ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:16 pm |
  |
ผมถกกับคุณแอ๊บแบ้วในอีกเว็บ ผมเห็นว่ามีประโยชน์ เลยนำมาลงในเว็บนี้ด้วย
คุณ...เขาอ้างว่า
กุศล = บุญ
อกุศล = บาป
กุศลกรรม ออกมาจาก กุศลเจตนา
อกุศลกรรม ออกมาจาก อกุศลเจตนา
สรุปว่า
....เจตนาคือกรรม(ต้นของการกระทำ)
กล่าวได้ว่า กายมีจิตเป็นใหญ่มีจิตเป็นประธาน
คุณเอ๊บแบ๊วครับ
ผมเลยแย้งเขาไปว่า งั้นช่วยตอบหน่อย ถ้าผิดศีล 5 แต่มีเจตนาเป็นกุศล มันจะบาปได้ยังไง?
และคุณ...ก็อ้างว่า
๑ พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านแนะนำสั่งสอนไว้ว่า ดูก่อนอานนท์ พระธรรมและพระวินัยนั้นแลจะเป็นศาสดาของ
เธอทั้งหลายแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว นี่สำคัญมาก เป็นพระวาจาของพระองค์
๒ ศีล เป็นรั้วกั้นสองฟากทางไม่ให้ข้ามออกไปตกเหวตกบ่อเป็นอันตราย ให้อยู่ในกรอบของศีล เรียกว่า อยู่
ในเขตแห่งความปลอดภัย
................................................................................
ข้อคิดเห็น
จากเหตุผลข้อ ๑
...พระธรรมวินัยใดที่พระพุทธองค์ทรงตรัส ห้ามมิให้กระทำ
เช่น ศีล ๕ , ศีล๘ , ศีลพระปาฏิโมกข์ ที่ทรงบัญญัติไว้ว่าไม่ให้กระทำสิ่งใดอันเป็นการล่วงละเมิดบทบัญญัติ
แห่งศีล ฯลฯ
ผมเลยชี้แนะเขาด้วยความเคารพว่า
ผู้ที่กล้าผิดธรรมวินัยเรื่องศีล 5 และศีล 8 ด้วยเจตนาอันเป็นกุศล จึงเป็นบุญใหญ่ เป็นมหากุศล ต่อไปจะได้ดวง
ตาธรรม ดังเช่น
พระอรหันต์จี้กง ผิดธรรมวินัย กินเนื้อหมา และดื่มเหล้าไปเลย
พระโพธิสัตว์กวนอิม ควักดวงตาให้บิดาเพื่อปรุงยาวิเศษไปเลย
ศีล 5 เป็นของปถุชน ถ้าไปยึดไว้โดยไม่เข้าใจที่มาของบุญ - บาป ก็อยู่แค่สวรรค์ครับ |
|
แก้ไขล่าสุดโดย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เมื่อ 07 ส.ค. 2008, 4:58 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
  |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:45 pm |
  |
พระพุทธเจ้าตรัสว่า เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาคือกรรม
เจตนาจริงๆต้องมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะทำ(ฆ่า)หรือไม่ทำ(ฆ่า) แต่ถ้าเป็นหน้าที่ เช่น เพชรฆาต หรือ
ทหาร เขาไม่มีสิทธิเลือก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บาปจากการฆ่าคน
สำหรับคนที่ฆ่าคนอื่น ด้วยเจตนาบริสุทธิ์จริงๆว่า เขาฆ่าเพื่อพระเจ้า เขามีที่ไปคือ สวรรค์
พรหมโลก หรือไม่ก็นิพพาน
เพราะเขายอมฝืนมโนธรรมในใจตัวเองว่า อย่าฆ่าคนอื่น แต่เขาเชื่อ/ศรัทธา มีเจตนาโดยบริสุทธิ์จริงๆว่า
ตัวเองวทำเพื่อพระเจ้า
แต่ถ้าเจตนาของเขาจริงๆ ต้องการฆ่าเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นคือ บาป |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 4:51 pm |
  |
เรียนถามท่านพลศักดิ์ครับ
ข้อความของท่าน
สำหรับคนที่ฆ่าคนอื่น ด้วยเจตนาบริสุทธิ์จริงๆว่า เขาฆ่าเพื่อพระเจ้า เขามีที่ไปคือ สวรรค์
พรหมโลก หรือไม่ก็นิพพาน
1. อันนี้จะเหมือนองคุลีมาลหรือเปล่าครับ ? ที่ฆ่าเพื่อเจตนาจะสำเร็จวิชาสุดยอดเพื่อจะนำวิชาที่ว่าไปช่วยเหลือบ้านเมือง
2. แล้วการที่มีศรัทธาแบบนี้มันแปลกๆครับ กระผมสงสัยว่าพระเจ้าจะมีความต้องการให้คนฆ่ากันด้วยหรือครับ
3. หากเป็นเช่นนั้น ตามข่าวที่เราเคยเห็นกันมาบ้างที่มีชาวต่างชาติที่คลั่งลัทธิแล้วทำการสังหารหมู่ แล้วก็บอกว่าทำตามบัญชาของพระเจ้า คนพวกนี้จะได้ไปในที่ดีด้วยหรือครับ
4. และหากเป็นอย่างนี้ พวกก่อการร้ายที่คลั่งลัทธิ พวกนี้ก็ไปอยู่บนสวรรค์หมดน่ะสิครับ |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 5:08 pm |
  |
natdanai พิมพ์ว่า: |
เรียนถามท่านพลศักดิ์ครับ
ข้อความของท่าน
สำหรับคนที่ฆ่าคนอื่น ด้วยเจตนาบริสุทธิ์จริงๆว่า เขาฆ่าเพื่อพระเจ้า เขามีที่ไปคือ สวรรค์
พรหมโลก หรือไม่ก็นิพพาน
1. อันนี้จะเหมือนองคุลีมาลหรือเปล่าครับ ? ที่ฆ่าเพื่อเจตนาจะสำเร็จวิชาสุดยอดเพื่อจะนำวิชาที่ว่าไปช่วยเหลือบ้านเมือง
....ไม่ใช่ครับ เจตนาขององคุลิมาลมีความโลภอยกสำเร็จวิชา กล้าเบียดเบียนสัตว์อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
มโนธรรมในใจมาห้ามเขา เขาก็ไม่ได้สน จะฆ่าลูกเดียว จิตของเขาเป็นอกุศล
2. แล้วการที่มีศรัทธาแบบนี้มันแปลกๆครับ กระผมสงสัยว่าพระเจ้าจะมีความต้องการให้คนฆ่ากันด้วยหรือครับ
.....พระเจ้าภาคหนึ่งก็คือ พระพุทธเจ้า
3. หากเป็นเช่นนั้น ตามข่าวที่เราเคยเห็นกันมาบ้างที่มีชาวต่างชาติที่คลั่งลัทธิแล้วทำการสังหารหมู่
แล้วก็บอกว่าทำตามบัญชาของพระเจ้า คนพวกนี้จะได้ไปในที่ดีด้วยหรือครับ
.....เราไม่รู้เจตนาในจิตจริงๆของเขาว่าเป็นอย่างไร
4. และหากเป็นอย่างนี้ พวกก่อการร้ายที่คลั่งลัทธิ พวกนี้ก็ไปอยู่บนสวรรค์หมดน่ะสิครับ |
.....เราไม่รู้เจตนาในจิตจริงๆของเขาว่าเป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะไปค้นดู ผมจำได้ว่า คนที่เชื่อ/ศรัทธาพระพุทธเจ้า
คนหนึ่งอย่างจริงๆ แล้วเชือดคอตาย คือ พระวักกริ พระพุทธเจ้าตรัสยืนยันเองว่า ท่านไปนิพพาน |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 5:13 pm |
  |
ขอบคุณครับ กระผมจะเก็บไว้พิจารณาครับ  |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 5:24 pm |
  |
คัดจาก กว่าจะถึงอรหันต์ http://www.asoke.info/09Communication/DharmaPublicize/Sanasoke/sa259/073.html
เช้าวันรุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเรียกภิกษุ ทั้งหลายมา แล้วรับสั่งว่า
"ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจง
พากันไปหาวักกลิภิกษุถึงที่อยู่ แล้วจงบอกอย่างนี้ว่า เมื่อคืนมี เทวดาตนหนึ่ง ทูลกับพระศาสดาว่า
วักกลิภิกษุ กำลังคิด เพื่อความหลุดพ้น แต่มีเทวดาอีกตนหนึ่งทูลว่า วักกลิภิกษุนั้น หลุดพ้นดีแล้ว
จะหลุดพ้นได้แน่แท้
ส่วนพระศาสดาเอง ได้ตรัสฝากให้ท่านว่า อย่ากลัวเลยวักกลิ เธอจะมีความตายอันไม่ต่ำช้า
จะมีความตาย อันไม่เลวทรามเลย"
ภิกษุเหล่านั้นรับพระดำรัสแล้ว ก็พากันไปหาวักกลิภิกษุถึงที่อยู่ เพื่อบอกเล่าคำของพระศาสดา วักกลิภิกษุ
ให้เพื่อนๆ ช่วยกันอุ้มตน ลงจากเตียง เพราะคิดด้วยศรัทธายิ่งว่า
"ภิกษุเช่นเรา จะนั่งอยู่บนที่นั่งสูง
แล้วฟังคำสั่งสอนของพระศาสดานั้น ไม่สมควรเลย"
วักกลิภิกษุ ได้ฟังแล้ว ก็บอกกับเหล่าภิกษุนั้นว่า
"พวกท่านช่วยกันไปทูลพระศาสดา ตามคำพูดของผมด้วยว่าวักกลิภิกษุอาพาธเป็นไข้หนัก ได้รับ
ทุกขเวทนา กล้าเหลือเกิน ขอถวายบังคมลา เบื้องพระยุคลบาท ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพระองค์ไม่เคลือบแคลงว่า รูป (เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ) ไม่เที่ยง ไม่สงสัยว่า
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ ไม่สงสัยว่า สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ความพอใจก็ตาม ความกำหนัดก็ตาม ความรักใคร่ก็ตามในสิ่งนั้นๆ มิได้มีแก่ข้าพระองค์แล้ว"
ภิกษุเหล่านั้นรับคำของพระวักกลิเถระ เมื่อภิกษุเหล่านั้นออกจากที่นั้นแล้ว พระวักกลิเถระ
ก็นำเอาศัสตรา (อาวุธมีคม) มาปาดคอตัวเอง
เมื่อภิกษุเหล่านั้นกลับมากราบทูลตามคำของพระวักกลิเถระแล้ว พระศาสดารีบรับสั่งว่า
"ไปกันเถิด พวกเราพากันไปหาวักกลิ"
พอไปถึงวิหารกาฬสิลา พระศาสดาได้ทอดพระเนตรเห็น พระวักกลิเถระ นอนคอพับ อยู่บนเตียงนั้นเอง
ที่ตรงนั้น มองเห็น มีกลุ่มควันลอยอยู่ ลอยไปทิศนั้นทิศนี้สับสนทั่ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอมองเห็นกลุ่มควันเหล่านั้น ลอยอยู่อย่างสับสนวุ่นวายหรือไม่"
"เห็น พระเจ้าข้า"
"นั่นแหละคือ มารใจหยาบช้า เที่ยวค้นหาวิญญาณของวักกลิ ด้วยคิดว่าวิญญาณ ของวักกลินั้น
อยู่ที่แห่งไหนหนอ แต่ที่แท้ วิญญาณของวักกลินั้น ไม่ได้ตั้งอยู่ในที่ใด เพราะวักกลิ เป็นพระอรหันต์
ปรินิพพาน (ดับวิญญาณ) แล้ว"
ดังนั้น ทรงประกาศท่ามกลางหมู่สงฆ์ ทรงแต่งตั้งให้พระวักกลิเถระ เป็นผู้เลิศกว่า ภิกษุทั้งหลาย ที่หลุด
พ้นกิเลส ได้ด้วยศรัทธา |
|
|
|
  |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 5:34 pm |
  |
ย้ำ! พระพุทธองค์ ทรงประกาศท่ามกลางหมู่สงฆ์ ทรงแต่งตั้งให้พระวักกลิเถระ เป็นผู้เลิศกว่า ภิกษุทั้งหลาย
ที่หลุดพ้นกิเลส ได้ด้วยศรัทธา
ถามว่าพระพุทธองค์ทรงยุยงส่งเสริมให้วักกลิฆ่าตัวตาย ใช่หรือไม่ แล้วพวกที่ยุยงให้ลูกศิษย์
ฆ่าตัวตาย ถ้าลูกศิษย์เขาเชื่อ/ศรัทธาอย่างจริงใจ เขาย่อมไปสวรรค์มิใช่หรือ |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 9:36 am |
  |
ท่านพลศักดิ์ครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องทีแนะนำให้พิจารณา กระผมพิจารณาได้ว่าอย่างนี้ครับ
"พวกท่านช่วยกันไปทูลพระศาสดา ตามคำพูดของผมด้วยว่าวักกลิภิกษุอาพาธเป็นไข้หนัก ได้รับ
ทุกขเวทนา กล้าเหลือเกิน ขอถวายบังคมลา เบื้องพระยุคลบาท ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพระองค์ไม่เคลือบแคลงว่า รูป (เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ) ไม่เที่ยง ไม่สงสัยว่า
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ ไม่สงสัยว่า สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ความพอใจก็ตาม ความกำหนัดก็ตาม ความรักใคร่ก็ตามในสิ่งนั้นๆ มิได้มีแก่ข้าพระองค์แล้ว"
พระวักกลิ จิตท่านก้าวพ้นความตาย(เข้าถึงความเป็นอมตะ)แล้วครับ หากพิจารณาจากข้อความข้างต้น ฉะนั้นการกระทำของพระวักกลินั้นจึงไม่เป็นบาปเพราะไม่ได้ฆ่าใคร แต่ทำไปเพื่อดับเวทนาเท่านั้นครับ
ผิดพลาดยังไงก็แนะนำด้วยนะครับท่าน |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 9:38 am |
  |
พระวักกลิเถระ ท่านบรรุอรหันต์ก่อนที่ที่ท่านจะดับขันธ์(โดยการปาดคอ) มิใช่เพราะศรัทธาแล้วจึงปาดคอ แต่ท่านปาดคอเพราะท่านจะดับขันธ์แล้ว
(พรวักกลิเถระ ปาดคอ กระผมขอเรียกว่าดับขันธ์นะครับ ไม่อยากเรียกว่าฆ่าตัวตาย เพราะไม่เหมือนกับการทำให้ตายของคนทั่วๆไป ซึ่งตายแล้วก็ยังต้องไปเกิด เพราะยังไม่หมดกิเลส)
ท่านหลุดพ้นกิเลส ได้ด้วยศรัทธาต่อองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าใช่ไหมครับ มิใช่เพราะปาดคอ แล้วจึงบรรลุอรหันต์
การที่ท่านดับขันธ์ มิได้ประกอบไปด้วย อกุศล (โลภะ โทสะ โมหะ) แล้ว ดังนั้นไม่ขอเรียกว่าเป็นกรรมแล้ว
ผมเข้าใจแบบนี้ถูกต้องรึเปล่าครับ รบกวนช่วยชี้แนะด้วย
ที่คุณพลศักดิ์กล่าวว่าถ้าผิดศีลห้า แต่เจตนาเป็นกุศลจะบาปได้อย่างไร
อันนี้ผมเข้าใจแล้วครับ ว่าถ้าเจตนาเป็นกุศล ก็คงไม่บาป แต่ผมมองว่าคนส่วนใหญ่ที่ยังไม่บรรลุธรรมย่อมกระทำการใดๆลงไปโดยมี โลภะ โทสะ โมหะ นำไป เช่น ทำเพื่อต้องการไปสวรรค์ (ความอยาก เป็น โลภะ)
อย่างนี้รึเปล่าครับ
ผิดถูกอย่างไรรบกวนชี้แนะด้วย
อ้อ เรื่องพระอรหันต์จี้กง กับ พระโพธิสัตว์กวนอิม มาจากทางนิกายมหายานใช่ไหมครับ พอดีผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดน่ะครับ เลยไม่ได้ตอบ
ความเห็นเดิมที่คุณพลศักดิ์ ผม และท่านอื่นๆแสดงไว้ ผมขออนุญาตเอาลิ้งค์มาแปะไว้ด้วยนะครับ ท่านอื่นจะได้หลายๆความเห็นไว้พิจารณา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16890&postdays=0&postorder=asc&start=0 |
|
|
|
    |
 |
ยุติธรรม
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 02 ส.ค. 2008
ตอบ: 26
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 9:45 am |
  |
ดิฉันเห็นกระทู้ใหม่ในเว็บพลังจิต อยากถามว่าคุณพลศักดิ์คือ คนดีโลกลืม ที่เขียนกระทู้นี้หรือเปล่าคะ?
ถ้าดวงตาธรรมของท่านเปิดแล้ว ท่านจะเข้าใจเรื่องนี้
--------------------------------------------------------------------------------
สัมมาทิฐิ กับ มิจฉาทิฐิ ยากที่จะมีใครรู้ นอกจากจิตตัวเองระงับราคะ โทสะ โมหะ ได้ มองดูจึงจะรู้
ความดี คนดีทำง่าย ความดี คนชั่วทำยาก ความชั่ว คนชั่วทำง่าย แต่อารยชน ทำความชั่วได้ยาก ฯ
แล้วใครคือ คนดี ใครคือ คนชั่ว ?
กุศล = บุญ
อกุศล = บาป
พระพุทธเจ้าตรัสว่า เจตนาคือกรรม
แล้วกุศลเจตนา ออกมาจากกุศลจิต ไปทำผิดศีล 5 ก็ต้องเป็นบุญใหญ่ ใช่ไหมครับ?
อกุศลเจตนา ออกมาจาก อกุศลจิต ไปทำผิดศีล 5 ก็ต้องเป็นบาปใช่ไหมครับ?
...... สิ่งที่องคุลีมาลทำในอดีต นั่นคือบาปอย่างชัดเจน ไม่มีการฆ่าครั้งไหนของท่านที่จิตเป็นกุศลเลย
จิตของท่านต้องการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น จึงเรียกว่า บาป โดยเฉพาะครั้งแรกๆ ทุกคนต้องมีมโนธรรม
ในจิตว่าไม่ฆ่าคนอื่น แต่องคุลีมาลฝืนมโนธรรมตัวเอง เพราะความโลภอยากได้วิชาสูงสุด
...... พระแท้ โดดน้ำลงไปช่วยผู้หญิงที่จมน้ำ พระเทียม ยืนดูเฉยๆ ปล่อยให้ผู้หญิงจมน้ำ
เพราะตนเองกอดคัมภีร์ไว้แน่น
ผิดศีล 5 ถ้ามีเจตนาเป็นกุศล เป็นบุญใหญ่ ไม่ใช่บาป
ผิดศีล 5 ถ้ามีเจตนาเป็นอกุศล เป็นบาป |
|
|
|
  |
 |
ยุติธรรม
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 02 ส.ค. 2008
ตอบ: 26
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 11:17 am |
  |
ตัวอย่างของคนดีโลกลืมในเว็บพลังจิตเขาดีนะ เข้าใจได้ง่ายๆ
พวกท่านเหล่านี้ เจตนาผิดศีลโดยมีจิตเป็นอกุศล หรือผิดศีลโดยมีจิตเป็นกุศล?
พระอรหันต์จี้กง ท่านดื่มเหล้า กินเนื้อหมา พระโพธิสัตว์กวนอิม ควักลูกตาให้พระบิดาปรุงยาเลย
พระญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน นั่งกรรมฐานสละชีวิตให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ประเทศ
รอดพ้นจากภัยแล้งครั้งใหญ่ ร่างของท่านยังไม่เน่าเปื่อยเลย แม้ผ่านมาหลายร้อยปี ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่น
ลองถามวัดที่เก็บร่างพระองค์นี้ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็จำไม่ได้แล้ว |
|
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 11:39 am |
  |
ยุติธรรม พิมพ์ว่า: |
ตัวอย่างของคนดีโลกลืมในเว็บพลังจิตเขาดีนะ เข้าใจได้ง่ายๆ
พวกท่านเหล่านี้ เจตนาผิดศีลโดยมีจิตเป็นอกุศล หรือผิดศีลโดยมีจิตเป็นกุศล?
พระอรหันต์จี้กง ท่านดื่มเหล้า กินเนื้อหมา พระโพธิสัตว์กวนอิม ควักลูกตาให้พระบิดาปรุงยาเลย
พระญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน นั่งกรรมฐานสละชีวิตให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ประเทศ
รอดพ้นจากภัยแล้งครั้งใหญ่ ร่างของท่านยังไม่เน่าเปื่อยเลย แม้ผ่านมาหลายร้อยปี ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่น
ลองถามวัดที่เก็บร่างพระองค์นี้ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็จำไม่ได้แล้ว |
กุศล แต่ขาดปัญญา ก็ม่ายหวายนะคับนี่
อ่านพระเวสสันดร 500 ชาติบ้างก็ดี
จะได้รู้ว่าพระพุทธเจ้าใช้ 500 วิธีในการเข้าถึงนิพพาน
วิธีที่คุณยุติธรรมนำมาเล่าสู่กันฟังนั้น พระพุทธเจ้าทำมาแล้วทั้งสิ้น
แต่สรุปว่าไม่ได้ผลเลย ได้แต่กุศลบารมีเท่านั้น
ชาติสุดท้ายลองวิธีสติปัฏฐานถึงได้แจ้งในพระนิพพาน |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 12:00 pm |
  |
ยุติธรรม พิมพ์ว่า: |
ตัวอย่างของคนดีโลกลืมในเว็บพลังจิตเขาดีนะ เข้าใจได้ง่ายๆ
พวกท่านเหล่านี้ เจตนาผิดศีลโดยมีจิตเป็นอกุศล หรือผิดศีลโดยมีจิตเป็นกุศล?
พระอรหันต์จี้กง ท่านดื่มเหล้า กินเนื้อหมา พระโพธิสัตว์กวนอิม ควักลูกตาให้พระบิดาปรุงยาเลย
พระญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน นั่งกรรมฐานสละชีวิตให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ประเทศ
รอดพ้นจากภัยแล้งครั้งใหญ่ ร่างของท่านยังไม่เน่าเปื่อยเลย แม้ผ่านมาหลายร้อยปี ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่น
ลองถามวัดที่เก็บร่างพระองค์นี้ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็จำไม่ได้แล้ว |
ตัวอย่างพระอรหันต์จี้กง กับพระโพธิสัตว์กวนอิม ผมไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดน่ะครับ แต่น่าจะแสดงให้เห็นว่าอย่าไปยึดติดกับสิ่งที่เห็นจากภายนอก ใช่ไหมครับ ตัวอย่างเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ต้องใช้ปัญญาวิเคราะห์ ถ้าเอาตัวอย่างนี้ไปแสดงให้คนที่เขาปัญญายังไม่ถึงขั้น ก็อาจทำให้เขาเข้าใจผิดได้ ผู้ที่เข้าใจแล้วผมขออนุโมทนาด้วย แต่เราต้องระวังในการเอาตัวอย่างส่วนนี้ไปอธิบายผู้อื่นน่ะครับ
ตัวอย่างของพระพุทธเจ้า น่าจะชัดเจน เข้าใจได้ง่ายกว่า และก็ไม่น่าจะทำให้ผู้ที่ขาดปัญญาอย่างถ่องแท้เข้าใจผิดไปได้
ผิดถูกชี้แนะด้วยครับ
 |
|
|
|
    |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 11:35 pm |
  |
ยุติธรรม พิมพ์ว่า: |
ดิฉันเห็นกระทู้ใหม่ในเว็บพลังจิต อยากถามว่าคุณพลศักดิ์คือ คนดีโลกลืม ที่เขียนกระทู้นี้หรือเปล่าคะ?
|
คนดีโลกลืม คือ ผม (พลศักดิ์) ใบไม้นอกกำมือครับ |
|
|
|
  |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 11:40 pm |
  |
คามินธรรม พิมพ์ว่า: |
ยุติธรรม พิมพ์ว่า: |
ตัวอย่างของคนดีโลกลืมในเว็บพลังจิตเขาดีนะ เข้าใจได้ง่ายๆ
พวกท่านเหล่านี้ เจตนาผิดศีลโดยมีจิตเป็นอกุศล หรือผิดศีลโดยมีจิตเป็นกุศล?
พระอรหันต์จี้กง ท่านดื่มเหล้า กินเนื้อหมา พระโพธิสัตว์กวนอิม ควักลูกตาให้พระบิดาปรุงยาเลย
พระญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน นั่งกรรมฐานสละชีวิตให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ประเทศ
รอดพ้นจากภัยแล้งครั้งใหญ่ ร่างของท่านยังไม่เน่าเปื่อยเลย แม้ผ่านมาหลายร้อยปี ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่น
ลองถามวัดที่เก็บร่างพระองค์นี้ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็จำไม่ได้แล้ว |
กุศล แต่ขาดปัญญา ก็ม่ายหวายนะคับนี่
อ่านพระเวสสันดร 500 ชาติบ้างก็ดี
จะได้รู้ว่าพระพุทธเจ้าใช้ 500 วิธีในการเข้าถึงนิพพาน
วิธีที่คุณยุติธรรมนำมาเล่าสู่กันฟังนั้น พระพุทธเจ้าทำมาแล้วทั้งสิ้น
แต่สรุปว่าไม่ได้ผลเลย ได้แต่กุศลบารมีเท่านั้น
ชาติสุดท้ายลองวิธีสติปัฏฐานถึงได้แจ้งในพระนิพพาน |
ระดับพระอรหันต์จี้กง โดยเฉพาะพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านนะหรือไม่มีปัญญา ความรู้ทางธรรมของคุณ
ห่างจากท่านราวฟ้าดิน ปัญญาของพระโพธิสัตว์กวนอิมบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นสัพพัญญู
คุณนึกว่าคุณรู้ แท้จริงคุณไม่รู้อะไรเลย ไปยึดว่าสิ่งนั้นเป็นกุศล สิ่งนี้เป็นอกุศล ไปได้แค่สวรรค์เท่านั้น
ระดับโลกุตตรธรรม บุญกุศลมันไม่มี ไปยึดไว้ย่อมไม่บรรลุธรรมขั้นอรหันต์ |
|
แก้ไขล่าสุดโดย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เมื่อ 08 ส.ค. 2008, 11:47 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
  |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 11:43 pm |
  |
เมธี พิมพ์ว่า: |
ยุติธรรม พิมพ์ว่า: |
ตัวอย่างของคนดีโลกลืมในเว็บพลังจิตเขาดีนะ เข้าใจได้ง่ายๆ
พวกท่านเหล่านี้ เจตนาผิดศีลโดยมีจิตเป็นอกุศล หรือผิดศีลโดยมีจิตเป็นกุศล?
พระอรหันต์จี้กง ท่านดื่มเหล้า กินเนื้อหมา พระโพธิสัตว์กวนอิม ควักลูกตาให้พระบิดาปรุงยาเลย
พระญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน นั่งกรรมฐานสละชีวิตให้เจ้ากรรมนายเวรของชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ประเทศ
รอดพ้นจากภัยแล้งครั้งใหญ่ ร่างของท่านยังไม่เน่าเปื่อยเลย แม้ผ่านมาหลายร้อยปี ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่น
ลองถามวัดที่เก็บร่างพระองค์นี้ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็จำไม่ได้แล้ว |
ตัวอย่างพระอรหันต์จี้กง กับพระโพธิสัตว์กวนอิม ผมไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดน่ะครับ แต่น่าจะแสดงให้เห็นว่าอย่าไปยึดติดกับสิ่งที่เห็นจากภายนอก ใช่ไหมครับ ตัวอย่างเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ต้องใช้ปัญญาวิเคราะห์ ถ้าเอาตัวอย่างนี้ไปแสดงให้คนที่เขาปัญญายังไม่ถึงขั้น ก็อาจทำให้เขาเข้าใจผิดได้ ผู้ที่เข้าใจแล้วผมขออนุโมทนาด้วย แต่เราต้องระวังในการเอาตัวอย่างส่วนนี้ไปอธิบายผู้อื่นน่ะครับ
ตัวอย่างของพระพุทธเจ้า น่าจะชัดเจน เข้าใจได้ง่ายกว่า และก็ไม่น่าจะทำให้ผู้ที่ขาดปัญญาอย่างถ่องแท้เข้าใจผิดไปได้
ผิดถูกชี้แนะด้วยครับ
 |
ผู้ที่ไปยึดศีล 5 ย่อมไม่สามารถบรรลุอรหันต์ ผู้ที่บรรลุอรหันต์ย่อมไม่ยึดศีล 5
ปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆ วันนี้คุณยังไม่เข้าใจ แต่วันนึงคุณจะเข้าใจที่ผมชี้แนะ |
|
|
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
09 ส.ค. 2008, 12:09 am |
  |
คุณพลศักดิ์ ครับ
พระวักกลิ มีสองรูปครับ
องค์ที่คุณพลศักดิ์กล่าวถึง ไม่ได้เป็น เอตทัคคะทางศรัทธาวิมุติ ครับ
องค์ที่เป็น เอตทัคคะทางศรัทธาวิมุติ มีประวัติอย่างนี้ครับ
23-พระวักกลิเถระ
เอตทัคคะในทางศรัทธาวิมุตติ
พระวักกลิ เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในเมืองสาวัตถุ ได้ศึกษาศิลปะวิทยา จบไตรเพท
ตามความนิยมของลัทธิพราหมณ์
บวชเพราะอยากชมพระรูปโฉม
สมัยหนึ่ง เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จสู่พระนครสาวัตถีพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์วักกลิมาณพ
นั้น เป็นผู้มีอุปนิสัยหนักไปในทางราคจริตรักสวยรักงาม พอได้เห็นพระรูปโฉมอันสง่างาม ผิว
พรรณผ่องใส พระอิริยาบถก็เหมาะสมไปทุกท่วงท่า จึงเกิดศรัทธาเลื่อมใสและรักใคร่ไม่รู้จักเบื่อ
หน่าย ในการดูพระวรกาย พยายามวนเวียนมาเฝ้าดูอยู่เป็นนิตย์ ผลที่สุดก็เกิดความคิดว่า “ถ้าเรา
บวชก็จะได้ตามดูพระวรกายของพระพุทธองค์ ได้อย่างใกล้ชิดและตลอดเวลา” เมื่อคิดดังนี้
แล้ว จึงเข้าไปกราบทูลขอบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา และพระบรมศาสดาก็ประทาน
ให้สมประสงค์
เมื่อท่านบวชแล้วก็มิได้ใส่ใจในการที่จะศึกษาพระธรรมวินัย ไม่มีการสาธยายท่องบ่น
ไม่บำเพ็ญเพียรพระกรรมฐาน ทุกวันเวลามีแต่มัวเมาเฝ้าดูพระรูปโฉมของพระพุทธองค์มิได้
ละเว้น พระพุทธองค์เองก็มิได้รับสั่งว่ากล่าวแต่ประการใด ในเบื้องต้น ครั้นกาลเวลาผ่านไป
พระองค์ตรัสเตือนให้พระวักกลิ เลิกละการเที่ยวติดตามดูร่างกายอันจะเน่าเปื่อยนั้นเสีย และทรง
ชี้ทางให้ท่านกลับมาใส่ใจบำเพ็ญสมณธรรมด้วยพระดำรัสว่า:-
“ดูก่อนพระวักกลิ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเชื่อว่าเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม”
พระวักกลิ แม้ว่าพระพุทธองค์จะตรัสเตือนอย่างนั้นแล้ว ท่านก็ยังปฏิบัติเช่นเดิม พระผู้
มีพระภาคจึงมีพระดำริว่า:-
“ภิกษุนี้ ถ้าไม่ได้รับความสลดใจเสียบ้าง ก็จะไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไรเลย”
ถูกขับไล่ไปโดดเขาตาย
ครั้นมีพระดำริอย่างนี้แล้ว เมื่อใกล้จะถึงวันเข้าพรรษา พระองค์ได้เสด็จไปสู่
พระนครราชคฤห์โดยมีพระวักกลิ ยังคงติดตามดูพระองค์อยู่ตลอดเวลา จึงตรัสเรียกให้
พระวักกลิ เข้ามาเฝ้า และตรัสประณามขับไล่เธอออกไปเสียจากสำนักของพระองค์ด้วย
พระดำรัสว่า:-
“อเปหิ วกฺกลิ : ดูก่อนวักกลิ เธอจงออกไปจากสำนักของเรา”
พระวักกลิ เมื่อได้ฟังพระดำรัสนั้นแล้ว ไม่ทันจะตั้งสติได้ คิดอะไรไม่ออก จึงเกิดความ
น้อยใจและเสียใจเป็นอย่างมาก คิดว่าพระบรมศาสดาคงจะไม่เมตตาทักทายปราศรัยกับเราอีก
แล้ว เราก็คงจะไม่ได้เห็นพระวรกายรูปโฉมของพระพุทธองค์อีกแล้ว เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ทำไม จึงออกจากพระเวฬุวันมหาวิหาร หมายใจว่าจะไปกระโดดภูเขาคิชฌกุฏ เพื่อฆ่าตัวตาย
พระบรมศาสดา เมื่อตรัสขับไล่เธอไปแล้ว ก็ทรงติดตามดูวารจิตและการกระทำของเธอ
ก็จะตายแน่นอน จึงแสดงพระองค์ปรากฏให้เธอเห็นพร้อมทั้งตรัสเรียกชื่อว่า “วักกลิ” แล้ว
ตรัสปลอบใจด้วยธรรมกถา พระวักกลิ ก็เกิดปีติปราโมทย์รื่นเริงบันเทิงใจ จึงรีบมาเข้าเฝ้า
พระบรมศาสดาโดยทางอากาศพิจารณาพระโอวาทที่ตรัสสอน ข่มปีติลงได้แล้ว ก็ได้บรรลุ
พระอรหัตผลพร้อมทั้งปฏิสัมภิทาบนอากาศนั้น แล้วลงมากราบถวายบังคมพระบรมศาสดา
ด้วยความที่ท่านเป็นผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้า อาศัยศรัทธาเป็นสื่อนำ จนสามารถได้บรรลุ
เป็นพระอรหันต์ได้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุ
ทั้งหลาย ในทาง ศรัทธาวิมุตติ คือ ผู้หลุดพ้นจากกิเลสด้วยศรัทธา [/code] |
|
|
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
09 ส.ค. 2008, 12:37 am |
  |
คุณพลศักดิ์ ครับ
ตามที่คุณว่า การผิดศีลที่มีเจตนาเป็นกศุลไม่บาปนั้น
ผมขอแย้งครับ
การผิดศีล ถ้าไม่มีเจตนา ไม่เป็นบาปครับ
เช่นเดินไปบนถนน แล้วเหยียบมดตายอย่างนี้ ไม่มีเจตนา ไม่เป็นบาปครับ
การผิดศีล ที่มีเจตนาไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล
เป็นบาปทั้งนั้นครับ เพราะมีเจตนาเป็นองค์ประกอบ
ตัวอย่างเช่น
กรณีของทหารที่ ฆ่าข้าศึกในยามสงครามที่คุณว่าไม่บาป นั้น
เป็นบาปอย่างแน่นอนครับ
คุณต้องแยกขั้นของเจตนาให้ออกครับ
เพราะเป็นเจตนาต่างกรรมต่างวาระ
เจตนาที่ ๑
ต้องการให้ชาติบ้านเมืองสงบสุข จึงเสียสละให้ทานชีวิตตนเองแก่ชาติ นี้เป็นกุศลครับ
เจตนาที่ ๒
เจตนาตั้งใจฆ่านี้เป็นบาปครับ
ต้องได้รับผลกรรมนั้นอย่างแน่นอนครับ เพราะเป็นเจตนาไปแล้วครับ
ทีนี้มาพิจารณาว่า ทหารคนนี้ไม่ตกนรกได้ยังไง
อยู่ที่ว่าขณะตายทหารคนนี้มีจิตใจผ่องใสครับ จึงไปสู่สุขคติ
เพราะเค้าเชื่อว่าเค้าตายเพื่อชาติด้วยการให้ทานชีวิตของเค้าเป็นทานครับ เป็นกุศล
ทำให้จิตผ่องใส จึงไปสุขคติ ไม่ตกนรก
ส่วนเจตนาฆ่าเป็นบาปต้องติดตามตัวเค้าไปแน่นอนครับ
ส่วนกรณีของ พระวักกลิรูปที่คุณพลศักดิ์ยกขึ้นมา
ท่านจะปาดขอตนเอง ท่านก็ไม่เกี่ยวข้องกับบุญบาปแล้วครับ
เพราะท่านเป็น "ปุญญปาปปหิน บุคคล" (เป็นผู้ละซึ่งบุญและบาปเสียได้แล้ว)
ยกมาเป็นกรณีศึกษาในกระทู้นี้ไม่ได้ครับ คนละอย่างแล้วครับ |
|
|
|
  |
 |
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas
|
ตอบเมื่อ:
09 ส.ค. 2008, 1:32 am |
  |
ผิดศีลเป็นอกุศลเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเป็นกุศลได้โดยเด็ดขาด
ศีลแต่ละข้อมีองค์ประกอบเป็นหลักตัดสินว่าเป็นการล่วงละเมิดหรือไม่
ถ้ากล่าวว่าผิดศีลเป็นกุศล เข้าใจว่าเป็นศีลนอกพุทธศาสนา
สาธุกับคำอธิบายของคุณ guest ที่ถูกต้องตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาครับ  |
|
_________________ ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ |
|
  |
 |
kokorado
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
09 ส.ค. 2008, 4:33 am |
  |
โดยหลักการที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ผู้หมดกิเลสทำอะไรไม่บาปเป็นกิริยาเฉยๆ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดเอากิเลสออกจากใจให้หมด ชีวิตและโลกเป็นของกลวงไม่มีอะไรน่าสนใจ |
|
_________________ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม |
|
  |
 |
|