Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความสุข ความฝัน ...พังทลายหมด ไม่เหลือชิ้นดี!! (เรื่องของผมเ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ชัช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2005, 9:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



เนื่องจาก ลูกผมมีความพิการทางสมอง

ซึ่งในช่วงแรก เวลาที่อยุ่กับลูก ผมจะรับสภาพที่เค้าเป็นไม่ได้เลย

จะเกิดอาการเครียดและหดหู่ใจอย่างที่สุดครับ

เหตุการณ์นี้เป็นภาวะที่ทุกข์สาหัสที่สุดตั่งแต่เกิดมาครับ



ขณะที่จิตอาการย่ำแย่สุดขีดนั้นทุกอย่างรอบตัวดูช่างหดหู่มืดดำไปหมด

ผู้เคยคิดอยากตายจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดีครับ



ทำไมเราจึงเป็นบ้าได้ถึงเพียง ลอง จำแนกของตัววิบากที่ผมได้รับเป็น ข้อๆ คงจะช่วยทำให้เข้าใจความทุกข์ของผมได้ดีขึ้นนะครับ



ข้อ 1.ทุกข์เพราะพบว่า ลูกที่เรารักที่สุดในชีวิตต้องมาพิการ !! ตกอยู่ในสถาพที่น่าอนาภ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่นั้นยังไม่เท่าไรเมื่อ นำ

มาเทียบกับทุกข์ ข้อสองครับ !!!





ข้อ 2.อาการพิการของแกหนักกว่า ผู้พิการ อื่นๆ เนื่องจาก แกพิการทางสมองส่วนการสือสาร!!

แกไม่สามารถแสดงออกทางภาษา และแสดงความผูกพัน ใดใดเลยกับพ่อ แม่ !!!แม้แต่สบตา

สมมติว่าถ้าแกหูหนวก หรือตาบอด เขาก็ยังอยากจะสือสารกับเราอยู่เพราะ สมองเค้าปกติ ใช่ไหมครับ

แต่ในกรณีของลูกผมนั้น แกไม่ตาบอด หูไม่หนวก แต่แกอยู่ในโลกของแกคนเดียว แม้แต่คำว่าพ่อ ผมยังไม่เคยได้ยินเลย

ถึงตรงนี้ ถ้าความทุกข์มันถูกออกแบบอยู่ก่อนแล้ว ผู้ที่ออกแบบความทุกข์อันนี้ คงจะต้องการให้ผมทรมาณอย่างแสนสาหัส!!!

มันเป็นผลงานชิ้นเอกขั้นสุดยอดครับ





ข้อ 3.ความสุข ความฝัน ...พังทลายหมด ไม่เหลือชิ้นดี!! ที่ผ่านมา ผม ทำงานหนัก จนมี บ้านเล็กๆ แถวดอนเมือง

ต้องวิ่งจัดเตรียมของใช้ในบ้านเพื่อลูกและครอบครัว ในแฟนอยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มตัว ตอนคลอดก็อยู่โรงพยาบาลเอกชนจ่ายแพงหน่อยก็ยอม

แต่สุดท้าย ลูกคนงานก่อสร้างหลังบ้าน เค้ายังสมบูรณ์ เรียก พ่อ จ้า แม่จ้า ได้ทุกวัน

จริง ๆ แล้ว ผมแค่ต้องการ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่กับลูก ได้เห็นเค้าเติบโต และสามารถดำเนินชีวิตในสังคม เหมือนคนอื่น เท่านี้เองครับ ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก

... อนาคต ข้องหน้าจะเป็นอย่างไรยังเดาไม่ถูก ...แต่ที่แน่ๆ ต้องทนทุกข์ และลำบากไปอีกนานครับ





ช่วงที่เกิดอาการทุกข์สุดขีดนั้น เกือบไม่รอดแล้วครับ เพราะผิดหวังอย่างรุนแรง ไม่อยากอยู่แล้วชีวิตนี้

ทำงานก็ไม่ได้แค่อ่านเอกสารหน้าเดียวก็ยังทำไม่ได้เลย จิตมันหดหู่ และวิตกกังวลไปหมดครับ





ตอนนี้ข้อจบแค่นี้ก่อนครับ

(ถ้ามีเวลาก็จะลองนั่งทบทวนว่าเราเจออะไรมาบ้างแล้วทำไมการนั่งกรรมฐานมันช่วยชีวิตผมได้อย่างทันท่วงที

ทำไม เพียงแค่ตามดู อารมณ์ ความคิด และอยู่กับ ปัจจุบันมัน ทำลาย ความทุกข์ ของผมไปได้มาก

ตอนนี้จิตมันความสงบมากครับ และมีสมาธิในการทำงานได้มากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ ?! มันแปลกมาก ๆ

ผมเองก็ยังไม่เข้าใจครับ ว่ามันเป็นเพราะอะไร

ลองถามผู้รู้ ท่านก็ช่วยอธิบาย ให้ผมฟัง แต่มันกลับยิ่งงงหนักครับ เพราะท่านเล่นใช่

คำศัพท์บาลี และประโยค สำนวนยากๆมาอธิบายครับ)

ขอขอบท่านทั่งหลาย และคุณผู้ชี้แนะ ที่เคยช่วยชีวิตผม



โปรดชี้แนะมาได้ครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง chat156@hotmail.com





 
Ramet
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2004
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2005, 9:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ให้กำลังใจครับ อย่าท้อแท้สิ้นหวัง

จงยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับความจริง และความเป็นไป



ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากกรรม ทั้งกรรมจากอดีตกาลและปัจจุบัน

กรรมสามารถส่งถึงกันได้ในเชื้อสาย เช่น พ่อถึงลูก



มนุษย์อายุสั้นเพียงนิดเดียวเองครับ

จงหมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ทำจิตใจให้สงบ



ลองหาหนังสือธรรมะมาศึกษาเรื่อง กฏแห่งกรรม ครับ





ขอหนังสือได้ฟรีครับ
http://shopping.mindcyber.com/

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
เจไอเอ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2005, 10:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเป็นกำลังใจให้ อย่าท้อแท้นะค่ะ
 
เฉื่อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2005, 11:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



เขาก็มีกรรมของเขา เราก็มีกรรมของเรา ยึดติดกับปัญหาที่ไม่มีทางแก้ยอมเป็นทุกข์แน่นอน ดีใจด้วยที่คุณวางลงได้ ขอให้มีกำลังใจต่อสู้ต่อไปนะขอรับ

 
ww
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2005, 8:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เข้ามาคุยกันบ่อย ๆ นะครับ จะได้ไม่รู้สึกว่าเราทุกข์คนเดียว
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2005, 12:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่มีความสุช มักจะติดในสุข ไม่รู้จักค้นหาธรรมะ ผู้ที่มีความทุกข์หรือเห็นทุกข์จึงจะใฝ่หาธรรมะมาเพื่อดับทุกข์ คนส่วนใหญ่มีความสุขก็ตั้งอยู่บนความประมาท กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว ไป ๆ มา ๆ บางคราวคุณอาจรู้สึกขอบใจโชคชะตาที่ทำให้คุณมีความทุกข์จึงได้ค้นพบสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น หวังว่าศีล สมาธิ ปัญญา จะเจริญแด่คุณยิ่ง ๆ ขึ้นไปขอเป็นกำลังใจให้ครับ
 
ชัช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2005, 7:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณ คำแนะนำจากท่านผู้รู้ครับ

ผมยังต้องฝึกฝนและศึกษาอีกมากครับ

บางวันก็ล้าจากการทำงานหนัก จนละเลยการปฎิบัติ

บางวันว่าจะตื่น ตี5แต่มันลุกไม่ไหว

อิจฉาคนมีอาจารย์มาก

บางทีการมีคนมาบังคับเคี่ยวเข็ญน่าจะดีกว่าฝึกปฏิบัตอยู่ตัวคนเดียวครับ





ผม post กระทู่ ไปหลายที่

pantip

budpage

ธรรมจักร



มันเป็นสิ่งเดียวที่

ทำให้ผมรู้ว่ามีเพือนให้กำลังใจและคำแนะนำที่บริสุทธิ์ใจ

ถ้ามันเป็นการรบกวน ท่านอื่นๆ

ผมก็ขออภัยด้วยครับ

ชัช

 
ppj
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 ก.พ.2005, 6:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าคุณปล่อยให้จิตใจของคุณหม่นหมองอยู่อย่างนี้คุณจะเสียพลังงานสำหรับการสร้างสรรค์อย่างมากชีวิตก็จะมีแต่อ่อนล้า คนอื่น ๆ เขาให้ได้ก็กำลังใจอาจมีคำแนะนำบ้าง แต่คุณต้องสู้ต่อไป มีคำกล่าวว่า เกิดมาในโลกเพื่อต่อสู้ บั้นปลายจึงได้ดี ในกรณีของคุณ ขอให้คุณรักษาสภาพจิตใจให้ดี การจมอยู่กับกองทุกข์ ไม่ใช่เรื่องดีเลย

 
oym
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2005, 6:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

...................

 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง