Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
วัดและศาสนสถาน
ผู้ตั้ง
ข้อความ
webmaster
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2004
ตอบ: 769
ตอบเมื่อ: 17 ก.ค.2008, 7:17 pm
ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด
พระพุทธชินราช
พระประธานในพระวิหารใหญ่ หรือพระวิหารหลวง
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก
พระพุทธชินราช ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในพระวิหารใหญ่
(พระวิหารหลวง) ด้านทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร
หรือวัดใหญ่ ริมถนนพุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ซึ่งเป็นด้านหน้าของวัด ผินพระพักตร์ไปทางด้านริมแม่น้ำน่าน
องค์พระพุทธชินราชนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงาย
เป็นพระพุทธรูปที่มีส่วนสัดเหมาะสมตามแบบประติมากรรม
โดยมีพระพุทธลักษณะงดงามมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย
ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
ได้ทรงตรัสยกย่องสรรเสริญพระพุทธชินราช แห่งเมืองสองแคว ว่า
งามหาพระพุทธรูปองค์ใดเปรียบมิได้ เป็นพระพุทธปฏิมากรดีล้ำเลิศ
ประกอบไปด้วยพุทธลักษณะอันประเสริฐ มีสิริอันเทพยดา
หากอภิบาลรักษา ย่อมเป็นที่สักการบูชานับถือแต่โบราณ
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย
ขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว (หรือ ๒.๘๗๕ เมตร)
มีส่วนสูงตั้งแต่หน้าตักถึงพระเกศ ๗ ศอก (หรือ ๓.๕ เมตร)
พระพักตร์ทรงรูปไข่ หรือเรียกว่า รูปหน้านาง
ที่แสกพระพักตร์มีเครื่องหมายศูลประดับด้วยเพชร แสดงให้เห็นเป็นอุณาโลม
การสร้างใช้วิธีหล่อเป็นท่อนๆ ด้วยทองสัมฤทธิ์ตลอดทั้งองค์
นิ้วพระพักตร์และพระบาทเสมอกัน แต่แรกสร้างนั้นยังไม่ได้ปิดทอง
คงขัดเงาเกลี้ยงแบบทองสัมฤทธิ์เท่านั้น
ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างพระพุทธชินราชในปีใด
แต่มีการสันนิษฐานโดยอ้างอิงตามพงศาวดาร
คาดว่าน่าจะสร้างพร้อมกับ พระพุทธชินสีห์ และ พระศรีศาสดา
ในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พญาลิไท)
จากนั้นจึงมีการลงรักปิดทององค์พระเป็นครั้งแรก
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปีพุทธศักราช ๒๑๗๔
สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดให้นำทองเครื่องราชูปโภคไปแผ่เป็นทองแผ่น
แล้วนำมาปิดพระพุทธชินราชด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองจนแล้วเสร็จ
ต่อมาในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
เสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ ได้โปรดเกล้าฯ
ให้ปฏิสังขรณ์และลงรักปิดทององค์พระพุทธชินราชอีกครั้ง
พระพุทธชินราชจึงงดงามยิ่งดังที่เห็นในปัจจุบัน
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีเรือนแก้วหรือที่เรียกว่า พระรัศมี
แกะสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทอง มีลวดลายเป็นรูปนาค
วงขนานไปตามทรงขององค์พระ ขึ้นไปบรรจบกันที่เหนือพระเกศ
มีลักษณะเป็นลายรักร้อยและลายทองสร้อยสลับกัน
มีสายสังวาลทำด้วยทองเนื้อนพเก้า หรือทองสีดอกบวบ
คือ ตรานพรัตน์ราชวราภรณ์ ประดับด้วยบุศย์น้ำเพชร
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงสร้างถวายเป็นพุทธบูชา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ รัชกาลปัจจุบัน
ได้ถวายตรานพรัตน์แด่พระพุทธชินราช เมื่อคราวเสด็จภาคเหนือ
ในปี พ.ศ.๒๕๐๑ ซึ่งยังไม่เคยมีพระพุทธรูปองค์ใด
ได้รับเครื่องราชสักการะสูงส่งถึงเพียงนี้ และมีรูปยักษ์ทั้งซ้ายขวา
คือ ท้าวเวสสุวรรณ และท้าวอาฬวกยักษ์ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์
พระพุทธรูปองค์นี้แสดงออกซึ่งความสงบเย็น ความมีสติปัญญา
ความเมตตาอันหาที่เปรียบไม่ได้ ถือเป็นความอัศจรรย์
ที่คนไทยเมื่อประมาณพันปีล่วงมาแล้ว มีความสามารถอย่างสูงส่ง
ที่สามารถนำเอาพุทธจริยาทั้งสามประการ คือ พระมหากรุณาคุณ
พระวิสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณ ซึ่งเป็นนามธรรมมาถ่ายทอด
เป็นรูปลักษณะของมนุษย์ที่ปั้น หล่อ ให้มองเห็นในความรู้สึกส่วนลึก
ของผู้ที่ได้ประสบพบเห็นได้เช่นที่ปรากฏในพุทธลักษณะของพระพุทธชินราชนี้
พระพุทธชินราช นอกจากเป็นพระปฏิมากร ที่มีลักษณะงดงามอย่างยอดเยี่ยมแล้ว
ยังเป็นพระพุทธรูปที่ทรงมีพระปาฏิหาริย์เป็นอัศจรรย์อีกมากมายหลายอย่าง
ซึ่งหลายๆ คนได้เคยเล่าสืบต่อกันมา ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ก็มีเช่น
เมื่อคราวเมืองพิษณุโลกถูกเผาในรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
ตอนอื่นๆ ไฟไหม้หมด
แต่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ซึ่งเป็นที่สถิตของพระพุทธชินราช หาได้ไหม้ไฟไม่
ปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่นิยมกราบไหว้ขอพรให้ประสบแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิต
ประสบความสำเร็จในทุกกิจการงาน
รวมถึงการสักการะวัตถุมงคลที่มีพระพุทธชินราชเป็นองค์ประกอบหลัก
สำหรับคาถากราบไหว้มีอยู่ว่า นะ ชาลีติ ปะสิทธิลาภา ปะสันนะจิตตา
สะทา โหติ ปิยัง มะมะ สัพเพ ชะนา พะหู ชะนา สัพเพ ทิสา
สะมาคะตา กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา อาคัจฉันติ ปิยัง มะมะ
เนื่องจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวง (วัดหลวง)
แต่เดิมวัดนี้มีงานฉลองกันตามโอกาส หลังจากในการสร้างพระพุทธรูปขึ้นมา
หรือเมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จมานมัสการพระพุทธชินราช จึงจะโปรดเกล้าฯ
ให้มีการฉลองสมโภช ๓ วันบ้าง ๕ วันบ้าง ๗ วันบ้างแล้วแต่ความเหมาะสม
ปัจจุบันนี้ ทางวัดได้จัดงานประจำปีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗
กำหนดเอาวันพระกลางเดือน ๓ เป็นต้นไป มีการฉลองใหญ่ถึง ๗ วัน ๗ คืน
กลายเป็นงานประจำปีของทางวัด จัดขึ้นในราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นมัสการกราบไหว้
พระพุทธชินราชหรือหลวงพ่อใหญ่ได้อย่างทั่วถึง
ป้ายชื่อวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่)
พระวิหารใหญ่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่)
หนังสือไหว้พระประธาน ๗๖ จังหวัด
กองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชน
พระพุทธชินราช พระประธานในพระวิหารใหญ่
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19299
~ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=24657
พระเหลือ หรือ หลวงพ่อเหลือ หรือ พระเสสันตปฏิมากร
พระประธานในพระวิหารพระเหลือ หรือพระวิหารหลวงพ่อเหลือ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19715
_________________
ธรรมจักรดอทเน็ต
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
วัดและศาสนสถาน
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th