Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ไม่เข้าใจอนัตตาธรรม หรือ สุญญตา ย่อมไม่เข้าใจ อัตตา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
ผู้ตั้ง ข้อความ
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2008, 11:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณmes"ครับ



1. คุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ คุณตีความว่านิพพานคื่ออัตตา

อัตตาคื่อที่ประชุมของเหตุปัจจัย

หมายความว่านิพพานเป็นที่ประชุมของเหตุปัจจัย



......ไปคนละเรื่องเลยครับ ผมอธิบายมาไม่รู้กี่กระทู้ อัตตาที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน คือ อสังขตธาตุ
ไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้น พระพุทธเจ้าตรัสชัดเจนว่า อายตนะนิพพานนั้นมีอยู่ ส่วน น้ำ
ออกซิเจน ฯลฯ มันเป็นสังขตธาตุ มีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้น


2. นิพพานคือจิตบริสุทธิ์ ไม่มีจุดเกิด ไม่มีจุดดับ เป็นอมตะ

3. อัตตาที่คุณกำลังพูดถึง คือ อัตตาอุปทาน อิตตาทิฏฐิ อัตตามายา
พระพุทธเจ้าเรียกสิ่งนี้ว่า อนัตตา

4. นิพพานเป็นวิสังขาร เป็นอสังขตธรรม ไม่ใช่สังขาร และก็ไม่ใช่สังขตธรรม คุณเข้าใจผิดหมด
เลยครับ


5. นิพพานบ้าบออะไร ยังเป็น อนิจจัง ทุกขัง นิพพานของพระธรรมปิฎก กับราชบัณฑิตเสถียรพงค์มั้ง
ทำสัทธรรมปฏิรูป(ธรรมของปลอม)จนสัทธรรมของพระพุทธเจ้าหายไปหมด


6. อนัตตาหมายถึงไม่ใช่ตัวตน แต่อัตตาก็อาจจะไช่ตัวตนก็ได้นะ แค่เป็นตัวตนที่จิตบริสุทธิ์
สร้างขึ้นมา จะเป็นอะไรก็ได้ ก็คุณในนิพพานเป็นพระเจ้านิครับ คุณอยากจะมีรูปอย่างไรก็ได้
เป็นเรื่องของคุณ

อนัตตาเป็นจิตเก๊ ก็ต้องสร้างนามรูปที่เก๊ ไม่คงทนถาวร เป้นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อัตตาเป็นจิตแท้ มีอายตนะนิพพาน(ธรรมกาย) ที่คงทนถาวร อนัตตาที่คงทนถาวร และไม่ทุกข์

พระพุทธเจ้าเรียกว่า อัตตา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2008, 8:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ไปคนละเรื่องเลยครับ ผมอธิบายมาไม่รู้กี่กระทู้ อัตตาที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน คือ อสังขตธาตุ
ไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้น พระพุทธเจ้าตรัสชัดเจนว่า อายตนะนิพพานนั้นมีอยู่ ส่วน น้ำ
ออกซิเจน ฯลฯ มันเป็นสังขตธาตุ มีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้น



พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่า อัตตา คื่ออสังขตธาตุ

มีแต่คุณอ้าว ตู่ของคุณเอาเอง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2008, 9:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
. นิพพานเป็นวิสังขาร เป็นอสังขตธรรม ไม่ใช่สังขาร และก็ไม่ใช่สังขตธรรม คุณเข้าใจผิดหมด
เลยครับ


อัตตา คื่อ สังขตธรรม

หมายถึงสังขาร คื่อปัจจัยปรุ่งแต่ง

อนัตตา คื่อ อสังขตธรรม ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้ว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปราบมาร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 21 ก.ค. 2008
ตอบ: 7

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2008, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

mes เอ็งบ้าหรือโง่ หรือแกล้งกวนบาทาคนอื่นกันแน่วะ

พี่พลศักด์อธิบายอย่างชัดเจน ยกอนัตตสักขณะสูตรมาด้วย พระพุทธเจ้าบอกว่า สิ่งใดเป็นอัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา


อย่างเอ็งต้องอธิบายด้วยภาษาของปราบมาร

ถุย! ไอ้โง่ ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..

หาอุปทาน(อัตตา)เจอหรือยัง

ก็ความโกรธของเอ็งนั่นแหละ คือ อุปทาน(อัตตา) เกิดจากสังขารปรุงแต่ง

อุปทาน(อัตตา) คือ สังขตธาตุ พ้นจากอุปทานคือ อัตตาแท้ พี่ใบไม้อธิบายในกระทู้ไหนจำไม่ได้

อนัตตาที่ถาวร เที่ยง = อัตตา = อสังขตธาตุ

จำคำสอนของเตี่ยเอาไว้ให้ดี วันหลังก็อย่ากวนบาทาเตี่ย เตี่ย คือ ปราบมาร
 

_________________
ที่ใดมีมารที่นั่นมีปราบมาร
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2008, 7:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปราบมาร คื่อ พลศักดิ์วังวิวัฒน์
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2008, 11:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านกระทู้นี้อยู่นานครับ พิจารณาแล้วก็ยากที่จะตัดสินครับว่าความเห็นของใครถูกครับ แต่กระผมเองก็ว่าท่านพลศักดิ์ และท่านสมญา นั้นน่าจะเป็นแนวเดียวกันครับ อ่านดูแล้วก็สมเหตุผลดีครับ ส่วนท่านขันธ์ และท่านguest ก็มีเหตุผลดีครับ กระผมว่าทุกท่านก็กล่าวได้ถูกทั้งนั้นล่ะครับ หากจะพิจารณาจากพยัญชนะ แต่อรรถนั้นกระผมเองก็ไม่ทราบหรอกครับเพราะกระผมคิดว่าอรรถนั้นคงไม่มีใครบอกให้เข้าใจได้หรอกครับ กระผมคิดว่ามันน่าจะรู้ได้เฉพาะผู้เข้าถึงน่ะครับ ซึ่งกระผมเองก็ยังไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นครับ แต่กระผมเห็นด้วยกับทั้ง 4 ท่านครับ ขอบคุณทุกๆท่านที่ได้ให้ข้อพิจารณากับกระผมครับ โดยเฉพาะท่านพลศักดิ์ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ แต่สงสัยอยู่อย่างครับ ? ที่ท่านพลศักดิ์กล่าวในกระทู้ก่อนๆว่า เราเป็นพระเจ้า เราเคยอยู่ในนิพพานมาก่อน แต่เราอยากรู้ว่าทุกข์เป็นอย่างไร เราจึงสร้าง สังสารวัฏ ขึ้นมาเพื่อลองความทุกข์ เพื่อเปรียบเทียบกับความสุขในนิพพาน..... แต่ที่สงสัยก็คือ นิยาม 5 ครับ ขอทุกท่านแสดงธรรมนี้ให้กระผมได้พิจารณาด้วยครับ

ขอบคุณทุกๆท่านที่เจริญแล้วในธรรม
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ค.2008, 12:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

mes พิมพ์ว่า:
ปราบมาร คื่อ พลศักดิ์วังวิวัฒน์




ใส่ความผมอีกคนหนึ่งแล้ว คุณขันธ์ก็ใส่ความว่าคุณสมญาเป็นผม ผมคงใช้วิธีไม่ตอบเหมือนเดิม แต่ผม
อนุญาตให้ตรวจไอพีของผมได้นะครับ ถ้าตรงกับคุณสมญากับคุณปราบมารก็แจ้งให้ทราบด้วย ผมหนีมา
อยู่เว็บนี้คนเดียวอย่างสงบเกือบเดือน ไม่เคยบอกใคร ไม่ทราบว่าสมาชิกเว็บพลังจิตทั้งที่สนับสนุนผม
และเกลียดผมยังตามมาอีก ไม่ทราบว่าพวกท่านรู้ได้ยังไงครับว่าผมอยู่ที่นี่
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง