นิสิตสาวจุฬาฯ ปี 4 ดิ่งสยอง

ตอบเมื่อ: 10 มิ.ย.2008, 8:20 pm

เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 9 มิ.ย. ร.ต.ท.ชนินทร ง่วนสน พงส. (สบ 1) สน.ปทุมวัน รับแจ้งมีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตกตึกเสียชีวิต อาคารมหามงกุฎ คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมี ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ และผู้เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเรียนสูง 15 ชั้น บริเวณด้านข้างอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งหม้อแปลงไฟฟ้ามีรั้วล้อมรอบพบศพนิสิตสาวแต่งกายในชุดนิสิต นอนคว่ำหน้า สภาพแขนขาหัก ใบหน้ายุบ ทราบชื่อ น.ส.ชนินาถ หรือกิ่ง รุ่งทิวาสุวรรณ อายุ 22 ปี นิสิตชั้นปี 4 คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมี ฟิสิกส์ อยู่บ้านเลขที่ 3403/3 ซอยจันทราสุข แขวงและเขตวังทองหลาง ตรวจสอบบริเวณระเบียงชั้น 11 ซึ่งเป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือและเก็บของใช้ส่วนตัวของนิสิต ตรงกับจุดที่ผู้ตายตกลงไป พบเก้าอี้พับสีฟ้าที่ผู้ตายใช้ปีนกระโดดข้ามระเบียงลงไปข้างล่างและรองเท้าคัตชูสีครีมน้ำตาลของผู้ตายถอดกอง อยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน น.ส.อรุณี ศรีภักดี อายุ 22 ปี แม่บ้าน ประจำอาคาร ให้การว่า เมื่อประมาณ 6 โมงเช้าขณะนั่งรับประทานอาหารภายในห้อง เห็นผู้ตายเดินหน้าเศร้าเปิดประตูเข้าไปในห้องเพียงคนเดียว จากนั้นวางกระเป๋าถือลายการ์ตูนไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปที่มุมตึก ยืนอยู่ ริมระเบียงสักพัก หลังจากนั้นไม่ทันสังเกต กระทั่งรับประทานอาหารเสร็จ รปภ.บอกว่ามีนิสิตกระโดดตึกลงไปตาย เมื่อออกไปดูพบว่ามีเก้าอี้และรองเท้าวางอยู่ตรงจุดที่นิสิตสาวตกลงไปเสียชีวิต

เพื่อนนิสิตคณะเดียวกันเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนเรียบร้อย เรียนดี ที่ผ่านมาสอบได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่ามาโดยตลอด ต่อมา 2 ปีหลัง มีอาการเป็นโรคซึมเศร้าต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ แพทย์ให้ยามารับประทานตลอดจนอาการดีขึ้น แต่ระยะหลังเริ่มเก็บตัวเงียบไม่ชอบสุงสิงกับใคร ส่วนใหญ่ชอบอ่านหนังสือ การเรียนเริ่มตกลง อย่างเห็นได้ชัด ส่วนเรื่องเพื่อนชายแค่รู้จักกันไม่ถึงกับสนิทสนมและมีไม่กี่คน

ต่อมานายไกรศักดิ์ และนางรัตนาภรณ์ รุ่งทิวาสุวรรณ พ่อแม่ผู้ตายทราบข่าวร้ายเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาฯ โดยมีเพื่อนนิสิตและอาจารย์ในคณะพากันไปรดน้ำศพ ก่อนนำไปตั้งสวดที่ศาลา 11 วัด บึงทองหลาง นายไกรศักดิ์เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบมูลเหตุหรือสาเหตุที่แท้จริงของการกระโดดตึกเสียชีวิต น้องกิ่งเป็นลูกคนที่ 2 ในจำนวนลูกสาวทั้งหมด 4 คน เมื่อเช้า ได้ขับรถพาน้องกิ่งกับน้องสาวอีกคน เรียนอยู่คณะเภสัชฯ ปีที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปส่งที่บ้านพี่สาวของตนซึ่งทำงานอยู่ที่ธนาคารเอเชีย ย่านสาทร เพื่อให้นั่งรถมาเรียนที่จุฬาฯพร้อมกัน ทั้งนี้ลูกสาวเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด แต่ระยะหลังเริ่มกังวลเรื่องเกรดเฉลี่ย กลัวไม่ได้เกียรตินิยม ก็ให้กำลังใจว่าถ้าตั้งใจเรียนก็ได้แน่นอนไม่มีปัญหา

ด้านพนักงานสอบสวนกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้สอบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุแล้วเชื่อว่าผู้ตายกระโดดตึกฆ่าตัวตายเอง และญาติไม่ได้ติดใจ ส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัดว่ามาจากเรื่องเรียนหรือเรื่องอื่น

ทางด้านนายสุพจน์ หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงสาเหตุว่า น่ามาจากเรื่องการเรียน เพราะที่ผ่านมา น.ส.ชนินาถเป็นเด็กเรียนเก่ง ได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 3.8-3.9 เคยได้รับเหรียญทองแดงโอลิมปิกวิชาการ นอกจากนี้ เมื่อวันพฤหัสฯที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกิจกรรมวันไหว้ครู น.ส.ชนินาถยังได้รับโล่เรียนดีของคณะวิทยา-ศาสตร์ แต่ปี 3 ผลการเรียนตก ทำให้เกิดอาการเครียดและมีปัญหาทางจิต อาจารย์ที่ปรึกษาได้หารือกับพ่อแม่ของน.ส.ชนินาถ แล้วส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ จนมีอาการดีขึ้น ทั้งนี้ทางจุฬาฯจะหาสาเหตุของการฆ่าตัวตายให้ ชัดเจนอีกครั้ง

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้อง 209 ตึกอานันทมหิดล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.เจษฎา แสงสุพรรณ รองอธิการบดี ฝ่ายบริหาร จุฬาฯ และอาจารย์ ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของลูกศิษย์สาว นพ.เจษฎากล่าวว่า ทางจุฬาฯ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว น.ส.ชนินาถ และพร้อมให้การช่วยเหลือครอบครัว โดยจะร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพที่วัด บึงทองหลาง ทั้งนี้ จุฬาฯมีระบบการดูแลนิสิตอย่างเป็นขั้นตอน แต่เนื่องจากมีนิสิตกว่า 30,000 คน แม้จะมีมาตรการป้องกันก็ไม่สามารถคาดคิดว่าจะเกิดเหตุเศร้านี้ขึ้น จึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ส่วนที่มีการมองว่า น.ส. ชนินาถฆ่าตัวตายเพราะความเครียดนั้น ตนมองว่าเป็นธรรมดาของเด็กเรียนเก่งที่จะเครียด ส่วนจะเครียดถึงขนาดต้องเข้ารับการรักษาหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ เพราะเป็นความลับของผู้ป่วย

ขณะที่นายเทพจำนง แสงสุนทร อาจารย์ที่ปรึกษา เปิดเผยว่า น.ส.ชนินาถเป็นเด็กเรียนเก่ง ได้เกรด 3.7-3.9 และในการเปิดภาคเรียนชั้นปี 4 น.ส.ชนินาถก็มา ปรึกษาว่า จะขอเพิ่มวิชาเรียนในชั้นปี 4 อีก เพราะเห็นว่ายังเรียนน้อยเกินไป ทำให้คิดว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายไม่น่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องการเรียน เพราะขณะนี้ก็เพิ่งจะเปิดเรียน

สำหรับ น.ส.ชนินาถ รุ่งทิวาสุวรรณ นิสิตสาวคิดสั้น สมัยเป็นนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นนักเรียนทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (สสวท.) และเป็นเจ้าของโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง “การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการแยกโปรตีนเคซีนจากน้ำนม” ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการแปรรูปน้ำนมดิบให้เป็นโปรตีนเคซีนผง เพื่อยืดอายุของน้ำนมดิบ และยังสะดวกต่อการขนส่งไปสู่เด็กๆในพื้นที่ห่างไกล นอกจากนี้ ยังสามารถนำโปรตีนเคซีนที่แยกได้ไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ โครงงานนี้เป็นความหวังสำคัญที่จะทำให้เด็กชนบทพื้นที่ ห่างไกลได้รับโปรตีน เคซีน เช่นเดียวกับเด็กที่อยู่ในเมือง

วันเดียวกัน นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงเหตุสะเทือนใจว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ น.ส.ชนินาถ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะทราบว่าเก่งด้านฟิสิกส์ เคมี และเรียนใกล้จะจบแล้ว แต่ต้องมาจบชีวิตลง ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ต้องตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่ในเบื้องต้นทราบมาว่าผลการเรียนของ น.ส.ชนินาถตกต่ำลง อาจจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว ซึ่งมองว่าปัญหาการฆ่าตัวตายของนักเรียน นักศึกษามีเยอะมาก ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ ก็มีคนฆ่าตัวตายกับเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาไปแล้วถึง 3 คน ดังนั้น จะขอให้นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ประสานกับทางมหาวิทยาลัยทุกแห่ง จัดตั้งศูนย์ ให้คำปรึกษานิสิต นักศึกษา โดยให้คณะจิตวิทยาของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพ จัดอาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา อาจารย์คณะจิตวิทยา คอยให้คำปรึกษาแก่นิสิต นักศึกษา ทั้งที่เป็นเรื่องการเรียนและเรื่องส่วนตัว เพราะนักศึกษาบางคนเมื่อมีปัญหาไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร โดยเฉพาะนักศึกษาที่อยู่หอพัก 4-5 เดือนจะได้กลับบ้านครั้ง อาจจะไม่มีช่องทางที่จะระบายความอัดอั้นกับใคร

รมช.ศึกษาฯกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาคนมักจะมองว่านิสิต นักศึกษาในมหาวิทยาลัยเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่จำเป็น ต้องเข้าไปดูแล แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านี้ก็ยังต้องการคนดูแลให้คำปรึกษา ซึ่งตามมหาวิทยาลัยก็อาจจะมีอาจารย์ ที่ปรึกษาอยู่แล้ว แต่การดูแลจะไม่ใกล้ชิดเหมือนกับระดับ มัธยมศึกษา นอกจากนี้ ตนเห็นว่าในมหาวิทยาลัยควรจะจัดให้มีการสอนเสริมในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมเพิ่มเติมในส่วนของภาคปฏิบัติ อาทิ การฝึกนั่งสมาธิ สวดมนต์ ไหว้พระ เดินจงกลม เพื่อจะสร้างให้เด็กมีสติ รู้จักที่จะยั้งคิดมากขึ้นว่าการฆ่าตัวตายไม่ได้เป็นการจบปัญหา แต่จะยิ่งทำให้พ่อ แม่ ญาติพี่น้องต้องเสียใจ

ส่วนบรรยากาศที่ศาลา 11 (สาคร 2) วัดบึงทองหลาง ซอยลาดพร้าว 101 สถานที่ตั้งศพ น.ส.ชนินาถ รุ่งทิวาสุวรรณ เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ท่ามกลางคณาจารย์และเพื่อนนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปร่วมฟังพิธีสวดพระอภิธรรมศพนับร้อยคน นายไกรศักดิ์ รุ่งทิวาสุวรรณ พ่อผู้ตายเปิดเผยว่าจะตั้งสวด 5 คืน แล้วทำพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว เนื่องจากทราบดีว่าเป็นคนเก็บตัวเงียบและมีอาการซึมเศร้า

ซึ้ง

...........................
http://www.thairath.co.th
[10 มิ.ย. 51 - 04:25]

ตอบเมื่อ: 10 มิ.ย.2008, 8:29 pm

การฝึกนั่งสมาธิ สวดมนต์ ไหว้พระ เดินจงกลม เพื่อจะสร้างให้เด็กมีสติ

"จงกลม" ที่ถูกเขียนอย่างนี้ "จงกรม" ร. เรือ

ตอบเมื่อ: 11 มิ.ย.2008, 8:59 pm

คำว่า "อกหักดีกว่ารักไม่เป็น" มันยังใช้การได้อยู่นะ
คนไม่เคยตอนเป็นก็จะหนัก.......
คนไม่เคยสร้างความผิดหวังให้แก่ตนหรือแก่ใครๆ
กดดันมากๆๆๆๆ
พอเจอเหตุการณผิดหวัง..สักอย่างก็เหมือนฟางเส้นสุดท้ายเลย
ทั้งที่อาจเป็นฟางเส้นแรกของเธอเท่านั้น
ขออโหสิ....

ตอบเมื่อ: 12 มิ.ย.2008, 7:15 pm

สติไม่พอ ขาดปัญญาพิจารณาหาทางออก

ควรให้มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับพระพุทธศานาให้มากขึ้นในโรงเรียนทุกระดับชั้นครับ

การศึกษาเดี๋ยวนี้ขาดตรงนี้ครับ

ตอบเมื่อ: 19 มิ.ย.2008, 11:07 am

RARM พิมพ์ว่า:

สติไม่พอ ขาดปัญญาพิจารณาหาทางออก

ควรให้มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับพระพุทธศานาให้มากขึ้นในโรงเรียนทุกระดับชั้นครับ

การศึกษาเดี๋ยวนี้ขาดตรงนี้ครับ

ผมว่า เอาศาสนาพุทธนำไม่ดีหรอกคับ
คนศาสนาอื่นคงจะอึดอัด
การยัดเยียดศาสนาพุทธในโรงเรียน ทุกชั้น ดูจะไม่ใช่วิธีพุทธ
พุทธเราเน้นความเข้าใจ ด้วยตน ของตน .. ถ้าเห้นว่าดีก็รับนับถือ รับปฏิบัติไปตามสบาย
ไม่นิยมการยัดเยียด บังคับครอบงำ

เน้นให้ศึกษาปรัชญาดีกว่า เป้นวิชากลางๆ ไม่เน้นศาสนาไหนๆ
เป็นวิชาที่สอนให้ใช้ความคิดเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้
และสอนให้มีใจเปิดกว้างเสมอๆ

เมื่อเครื่องมือดีแล้ว เขาก็จะค้นหาความรู้ของเขาเอง
เขาจะใช้ศาสนาไหนในการแก้ไขปัญหา
ผมคิดว่าเขาเลือกเองได้คับ

การแก้ปัญหาการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่แค่พุทธศาสนาเท่านั้นที่ทำได้
ผมคิดว่า มีอีกหลายวิธี หลายศาสนา ช่วยได้เหมือนกัน
ทั้งหมดทั้งปวงก็คงอยู่ที่คนคนนั้น ว่าพึงใจจะแก้ปัญหานั้นแบบไหนยังไง

บางทีเราอาจจะคิดไปเองว่า
"วิธีแบบพุทธของเราดีที่สุด จงรับไปใช้เถิด แล้วจะดีเอง"
..... อันนี้ผมว่าไม่พุทธแล้วล่ะ