Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ถ้าผิดศีล 5 แต่มีเจตนาเป็นกุศล มันจะบาปได้ยังไง? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 8:34 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศีลข้อ 4 มุสาวาท มีองค์ 4 คือ

1.เรื่องไม่จริง

2. จิตคิดจะกล่าวให้คลาดเคลื่อน

3. มีความพยายามเกิดจากจิตที่คิดจะกล่าวให้คลาดเคลื่อนนั้น

4. ผู้อื่นเข้าใจความที่พูดนั้น
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 8:34 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศีลข้อ 5 สุราเมรัย ฯ มีองค์ 4 คือ

1. สิ่งนั้นเป็นของเมา

2. จิตใคร่จะดื่ม

3. มีความพยายามเกิดจากจิตที่ใคร่จะดื่มนั้น

4. กลืนให้ล่วงลำคอลงไป
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 9:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชัดเจนดีคับคุณกรัชกาย
ผิดศีลถือเป็นอกุศล ย่อมนำไปสู่ความเสื่อม


ว่าแต่ เพื่อผมถือศีลข้อนึง ไม่รู้ว่าอยู่ในบรรพไหน

"สุราเป็นระยาระยา ช้าๆนา ...."
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยุติธรรม พิมพ์ว่า:
คุณพลศักดิ์ให้ตัวอย่างพระเวสสันดรที่ยกลูกเมียให้คนอื่นเป็นกุศลใหญ่ แต่ชาวบ้านไปยกลูกเมีย
ให้ผู้อื่นเป็นบาปมาก

ดิฉันจึงมาคิดดู จริงๆ บาปบุญขึ้นอยู่กับเจตนาในจิตของผู้กระทำ

จิตที่มีเจตนาเป็นกุศล = บุญ
จิตที่มีเจตนาเป็นอกุศล = บาป

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาคือกรรม

ด้วยเหตุนี้ ดิฉันจึงคิดว่า คุณพลศักดิ์พูดถูกแล้วค่ะ การกระทำอย่างเดียวกัน แต่เจตนาต่างกัน ผลจึงต่างกัน

ในกรณีพระเวสสันดร

ท่านทำผิดศีลด้วยเจตนากุศลจึงไม่ได้เป็นบาป แต่เป็นมหากุศล(บุญใหญ่)

ในกรณีคนทั่วไป

ผู้ทำการยกลูกเมียให้ผู้อื่น เจตนาเขาคือความเห็นแก่ตัว ความโลภ ฯลฯ
เจตนาเขาเป็นอกุศล
การทำผิดศีล 5 จึงเป็นบาป เรื่องนี้ถ้ามีทิฏฐิมานะย่อมไม่มีทางเข้าใจ ถ้าถอนทิฏฐิมานะ จะเข้าใจชัดเจน
ทันที


ทอดทิ้ง ---> บาป
ยกให้(ทุกคนเห็นชอบ)เป็นทาน ยกให้เพื่อทำประโยชน์ ---> บุญ

การยกลูกเมียให้ชูชกเป็นการให้ทาน พระเวสสสันดรพิจารณาแล้วว่ายกให้เพื่ออะไร ลูกเมียเห็นชอบด้วยแล้ว เหตุใดจึงจะเป็นบาปได้
ศีลห้าไม่มีเรื่องการยกลูกเมียให้ผู้อื่นครับ ไม่มีการทำบุญโดยการผิดศีลห้า จะสรุปว่าผิดศีลห้าโดยเจตนาเป็นกุศลแล้วไม่บาป ยังไม่ได้ครับ
รบกวนช่วยแสดงตัวอย่างอื่นด้วยครับ ตัวอย่างนี้ผมขอแย้งจริงๆ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ ชัดเจนดีครับท่านกรัชกาย
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 8:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณยุติธรรมครับ



คุณเข้าใจถูกแล้วครับ



คุณเมธีครับ



คุณยังไม่เข้าใจเรื่องบุญ-บาป คุณยุติธรรมพูดถูกแล้ว

จิตที่มีเจตนาเป็นกุศล = บุญ
จิตที่มีเจตนาเป็นอกุศล = บาป

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาคือกรรม

ในกรณีพระเวสสันดร

ท่านทำผิดศีลด้วยเจตนากุศลจึงไม่ได้เป็นบาป แต่เป็นมหากุศล(บุญใหญ่)

ในกรณีคนทั่วไป

ผู้ทำการยกลูกเมียให้ผู้อื่น เจตนาเขาคือความเห็นแก่ตัว ความโลภ ฯลฯ
เจตนาเขาเป็นอกุศล
การทำผิดศีล 5 จึงเป็นบาป เรื่องนี้ถ้ามีทิฏฐิมานะย่อมไม่มีทางเข้าใจ ถ้าถอนทิฏฐิมานะ จะเข้าใจชัดเจน
ทันที
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 8:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

natdanai พิมพ์ว่า:
สาธุ สาธุ ชัดเจนดีครับท่านกรัชกาย



สมัครเป็นหน้าม้าเมื่อไรครับ เข้าใจที่คุณกรัชกายพูดจริงหรือ ไหนทั้งคุณและคุณกรัชกายช่วยอธิบาย
หน่อยได้ไหมว่า ชาวบ้านเขาก็ยกลูกเมียให้คนอื่นทำไมเป็นบาปเล่า


ผมจะอธิบายให้ฟัง ชาวบ้านก็ยกให้เหมือนพระเวสสันดร แต่จิตตอนที่ยกให้ต้องการได้เงินจากคนอื่น
เป็นความเห็นแก่ตัว แต่จิตพระเวสสันดรไม่มีความเห็นแก่ตัวแบบนั้น ยอมทนทุกข์จากการสูญเสีย
ลูกเมีย แต่ชาวบ้านไปขายลูกกิน ขายเมียกิน เพื่อให้ตนเองได้เงิน

ที่คุณกรัชกายพูดนั้นไร้สาระสิ้นดี

ทอดทิ้ง ---> บาป
ยกให้(ทุกคนเห็นชอบ)เป็นทาน ยกให้เพื่อทำประโยชน์ ---> บุญ


เอาลูกเมียให้คนอื่น คนอื่นเอาไปต้องเอาไปทำประโยชน์อยู่แล้ว จึงเป็นบุญไม่ได้

ที่เป็นบุญ-บาป ก็คือจิตใจของผู้ยกให้ ถ้าเสียสละของที่รักให้คนอื่น = บุญใหญ่

ถ้าจิตใจของผู้ยกให้ไปเอาประโยชน์จากของที่รัก เป็นการขาย เป็นการเอาประโยชน์เข้าตัวเอง ไม่เห็น
แก่เพื่อนมนุษย์= บาป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 8:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ย้ำ!


เอาลูกเมียให้คนอื่น คนอื่นเอาไปต้องเอาไปทำประโยชน์อยู่แล้ว จึงเป็นบุญไม่ได้

ที่เป็นบุญ-บาป ก็คือจิตใจของผู้ยกให้

ถ้าเสียสละของที่รักให้คนอื่น = บุญใหญ่

ถ้าจิตใจของผู้ยกให้ไปเอาประโยชน์จากของที่รัก เป็นการขาย เป็นการเอาประโยชน์เข้าตัวเอง ไม่เห็น
แก่เพื่อนมนุษย์= บาป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 11:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ท่านพลศักดิ์ครับ

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า:
natdanai พิมพ์ว่า:
สาธุ สาธุ ชัดเจนดีครับท่านกรัชกาย



สมัครเป็นหน้าม้าเมื่อไรครับ เข้าใจที่คุณกรัชกายพูดจริงหรือ ไหนทั้งคุณและคุณกรัชกายช่วยอธิบาย
หน่อยได้ไหมว่า ชาวบ้านเขาก็ยกลูกเมียให้คนอื่นทำไมเป็นบาปเล่า


ผมจะอธิบายให้ฟัง ชาวบ้านก็ยกให้เหมือนพระเวสสันดร แต่จิตตอนที่ยกให้ต้องการได้เงินจากคนอื่น
เป็นความเห็นแก่ตัว แต่จิตพระเวสสันดรไม่มีความเห็นแก่ตัวแบบนั้น ยอมทนทุกข์จากการสูญเสีย
ลูกเมีย แต่ชาวบ้านไปขายลูกกิน ขายเมียกิน เพื่อให้ตนเองได้เงิน

ที่คุณกรัชกายพูดนั้นไร้สาระสิ้นดี

ทอดทิ้ง ---> บาป
ยกให้(ทุกคนเห็นชอบ)เป็นทาน ยกให้เพื่อทำประโยชน์ ---> บุญ


เอาลูกเมียให้คนอื่น คนอื่นเอาไปต้องเอาไปทำประโยชน์อยู่แล้ว จึงเป็นบุญไม่ได้

ที่เป็นบุญ-บาป ก็คือจิตใจของผู้ยกให้ ถ้าเสียสละของที่รักให้คนอื่น = บุญใหญ่

ถ้าจิตใจของผู้ยกให้ไปเอาประโยชน์จากของที่รัก เป็นการขาย เป็นการเอาประโยชน์เข้าตัวเอง ไม่เห็น
แก่เพื่อนมนุษย์= บาป


กระผมเองมิได้เป็นหน้าม้าให้ครัยหรอกครับ...กระผมเองเพียงพิจารณาข้อความของท่านกรัชกายว่า ผิดศีลแบบมีเจตนานั้นพิจารณายังไงจึงเรียกว่ามีเจตนา ซึ่งกระผมว่ามันก็สมเหตุผลดีครับ ความจริงแล้วผมว่ามันก็สอดคล้องกับสิ่งที่ท่านกล่าวนะครับ...หรือท่านเห็นแตกต่างอย่างไรในประเด็นนี้ก็ขอท่านให้ความรู้แก่กระผมด้วยครับ สาธุ สาธุ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 12:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า:
natdanai พิมพ์ว่า:
สาธุ สาธุ ชัดเจนดีครับท่านกรัชกาย



สมัครเป็นหน้าม้าเมื่อไรครับ เข้าใจที่คุณกรัชกายพูดจริงหรือ ไหนทั้งคุณและคุณกรัชกายช่วยอธิบาย
หน่อยได้ไหมว่า ชาวบ้านเขาก็ยกลูกเมียให้คนอื่นทำไมเป็นบาปเล่า


ผมจะอธิบายให้ฟัง ชาวบ้านก็ยกให้เหมือนพระเวสสันดร แต่จิตตอนที่ยกให้ต้องการได้เงินจากคนอื่น
เป็นความเห็นแก่ตัว แต่จิตพระเวสสันดรไม่มีความเห็นแก่ตัวแบบนั้น ยอมทนทุกข์จากการสูญเสีย
ลูกเมีย แต่ชาวบ้านไปขายลูกกิน ขายเมียกิน เพื่อให้ตนเองได้เงิน

ที่คุณกรัชกายพูดนั้นไร้สาระสิ้นดี

ทอดทิ้ง ---> บาป
ยกให้(ทุกคนเห็นชอบ)เป็นทาน ยกให้เพื่อทำประโยชน์ ---> บุญ


เอาลูกเมียให้คนอื่น คนอื่นเอาไปต้องเอาไปทำประโยชน์อยู่แล้ว จึงเป็นบุญไม่ได้

ที่เป็นบุญ-บาป ก็คือจิตใจของผู้ยกให้ ถ้าเสียสละของที่รักให้คนอื่น = บุญใหญ่

ถ้าจิตใจของผู้ยกให้ไปเอาประโยชน์จากของที่รัก เป็นการขาย เป็นการเอาประโยชน์เข้าตัวเอง ไม่เห็น
แก่เพื่อนมนุษย์= บาป


เอ่อ ขำ ทอดทิ้ง ---> บาป (ทอดทิ้งก็คือไม่ปฏิบัติในหน้าที่ที่สมควรปฏิบัติต่อกัน) ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับที่เป็นบาป

ยกให้(ทุกคนเห็นชอบ)เป็นทาน ยกให้เพื่อทำประโยชน์ ---> บุญ (ความหมายที่อ่านดูก็คือ ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรนี่ครับ ไม่ได้เกิดจากกิเลส เป็นการเสียสละ) ก็ต้องเป็นบุญอยู่แล้ว

ผมอ่านดูกี่ทีๆ ก็ความหมายเดียวกับคุณพลศักดิ์นี่ครับ ความหมายเดียวกัน ยังไม่เห็นว่าจะต่างกันตรงไหน

ผมเห็นด้วยที่ว่าการกระทำใดๆ ที่มีเจตนาเป็นกุศล ย่อมมีส่วนของกุศลเกิดขึ้นด้วยเสมอ แต่ยังไม่ขอแสดงความเห็นใดๆเพิ่งเติม เกี่ยวกับการผิดศีลห้าแล้วไม่เป็นบาป (หมายถึงได้แต่ผลบุญส่วนเดียว) ขอดูตัวอย่างที่ท่านๆยกมา กรณีพระเวสสันดรไม่ได้เป็นการผิดศีลห้าด้วยนี่ครับ ถือว่าเป็นอีกกรณีนึง

สุดท้าย ผม เมธี เป็นคนพิมพ์เรื่องที่คุณพลศักดิ์ตอบครับ ไม่ใช่คุณกรัชกาย รบกวนลองย้อนไปอ่านอีกที

ผมย้อนไปดูอีกที กลัวพลาด แต่จำได้นะว่าเป็นผมอ่ะ ยิ้มเห็นฟัน

สาธุครับ สาธุ

สู้ สู้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 12:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านไปอ่านมาอีกที จริงๆ เริ่มจากคุณ natdanai เข้าใจว่าเปนคุณกรัชกายน่ะครับ

ไม่เปนไรครับ ไม่ว่ากัน ผิดพลาดกันได้

ขำๆนะครับ ผมแซวเล่น สู้ สู้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 1:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมสงสารคนป่วยคนหนึ่ง
เขาทรมานมากจากมะเร็ง กินน้ำสักจิบก็ไม่ได้ เจ็บปวดที่สุด
ผมสงสาร อยากเห็นเขาพ้นจากความทนมาน เจตนาผมบริสุทธิ์

ผมเลยฆ่าเขาเสีย
- ด้วยการฉีดยาสลบเข้าสายน้ำเกลือ 1 เข็มก่อน
- พอเขาเคลิ้มหลับ ผมก็ฉีดเข้าสายน้ำเกลืออีก คราวนี้ฉีด 10 เท่าของปกติ


ผู้ป่วยตาย โดยปราศจากความทรมาน

ถามว่า ผมได้บุญ หรือได้บาป


ในมุมคุณพลศักดิ์ ผมได้บุญใหญ่นะ เจตนาผมดี
แต่นั่นแหละ ผมไม่ใช่พระอรหันต์ คุณพลศักดิ์เลยวินิจฉัยให้ผมได้บาป

เฮ้อ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 8:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ"คามินธรรม" ครับ



มโนธรรมของคุณจะบอกเองว่า ถูกหรือผิด เจตนาของคุณเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลได้ถูกบันทึกในจิต
ไว้แล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้


ผมเคยเล่าเรื่องผู้หญิงที่นอกใจสามีไปขายตัว เพราะสามีพิการและลูกต้องจ่ายค่าเทอม พระยายมราช
ตัดสินให้ขึ้นสวรรค์ขั้นดาวดึง แม่ชีที่ถอดจิตลงไปดูในนรกเล่าให้ฟัง แม่ชีเขาก็งงเหมือนกันว่า ผิดศีล
ข้อ 3 ชัดเจน ทำไมตัดสินให้ไปสวรรค์ได้

คำตอบมีอยู่อย่างเดียว เจตนาของผู้หญิงไม่ได้ต้องการนอกใจสามี ต้องการหาเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูก
และหาเงินเลี้ยงผัวที่พิการ

ถ้าผมตัดสินคุณ ผมจะตัดสินให้คุณไปเกิดใหม่ หัดทำกรรมฐานใหม่จนเห็นดวงตาธรรม รู้ซึ้งในสอน
ของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ไปจดจำแบบนกแก้วนกขุนทอง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 9:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า:
คุณ"คามินธรรม" ครับ



มโนธรรมของคุณจะบอกเองว่า ถูกหรือผิด เจตนาของคุณเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลได้ถูกบันทึกในจิต
ไว้แล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้


ผมเคยเล่าเรื่องผู้หญิงที่นอกใจสามีไปขายตัว เพราะสามีพิการและลูกต้องจ่ายค่าเทอม พระยายมราช
ตัดสินให้ขึ้นสวรรค์ขั้นดาวดึง แม่ชีที่ถอดจิตลงไปดูในนรกเล่าให้ฟัง แม่ชีเขาก็งงเหมือนกันว่า ผิดศีล
ข้อ 3 ชัดเจน ทำไมตัดสินให้ไปสวรรค์ได้

คำตอบมีอยู่อย่างเดียว เจตนาของผู้หญิงไม่ได้ต้องการนอกใจสามี ต้องการหาเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูก
และหาเงินเลี้ยงผัวที่พิการ

ถ้าผมตัดสินคุณ ผมจะตัดสินให้คุณไปเกิดใหม่ หัดทำกรรมฐานใหม่จนเห็นดวงตาธรรม รู้ซึ้งในสอน
ของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ไปจดจำแบบนกแก้วนกขุนทอง


ดีจังเลยนะคับ

ผมฆ่าคนป่วย ผมได้บุญใหญ่ ขึ้นสวรรค์

แต่ก่อนขึ้นสวรรค์ต้อง่ติดคุกแน่นอน
เพราะผิดกฏหมาย ซึ่งคือผลกรรมจากการฆ่าเขา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด

แต่เรื่องตัดสินผมนี่
คุณพลศักดิ์ทำให้ผมไม่ได้แน่นอน
เพราะคุณพลศักดิ์เป็นพระพุทธเจ้าเสียเอง
จะมาเป็นพยายมทำไม
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 9:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16890&postdays=0&postorder=asc&start=0

เรื่องที่คุณพลศักดิ์เคยเล่าไว้ เกี่ยวกับผู้หญิงขายตัว เพราะสามีถูกรถชน ต้องหาเงินจ่ายค่าเทอม

ผมขอถามเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ

แล้วสมมุติว่าพระยายมราชมี แล้วท่านใช้อะไรตัดสินครับ ว่าพิการแค่ไหนถึงยอมรับได้ว่าหมดหนทางทำมาหากินแล้ว ลูกต้องเรียนระดับไหนครับ ค่าเทอมแพงมากน้อยมีผลไหมครับ แล้วคนที่เขาเลือกสู้ชีวิตไม่ขายตัวล่ะครับ ผลตอบแทนคืออะไรครับ แล้วถ้าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นๆฟังเยอะๆ เท่ากับเป็นการสนับสนุนให้ขายตัวเปล่าครับ

ผมว่า คนที่สู้ชีวิตไม่ยอมจำนนแก่ชะตากรรม ไม่ยอมขายศักดิ์ศรีตัวเองและครอบครัว น่ายกย่องมากกว่านะครับ ถึงแม้ว่าในกรณีนี้อาจมองได้ว่าหมดหนทาง(ผมสงสารนะครับ) ก็เถอะ สาธุ


กระทู้นั้นคุยกันจนผมลืมเรื่องนี้ไป

สัญญาไม่เที่ยงจริงๆ ยิ้มเห็นฟัน

คุณคามินธรรม

เดี๋ยวผมช่วยตั้งกระทู้ใหม่ให้ นกแก้วนกขุนทอง กับ ตัดสินผู้อื่นด้วยความคิดตนเอง ดีไหมครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 9:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คามินธรรม พิมพ์ว่า:
ผมสงสารคนป่วยคนหนึ่ง
เขาทรมานมากจากมะเร็ง กินน้ำสักจิบก็ไม่ได้ เจ็บปวดที่สุด
ผมสงสาร อยากเห็นเขาพ้นจากความทนมาน เจตนาผมบริสุทธิ์

ผมเลยฆ่าเขาเสีย
- ด้วยการฉีดยาสลบเข้าสายน้ำเกลือ 1 เข็มก่อน
- พอเขาเคลิ้มหลับ ผมก็ฉีดเข้าสายน้ำเกลืออีก คราวนี้ฉีด 10 เท่าของปกติ


ผู้ป่วยตาย โดยปราศจากความทรมาน

ถามว่า ผมได้บุญ หรือได้บาป


ในมุมคุณพลศักดิ์ ผมได้บุญใหญ่นะ เจตนาผมดี
แต่นั่นแหละ ผมไม่ใช่พระอรหันต์ คุณพลศักดิ์เลยวินิจฉัยให้ผมได้บาป

เฮ้อ


ผมขออนุญาต วินิจฉัยคุณ คามินธรรมนะครับ

คิดว่าคุณคามินธรรม คงมีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว

แต่ผมขอแสดงความคิดเห็นของผม เพื่อให้ท่านๆได้พิจารณาแนะนำนะครับ

คุณคามินธรรม ได้บุญ แน่นอน ครับ แต่เป็นส่วนของความเมตตากรุณา
และก็ได้บาปด้วยแน่นอนครับ เพราะฆ่าคนตาย เราไม่รู้หรอกว่าจริงๆคนป่วยอาจไม่อยากตายก็ได้ หรือถ้าอยากตายก็อาจอยากเห็นหน้าคนรักก่อนก็ได้ ซึ่งคุณคามินธรรมชิงฏชฆ่าเขาก่อน ทำให้เขาเสียใจและโกรธแค้นได้ ถึงคุณรู้แน่ๆว่าเขาอยากตายเองแน่ๆ แล้วพี่น้องเขาก็ต้องไม่พอใจแน่นอนใช่ไหมครับ อย่างน้อยก็เป็นการสร้างความอาฆาตให้กับพี่น้องเขาได้(บางคนนะ)

ที่ถูกต้อง แน่นอนครับ ด้วยความเมตตา กรุณาที่มี ต้องช่วยบรรเทาทุกข์ให้เขา ถึงที่สุดแล้วก็ต้องวางอุเบกขา

จิตที่เป็นกุศลจำเป็นต้องมีปัญญาประกอบ และก็ไม่ต้องทำให้ตนเองประพฤติผิดธรรมด้วย

ผลบุญผลบาปมากน้อยขึ้นกับเจตนาและความพยายามนั้น ไปนรกสวรรค์นั้นว่ากันอีกทีตอนดับจิต

ผิดถูกโปรดชี้แนะครับ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
guest
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 9:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมธี แปลว่า นักปราชญ์
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 9:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณคุณเมธีนะครับ

ความจริงเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เกิดหรอกครับ
คนปกติ เขาไม่อุตริทำแบบนี้

พูดภาษาปากว่า เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เกิดกับคนปกติ (ไม่บ้า)

แหม ... พระอรหันต์ที่ไหนจะมากินเหล้า ควักลูกตา ฆ่าตัวตาย

พระอรหันต์เขาไม่มีตันหาเดือดร้อนเลยต่างหาก
เขาจึงไม่มีทางวุ่นวายเรื่องพวกนี้

พระอรหันต์แบบพิศดาร ต่างหาก ถึงไปวุ่นวายเรื่องแบนั้น

แม่นบ่
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

guest พิมพ์ว่า:
เมธี แปลว่า นักปราชญ์



ชื่อความหมายดีน่ะครับ แม่ตั้งให้

แต่ผมมันโง๊โง่น่ะครับ ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คามินธรรม พิมพ์ว่า:
ขอบคุณคุณเมธีนะครับ

ความจริงเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เกิดหรอกครับ
คนปกติ เขาไม่อุตริทำแบบนี้

พูดภาษาปากว่า เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เกิดกับคนปกติ (ไม่บ้า)

แหม ... พระอรหันต์ที่ไหนจะมากินเหล้า ควักลูกตา ฆ่าตัวตาย

พระอรหันต์เขาไม่มีตันหาเดือดร้อนเลยต่างหาก
เขาจึงไม่มีทางวุ่นวายเรื่องพวกนี้

พระอรหันต์แบบพิศดาร ต่างหาก ถึงไปวุ่นวายเรื่องแบนั้น

แม่นบ่


ผมก็ว่าแหละครับใครเขาจะทำ แต่รู้สึกว่าจะมีนะครับ แบบว่า สมองตายหรืออะไรสักอย่างเนี่ยแหละครับผมไม่ชัวร์ แล้วนานเกินระยะเวลานึง แต่แพทย์ต้องถามความสมัครใจของญาติก่อน

ส่วนเรื่องพระอรหันต์ ผมว่าก็พิศดารนะครับ เท่าที่อ่านดูประวัติสมัยพุทธการ พระอรหันต์ทั้งหลายก็ปกตินะครับ มากกว่านี้ผมไม่ค่อยทราบน่ะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง