Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ถามผู้รู้...ไม่ได้ฌานจะเข้าถึงสังขารุเปกขาญาณได้หรือไม่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
montasavi
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2007
ตอบ: 84

ตอบตอบเมื่อ: 15 มิ.ย.2008, 11:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใครรู้เรื่อง...พระอรหันต์ ปัญญาวิมุตติบ้างครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 17 มิ.ย.2008, 7:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ได้ฌานจะเข้าถึงสังขารุเปกขาญาณได้หรือไม่

ข้าพเจ้า เคยได้ยินตอนพระอาจารย์ท่านสอบอารมณ์กับลูกศิษย์ ท่านหนึ่งว่า

ไม่ได้ฌาน ก็ทำได้ การเข้าถึงสังขารุเปก ฯ ใช้แค่อุปจารก็พอครับ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ใช่ฌานนะครับ

คือเป็น ลักขณูปณิชฌาน คือเพ่งวิปัสสนาเป็นอารมณ์ เห็นญาณเป็นอารมณ์ เป็นลักษณะของการพิจารณา คือมีวิตก และวิจารณ์อยู่ใน อารมณ์วิตกและวิจารณ์ โดยที่จิตไม่ไปอยู่ที่ไหน แต่พิจารณาใน กฏของไตรลักษณะญาณพร้อมกันไปทีเดียว

การจะเข้าถึงสังขารุเปกนั้น ต้องดำเนินญาณต้นมาอย่างดีพอ เพียงพอ กล่าวคือแก่รอบแล้ว เช่น ดู สมณญาณ คือ เห็นพระไตรลักษณะเป็นอารมณ์ ต่อมาก็จะเกิด อุทยัพพญญาณ ก็ดูอุทยัพพญญาณ ให้ต่อเนื่องต่อไป ญาณสองญาณนี้จะเป็นหลักเป็นพื้นที่จะให้เกิดญาณที่สูงขึ้นไปอีก ถึงเราจะเห็นญาณที่สูงขึ้นไปอีก เราก็ต้องย้อนกลับมาดูสองตัวนี้อีก เพื่อที่จะทำให้เกิดตัวอื่นอีก จะกว่า จะถึง สังขารุเปก ถ้าถึงสังขารุเปกเรียกได้ว่า เกือบจะปลอดภัยแล้วให้รีบเร่งความเพียรอย่างแรงกล้า อย่างอุกฤษ เอาเป็นเอาตาย เพื่อจะทำให้เกิด โคตรภูญาณมาคั่น เสีย ก่อนที่จะถึง การตัดความเป็นปุถุชน ก้าวเข้าสู่ ความเป็น อริยบุคคลโดยสมบูรณ์

ถ้าเป็นฌานเฉยๆ ก็ คือ การเพ่ง เฉย เอาอะไรสักอย่างหนึ่งเป็นอารมณ์ อันนี้เรียกตามหลักปริยัติว่า อารัมปณูปณิชฌาน

ท่านอาจารย์เคยบอกว่า ถ้าอยากเก่งหรือชำนาญในญาณ ต้องทรงอารมณ์ ขณิกสมาธิ และ อุปจารสมาธิ ให้ได้ ครับ คำว่าทรงหมายเอา อยู่ใน ขณิกสมาธิ และ อุปจารสมาธิ ตลอด 24 ชม.ครับ แต่ถ้าเริ่มต้น เอาแค่อารมณ์ขณิกสมาธิทรงไว้ให้ได้ก็ยากมากแล้วครับ อย่าเพิ่งพูดถึงอุปจารเลย

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 18 มิ.ย.2008, 12:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

montasavi พิมพ์ว่า:
ใครรู้เรื่อง...พระอรหันต์ ปัญญาวิมุตติบ้างครับ


ตอบ..
ฌาน (ชาน) กับ ญาณ (ยาน) คนละเรื่องกัน แต่สัมพันธ์กันชนิดที่แยกแทบไม่ออก
เพราะบางครั้ง ญาณ(ยาน) ก็เกิดจาก ฌาน (ชาน) คือ เกิดจาก วิตก วิจารณ์ แต่รวมความแล้วก็เกิดจากความคิด หรือเกิดจากการระลึกนึกถึงความหลัง

ส่วน คำที่คุณถามเรื่อง พระอรหันต์ ปัญญวิมุตติ นั้น ต้องตอบแบบตรงไปตรงมาว่า

ความจริงแล้ว การบรรลุธรรม สำเร็จธรรม ตั้งแต่ชั้น โสดาบัน เป็นต้นไป ก็ต้องใช้ปัญญาในการหลุดพ้น ใช้ปัญญาในการขจัดอาสวะแห่งกิเลส เพราะปัญญานั้น หมายถึง ความรู้ที่สามารถแปลงให้เป็นพฤติกรรมได้ของแต่ละบุคคล ฉะนี้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 18 มิ.ย.2008, 9:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Buddha พิมพ์ว่า:
montasavi พิมพ์ว่า:
ใครรู้เรื่อง...พระอรหันต์ ปัญญาวิมุตติบ้างครับ


ตอบ..
ฌาน (ชาน) กับ ญาณ (ยาน) คนละเรื่องกัน แต่สัมพันธ์กันชนิดที่แยกแทบไม่ออก
เพราะบางครั้ง ญาณ(ยาน) ก็เกิดจาก ฌาน (ชาน) คือ เกิดจาก วิตก วิจารณ์ แต่รวมความแล้วก็เกิดจากความคิด หรือเกิดจากการระลึกนึกถึงความหลัง

ส่วน คำที่คุณถามเรื่อง พระอรหันต์ ปัญญวิมุตติ นั้น ต้องตอบแบบตรงไปตรงมาว่า

ความจริงแล้ว การบรรลุธรรม สำเร็จธรรม ตั้งแต่ชั้น โสดาบัน เป็นต้นไป ก็ต้องใช้ปัญญาในการหลุดพ้น ใช้ปัญญาในการขจัดอาสวะแห่งกิเลส เพราะปัญญานั้น หมายถึง ความรู้ที่สามารถแปลงให้เป็นพฤติกรรมได้ของแต่ละบุคคล ฉะนี้




ขอตอบและแก้ธรรม ตามควาสมเข้าใจนะครับ

ที่จริงแล้ว ฌาน กับญาณนั้น สามารถแยกเยะได้ เพราะถ้าแยกไม่ได้ พระพุทธเจ้าก็คงจะทรงสั่งสอนไม่ได้ครับ

ญาณ ถ้าจะให้พูดว่าเกิดจากฌานนั้น คงจะถูกไม่ทั้งหมด คงต้องใช้คำว่า อาศัยมากกว่า เพราะญานจะเกิดได้ เพราะต้องมีสติ และสัมปชัญญะ มากจึงจะเกิด

ก็สติ สัมปชัญญะ มาจากฌานนั้นเองเป็นกำลัง เอามาใช้ดู วิปัสสนา จนแก่รอบแล้ว จึงเกิดวิปัสสนาญานอีกทีหนึ่ง

ฌาน นั่นไม่ใช่ วิตก วิจารณ์ โดยตรง แต่อาศัย วิตก วิจารณ์จึงสามารถเกิดขึ้นได้

ฌาน มิใช่คิดเอาแล้วเกิด แต่เกิดจากปัญญา ที่สามารถแยกแยะ

องค์ ของฌานได้ ว่า นี่คือ วิตก นี่คือวิจารณ์ นี่คือ ปีติ นี่คือสุข นี่คือ เอกัคคตา เมื่อสามารถแยกแยะได้แล้ว ก็จะเข้าใจได้ว่านี่แหละคือ สมาธิ ที่แท้จริง ไม่ใช่คิดเอา

และก็ไม่ได้เกิดจากการระลึกนึกถึงความหลัง แต่ต้องเกิดขึ้นเป็นปัจจุบันธรรมนั่นเอง

ปกติ พระผู้มีพระภาคสอนว่า

เราไม่ควรตามคิดถึงที่ล่วงไปแล้วได้อาลัย และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

แต่ให้พิจารณาธรรมนั้น เป็นปัจจุบันธรรมต่างหาก

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 18 มิ.ย.2008, 9:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

montasavi พิมพ์ว่า:
ใครรู้เรื่อง...พระอรหันต์ ปัญญาวิมุตติบ้างครับ


พระอรหันต์ ปัญญาวิมุตติ

ท่านเจริญสมาธิ เพียงแต่อุปจารสมาธิพอเป็นบาทฐานเท่านั้น

แล้วก็พิจารณาพระไตรลักษณะญานเลย ไม่ได้สนใจในเรื่องฌาน หรือความสงบมาก ๆ

หมายเอาการหลุดพ้นด้วยการพิจารณาล้วนหรือเจริญปัญญาล้วน

เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สุขวิปัสสโก พวกแห้งแล้ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง