Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
เหตุแห่งความรัก (คุณอังคาร)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ดอกไม้
บัวเริ่มพ้นน้ำ
เข้าร่วม: 26 ต.ค. 2006
ตอบ: 164
ตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2007, 4:18 pm
ปุถุชนผู้ยังละกิเลสไม่ได้ เกิดมาก็ย่อมต้องมีความรักทั้งหญิงและชาย
พระพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุที่ทำให้หญิงชายรู้สึกรักกันไว้ใน สาเกตชาดก
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ดังนี้
ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เหตุไรหนอ
เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้พอเห็นกันเข้าก็เฉยๆ หัวใจก็เฉย
บางคนพอเห็นกันเข้า จิตก็เลื่อมใส
ความรักนั้น ย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการ
คือ ด้วยการอยู่ร่วมกัน ในกาลก่อน ๑
ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑
เหมือนดอกอุบลและชลชาติ เมื่อเกิดในน้ำ
ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุ ๒ ประการ คือน้ำและเปือกตม ฉะนั้น
จึงจะเห็นว่าการที่หญิงชายมารักกัน ชอบกัน
และอาจได้อยู่ร่วมกันนั้น ไม่ใช่เหตุบังเอิญ
แต่มีปัจจัยมาจาก ๒ ประการ ดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุให้รู้
แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ ฯลฯ อีกมากมาย
คู่
ู่
บุพเพสันนิวาส คือ การได้เคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ
จนส่งผลให้ได้มาเป็นคู่ครองกันในปัจจุบัน
ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าเคยอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้วบุพเพสันนิวาส หมายถึง
การที่อาจจะได้อยู่ร่วมกันในฐานะอื่นก็ได้
เช่น พี่กับน้อง พ่อกับลูก แม่กับลูก เพื่อน ครูกับศิษย์ นายกับบ่าว เป็นต้น
การที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันนี้
เมื่อเกิดมาร่วมกัน ก็มักจะสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันมา ทำอะไรตามกัน
มีความเห็นสอดคล้องกัน ทำให้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข
เนื้อคู่
คือ หญิงและชายที่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
เป็นสามีภรรยากันมาก่อนในอดีตชาติ
คู่ครอง
คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกัน
เป็นสามีภรรยากันในชาติปัจจุบัน
คู่กรรม
คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสามีภรรยา
แต่มักไม่มีความสุข
เนื่องจากการมาอยู่ร่วมกันนั้น
เกิดจากวิบากของกรรมที่ทำร่วมกัน
หรือวิบากกรรมที่มีต่อกันมาส่งผล
เช่น อาจเคยทำบาปร่วมกัน หรือเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนเป็นต้น
คู่บารม
ี คือ เนื้อคู่ที่ได้ติดตามกันมา ส่งเสริมกันและกันในทางที่ดี
ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาร่วมกันนับชาติไม่ถ้วน
และจะติดตามกันต่อไปจนกว่าจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้
มักใช้คำนี้กับพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีกับเนื้อคู่ลำดับ ๑
ที่จะได้เป็นคู่ครองกับในชาติสุดท้าย
เหตุแห่งการได้อยู่ร่วมกัน
ดังที่พระพุทธองค์ได้แสดงเหตุที่หญิงชายได้รัก
และได้เป็นสามีภรรยากันนั้นมี ๒ ปัจจัย คือ
การได้อยู่ร่วมกันในกาลก่อน
การได้เกื้อหนุนกันในชาติปัจจุบัน
เนื่องจากวัฎสงสารยาวไกลจนหาจุดเริ่มต้นและที่สุดไม่ได้
หญิงชายแต่ละคน จึงมีเนื้อคู่มากมายเป็นแสนคน
แต่ละชาติที่เกิดมา ก็อาจได้พบเจอเนื้อคู่ได้หลายๆ คนพร้อมกัน
หรืออาจไม่ได้เจอเนื้อคู่เลยสักคนก็เป็นได้
กรณีที่ไม่เจอเนื้อคู่เลยนั้น
หญิงชายนั้น ก็อาจมีคู่ได้กับบุคคลใกล้ชิดที่ได้เกื้อหนุนกันในปัจจุบัน
ซึ่งเมื่อได้เป็นคู่กันในปัจจุบันแล้วหญิงชายนั้นก็จะได้เป็นเนื้อคู่กันต่อไป
ลำดับของเนื้อคู่
เพราะเหตุที่แต่ละคนมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย
จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าแล้วใครกันเล่า
ที่สมควรจะได้อยู่เป็นคู่ครองกันมากที่สุด
และจะมีวิธีการเลือกอย่างไร
แม้จะมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย
แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วมีความสุขที่สุด
เมื่อพบหน้ากันแล้ว ไม่อาจตัดใจรักให้ขาดจากกันได้
บุคคลนี้ คือ เนื้อคู่ที่ได้อยู่ร่วมกันมามากที่สุดเป็นแสนเป็นล้านชาติ
เป็นเนื้อคู่ลำดับที่ ๑
กฎแห่งกรรมจะจัดสรรการมีคู่ไว้ให้เราเรียบร้อย
คือ หากเรามีเนื้อคู่เกิดมาพร้อมกัน
ใจเราจะเป็นผู้เลือกเนื้อคู่ลำดับต้นเสมอ
เมื่อเลือกแล้วคู่ลำดับอื่น เขาจะหลีกทางและไปหาคู่ของเขาต่อไป
แต่กฎแห่งกรรมอีกเช่นกัน
ที่บางชาติ กลับทำให้คู่ลำดับต้นๆ ได้มาพบกันทีหลัง
หลังจากที่อีกฝ่ายได้เลือกคู่ครองไปแล้ว
ซึ่งแม้จะได้พบกันทีหลัง แต่เพราะเป็นคู่ลำดับต้น
จิตใจของทั้งคู่ก็จะร้อนรนทนไม่ไหว
จึงต้องรักกันอีกครั้ง
ซึ่งความรักครั้งนี้ต้องหัก ต้องบังคับฝืนใจกันอย่างเต็มกำลัง
กล่าวกันว่าแม้พระภิกษุผู้มั่นคงในศีล
เมื่อได้เจอเนื้อคู่ลำดับต้นๆ ยังทนไม่ได้
ต้องสึกหาลาเพศมาอยู่กับเนื้อคู่ของตนจนได้
เหตุที่เนื้อคู่ลำดับต้น มาเกิดในชาติภพเดียวกัน
แต่กลับไม่สมกันนั้น มีเหตุเดียว คือ กรรมพลัดพราก
ได้มาส่งผลเป็นวิบากแก่ทั้งคู่อย่างร้ายแรง
หากกรรมนั้นใกล้จะหมดผล เขาทั้งสองก็อาจได้เป็นคู่ครองกันในชาตินั้น
แต่หากกรรมนั้นยังรุนแรงอยู่ ทั้งสองก็ต้องทนทุกข์ทรมานชดใช้กรรมนั้นให้หมด
แล้วจึงจะได้มีวาสนาอยู่ร่วมกันในชาติต่อๆ ไป
เหตุที่อกหักผิดหวังในความรัก
นอกจากการผิดหวังจากเนื้อคู่ลำดับต้นๆ ซึ่งเกิดจากกรรมพลัดพรากแล้ว
บางครั้งคนเราก็อาจต้องผิดหวังในความรัก โดยมีเหตุมาจากกรรมทั้งสิ้น
คือ อยู่กับคู่ครองไม่มีความสุข ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ
หรือมีปัญหาให้ทุกข์ใจตลอด
เหตุที่เป็นดังนี้ แสดงว่าคู่ครองนั้นไม่ใช่เนื้อคู่ลำดับที่ ๑-๕
เนื่องจาก กรรมจากการเป็นคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรม
ส่งผลให้ไม่ได้พบเนื้อคู่ลำดับต้นๆ
หรืออาจเป็นเพราะทั้งสองไม่ใช่เนื้อคู่กัน
แต่ทั้งคู่เป็นศัตรูคู่อาฆาต ได้เคยผูกใจเจ็บกันมา
ชาตินี้จึงต้องมาแก้แค้นกันเอง
และแรงอาฆาตได้ผลักดันให้ทั้งสองมาอยู่ร่วมกัน
และแก้แค้นกันเองตามแรงอาฆาตนั้น
หรือบางคนรักเขาข้างเดียว อกหักบ่อยครั้ง
โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจด้วยเลย
เหตุนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอดีตชาติ เคยอาฆาตเขาไว้
แต่เขาไม่ได้อาฆาตตอบและไม่ได้ถือโกรธด้วย
ชาตินี้จึงต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียว
อย่างนี้ไม่ได้เป็นเนื้อคู่ เป็นเพียงคู่กรรมเท่านั้น
ทำอย่างไรจึงจะได้อยู่ร่วมกัน
เมื่อความรักหวานชื่น คู่ครองทั้งหลายย่อมต้องอยากเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีก
ซึ่งผลกรรมก็ได้จัดสรรการเกิดมาเป็นคู่ครองกันอีกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
แต่นอกจากการรอให้กรรมเป็นตัวจัดสรรแล้ว
เรายังสามารถเลือกที่จะได้พบและอยู่เป็นคู่ครองกับเนื้อคู่ของเราได้ในอนาคต
โดยการอธิษฐาน แต่แม้จะมีอธิษฐานร่วมกัน
สุดท้ายการได้อยู่ร่วมกัน ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรมอยู่ดี
การอธิษฐานนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ
คือ ในด้านประโยชน์
ทำให้เนื้อคู่ทั้งสองมีโอกาสกลับมาเป็นคู่ครองกันในชาติต่อๆ ไป ได้ง่าย
แต่ในแง่ของโทษ บางครั้งก็ทำให้การใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุข
เช่น หากเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้ไม่ได้มาเกิด หรือมาเกิดแล้ว
แต่ยังไม่ได้พบกัน ฝ่ายที่รออยู่จะไม่สามารถมีคู่ได้
จิตใจไม่รักใคร หรือแม้จะได้พบเนื้อคู่ลำดับต้นๆ
แต่ก็มีเหตุให้ไม่สมหวังทุกครั้งไป
เนื่องจากแรงอธิษฐานนั้นฉุดรั้งไว้
หรือบางครั้งจิตใจมีสังหรณ์อยู่เสมอว่า
รอคอยใครอยู่ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารอคอยใคร
การแก้ปัญหาเรื่องอธิษฐาน
หากแน่ใจว่าเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้ คงไม่ได้พบเจอกันแน่แล้ว
หรืออยากจะปล่อยวาง เพื่อมีโอกาสได้ตัดสินใจกับเนื้อคู่ลำดับอื่น
สามารถทำได้ง่ายๆ
เพียงอธิษฐานขออนุญาตเนื้อคู่ว่า ขอละคำอธิษฐานนั้น
ขอให้ชีวิตได้พบเนื้อคู่ที่สมกัน
และได้ใช้ชีวิตคู่อย่างปกติและมีความสุข
คู่บารมี
สุดท้ายคือเรื่องของคู่บารมี เป็นคู่สำคัญ เป็นคู่ที่ยาวนาน
เพราะต้องร่วมกันสร้างบารมี
ขณะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเนื้อคู่ ที่จะเคียงข้างกันไป
การเป็นพระโพธิสัตว์นั้น ต้องการกำลังใจที่เข้มแข็ง มั่นคง
และเสียสละความสุขทั้งปวง เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก
พระโพธิสัตว์นั้น ต้องใช้เวลายาวนานมากในการสร้างบุญบารมี
กว่าที่จะสามารถตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป
และอย่างช้าก็เนิ่นนานจนถึง ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปเลยทีเดียว
คนที่ตั้งใจเป็นคู่บารมี จึงต้องมีความเสียสละและเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน
บุคคลผู้ปรารถนาเป็นคู่บารมีนั้น
จะเป็นผู้ที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากที่สุด ได้เป็นคู่ครองกันมากที่สุด
และเป็นเนื้อคู่ลำดับ ๑ อย่างเที่ยงแท้
การเป็นคู่บารมีนั้นลำบากมากยิ่งนัก
เพราะคนเป็นคู่บารมีนั้นจะต้องพบกับสิ่งต่อไปนี้
คือ ต้องเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย
ต้องช่วยพระโพธิสัตว์ทำงานอย่างเต็มกำลัง
ในบางชาติอาจต้องร่วมสร้างบารมีกับพระโพธิสัตว์
เช่น ต้องสละชีวิตร่วมกัน ต้องถูกบริจาคลูก หรือตัวเอง
เพื่อเสริมบารมีให้พระโพธิสัตว์ เป็นต้น
ตราบใดที่พระโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
คู่บารมีนั้นก็ยังไม่มีโอกาสบรรลุโลกุตรธรรมได้
ที่มา...
http://www.kanlayanatam.com/sara/sara89.htm
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
ตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2007, 8:01 am
ศรัทธาเสมอกัน ๑
ศีลเสมอกัน ๑
จาคะเสมอกัน ๑
ปัญญาเสมอกัน ๑
ท่านว่า ถือไม้เท้ายอดทองกระบอกยอดเพชร พบกันทุกชาติ
_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2007, 12:11 pm
สาธุ สาธุ สาธุ
และขอบคุณค่ะ...คุณ I am ที่นำสาระเพิ่มเติมมาฝากกัน
ธรรมะสวัสดีค่ะ
วรนิษฐา
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2008
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): ราชบุรี
ตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 3:01 pm
จะทำอย่างไรดีเมื่อเราแต่งงานกับคู่ครองของเราและคิดว่าเราเป็นคู่บุญกัน คือร่วมสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันในทางพระพุทธศาสนาด้วยกันมาตลอด ระยะเวลาหลายปี และแล้วได้มีเหตุปัจจัยให้สามีได้พบกับเนื้อคู่ลำดับต้นอีกคนหนึ่ง โดยที่สามีต้องทุกข์ใจมากที่สุด พยายามหักพยายามฝืนใจแต่ไม่สามารถทำได้ต้องรักกันอีก และด้วยกรรมตกแต่งอีกเช่นกันเราทั้งสามรับราชการอยู่ที่เดียวกัน ปัจจุบันสามียังอยู่กับเราและยังต้องคอยไปหาผู้หญิงอีกคนอยู่เป็นประจำ เราจึงอยู่ในฐานะเมียหลวงและมีอีกคนเป็นเมียน้อยให้คนนินทากัน ถ้าเราไม่ต้องการเกิดมาพบกับความรักแบบนี้อีกในชาติหน้าเราควรทำอย่างไร และปัจจุบันเราควรทำอย่างไรดี
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 11:27 pm
ได้ความรู้ดีค่ะ อนุโมทนาบุญด้วย
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th