Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 แก้ไขโมหะจริต อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โมหะจริต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2005, 6:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดิฉันเป็นพวกโมหะจริต อยากจะแก้ไข อยากมีปัญญา ถึงขั้นพุทธิจริต ท่านผู้เป็นผู้รู้ช่วยตอบและแนะนำด้วยนะคะ ดิฉันน้อมรับคำแนะนำและตักเตือน
 
ppj
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2005, 6:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผู้ใดที่สามารถค้นพบ และรู้จักตัวเองได้อย่างถ่องแท้ ย่อมสามารถพ้นออกจากโมหะจริตได้ด้วยตนเอง ด้วยดวงตาที่เห็นธรรม
 
นา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 ก.พ.2005, 5:57 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การแก้ไข เพียงแต่ภาวนาให้ถึงความเพียรเป็นปกติ
 
คุณยาย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 9:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณยายคิดว่าการตื่นจากโมหะเป็นสื่งที่ยากมาก เพราะในขณะที่เราตกอยู่

ภายใต้การควบคุมของโมหะ เราก็ยังไม่รู้ตัว โมหะเหมือนขนมหวานรสอร่อย

สีสวย ทุกคนต้องการยืดไว้เป็นของตัว วิธีการที่คุณยายตื่นตัวเองก็คือ

ถามตัวเองอยู่เสมอว่า เรากำลังโกหกตัวเองหรือเปล่า สิ่งเหล่านั้นเราฝันเอง

คิดเองหรือเปล่า และจะไม่ให้อภัยความผิดที่ตนเองก่อขึ้น จะยอมรับว่าผิด

และปรับปรุงค่ะ ไม่ทราบว่าจะตรงกับสิ่งที่คุณถามหรือเปล่า
 
อสรี
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 2:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณเองก็เป็นผู้รู้อยู่แล้วว่ามีโมหะจริต...ดังนั้นวิธีแก้ก็อยู่ที่ตัวคุณ...ลองหาเวลาและสถานที่ที่เงียบพอที่จะอ่านตัวเองให้ออก...แล้วคุณจะรู้ทางแก้ไขเองโดยไม่ต้องถามใครอีก...
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 5:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมหะ คือความหลง, ความโง่, สาเหตุมาจากอวิชชา ความคือไม่รู้ ไม่รู้ตามความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ ก็เลยเกิดความหลงเข้าไปยึดติด เข้าไปผูกพันธ์ด้วย ผลที่ได้รับความทุกข์ใจ



ทุกคนที่เป็นปุถุชนย่อมมีโมหะในจิตใจทั้งนั้น แล้วแต่จะมากน้อย มีมากก็ทุกข์ มีน้อยก็ทุกข์น้อย



เมื่อมีโหมะ ความหลงแล้ว อารมณ์อื่นๆ ก็เกิดมีตามมาคือความโกรธบ้าง อันเป็นการแสดงออกทางการกาย วาจา ใจ เพื่อต้องการผลักออกไป หรือทำลายสิ่งนั้น ความโลภ อันเป็นการแสดงออกทางกาย วาจา ใจ เพื่อต้องการดึงเข้ามา หรือยึดสิ่งนั้นไว้ให้นานๆ



การแก้ไขโหมะคือความหลง ความโง่ ภายในจิตใจของเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ไม่ง่ายเพราะการสั่งสมโมหะจนกลายเป็นนิสัยเคยชิน การแก้จึงต้องใช้ความตั้งใจ ความอดทน ความเพียรพยายาม และระยะพอมากควร



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 5:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การแก้นั้น ควรแก้ด้วยเจริญสติ (สติปัฏฐาน)

เพื่อให้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดนึกภายในจิตใจของตัวเอง

เพราะการแก้ด้วยเจริญสตินั้น เป็นการแก้ที่ตรงเป้าหมายที่สุด



คลิกอ่านวิธีการปฏิบัติแบบเจริญสติ ที่นี่นะครับ



**** รู้ ตื่น เบิกบาน ระหว่างวัน *****
http://www.enggy.com/awake



**** สันติธรรม ****
http://santidharma.com



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 5:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วิธีสร้างสติปัญญาให้พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป ทำได้ดังนี้ครับ

1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมาทำลายสติปัญญาเราที่มีอยู่ให้ลดน้อยถอยลงไป เราต้องป้องกันสิ่งเหล่านี้ก่อนครับ ถ้าป้องกันไม่ได้ ก็ยากที่สติปัญญาจะเพิ่มพูนได้ เหมือนคนเป็นไข้ กินน้ำเย็น นอนตากแอร์นั่นแหละครับ อย่างนี้ยาก็ช่วยไม่ได้ สิ่งที่ทำลายสติปัญญาเราได้ชงักที่สุดเลย คือ สุรา คือ ถ้าเรายังดื่มอยู่ เราต้องเลิกดื่มอย่างเด็ดขาด หักดิบไปเลย ถ้าไม่เลิก ไม่มีทางที่สติปัญญาจะดีขึ้นหรอกครับ แต่ถ้าเราไม่ดื่มอยู่แล้ว ก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วล่ะครับ

2. พัฒนาสติปัญญาในปัจจุบัน เมื่อเราจัดการกับสิ่งบั่นทอนสติปัญญาได้แล้ว สติปัญญาเราไม่ลดลงแล้ว ต้องนี้เราเพิ่มได้เต็มที่ด้วยการศึกษาครับ ศึกษาศิลปะวิทยาการความรู้ต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรมตามแต่ที่เราชอบครับ เพราะการศึกษาจะทำให้เราได้ใช้สติปัญญาครบถ้วนทั้ง ฟัง คิด ถาม เขียน (หัวใจนักปราชญ์) สิ่งของหลายสิ่งยิ่งใช้ยิ่งหมด แต่สติปัญญายิ่งเอามาใช้ ยิ่งเพิ่มพูนครับ

3. พักสติปัญญาด้วยสมาธิ เมื่อเราใช้สติปัญญาไปมากก็มึนเหมือนกันครับ ดังนั้น ต้องฝึกสมาธิ เพื่อพักใจ พักสติปัญญาของเราบ้าง เราใช้สติปัญญา เราพัก เราใช้ เราพัก ไปเรื่อยๆ อย่างนี้ สติปัญญาเราจะเจริญขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ

4. เพิ่มพูนสติปัญญาข้ามภพข้ามชาติ ทำได้โดยการสนับสนุนการศึกษาของนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือ พระภิกษุสามเณร ที่ท่านกำลังศึกษาอยู่ เช่นให้ทุนการศึกษาต่างๆ ผลบุญนี้จะเกื้อหนุนให้เราไปเกิดแต่ในสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการสนับสนุนทางการศึกษาครับ ปัจจุบันมีตัวอย่างมากมาย เรียนดีแต่ยากจน บางคนจนมากจนต้องเลิกเรียน เพราะไม่มีบุญสนับสนุนการศึกษามาแต่ในอดีตชาติครับ

5. อย่าหยุดยั้งจนกว่าจะถึงเป้าหมายครับ ไม่ว่าใครถ้ามีใจเช่นนี้ เขาจะทำสำเร็จได้ทุกอย่างครับ เช่น พี่น้องตระxxxลไรท์ ที่สร้างเครื่องบิน ท่ามกลางเสียงค้านของคนทั้งโลกว่า ทำไม่ได้หรอก ทั้ง 2 ทำล้มเหลวมาทุกๆ ครั้ง แต่พี่น้องคู่นี้ไม่ยอมหยุด แล้วเขาก็ทำให้มนุษย์บินได้สำเร็จ





 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง