อยากทราบ?

ตอบเมื่อ: 16 ก.พ.2005, 7:02 pm

อยากทราบว่าเราจะสามารถทำบุญอุทิศไปให้แก่เพื่อนที่ต่างภาษาและศาสนาจะได้หรือไม่แล้วเค้าจะสามารถรับผลแห่งบุญที่เราทำไปให้หรือไม่

ขอบคุณทุกท่านช่วยตอบครับ

ผู้เยี่ยมชม

ดวงอาทิตย์ที่เราเห็นนี้ ไม่ว่าคนชาติไหน ภาษาไหน ศาสนาอะไร จะเห็นดวงอาทิตย์ดวงเดียวกันหมดครับ เพียงแต่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน เช่น คนสมัยก่อนเชื่อดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก แต่คนสมัยนี้เชื่อว่าโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ แต่ความเป็นจริงมีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือ โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์

เช่นเดียวกันครับ เรื่องบุญเรื่องบาปนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นชนชาติไหน ภาษาไหน ศาสนาไหน เมื่อสร้างบุญก็ต้องได้บุญ เมื่อสร้างบาปก็ต้องได้บาปครับ เพียงแต่ว่าความเข้าใจเรื่องบุญบาปของเราจะถูกต้องหรือเปล่าเท่านั้นเอง

สำหรับการสร้างบุญที่จะได้บุญ ก็คือ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ไม่ว่าใครอยู่ศาสนาไหน ถ้าเขาบริจาคช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เขาก็ได้บุญจากการทำทาน ถ้าเขาไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เขาก็ได้บุญจากการรักษาศีล ถ้าเขาทำใจให้สงบ เขาก็ได้บุญจากการเจริญภาวนา

ถ้าเขาฆ่าสัตว์ โดยเข้าใจไปว่า สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างมาให้มนุษย์เพลิดเพลินได้ เช่น ล่าสัตว์ เขาก็ได้บาปครับ แม้เขาจะคิดว่าไม่บาปก็ตาม ดังนั้น ถ้าเราอุทิศบุญกุศลให้เพื่อนสรรพสัตว์ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติไหนภาษาไทน ศาสนาไหน ถ้าเขาไม่ได้ตกนรกลึกเกินไป หรือไม่ได้ขึ้นสวรรค์สูงเกินไป เขาก็รับบุญได้ทันทีครับ แต่ถ้าเขาตกนรกลึกเกินไป บุญจะไปรออยู่จนกว่าเขาจะใช้กรรมในนรกเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะรับบุญได้ครับ

ที่น่าสงสาร ก็คือ ถ้าเขาไม่มีเพื่อนที่รู้ในเรื่องการอุทิศบุญกุศล เนื่องจากเกิดในความเชื่อที่เชื่อว่าคนเราเกิดตายชาติเดียว เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับบุญจากการอุทิศเลย เพราะไม่มีใครอุทิศให้เขาครับ

ตอบเมื่อ: 17 ก.พ.2005, 1:59 pm

หากผู้ปฏิบัติฝึกจิตสมาธิมาเป็นอย่างดี สมบูรณ์ด้วย ทาน ศีล ภาวนา ไม่ว่าผู้ที่เราต้องการให้รับผลบุญจะเป็นใคร ชาติไหน ภาษาไหน ศาสนาแตกต่างอย่างไร หากเราต้องการจะอุทิศผลบุญให้ ท่านผู้นั้นก็จะได้รับทันที

แม้แต่การสวดมนต์ หากเราฝึกสวดมนต์ด้วยจิตใจที่จดจ่อกับคำสวดมนต์ รู้ลมเข้าออกจากปากทุกระยะที่ท่องบ่น จิตสงบ จิตเป็นเมตตาในขณะนั้น ถ้าตั้งใจอุทิศผลบุญให้แก่ใคร ผู้นั้นก็จะได้รับอานิสงส์แห่งการสวดมนต์ของเราได้ทันทีเหมือนกัน

ธรรมะสวัสดี

มณี ปัทมะ ตารา