ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
นิรทุกข์
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2004
ตอบ: 54
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.พ.2005, 9:43 am |
  |
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งสอนมาสองพันห้าร้อยปีแล้วว่า "คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร" แต่ในปัจจุบันเกือบทุกสังคมทั้งย่อยทั้งใหญ่ คนพยายามแสวงหาทางแบบง่ายในเรื่องต่างๆ คือถาม ซึ่งเมื่อถามแล้วได้คำตอบตรงกับตนเองต้องการจะได้ฟังก็พอใจและยึดถือว่าถูกต้อง หากคำตอบไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองต้องการก็จะปฏิเสธ เรื่องบางอย่างเพียงใช้ปัญญาในการพิจารณา ตริตรอง และแสวงหาจากตำรับตำราต่างๆน่าจะมีคำตอบที่ถูกต้องตรงกับปัญหาที่ต้องการแก้ไขต้องการทราบ กลับไม่ทำ ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า "ขอให้ผู้รู้ตอบด้วย ขอให้ผู้รู้แนะนำด้วย ขอให้ผู้รู้.......ฯลฯ" ความเพียรชอบหายไปไหนกันหมด |
|
_________________ คนธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษหรือวิเศษกว่าปุถุชนทั่วไป ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง เป็นปกติ แต่อาจจะเบาบางไปบ้างตามอายุขัยและประสบการณ์ น่าห่วงวัยรุ่นจนถึงคนรุ่นอายุไม่เกิน35ในปัจจุบันยังเข้าใจหลายๆสิ่งผิดไปจากความจริงมาก |
|
   |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.พ.2005, 3:52 pm |
  |
ตำรับตำราต่างๆ ก็เป็นเพียงคำตอบในระดับหนึ่ง แต่ปัญญาอันละเอียดที่จะมาพิจารณา ตริตรองคำตอบ ต้องมาจากการปฏิบัติเพื่อให้เข้าใจในคำตอบนั้นๆได้อย่างลึกซึ้ง หาไม่แล้วก็เป็นเพียงคำตอบที่เป็นเพียงตัวอักษร ได้คำตอบแล้ว ปัญญาก็ยังไม่เกิด ตราบใดที่ยังไม่ลงมือฝึกปฏิบัติ
บางทีคำตอบตามตำราที่ตนได้รับรู้มา ขัดแย้งกับคำตอบที่ตนเองไม่เคยได้ยิน ก็เกิดการถกเถียง วิจารณ์ในลักษณะเดิมอย่างไม่รู้จักจบสิ้น คำตอบบางคำตอบต้องลงมือฝึกปฏิบัติ เพื่อจะได้ทราบถึงสภาวะธรรมที่แท้จริงของหัวข้อในตำรานั้นๆ จึงจะเข้าใจได้แจ่มแจ้ง
ความเพียรไม่ได้หายไปไหน แต่ไม่มีความเพียรในตนเท่านั้นเอง
ธรรมะสวัสดี
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
ppj
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.พ.2005, 4:34 pm |
  |
ความเพียรทางธรรม เพื่อเข้านิพพาน
ความเพียรทางโลก เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ สุข |
|
|
|
|
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.พ.2005, 5:08 pm |
  |
จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ เพราะยุคที่เรามาเกิดในตอนนี้ เป็นช่วงเวลาที่กัปไขลงแล้ว คือ เป็นช่วงที่อายุเฉลี่ยของมนุษย์ ประมาณ 75 ปี และกำลังจะถอยไปเรื่อยๆ จนเหลือแค่ 10 ปี ถึงจะย้อนกลับมาขึ้นมาไหม่
ดังนั้น ถ้าจะนำยุคนี้ไปเทียบกับยุคที่มนุษย์อายุเฉลี่ยเป็น แสนปี ซึ่งหมายถึงว่ามีผู้มีบุญมาก มาเกิดเป็นจำนวนมาก ยุคนี้จึงเทียบไม่ได้แหละครับ
ในยุคต้นๆ กัปนั้น ยกตัวอย่างนะครับ แค่เรื่องความรักนี่ มนุษย์ยุคนั้น จะถือว่า ความรักเป็นของศักดิ์สิทธิ์ และสูงส่ง ไม่ใช่เรื่องสำส่อน ดังนั้น มนุษย์จะมีอารมณ์กามกำเริบน้อยมาก จะสำรวมในกาม และรักเดียวใจเดียวกันทุกคน
จึงไม่ต้องแปลกใจว่า คุณธรรมแต่ละด้าน ของมนุษย์ยุคนั้นจะเป็นอย่างไร
แต่มนุษย์ยุคนี้ มีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่สำรวมในกาม ในขณะที่อีกหลายๆส่วนทั้งรักร่วมเพศ ทั้งเสพสังวาสแบบสวิงกิ้ง คือ เหมือนสุนัข แมว ทั้งหาคู่กันทางอินเตอร์เนต และเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ แบบ กิ๊ก ฯลฯ
นี่แค่คุณธรรมเรื่องกามอย่างเดียว ยังไม่นับเรื่องอื่น มนุษย์ยุคนั้นกับยุคนี้ยังต่างกันขนาดนี้ แล้วถ้านับเรื่องอื่นๆ ด้วย จะต่างกันขนาดไหน
แต่ถึงจะมีมนุษย์ที่เป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้เรามั่นคงในธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความเจริญในชีวิตก็จะเข้ามาหาเรา ไม่ว่าเราจะเกิดในยุคใดก็ตาม (แต่ยุคอายุมนุษย์ เหลือ 10 ปีนี่ ยังไงผมก็อธิษฐานไม่ขอไปเกิดล่ะครับ เพราะอาจจะทานกำลังของอกุศลจิตไม่ไหว เนื่องจากสิ่งแวดล้อมของอกุศลจิตจะทวีกำลังแรงมากๆ) |
|
|
|
|
 |
ผู้ไม่รู้ ฯ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.พ.2005, 7:09 pm |
  |
ความเพียรน่ะมีทุกคนครับสำหรับผู้ที่เบื่อหน่ายต่อสังสารวัฏอันยาวนาน
แต่บางคนบางท่านอาจมีบารมีหรือวิบากกรรมต่างกันครับ อย่างว่าแหละ
ครับ การเดินทางต้องอาศัยผู้รู้ทาง ไม่ใช่จะคลำทางไปเหมือนคนตาบอด
ถ้าทุกคนเหมือนกันหมด พระพุทธองค์บรมศาสดาคงไม่แบ่งคนเป็น ๔
ประเภทหลอกครับ ( บัว ๔ เหล่า ) ถ้ายังไม่พบทางยังพึ่งตัวเองยังไม่ได้
ก็ต้อง อาศัยผู้นำทางก่อนทั้งนั้นนะครับ |
|
|
|
|
 |
|