ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 12:56 pm |
  |
โปเต้ พิมพ์ว่า: |
สติในสติปัฏฐาน บางครั้งอาจธรรมดาจนเราคิดไปไม่ถึงก็ได้นะคะ
ไม่น่าจะต้องใช้ความเพียรในการ เพ่ง มากถึงขนาดนั้น
|
มันธรรมดามากจริงๆครับ
ธรรมดามากจริงๆ จนเราคิดไม่ถึงจริงๆ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 1:57 pm |
  |
คิดๆกัน ต่อไปนะคร้าบ  |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 2:33 pm |
  |
อ้าว คุณกรัชกาย ทำไมมาแค่นี้ล่ะครับ
ผมตอบไปแล้ว
ผมรอความเห็นของคุณอยู่นะครับ |
|
|
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 2:45 pm |
  |
อ้าวอาจารย์อย่าเพิ่งรีบไปไหนครับ
ยอดเยี่ยมจริงๆครับพี่ๆ อาจารย์ทั้งหลาย อ่านเพลินจริงๆ
รออ่านต่อ...  |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 2:58 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ขอเรียนคุณกรัชกายว่า เดิมทีผมยังไม่ปรารถนาจะเข้า โสดาบันในชาตินี้ ตอนนี้ถึงทางแยกว่า
จะไปทางไหนดี ระหว่าง
๑.มุ่งพิจารณาขันธ์เพื่อถอดถอนตนเองออกจากสักกายทิฏฐิ
๒.มุ่งให้ได้ฌานเพื่อเป็นวิหารธรรม แล้วสั่งสมบารมีต่อไป อีกไม่รู้กี่อสงขัย
ด้วยความมีครอบครัวและหน้าที่การงาน จึงยังเร่งความเพียรได้ไม่เต็มที่
ลูกก็ยังเพิ่ง ป.๒ ครับ ตอนตอบนี้ยังต้องทำงานเลยครับ
Guest : 06 สิงหาคม 2008, 9:05 pm |
ทีแรกว่าจะพักการตอบปัญหาลักษณะนี้สะที...แต่เห็นข้อความดังอ้างอิง
เป็นต้นแล้วอดสงสัยไม่ได้
ถามคุณ Guest ว่า สมมุติว่า คุณเป็นโสดาบันอย่างที่คุณเข้าใจ
จริงๆ คุณจะไปไหนครับ
แล้วสักกายทิฏฐิมันคืออะไรครับ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:04 pm |
  |
ท่านทั้งหลายครับ
ขออนุญาตคนรู้น้อยทางธรรมอย่างผมแสดงความคิดเห็น ไม่ทราบหลายท่านอ่านแล้วจะเป็นเรื่องน่าอายหรื่อไม่
อานาปานสติของผม
ผมเอาอย่างท่านพุทธทาสสอน และแปลงบ้างครับ
ผมจะใช้วิธีพิจารณาลมหายใจว่ายาว ว่าสั้น ว่าอ่อน ว่าแรง
แรกๆจะใช้วิธีนับตัวเลขกำกับจึงเกิดสมาธิ
แต่สุดท้ายหายหมดครับ ทั้งตัวเลข ทั้งความรู้ลึกลมหายใจสั้นและยาว |
|
|
|
   |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:07 pm |
  |
ผมยังไม่ได้โสดาบันครับ
หรือแม้แต่โสดาปัตติมรรค ก็ยังไม่ได้ครับ
โปรดทำความเข้าใจให้ดี อ่านให้ดีครับ
เดี๋ยวผมเสียหายครับ
รอนานแล้วครับ
เดี๋ยวไปรับลูกจากโรงเรียนก่อนครับ |
|
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:10 pm |
  |
กรัชกาย พิมพ์ว่า: |
....สักกายทิฏฐิมันคืออะไรครับ |
ขอแจมได้ป่ะ
ตามความเข้าใจของผม
คือจิตมันเข้าใจแจ่มแจ้งอย่างสิ้นสงสัยแล้วว่าอะไรคือรูป
เข้าใจแจ่มแจ้งนี้ ไม่ใช่แค่กายเรา แต่เข้าใจรูปทุกๆอย่าง
เป็นปัญญาของญาน ที่มันรู้ของมันเอง
เป็นปัญญาแท้ๆ ในความหมายเดียวกับ"พุทธ"
(รู้แบบพุทธะ แต่รู้ รู้ไม่เท่า... พุทธเจ้า)
สักกายะ.... ในที่นี้คือเอาความรู้ที่ว่านั้นน่ะ
มามองรูปธรรมของกายเรา
จิตที่รู้แจ้งแล้วในรูปธรรม มันมองกายแล้วมันก็เห็นเหมือนเดิม
ว่ากายก็แค่รูปธรรมหนึ่ง มีไตรลักษณ์ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:16 pm |
  |
mes พิมพ์ว่า: |
ท่านทั้งหลายครับ
ขออนุญาตคนรู้น้อยทางธรรมอย่างผมแสดงความคิดเห็น ไม่ทราบหลายท่านอ่านแล้วจะเป็นเรื่องน่าอายหรื่อไม่
อานาปานสติของผม
ผมเอาอย่างท่านพุทธทาสสอน และแปลงบ้างครับ
ผมจะใช้วิธีพิจารณาลมหายใจว่ายาว ว่าสั้น ว่าอ่อน ว่าแรง
แรกๆจะใช้วิธีนับตัวเลขกำกับจึงเกิดสมาธิ
แต่สุดท้ายหายหมดครับ ทั้งตัวเลข ทั้งความรู้ลึกลมหายใจสั้นและยาว |
เกิดสมาธิ หรือสงบแล้วใช่ไหมคับ นั่นแหละ ที่ต้องการจากการนับเลข หรือดุลมหายใจ
เราต้องการแค่นั้น เราต้องการความสงบ
พอได้ความสงบ เราก็จะเฝ้าดุความสงบ
ทีนี้ความสงบ มันจะเริ่มไม่สงบ มันจะมีภาพต่างๆนาๆ
ก็รับรู้ไปเรื่อยๆ ตกใจก้รู้ว่าตกใจ จิตมันคิดไปต่างๆนาๆก็รู้ว่าคิด
สักแต่ว่ารู้เฉยๆ รู้ไปเรื่อยๆ อะไรก้ช่าง รับรู้ไปเรื่อยๆ
แล้วพอทำบ่อยๆ จิตมันจะแข็งแรงเองคับ มันจะมีความรู้ ความคิดของมันเอง
จากนั้น จิตตัวรู้คุณ mes นี่มันจะทำงานเองของมัน
โดยไม่ต้องพึ่งตำราอะไรเลย
สำคัญว่า "รับรู้อย่างเดียว" |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 3:39 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
สำคัญว่า "รับรู้อย่างเดียว" |
ขอบคุณ คุณคามิน
ข้อความข้างต้นหมายถือการละเจตสิก คือ เวทนา สัญญา สังขาร
โดยเฉพาะสังขารมิให้เกิด ใช่ไหมครับ
คือจำกัดให้มีแต่วิญญาณ
ตรงท้ายนี้ขอแสดงความเห็นต่อให้จบว่า
จริงๆแล้วในทางปฏิบัติ ข้อความสีแดงที่ผมโพสนั้นไม่สำคัญ
จะรู้หรือไม่ จะถูกหรือผิด ไม่มีผลอะไรกับการปฏิบัติ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการปฏิบัติธรรม
บางครั้งการอยากรู้มากก็เป็นตัวถ่วง เช่นกัน
ประสบการณ์ของทุกท่านจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง |
|
|
|
   |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 4:13 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ผมยังไม่ได้โสดาบันครับ
หรือแม้แต่โสดาปัตติมรรค ก็ยังไม่ได้ครับ
โปรดทำความเข้าใจให้ดี อ่านให้ดีครับ
เดี๋ยวผมเสียหายครับ
guest: 07 สิงหาคม 2008, 3:07 pm |
สมมุตินะครับ สมมุติว่า=> ถามคุณ Guest ว่า สมมุติว่า
คุณเป็นโสดาบันอย่างที่คุณเข้าใจ
จริงๆ คุณจะไปไหนครับ (กรัชกาย : 07 สิงหาคม 2008, 2:58 pm)
เพราะอ่านคำปรารภ 2 ข้อของคุณแล้วดูกระไรกระไรอยู่ เช่นว่า =>
อ้างอิงจาก: |
เรียนคุณกรัชกายว่า เดิมทีผมยังไม่ปรารถนาจะเข้า โสดาบันในชาตินี้ ตอนนี้ถึงทางแยกว่า จะไปทางไหนดี ระหว่าง
๑.มุ่งพิจารณาขันธ์เพื่อถอดถอนตนเองออกจากสักกายทิฏฐิ
๒.มุ่งให้ได้ฌานเพื่อเป็นวิหารธรรม แล้วสั่งสมบารมีต่อไป อีกไม่รู้กี่อสงขัย
ด้วยความมีครอบครัว และ หน้าที่การงาน จึงยังเร่งความเพียรได้ไม่เต็มที่ ลูกก็ยังเพิ่ง ป.๒ ครับ ตอนตอบนี้ยังต้องทำงานเลยครับ |
เหมือนคิดว่ามีครอบครัวมีลูกแล้วเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม
จึงเกิดสับสนว่า จะเข้าโสดาบันดี หรือเอาฌานดี กึกกักๆ อยู่
เช่นว่าเป็นโสดาบันตูมขึ้นแล้วจะไปไหนต่อไหน....ครั้นจะมุ่งให้ได้
ฌาน....ก็อย่างว่า (ข้อ 2)
กรัชกายอ่านแล้วงง จึงถามดู ว่าเป็นโสดาบันแล้วจะไปไหนไปนิพพาน
หายวูบไปหรอไร
แล้วก็ถามพ่วงไปด้วยว่า สักกายทิฏฐิ คือ อะไร ในความเข้าใจของคุณ
guest |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 4:23 pm |
  |
mes พิมพ์ว่า: |
อ้างอิงจาก: |
สำคัญว่า "รับรู้อย่างเดียว" |
ขอบคุณ คุณคามิน
ข้อความข้างต้นหมายถือการละเจตสิก คือ เวทนา สัญญา สังขาร
โดยเฉพาะสังขารมิให้เกิด ใช่ไหมครับ
คือจำกัดให้มีแต่วิญญาณ
ตรงท้ายนี้ขอแสดงความเห็นต่อให้จบว่า
จริงๆแล้วในทางปฏิบัติ ข้อความสีแดงที่ผมโพสนั้นไม่สำคัญ
จะรู้หรือไม่ จะถูกหรือผิด ไม่มีผลอะไรกับการปฏิบัติ
...(ข้อความ)....
บางครั้งการอยากรู้มากก็เป็นตัวถ่วง เช่นกัน
...(ข้อความ)....
|
- ถูกแล้วคับ
ความจริงผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องภาษาแขกมากหรอกคับ ผมค่อนข้างจะงง
เลยฟังธงตรงตัวสีแดงที่บอกไม่ได้ ผมไม่แน่ใจจริงๆ
แต่แน่ใจที่สุด คือคำว่า "รับรู้อย่างเดียว"
เพราะลองไปอ่านพระสูตร แล้วเคี่ยวให้มันงวดๆ
มันจะเหลือแค่นี้เอง คือตามรู้ ตามดู ... ไปตามจริง ไม่ให้แทรกแทรง
แล้วปัญญาที่เกิดจากการตามรู้ตามดู มันจะมีคุณภาพขึ้นเป้นลำดับ
แล้วสุดท้าย ปัญญาตัวนั้นแหละ มันจะทำงานเองโดยอัติโนมัติ ไม่ว่าจะลืมตา ยืน เดิน นั่งนอน
ตามรู้ ตามดู ... ไปตามจริง ไม่ให้แทรกแทรง นี้
ถ้าคนได้ตาทิพย์แล้วใช้ตาทิพย์ ตั้งใจใช้เลยล่ะ
อันนี้คือความหลง ทำให้ปัญญาเสื่อมลง ... เพราะตันหามันชนะ
แต่บังเอิญได้เห็น ... บังเอิญตาทิพย์ได้ล่วงรู้ อันนี้ไม่เป้นไร
เพราะไม่ใช่เิกิดจากตันหาอยากใช้ตาทิพย์
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพระพุทธเจ้า ไม่ให้ใช้อิทธิฤทธิ์ ถ้าใช้แล้วจะเสื่อม
เสื่อมเพราะตันหามันมีอำนาจมากขึ้น ...
ใช่บ่อยๆ เพลิน........ นานเข้าก็กลับมาหลง
พบอะไรก็เฉยๆ ตามรู้ ตามดู .... ไปตามจริง
..................................................
ขอเสียงรับรองความถูกต้องด้วยคับผม
(เห็นด้วยมั๊ย ท่านทั้งหลาย ช่วยตรวจสอบด้วย) |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 4:33 pm |
  |
guest พิมพ์ว่า: |
ผมยังไม่ได้โสดาบันครับ
หรือแม้แต่โสดาปัตติมรรค ก็ยังไม่ได้ครับ
โปรดทำความเข้าใจให้ดี อ่านให้ดีครับ
เดี๋ยวผมเสียหายครับ
รอนานแล้วครับ
เดี๋ยวไปรับลูกจากโรงเรียนก่อนครับ |
ปล่อยไปตามมันจะเป้นเถิดพี่
โสดาบัน มันก็เหมือนคนปกตินี่แหละ ที่มีราคะ โทสะ โมหะ
และเป็นฆราวาสได้
แต่พี่จะเป้นฆาราวาสที่ดี
เป็นบุญของลูกเมียพ่อแม่ญาติพี่น้อง ที่ได้มีความสว่างอยู่ในครอบครัว
วันหนึ่ง ลูกๆอาจจะโตแล้วเขาก็ไปตามทางเขา
ลูกโตแล้วนั้น อาจจะสบโอกาศได้ปลีกตัวก็ได้
จะเบรกไว้ทำไม ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ขายโอ่ง (เรื่อยๆ) กันต่อไป |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ทศพล
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 10 ก.พ. 2008
ตอบ: 153
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 4:39 pm |
  |
เห็นด้วยครับคุณคามินธรรม  |
|
_________________ "ธรรมทาน คือ ทานอันสูงสุด"
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
http://www.wimutti.net |
|
     |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 5:24 pm |
  |
เห็นน้องคามินช่วยคุณ guest อธิบายคำว่า สักกายทิฏฐิ ได้ลางๆ แล้ว
แล้วคุณ guest ล่ะครับ เข้าใจคำว่า สักกายทิฏฐิที่ =>
(๑. มุ่งพิจารณาขันธ์ เพื่อถอดถอนตนเองออกจาก
สักกายทิฏฐิ)
อย่างไร ? ขอคำอธิบาย |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
โปเต้
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2008
ตอบ: 76
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 5:48 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ข้อความข้างต้นหมายถือการละเจตสิก คือ เวทนา สัญญา สังขาร
โดยเฉพาะสังขารมิให้เกิด ใช่ไหมครับ
คือจำกัดให้มีแต่วิญญาณ |
ขันธ์ 5 มันก็ทำงานตามหน้าที่ของมันไปค่ะ
จะไปบังคับไม่ให้มันเกิด คงเป็นไปไม่ได้
เมื่อมีสติ แยก ผู้รู้ และสิ่งที่ถูกรู้ออกได้ แล้วเฝ้าดูมันไปเงียบๆ
ปัญญาจะบอกเราเองค่ะ ตามระดับของอินทรีย์ที่ได้บ่มมา
เรื่องที่จะแทรกแซงหรือไม่ ก็ไม่ได้ซีเรียสจนถึงขนาดว่าต้องเพียรที่จะไม่แทรกแซงนะคะ
เหมือนกับตอนเราหัดขี่จักรยาน หรือเด็กหัดเดิน
จะบอกว่าอย่าหกล้มนะ ถ้าไม่หกล้มก็คือเดินได้แล้ว ก็ไม่ใช่
หกล้ม(แทรกแซง) ไปแล้ว ก็ให้รู้ว่าหกล้ม ลุกขึ้นเดินใหม่
ไม่งั้นก็จะเกร็งจนเดินไม่ได้เลย |
|
_________________ สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา |
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 7:04 pm |
  |
ขอบคุณความคิดเห็นของทุกท่านครับ |
|
|
|
   |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 8:22 pm |
  |
สักกายทิฏฐิในความเข้าใจของผมก็เป็นตามตำรานั่นล่ะครับ
จะตอบให้ต่างจากตำราคงไม่ได้
เพราะผมยังละสักกายทิฏฐิไม่ได้
ถ้าละได้จะตอบออกจากใจเลยครับไม่ต้องดูตำราให้เมื่อย
ส่วนคำปรารภของผม ผมสองใจอยู่ครับ ว่าจะเดินทางไหนมันเป็นทางแยกจริง ๆ ครับ ตอนนี้
พูดไปคนอื่นเค้าคงว่าไปต่าง ๆ นานา
เป็นเพียงปรารภเพื่อระบายออกไปเฉย ๆ ครับ
ลูกเมียครอบครัว ก็เป็นอุปสรรคธรรมดาครับ เราเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบครับ ไม่เช่นนั้นพระพุทธองค์จะทรงหนีทุกสิ่งทุกอย่างออกจากพระราชวัง เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ทำไมล่ะครับ
ขอบคุณ คุณคามินธรรม ครับ กับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์
ตอนนี้จิตยังไม่ยอมปล่อยครับ ยังลังเลอยู่ครับ จริตนิสัยเดิมเป็นคนไม่เด็ดขาดครับ
ความจริงถ้าไปขับรถขายโอ่ง ก็น่าจะดีเหมือนกันครับ ไปขายตามหมู่บ้านต่าง ๆ บรรยากาศตามชนบทดีครับ |
|
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 9:00 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
สักกายทิฏฐิในความเข้าใจของผมก็เป็นตามตำรานั่นล่ะครับ
จะตอบให้ต่างจากตำราคงไม่ได้
เพราะผมยังละสักกายทิฏฐิไม่ได้
ถ้าละได้จะตอบออกจากใจเลยครับไม่ต้องดูตำราให้เมื่อย
ส่วนคำปรารภของผม ผมสองใจอยู่ครับ ว่าจะเดินทางไหนมันเป็นทางแยกจริง ๆ ครับ ตอนนี้
พูดไปคนอื่นเค้าคงว่าไปต่าง ๆ นานา
เป็นเพียงปรารภเพื่อระบายออกไปเฉย ๆ ครับ
ลูกเมียครอบครัว ก็เป็นอุปสรรคธรรมดาครับ เราเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบครับ ไม่เช่นนั้น พระพุทธองค์จะทรงหนีทุกสิ่งทุกอย่างออกจากพระราชวัง เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ทำไมล่ะครับ
guest : 07 สิงหาคม 2008, 8:22 pm |
หรอ ครับ
คุณ guest กะจะเอาอย่างพระพุทธเจ้าหนีลูกหนีเมียกันทีเดียวหรอ
ทุกข์มันอยู่ที่ไหนครับนี่ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2008, 9:12 pm |
  |
คุณ กรัชกาย ครับ
ทุกข์ ก็อยู่ที่ใจ มรรค ผล นิพพาน ก็อยู่ที่ใจครับ
ถ้าหนีลูกหนีเมียไปตอนนี้ก็ไปได้คนเดียว ถ้ารอก่อนก็เอาคนอื่นไปได้ด้วยครับ |
|
|
|
  |
 |
|