ขอคำแนะนำ อยากเปลี่ยนตัวเองค่ะ

ตอบเมื่อ: 03 มิ.ย.2008, 5:01 pm

มีปัญหาที่ทำงานค่ะ เพราะว่าดิฉันเป็นแฟนเจ้าของบริษัทเลยทำให้ต้องว่างตัวกับลูกน้องบ้าง ส่วนแฟนของดิฉันนั้นเค้าเป็นคนที่ friendly มากๆ ซึ่งดีนะค่ะ ลูกน้องมีความสุขลูกน้องขอให้เลี้ยงก็เลี้ยงตามใจดี แต่ไม่มากค่ะ
ปัญหาอยู่ที่ตัวดิฉันเอง ลูกน้องที่อายุเท่ากันมี 1 คนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เค้าขายเก่งค่ะเพราะรู้จักคนเยอะ พอเค้าขายได้มากขึ้นเค้าก็มั่นใจแสดงความคิดเห็นเยอะต่ะ พูดจาบางครั้งมั่นใจมาก จนทำให้รู้สึกว่าน่าหมั่นไส้ บางครั้งดิฉันเลยต้องพูดเบรกลักษณะตลกไป แต่พอมากๆเข้ารู้สึกไม่ดี มันบอกไม่ถูอ่ะค่ะความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกแบบ anty เลยทำตัวแปลกๆในบางครั้ง แฟนดิฉันก็ว่า
ยกตัวอย่างนะค่ะ
เค้าชวนน้องๆที่ออฟฟิศไปกินไอศครีมกันหมดเลยค่ะ พูดหลายครั้งและดังด้วยค่ะ แต่คิดว่าเค้าคงไม่ได้คิดอะร แฟนดิฉันก็พูดแบบว่าอยากไปด้วยมาก ขอเค้าไปด้วย จนดิฉันหมั่นไส้เลยพูดแบบกัดแบบตลกๆว่า " ไม่เป็นหรอกเราไปกินกันสองคนน่าจะสนุกกว่า " เค้าก็แบบอึ้งนิดๆนะค่ะ ส่วนแฟนดิฉันสิพอลับหลังเค้าก็ว่าดิฉันว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น มันฟังดูไม่ดีเลย และๆๆๆๆ เฮ้อ เหนื่อยค่ะ... ไม่อยากเป็นอย่างนี้เลย
ดิฉันว่าดิฉันไม่ได้คิดไปเองนะ มันรู้สึกว่าเค้าอิจฉาเราน่ะค่ะ แบบเรามาคุยให้น้องที่บริษัทฟังนะว่าไปดูหนังมาสนุกดีไปดูสิ ตอนแรกเค้าบอกว่าเค้าไม่ชอบดู แต่พอเราดูหลายเรื่องเข้านะค่ะ เค้าก็มาพูดว่าเค้าไปดูมาแล้วเหมือนกัน และเค้าก็พยายามดูทุกเรื่องที่เข้าใหม่ค่ะ ทุกเรื่องจริงๆจนเรางงอ่ะ อย่างเรื่องบ้านก็เหมือนกัน เราซื้อบ้านใหม่ในหมู่บ้านนึง เคาก็ชวนให้เพื่อนมาทำงานใกล้ๆกัน ตอนแรกก็เช่าห้องอยู่ แต่ก็มาถามเราบ่อยมากว่าที่หมู่บ้านเรามีบ้านว่างให้เช่ารึเปล่า ถามตลอดเลยค่ะ แต่พอไม่ได้ก็ย้ายมาเช่าทาวเฮ้าอยู่ แต่ก็ยังมาพูดตลอดเลยนะค่ะว่า จะซื้อบ้าน ไปดูที่โน่นมาที่นี่มาดีมากๆ แฟนเราก็เหรอมีแบบนี้ด้วยเหรอ เราฟังแล้วรู้สึกอ่ะค่ะ (ผู้หญิงความรู้สึกไวค่ะ เข้าใจหน่อยนะค่ะ) ไม่อยากเป็นแบบนี้ มีใครให้ข้อคิดได้บ้างค่ะ ไม่อยากเป็นอย่างนี้ค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้า

ตอบเมื่อ: 03 มิ.ย.2008, 8:09 pm

อาการหมั่นไส้ เมื่อก่อนคุณไม่มีอาการนี้นะครับ แต่เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นจึงเกิดอาการดังกล่าวขึ้น

เมื่อฉุกคิดได้และรู้สึกตัวว่า เออ..พฤติกรรมนี้ไม่เหมาะกับเรานะไม่ดีเลย เราเป็นเจ้านายเค้า เจ๋ง

เราก็ถอยความรู้สึกนึกคิดกลับไปจุดเริ่มต้น เมื่อครั้งพฤติกรรมเช่นนั้นไม่เกิดแก่เรา
นี่อย่างหนึ่ง

อีกอย่างหนึ่ง เมื่อพนักงาน คนนั้น คุยเรื่องที่ทำให้เรานึกหมั่นไส้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับงานเราก็ลุกไปทำงานอย่างอื่นให้พ้นๆ เสียงเธอเสีย

หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงาน ก็ทำใจนึกกรุณาสงสารประมาณว่า โอ หนอ...เธอคงต้องการแสดงให้คนอื่นรู้เห็นว่าตนเก่งมีความสามารถ ฯลฯ คุณก็พูดชมเค้าเสียหน่อย ประโยชน์ก็ตกอยู่กับบริษัทเรา

ส่วนเรื่องส่วนตัวของเค้า เป็นต้นว่าเรื่องซื้อบ้านช่องห้องหอ ก็เออๆหนอๆกับเขาไป
เหมือนแฟนคุณทำนั่นแหละ หากทำใจได้นะครับ

เมื่อยังทำใจไม่ได้ (อายุเท่ากันทิฏฐิเกิด) ไม่อยากเออไม่อยากหนอ (หมั่นไส้) ก็เดินหลบไปเสียเอง เพื่อไม่ให้จิตสั่งสมสิ่งที่เราไม่ต้องการไว้มากขึ้นจนเกิดความเคยชิน แล้วเราจะมองไม่เห็นว่าสิ่งใดถูก-ผิด ในวันข้างหน้าครับ

ตอบเมื่อ: 04 มิ.ย.2008, 2:04 pm

ต้องพยายามปรับปรุง เรื่องการวางตัวเราเองให้เป็นที่เคารพนับถือของลูกน้องก่อน

พยายามมีความหนักแน่นเรื่องอารมณ์ และมีสติ เมื่อจะพูดจะทำอะไรให้มากขึ้น

ค่อยพยายามสังเกตข้อบกพร่อง ข้อเสีย ข้อด้อย ผิดถูก ของตัวเองให้ออก แล้วค่อยๆ แก้ไข
สิ่งใดเมื่อเห็นว่า ไม่ดีไม่ควร แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ก็พยายามแก้ไขปรับปรุงไม่ให้พลาดทำซ้ำอีก

เสียนิดเสียน้อย ก็ปล่อยให้เสียไป แต่อย่าเสียความน่านับถือ

ธรรมะที่ควรนำมาใช้มากที่สุดคือ "ขันติ คือความอดทนอดกลั้น" นั้นเอง

สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 05 มิ.ย.2008, 10:07 am

ขอบคุณมากค่ะ เตือนสติได้มาก และตอนนี้กำลังทำอยู่ทุกวันค่ะหลังจาหที่โพสต์ขึ้มา พยายามคุยและหัวเรากับน้องในออฟฟิศ แปลกทุกคนก็หัวเราะกับเราค่ะ รู้สึกดีมากๆ รวมทั้งคนนั้นด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้นานมั้ย จะพยายามค่ะ และจะคิดว่า เราเป็นเจ้าของความคิดของเราเอง เพราะฉะนั้นมันจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ตัวเราค่ะ สู้ สู้

แปลกนะค่ะ เวลารู้สึกไม่สบายใจ นึกถึงเวปไซต์นี้ทุกทีเลยค่ะ ที่พึ่งทางใจจริงๆ สาธุ

ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2008, 9:31 pm

ลองเลิกคิดว่าเค้าอายุเท่ากับเราสิคะ
คิดว่าเค้าเป็นเด็กที่อยากเรียกร้องความสนใจคนนึง อาจทำให้เราวางตัวได้ง่ายขึ้น
หมั่นไส้เด็ก กับหมั่นไส้ผู้ใหญ่ที่เท่าเทียมกันนี่ อารมณ์น่าจะแตกต่างกันเยอะนะคะ ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 07 มิ.ย.2008, 2:00 pm

ประเด็นแรก "ไม่มีผู้ใดไม่ถูกนินทา"

ประเด็นสอง "ก่อจุดแข็ง ทำให้มาก สม่ำเสมอ"

ประเด็นสาม "โลกธรรม ลาภ ยศ ชื่อเสียง ผู้ใด ไม่ต้องไปอยากได้ ไปคิดขโมย ดิสเครดิต ไม่ใช่ "โจร" ไม่ต้องไปยุ่ง

ประเด็นสี่ "จิตมันพลิกกลับ ก็ พลิกคืนให้ดี ไม่พอใจ ก็ไป ใคร่ควรรำไร ก่อวัชพืช ที่เคยมีก็ถอน เบียงเลี่ยงออก เอาดีเข้าไปสู้ ยากลำบาก แต่ได้ดี"

ประเด็นห้า "ทาน ศีล ภาวนา กับ คู่ชีวิต ไม่เสมอ ก็ไม่ต้องไปสน ทำดี ก็ อนุโมทนา ไม่ต้องไปขัด อยู่กันได้"

ปล.ไม่เกี่ยวกับหัวกระทู้ โพสต์เล่นๆ ไม่ต้องคิดมาก ..

ตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 1:38 am

อ่านแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ถ้าเปลี่ยนต้องเปลี่ยนให้ดีขึ้น เปลี่ยนไม่เปลี่ยนอยู่ที่ตัวท่านเอง งงๆ (เกิดจากการอิจฉา, การหึงหวงกัน รึเปล่า)

เจริญในธรรมดีกว่าท่าน สาธุ