ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ค.2008, 4:41 pm |
  |
คุณสมญา และคุณขันธ์ ครับ
ผมคิดว่า จะตามดูอาการของจิตเฉยๆก็ได้ จะรู้ตัวว่าจิตกำลังฟุ้งซ่าน โกรธ เกลียด แล้วเลิกฟุ้งซ่าน
เลิกโกรธ เกลียด ก็ได้ เพราะเราได้สติแล้ว |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ค.2008, 4:54 pm |
  |
คุณ ใบไม้ครับ คุณอย่ามาทำนิสัยแบบนี้ ผมไปโกรธ กับคุณสมญาตั้งแต่เมื่อไร และอีกอย่างหนึ่งคือ คุณนี่ชอบทำให้ผมตลกอยู่เรื่อย อย่าทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผมผิด
คุณควรจะออกมายอมรับว่า สมญากับคุณ คือ คนๆเดียวกัน |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
23 ก.ค.2008, 3:41 pm |
  |
พี่ขันธ์ครับ...ดีใจครับที่พี่จะช่วยตอบ ผมถามดังนี้คับ
1.ช่วยบอกวิธีแยกกายแยกจิตหน่อยครับ
เอาเบื้องต้นนะครับ....ผมอยากลองฝึกบ้าง
2.สังขารมันทำให้เกิดวิญญาณอย่างไรครับพี่(ในปฏิจจะ)
ขอบคุณครับพี่ |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
23 ก.ค.2008, 11:41 pm |
  |
น้องฌาณ พี่จะสรุปนะ เพราะว่าน้องถามคำถามที่มีคำตอบ ยาวมาก
เช่นถามว่า สร้างตึก มีวิธีการสร้างอย่างไร นี่มันต้องร่ายยาว
ก็จะสรุปให้ฟังคร่าวๆ
แยกกายแยกจิต มี 2 อย่าง คือ อย่างแรกแบบเด็ก กับอย่างที่สองคือแบบผู้ใหญ่
แบบเด็กก็คือ คิดว่า แยกจิตออกจากตัว แล้วเดินไปนั่นมานี่ด้วยกายทิพย์แบบในหนัง แบบนี้ เท่าที่ผ่านมา แยกแล้วไม่เกิดประโยชน์ คือ ต้องนั่งสมาธิให้จนถึงระดับฌาณ แล้วถอยลงมาที่อุปจารสมาธิ แล้วเพ่งไปข้างหน้าให้เหมือนกับเรากำลังมุดเข้าอุโมงค์ แล้วจิตจะค่อยๆเลื่่อนไป เมื่อถึงจุดหนึ่งจะปรากฎ เราอีกสภาวะหนึ่ง ตามแต่กรรมจะนำไป
ถ้าแบบผู้ใหญ่ น้องก็ต้องรู้จัก แยกสิ่งที่มีอยู่ในจิตใจ คนเช่น ราคะ โทสะ เวทนา ทุกข์ สุข ต้องรู้จักแยกว่า ตอนนี้เรารู้สึกอยู่นี้ เรารู้สึกอะไรอยู่ แล้วค่อยๆ สังเกตุ ถึงสิ่งที่ปนกัน แล้วให้เห็นว่า มีอะไรอยู่บ้างในจิตใจ เมื่อแยก ละเอียดแล้ว จะแยกจิตออกจากกายได้ คือ จิตส่วนจิตและกายส่วนกาย เวทนาส่วนเวทนา เรียกว่า แยกจิตออกจากกายได้อย่างแท้จริง
แบบผู้ใหญ่นี้จะเป็นทางไปนิพพาน แต่แบบเด็กจะเป็นทางไปรกไปพง
คำถามต่อมาว่า ทำไมสังขารจึงทำให้เกิดวิญญาณ เอาง่ายที่สุด ถามว่า เมื่อ ตอนน้องหลับสนิท ปรากฎว่า น้องไปรับรู้อะไรบ้างหรือเปล่า คงจะตอบว่า ไม่มี มันหลับไปสนิท เหมือนหายไป ไม่มีความรุ้สึกอะไร ก็นั้นแหละ เมื่อหลับสนิท นั้น สังขารไม่ทำงาน เพราะอวิชชาพักตัว ก็จะดับการรับรู้ไปด้วย
สำหรับ การไล่ปฏิจสมุบาท นั้น ก็ให้ไปเปิดกูเกิลเอานะ แล้วก็ดูปัจจัย แต่ปัจจยาการตามปฏิจสมุบาทนั้น มีหลายสายโยงใย แต่สายหลักคือ เมื่อไม่รู้ก็เข้าไปปรุง เมื่อปรุงแล้ว ก็ต้องปรากฎการรับรู้ในเรื่องราว พูดง่ายๆคือถามว่า ถ้า ในโลกนี้ไม่มีโรงหนัง น้องจะดูอะไร ถ้าในโลกนี้ ไม่มีไอศครีม น้องจะลิ้มรสมันได้หรือไม่ และเพราะหลงเข้าไป ดู หลงมาพิจารณา มันก็รับรู้ ตัววิญญาณนั้นแหละคือ ตัวรับรู้ เรื่องราวต่างๆ
ก็หวังว่าพอจะเข้าใจนะ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 9:50 am |
  |
คุณขันธ์ครับ
ใช้วิธีเก่าๆหรือครับ กล่าวหาว่าผมเป็นคนนั้นคนนี้ ผมหนีมาเว็บนี้แล้ว คุณสมญากับคุณขันธ์
คุณหลงเข้ามา ฯลฯ ยังตามมาทะเลาะกันในเว็บนี้อีก |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 10:18 am |
  |
นี่คุณใบไม้ครับ ผมไปทะเลาะอะไรกับใครตอนไหน
ผมว่ามีแต่คุณ ที่พยายามปั่นป่วนด้วย การนำเสนอทฤษฎีของคุณซึ่งขัดแย้งกับพระไตรปิฎกตลอด อย่างไม่ยอมฟังใคร
แล้ว คุณสมญา มันก็คือ คุณนั้นแหละ ตามมาสนับสนุนตัวเอง ผมจะแฉพฤติกรรมของคุณให้คนแถวนี้รับรู้ดีไหม
ถ้าอยากสงบคุณก็ ทำหน้าที่ของคุณไป อย่าเอาคุณสมญา คุณมีดบิน มาสนับสนุนตัวคุณ ด้วยวิธีการอันสกปรก |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 2:01 pm |
  |
ขอบคุณคับพี่ขันธ์....งั้นเด็กๆอย่างผมเริ่มแบบเด็กก่อนดีไหมครับ
ง่ายดี คือนั่งสมาธิให้ถึงฌาณ...สบายอยู่แล้วครับ
แต่พี่ครับ...ไอ้ตอนที่จิตจะออกจากร่าง...มันไม่กลัวตายหรือครับ  |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 6:31 pm |
  |
ก็ตอนนั้นจิตมันไม่ทันปรุงอะไร เพราะมีสมาธิอยู่ แต่ถ้ามีอกุศลมันก็คิด พอคิดมันก็หลุดจากสมาธิ มันก็ไปไม่ได้อยู่ดี |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 8:22 pm |
  |
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ก็ตอนนั้นจิตมันไม่ทันปรุงอะไร เพราะมีสมาธิอยู่ แต่ถ้ามีอกุศลมันก็คิด พอคิดมันก็หลุดจากสมาธิ มันก็ไปไม่ได้อยู่ดี |
สมถะก็คือสมาธิ สติปัฏฐานเป็นตัวใช้คุมให้อยู่ในสมาธิได้นานเท่านั้น พูดง่ายๆ ทั้งสมถะและวิปัสสนา
ล้วนเป็นสมาธิทั้งสิ้น สมาธิหลุดเพราะไม่ใช้สติปัฏฐานคุม เมื่อเห็นจิตในจิต จิตก็จะมีสติตลอด ไม่หลง
ไปฟุ้งซ่านกับเรื่องราวภายนอก รู้ก็สักแต่ว่ารู้ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน
ทั้งหมดเป็นคำชี้แนะของคนที่คุณไม่เชื่อว่าเขารู้จริง ดังเช่นกามนิตไม่เชื่อพระชรา จะให้พระพุทธเจ้าสอน
อย่างเดียว ทั้งๆที่พระชานั้นคือ พระพุทธเจ้า เมื่อถอนทิฏฐิมานะ ไม่คิดว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่น เพราะ
เหนือฟ้ายังมีฟ้า ก็แล้วแต่คุณ ลองถามคนที่คุณคิดว่า มิจฉาทิฏฐิ ดู เขาอาจสอนคุณได้นะ |
|
|
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 8:54 pm |
  |
[quote="พลศักดิ์ วังวิวัฒน์"]
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ก็ตอนนั้นจิตมันไม่ทันปรุงอะไร เพราะมีสมาธิอยู่ แต่ถ้ามีอกุศลมันก็คิด พอคิดมันก็หลุดจากสมาธิ มันก็ไปไม่ได้อยู่ดี |
สมถะก็คือสมาธิ สติปัฏฐานเป็นตัวใช้คุมให้อยู่ในสมาธิได้นานเท่านั้น พูดง่ายๆ ทั้งสมถะและวิปัสสนา
ล้วนเป็นสมาธิทั้งสิ้น สมาธิหลุดเพราะไม่ใช้สติปัฏฐานคุม เมื่อเห็นจิตในจิต จิตก็จะมีสติตลอด ไม่หลง
ไปฟุ้งซ่านกับเรื่องราวภายนอก รู้ก็สักแต่ว่ารู้ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน
ทั้งหมดเป็นคำชี้แนะของคนที่คุณไม่เชื่อว่าเขารู้จริง
ดังเช่นกามนิตไม่เชื่อพระชรา จะให้พระพุทธเจ้าสอน
อย่างเดียว ทั้งๆที่พระชานั้นคือ พระพุทธเจ้า เมื่อถอนทิฏฐิมานะ ไม่คิดว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่น เพราะ
เหนือฟ้ายังมีฟ้า ก็แล้วแต่คุณ ลองถามคนที่คุณคิดว่า มิจฉาทิฏฐิ ดู เขาอาจสอนคุณได้นะ
เพราะฉนั้นคุณเลยยกตนเองเทียบเสมอกับพระพุทธเจ้า ว่าทุกคนเวลานี้อย่าหลงผิดเหมือนกามนิต ใช่ไหม
คุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ สำรวม และ รู้จักที่ต่ำที่สูงหน่อยได้ไหม ถึงแม้คนในสงคมฝักใฝ่ธรรมะจะมีเมตตาธรรม แต่ก็ใช่ว่าขันติจะไม่มีถึงที่สุด
หรือต้องบอกให้รู้จักเจียมตัวบ้าง
คุณเที่ยวไปกล่าวหาว่าที่โน้นที่นี่มีแต่มาร ขับไสไล่ส่งคุณมา แต่คุณก็ไม่ละอนุสัยอันเป็นที่น่ารังเกียจของสังคมออกไปเลย
ทำไมละ ทำไมไม่ส่องดูตัวเองบ้าง ทำไมไม่ปรับปรุงตัวเองบ้าง
แค่คุณอวดเรื่องราวอันวิปริต วิปปลาสของตนแล้วเรียกจะเอาศรัทธาให้คนมาเชื่อถือคุณ
คนเขาไม่โง่หรอกครับ ไม่มีใครโง่ไปเชื่อคุณหรอก คุณอย่าหลอกตัวเองอีกเลย
แล้วก็ไม่ต้องจำแลงร่างให้คนจับได้อับอายกับตัวเอง
ทุกวันนี้เท่ากับคุณกำลังทำลายตัวเอง ทุกเวลา
แล้วก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดก็เกินแก้ไข
ตั้งสติหน่อยครับ
เรื่องของคุณที่โอ้อวดแถวชานเมื่องพวกทรงเจ้าเข้าผีก็อวดอ้างกันอย่างนี้กันทั้งนั้น
เพื่อหวังหลอกเงินจากคนที่โง่กว่า
คุณดีกว่าเขาตรงที่
แค่หรอกหวังเอาศรัทธาจากคนอ่าน
แล้วเคยสำเร็จไหมละครับ
ไปที่เวปไหนก็มีแต่ถูกด่า ถูกไล่
แต่ก็นั้นเหละ
เป็นวิบากบาปหนาของคุณเองที่เล่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
แค่นี้ยังเบา
หากยังไม่เลิกจะพบกับความวิบัติมากกว่านี้
ไม่ได้แช่ง แต่เตือนสติ
พระพุทธเจ้าเป็นของศักดิ์สิทธิ์
คุณไม่รู้ตัวเองหรอกว่าคุณเป็นอย่างไร
ผมเป็นคนดูอยู่ภายนอก ผมมองเห็น
อย่าให้มากไปกว่านี้เลย
พอเสียที
หยุดได้แล้ว |
|
|
|
   |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2008, 9:24 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ทั้งหมดเป็นคำชี้แนะของคนที่คุณไม่เชื่อว่าเขารู้จริง |
ผมเชื่อครับอาจารย์ แต่ละท่านเก่งๆกันทั้งนั้น  |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
11 ส.ค. 2008, 8:39 pm |
  |
อมิตพุทธ  |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
|