Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ร่วมสร้างตึกสงฆ์อาพาธฯ ให้พระสงฆ์ภาคเหนือตอนล่าง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 1:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



.JPG


.JPG


.JPG


ที่มาของโครงการ

ในอดีตที่ผ่านๆมา พระสงฆ์ในชนบทของประเทศไทยโดยเฉพาะทางด้านภาคเหนือ (๑๖ จังหวัด) เวลาอาพาธจะเข้ารับการบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลท้องถิ่น ในอำเภอหรือในจังหวัดของตน ปะปนและแออัดกับคนไข้คฤหัสถ์ซึ่งมีจำนวนมากอยู่แล้ว จนเตียงและห้องไม่เพียงพอ อันเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ในกรณีท่านป่วยหนัก ก็จะเข้าไปรับการบำบัด ที่โรงพยาบาลสงฆ์ในกรุงเทพฯ ซึ่งก็มักจะมีปัญหาในเรื่องหาที่พำนักก่อนเข้าโรงพยาบาลรวมถึงปัญหาค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่างๆ เช่น ค่าพาหนะและภัตตาหาร ตลอดถึงจะต้องหาพระเถระผู้ใหญ่ให้การรับรองเข้าโรงพยาบาล เป็นต้น
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 1:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



.jpg


.JPG


.jpg


ส่วนโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลพิจิตร ก็มีห้องพักผู้ป่วยไม่เพียงพอ ต้องใช้เปลสนามแทนเตียง และต้องออกมาอยู่ตามระเบียงทางเดินหน้าห้องพัก ซึ่งเป็นสภาพที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงคนเฝ้าไข้ที่ก็ต้องลำบากเดือนร้อนไปตามๆ กัน
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 2:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระสงฆ์ต่างประสบความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างตึกสำหรับสงฆ์อาพาธขึ้น ในจังหวัดพิจิตร เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ในการดูแลบำบัดรักษาอาการอาพาธของพระสงฆ์ และเพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลท้องถิ่นที่รับภาระในการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บของประชาชนในชนบท และเพื่อให้พระสงฆ์ในภาคเหนือไม่จำต้องเดินทางลงไปรักษาอาการอาพาธถึงกรุงเทพมหานคร

อย่างไรก็ตามความต้องการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เนื่องจากนโยบายและงบประมาณด้วยเหตุนี้ หลวงปู่ทองดี อนีโฆ ประธานสงฆ์วัดใหม่ปลายห้วย ซึ่งมีจิตเมตตาช่วยเหลือและพัฒนาสังคมในด้านต่างๆ ในจังหวัดพิจิตรอย่างมากมายมาแล้ว ได้เล็งเห็นความจำเป็นในเรื่องนี้ ประกอบกับทางโรงพยาบาลพิจิตรโดยแพทย์หญิงสุนีย์ ธีรการุณวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้มีหนังสือของทางโรงพยาบาลพิจิตร ที่ พร 0027.201 พิเศษ ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ขอรับบริจาคอาคารสงฆ์อาพาธและหอผู้ป่วยอายุรกรรม มายังหลวงปู่ทองดี ท่านจึงมีดำริที่จะรับภาระช่วยเหลือพระสงฆ์อาพาธในพื้นที่ รวมทั้งในจังหวัดใกล้เคียงให้ได้รับการพยาบาลรักษาที่ดีกว่าเดิม ต่อมาหลวงปู่ทองดีจึงได้ประชุมกับทางโรงพยาบาลพิจิตรเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 6:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



.jpg


.jpg


ตึกสำหรับสงฆ์อาพาธจะเป็นอาคารขนาด กว้าง 29 เมตร ยาว 50 เมตร มีจำนวน 4 ชั้น โดยวงเงินในการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธแห่งนี้เป็นจำนวนประมาณ 43 ล้านบาท เน้นประโยชน์ด้านใช้สอยและเอื้อประโยชน์ในด้านการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยของคณะสงฆ์ โดยรูปแบบการสร้างตึกสงฆ์อาพาธแห่งใหม่นี้ จัดให้มีห้องพิเศษและห้องแยกสำหรับพระสงฆ์ ในชั้นที่ 4 รวม 40 เตียง พร้อมกับมีห้องปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ สำหรับห้องทำพิธีการสงฆ์เวลาญาติโยมมาถวายภัตตาหารหรือสังฆทาน และห้องสำหรับพระสงฆ์ที่มาดูแลพระอาพาธ โดยเฉพาะจะจัดให้มีห้องพิเศษสำหรับคนไข้หนักที่ใกล้มรณะเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาช่วยเหลือทางด้านจิตใจ เน้นให้การรักษาได้มาตรฐานและสอดคล้องกับวิถีชีวิตและปัญหาสุขภาพของพระสงฆ์ และที่สำคัญชั้นล่างจัดให้มีพุทธสถานใช้เป็นสถานที่สำหรับประชุมและอบรมของพระภิกษุและสามเณรเพื่อเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธองค์อีกด้วย อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานที่อาคารของโรงพยาบาลเดิมนั้นได้มีการก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี 2496 และมีความแออัดเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากสร้างตึกสำหรับสงฆ์อาพาธขึ้นใหม่ให้มีการแยกพระสงฆ์จากบุคคลทั่วไป่แล้ว กรณีจะเป็นประโยชน์มากหากจัดให้มีชั้นเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยอายุกรรมทั่วไปด้วย ในชั้นที่ 2 และ 3 โดยแยกเป็นผู้ป่วยหญิงและชาย ชั้นละ 50 เตียง เพื่อรับรองความแออัดของสถานที่ด้วย และอาคารใหม่นี้จะได้จัดให้เป็นอาคารกลางเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการประสานงานการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเพราะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของโรงพยาบาลอีกด้วย
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 7:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รายละเอียดในการร่วมบริจาค
ท่านผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญบริจาคทุนทรัพย์เพื่อช่วยกันสร้างตึกสงฆ์อาพาธฯได้ที่บัญชีธนาคารดังต่อไปนี้
๑. บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขา สามง่าม
ชื่อบัญชี พระทองดี อนีโฆ เพื่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ เลขที่บัญชี 367-235171-9

๒. บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขา ราษฎร์เกษมอุทิศ
ชื่อบัญชี กองทุนหลวงปู่ทองดี อนีโฆ เพื่อสร้างอาคารสงฆ์ เลขที่บัญชี 349-003-070-2


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระสมุห์อุดร เจ้าอาวาสวัดใหม่ปลายห้วย หมายเลขโทรศัพท์ 086-0628446 หรือ ฝ่ายบริหารทั่วไป รพ. พิจิตร หมายเลขโทรศัพท์ 056-611230 ต่อ 1313

เงินที่ท่านบริจาคสามารถหักภาษีได้ทั้งจำนวนและเมื่อท่านได้โอนเงินเพื่อบริจาคแล้วกรุณาติดต่อทางโทรสารที่หมายเลข 055-334541 เพื่อทางผู้ประสานโครงการจะทำการออกใบอนุโมทนาบัตรเพื่อนำไปใช้ในการหักภาษีให้ท่านในโอกาสต่อไป
ท่านสามารถติดตามความคืบหน้าของงานบุญและการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ รวมถึงธรรมะของหลวงปู่ทองดี อนีโฆ ได้ที่ www.sawangburi.com
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 9:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



img_6017_resize_981.jpg


img_5979_resize_180.jpg


img_5967_resize_194.jpg


img_5964_resize_767.jpg


.jpg


img_5933_resize_443.jpg


.jpg


.jpg


ความคืบหน้าของโครงการ

โรงพยาบาลได้ทำการทุบตึกเก่าเพื่อสร้างตึกใหม่ และปรับพื้นที่เสร็จ
และวันที่ ๒๘ พค. ๒๕๕๑
หลวงปู่ทองดี อนีโฆ และคุณหญิงอุไรวรรณ ศิรินุพงศ์ ประธานมูลนิธีช่วยเหลือคนตาบอดในพระบรมราชูปถัมถ์ เป็นประธานในพิธี
ดร. ปรีชา จันทร์เรือง ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้กล่าวรายงาน
มีข้าราชการผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชน มาร่วมพิธีจำนวนมาก ครับ
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หลานชาย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 16 มิ.ย. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2008, 10:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



2.gif


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า:
[i] “โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย”
"ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต
ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้"[/
i]

“การให้การพยาบาลหรือบำบัดโรคภัยไข้เจ็บของพระสงฆ์ เท่ากับการได้อุปัฏฐากพระพุทธองค์เลยทีเดียว”
 

_________________
นั่นแนะ หลงลืมสติแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง