับ
 ให้คุณยอดรักตาย  ให้เมียเขาไม่ยื้อการตาย  และให้ผมเขียนเรื่องนี้
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| เมธี บัวตูม
 
  
 
 เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
 ตอบ: 222
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 11:47 pm |   |  
| คุณพลศักดิ์ครับ อย่างไรเสียก็มีคนเตือนแล้วนะครับ
 
 เราแค่ถกปัญหา ใช่ว่าเรื่องอื่นจะคุยไม่ได้ ต้องเจาะจงเรื่องนี้เสมอไป
 
 ถ้าคุณยังดึงดันจะคุยเรื่องคุณยอดรัก ผมก็ถือว่าคุณไม่ให้เกียรติผู้อื่น และผมก็จะไม่ตอบแล้ว กระทู้นี้ผมบายจริงๆแล้วครับ
 
 สิ่งที่คุณเขียนออกมา ยิ่งมีแต่จะทำให้คุณดูแย่ในสายตาคนอื่นนะครับ
 
 ผมขอเตือนด้วยความหวังดี หวังว่าคุณจะพิจารณา "จริงๆ" นะครับ
 
 สาธุครับ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|     | 
|  | 
| คามินธรรม บัวบานเต็มที่
 
  
  
 เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
 ตอบ: 860
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 8:46 am |   |  
| 
 
| เมธี พิมพ์ว่า: |  
| คุณพลศักดิ์ครับ อย่างไรเสียก็มีคนเตือนแล้วนะครับ 
 เราแค่ถกปัญหา ใช่ว่าเรื่องอื่นจะคุยไม่ได้ ต้องเจาะจงเรื่องนี้เสมอไป
 
 ถ้าคุณยังดึงดันจะคุยเรื่องคุณยอดรัก ผมก็ถือว่าคุณไม่ให้เกียรติผู้อื่น และผมก็จะไม่ตอบแล้ว กระทู้นี้ผมบายจริงๆแล้วครับ
 
 สิ่งที่คุณเขียนออกมา ยิ่งมีแต่จะทำให้คุณดูแย่ในสายตาคนอื่นนะครับ
 
 ผมขอเตือนด้วยความหวังดี หวังว่าคุณจะพิจารณา "จริงๆ" นะครับ
 
 สาธุครับ
 |  
 คุณเมธี...
 
 "การผิดศีล (ข้อ มุสาวาทา) ด้วยเจตนาเป็นกุศล ถือเป็นบุญใหญ่นะคับ"
 อิๆๆๆๆ
 
 "เมื่อกล่าวไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น จะสนใจทำไม
 ได้บุญก็พอแล้ว สมเจตนา "
 
 อุๆๆๆ
 |  
          |  |  
| _________________
 ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
 
 |  | 
|   | 
|  | 
| mes บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
 ตอบ: 643
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 10:11 am |   |  
| 
 
| ฌาน พิมพ์ว่า: |  
| เห็นด้วยครับอาจารย์ mes |  
 ผมต่างหากที่ต้องเรียกท่านว่าอาจารย์
 |  
          |  |  
|  |  | 
|    | 
|  | 
| ZERO บัวใต้ดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 01 ต.ค. 2008
 ตอบ: 18
 ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงราย
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
05 ต.ค.2008, 7:42 am |   |  
| องค์สมเด็จท่านบอกว่าเธออย่าสนใจในสิ่งที่ล่วงมาแล้วหรือยังมาไม่ถึงเรื่องนี้จะต้องห้ำหั่นกันด้วยทิฐิมานะและอวิชาของแต่ละคนไป คนที่ทราบวาระจิตของคนได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนคือองค์สัมมาฯครับฉนั้นใครไปนิพพานได้ก็ไปถามมากันเองจะดีกว่านะครับ ขืนยังปั่นกันอย่างนี้อารมณ์นิวรณ์และกิเลสก็หลอกกินกันพอดี อีกอย่างเราทุกคนไม่ใช่พระอรหันต์แม้นแต่ยอดรักและเมียก็ไม่ใช่พระอรหันต์จึงมีผิดมีถูกบ้างในการตัดสินใจคือไม่ได้100เต็มหรอกคับ
 |  
          |  |  
| _________________
 เราเป็นทรัพย์ของโลก
 |  | 
|    | 
|  | 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 542
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
05 ต.ค.2008, 8:28 am |   |  
| คุณzeroครับ
 
 
 
 ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้น  เพียงเพื่อช่วยให้ทุกท่านรู้ข้อเท็จจริงว่า  บาป บุญ อยู่ที่จิต
 เจตนาทำอะไรลงไป  ถ้าเจตนาเป็นอกุศล=บาป  ถ้าเจตนาเป็นกุศล=บุญ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| alpha349 บัวใต้ดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 20 ก.ย.  2008
 ตอบ: 21
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
05 ต.ค.2008, 9:45 am |   |  
| ผมว่าไม่ใช่บุญใหญ่ครับแต่ก็ไม่ใช่บาป
 เป็นอุเบกขา มีเมตตา กรุณาแล้ว มุทิตาถึงที่สุดแล้ว ก็อุเบกขา ก็เป็นบุญโดยปรกติอยู่แล้ว
 ความเห็นของผมคนเดียวนะครับ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
 ตอบ: 542
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
05 ต.ค.2008, 9:54 am |   |  
| 
 
| alpha349 พิมพ์ว่า: |  
| ผมว่าไม่ใช่บุญใหญ่ครับแต่ก็ไม่ใช่บาป เป็นอุเบกขา มีเมตตา กรุณาแล้ว มุทิตาถึงที่สุดแล้ว ก็อุเบกขา ก็เป็นบุญโดยปรกติอยู่แล้ว
 ความเห็นของผมคนเดียวนะครับ
 |  
 
 ถ้าเช่นนั้น พระเวสสันดรยกลูกเมียให้เป็นทาสคนอื่น ก็คงไม่ใช่มหากุศลด้วย
 
 มหากุศลคือ รู้ว่าสิ่งนั้นผิดศีล 5 แต่ยอมกระทำเพื่อผู้อื่น  พระเวสสันดรกับเมียยอมรัก
 ท่านก็รู้ว่า การยกลูกเมียให้เป็นทาสคนอื่น และการให้แพทย์ถอดสายช่วยชีวิตเป็นบาป
 แต่ก็ยอมทำ เพื่อเห็นแก่คนอื่น   อย่างนี้เขาเรียกว่า การเสียสละครับ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
|  |