Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระนิพพาน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ค.2008, 9:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส.ต.อ.ขรรค์ชัย พิมพ์ว่า:
เรียน คุณBuddha

"อนึ่ง ข้าพเจ้าไม่แลกเปลี่ยนความรู้กับคุณดอกนะ เพราะความรู้ของข้าพเจ้าไม่ได้มีไว้แลกเปลี่ยน" ยิ้มแก้มปริ

คำว่า "แลกเปลี่ยนความรู้" หมายความว่า เมื่อข้าพเจ้าพิมพ์ในสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้ และท่านอื่นได้อ่าน ได้รู้เพิ่ม พร้อมทั้งมีคำสนับสนุน หรือ คัดค้าน โต้แย้ง หรือเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด เพื่อความกระจ่างชัดยิ่งขึ้น หรือเมื่อท่านอื่นได้พิมพ์ข้อความ แล้วข้าพเจ้าได้อ่าน คนอื่นได้อ่าน และเกิดการอภิปรายกัน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและกระจ่างชัดยิ่งขึ้น นั่นล่ะ คือการ "แลกเปลี่ยนความรู้" ในความหมายของข้าพเจ้า แล้วคุณ Buddha คิดว่า ควรใช้คำไหนที่เหมาะสม และกระจ่างชัดมากกว่านี้หรือ
หวังว่า.....คงได้รับการชี้แนะจากคุณอีกครั้ง

การแลกเปลี่ยนความรู้ ไม่เหมือนกับการเอาเงินไปซื้อของ จ่ายเงินไปได้ของมา ต้องแลกเงินกับของ หรือแลกของกับของ สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เรามีอยู่ย่อมหมดไป แต่ได้สิ่งใหม่เพิ่มเข้ามา

แต่การแลกเปลี่ยนความรู้ ยิ่งแลกเปลี่ยนกัน ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน และความรู้ที่เรามีอยู่ก็ไม่หมดไป แต่กลับเพิ่มพูนและกระจ่างชัดมากขึ้นยิ่งขึ้น

ส่วนการให้ความรู้ ก็ทำให้เรายิ่งแม่นในความรู้นั้นมากขึ้น และทำให้เราค้นคว้าหาความรู้นั้นให้มากยิ่งขึ้น เพื่อการถ่ายทอดหรือการให้ที่ถูกต้องและครอบคลุมยิ่งให้ยิ่งเพิ่ม


ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าพเจ้าเข้าใจคำว่า แลกเปลี่ยนความรู้ และข้าพเจ้าก็เข้าใจและรู้อีกว่า คุณไม่ได้มีความรู้อะไรที่จะมาแลกเปลี่ยนกับข้าพเจ้า อันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้ดูหมิ่น หรือสบประมาทคุณนะขอรับ
เพราะความรู้ของข้าพเจ้า ถือ เป็น"บรรทัดฐาน ของศาสนา" ส่วนความรู้ที่คุณมี เป็นความรู้ที่ได้มาจากที่ใดก็ตาม ไม่สามารถมาแทนที่หรือมาเสียบ หรือมาเสริม ความรู้ อันเป็นบรรทัดฐาน ของศาสนา ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไป
ดังนั้น
ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า ความรู้ของข้าพเจ้าไม่ได้มีไว้แลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นคนละความหมายกับที่คุณกำลังหลงผิดเข้าใจไปอีกแบบหนึ่ง อยู่ขอรับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ส.ต.อ.ขรรค์ชัย
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 21 พ.ค. 2007
ตอบ: 50
ที่อยู่ (จังหวัด): ชุมพร

ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ค.2008, 3:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนคุณ Buddha

ข้าพเจ้า ขอขอบคุณ ที่กรุณาให้ความกระจ่างกลับมา และเผยความเป็นตัวตนของคุณมากขึ้น และนี่คงเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสและรู้จัก ยิ้ม

ตัวข้าพเจ้าเอง เป็นดังที่คุณ Buddha กล่าว คือ ไม่ได้มีความรู้อะไรมากนัก ความรู้ที่ข้าพเจ้ามีอยู่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความรู้ทั้งหมดในโลกนี้ และมันยากนักที่จะมีความรู้มากมาย ทั้งหมด แต่ข้าพเจ้าก็จะพยายามที่จะเรียนรู้ ความเป็นจริง ในโลก ให้มากขึ้น ตามอัตภาพ และกำลังของข้าพเจ้า เท่าที่มีทั้งหมด

ความรู้ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ เป็นความรู้ที่ได้มาจากที่ต่างๆ ดังคุณ Buddha กล่าว ยิ้ม บางครั้งข้าพเจ้าก็นำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณา มาทดลอง เพื่อให้เข้าถึงความรู้นั้นและรู้แจ้ง ดังเจ้าของความรู้ แต่ก็ไม่เคยเทียบได้กับเจ้าของความรู้เลย ยิ้มเห็นฟัน

เพราะข้าพเจ้าเองไม่สามารถพอที่จะสร้างความรู้ใหม่เกี่ยวกับศาสนา หรือ บรรทัดฐานของศาสนา ขึ้นมาได้ มันเกินกำลังที่จะทำอย่างนั้น และบรรทัดฐานของศาสนาที่มีอยู่ ข้าพเจ้าก็ยังไม่เข้าใจแจ่มชัด จึงต้องขวนขวายหาความรู้จากที่ต่างๆ หาความรู้จากสิ่งที่มีอยู่แล้ว แล้วนำมาพิจารณา มาทดลอง เพื่อให้เข้าถึงความรู้นั้น และก็ยังไม่แจ่มแจ้ง รู้จริง ยังมีข้อกังขาอยู่เสมอ ข้าพเจ้ายังต้องพยายามอีกมากๆ อืมม์

ส่วนการแลกเปลี่ยนความรู้ จะแลกหรือไม่แลก จะมีความหมายอย่างไรนั้น ก็แล้วแต่คุณ Buddha เถิด ข้าพเจ้าเคารพในการตัดสินใจนั้น และไม่ติดใจที่จะโต้แย้ง หรือสนับสนุนใดๆ
 

_________________
นิพพานคือการดับความยึดมั่นถือมั่นเราจะเข้าถึงนิพพานได้อย่างไร
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 04 ก.ค.2008, 1:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีขอรับ
ไม่เถียงแบบ ข้างๆคูคู ก็นับได้ว่า เป็นคนมีความรู้ ความเข้าใจ ในระดับหนึ่ง
จะเถียงก็ไม่ห้าม ถ้าเป็นการถก และเถียง ด้วยหลักเหตุผล
ถึงอย่างไร ข้าพเจ้าก็ต้องยืนยันว่า ข้าพเจัาไม่แลกเปลี่ยนความรู้กับคุณ และกับใครๆ ก็ไม่แลกเปลี่ยน ถ้าข้าพเจัาไม่รู้ ก็จะถาม ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน
ส่วนความรู้ที่ข้าพเจ้าเผยแพร่ไป ก็ไม่ใช่เพื่อการแลกเปลี่ยน แต่เป็นการเผยแพร่เพื่อพัฒนา ฉะนี้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ค.2008, 12:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส.ต.อ.ขรรค์ชัย พิมพ์ว่า:
ทางที่จะบรรลุพระนิพพาน มีได้ 3 อย่าง คือ
1. ทางพระอรหันต์
2. ทางพระปัจเจกโพธิเจ้า
3. ทางโพธิสัตต์สร้างบารมี 30 ทัศ


ส่วนตัวกระผมนั้นเห็นว่าทางที่จะบรรลุพระนิพพานได้มีเพียงทางเดียวครับเป็นทางเอก นั่นคือ มรรค มีองค์8 ครับ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 11:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แค่เข้ามาอ่าน เจริญในธรรมทุกท่าน สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง