Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
มิตรแท้ของเจ้าชาย (ธรรมสภา)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นิทาน-การ์ตูน
ผู้ตั้ง
ข้อความ
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2004, 7:37 pm
มิตรแท้ของเจ้าชาย
นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา
ครั้งนั้นในเมืองพารณสี แคว้นกาสี มีพระราชาชื่อพระเจ้าพรหมทัต พระองค์มีพระโอรสที่เกิดจากพระอัครมเหสีและพระสนมอื่นๆ รวม 100 พระองค์ ในชาตินี้พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นอำมาตย์ผู้ฉลาด ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลถวายความรู้ด้านศิลปวิทยาแก่เจ้าชายสังวรกุมาร พระราชโอรสพระองค์เล็กของพระราชา
พระราชาทรงดูแลพระโอรสทุกพระองค์เป็นอย่างดี เมื่อพระโอรสพระองค์ใดเจริญวัยพอที่จะศึกษาศิลปวิทยาได้ ก็ทรงมอบพระโอรสพระองค์นั้นให้อำมาตย์ที่ทรงไว้วางพระทัยดูแลและสอนศิลปวิทยา ครั้นจบการศึกษาแล้วก็ทรงส่งไปให้ครองเมืองต่างๆ ที่อยู่ในการปกครองของพระองค์ ผลปรากฏว่าพระโอรส 99 พระองค์ทรงได้ครองเมืองทั่วถ้วนทุกพระองค์
ฝ่ายเจ้าชายสังวรกุมารก็อยู่ในฐานะเช่นเดียวกัน ดังนั้นหลังจากทรงจบการศึกษาแล้ว จึงตรัสปรึกษากับอำมาตย์ผู้เป็นพระอาจารย์ หากพระบิดาส่งฉันไปครองเมือง เหมือนเสด็จพี่ทุกพระองค์ ฉันควรจะทำอย่างไรดี ควรไปหรือไม่ควรไป
ข้าแต่พระกุมาร อำมาตย์กราบทูล พระองค์ไม่ควรไป
ทำไมล่ะ
พระองค์ใฝ่ฝันอยากจะครองราชบัลลังก์มิใช่หรือ
ใช่
ถ้าอย่างนั้น หม่อมฉันขอกราบทูลว่าไม่ควรไป
เหตุผลล่ะ
เหตุผลล่ะ ? เจ้าชายรับสั่งถาม
ตอนนี้พระองค์อย่าเพิ่งตรัสถามถึงเหตุผลเลย จำไว้แต่ว่าเมื่อพระราชบิดาตรัสถามถึงพระประสงค์ ก็ขอให้กราบทูลอย่างที่หม่อมฉันสอนเถิด
จากนั้นอำมาตย์ก็สอนคำที่ควรและคำที่ไม่ควรแก่เจ้าชาย เพื่อใช้กราบทูลแด่พระราชา
วันหนึ่ง พระราชาทรงทราบว่าพระโอรสพระองค์เล็กทรงศึกษาศิลปวิทยาจบแล้ว ทรงรับสั่งให้เข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า พี่ๆ ของลูกเมื่อศึกษาจบแล้วก็ได้ไปครองเมือง ลูกเองก็จะได้เช่นนั้นด้วย ชอบใจเมืองไหน บอกพ่อมา
ข้าแต่พระบิดา หม่อมฉันเป็นลูกคนเล็ก ขึ้นชื่อว่าลูกแล้ว คือผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดอยู่เบื้องบาทของบิดา เมื่อหม่อมฉันจากไปเสียไกล แทบเบื้องพระบาทของพระบิดาก็จักว่างเปล่าไม่มีผู้อยู่รับใช้ใกล้ชิด ขอให้หม่อมฉันได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระบาทเถิด
พระราชาทรงพอพระทัยคำกราบทูลของเจ้าชายมาก จึงทรงอนุญาตให้ตามที่ทูลขอ เจ้าชายสังวรกุมารก็อยู่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระบาทมานับแต่นั้น จนเป็นที่ไว้วางพระทัยของพระบิดา
ท่านอาจารย์ จะให้ฉันทำอะไรต่อไปอีก เจ้าชายทรงปรึกษากับพระอาจารย์ในวันหนึ่ง หลังจากแน่พระทัยว่าคำแนะนำขึ้นต้นของพระอาจารย์ผ่านพ้นไปด้วยดี
ข้าแต่พระกุมาร พระบิดาทรงมีอุทยานเก่าหลายแห่ง แต่ละแห่งมีไม้ดอกไม้ผลขึ้นอยู่มากมาย หากพระองค์ได้มาสักแห่งหนึ่ง ก็จะทำการสงเคราะห์ข้าราชบริพารที่รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระราชบิดามา พระองค์อย่าตรัสถามถึงเหตุผลเลย ขอให้พระองค์สงเคราะห์ข้าราชบริพารอย่างเต็มพระทัยก็แล้วกัน
อำมาตย์ทูลชี้แจ้ง
เจ้าชายทรงทำตามที่อำมาตย์แนะนำอย่างเต็มพระทัย ทรงขยายการสงเคราะห์ออกไปถึงชาวเมือง ทาส กรรมกร กำลังพล รวมทั้งสัตว์พาหนะ อาทิ ช้าง ม้า และสัตว์ต่างๆ ที่ควรสงเคราะห์
อำมาตย์ผู้เป็นอาจารย์กราบทูลแนะนำให้กระทำการสงเคราะห์พวกทูตกับพวกพ่อค้า ในเรื่องที่พักที่หลับที่นอน อาหารการกินอย่าให้บกพร่อง ส่วนพวกพ่อค้าเรื่องภาษีอากร หากลดหรือยกให้บ้างบางส่วนก็ควรทำ ตอนนี้ขอพระองค์อย่าเพิ่งตรัสถามถึงเหตุผลเลย
เจ้าชายสังวรกุมารทรงทำตามที่พระอาจารย์แนะนำ ผลปรากฏในเวลาต่อมาว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักพระองค์และไม่มีใครที่จะไม่รักพระองค์
(มีต่อ)
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2004, 7:39 pm
ต่อมาพระราชาประชวรหนัก และรู้พระองค์ว่าจะมีพระชนม์อยู่ได้ไม่นาน จึงรับสั่งให้ประชุมอำมาตย์ และตรัสสั่งเสีย
ลูกเราทุกคนมีสิทธิได้เศวตฉัตรเหมือนกัน แต่คนที่ครองใจคนทั้งหลายได้ย่อมมีสิทธิ์มากกว่า ขอให้พวกเจ้ายกเศวตฉัตรให้ลูกเราคนนั้นเถิด
ครั้นตรัสสั่งเสียได้ไม่นาน พระราชาก็สวรรคต อำมาตย์ทั้งหลายก็ปรึกษาหารือกันโดยยึดพระดำรัสตรัสสั่งของพระราชาเป็นหลัก
ทุกคนมีความเห็นสอดคล้องกันว่าเจ้าชายที่ครองใจคนทั้งหลายไว้ได้ คือ เจ้าชายสังวรกุมาร จึงถวายเศวตฉัตรทูลเชิญเจ้าชายขึ้นครองราชย์เฉลิมพระนามว่า พระเจ้าสังวรมหาราช ทันที
หลังจากได้ครองราชย์แล้ว พระเจ้าสังวรมหาราชก็ทรงหวนนึกถึงเหตุผลที่พระอาจารย์ทูลแนะนำให้ทำสังคมสงเคราะห์ได้ชัดเจน
ฝ่ายเจ้าชาย 99 พระองค์เมื่อทรงทราบข่าวพระบิดาสวรรคต และทรงทราบว่าพระอนุชาพระองค์เล็กได้ครองราชสมบัติต่างก็ไม่พอพระทัย จึงพร้อมกันยกทัพมาล้อมเมืองพาราณสีไว้แล้วส่งสาส์นไปถวายพระเจ้าสังวรมหาราชว่าให้เลือกเอาระหว่างสงครามกับความสงบ หากไม่ต้องการให้เกิดสงครามก็ขอให้ยกราชสมบัติให้เจ้าพี่พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง แต่ถ้าต้องการสงครามก็ครองราชสมบัติต่อไป
จะทำอย่างไรดีท่านอาจารย์ พระเจ้าสังวรมหาราชตรัสถามพระอาจารย์ด้วยพระสุรเสียงแสดงความวิตกกังวล
ขอให้สบายพระทัยเถิด พระเจ้าข้า พระอาจารย์กราบทูล
ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องรบกับเจ้าพี่ทั้งหลายหรอก แต่ขอให้ทรงปฏิบัติตามที่หม่อมฉันแนะนำ คือ แบ่งพระราชทรัพย์ของพระบิดาที่มีอยู่ในพระคลังออกเป็นร้อยส่วน แล้วส่งไปถวายเจ้าพี่พระองค์ละหนึ่งส่วน พร้อมทั้งทูลว่าไม่ขอรบด้วย
พระเจ้าสังวรมหาราชทรงทำตามคำแนะนำ เจ้าชายอุโบสถกุมารพระเจ้าพี่พระองค์โตครั้นได้พระราชทรัพย์เป็นส่วนแบ่งแล้วก็พอพระทัย จึงทรงเกลี้ยกล่อมพระอนุชาทั้ง 98 พระองค์ให้เลิกคิดชิงราชสมบัติโดยตรัสว่า
น้องทั้งหลาย พวกเราคงไม่สามารถจะเอาชนะพระราชาได้หรอก พระองค์เป็นน้องคนเล็กแต่ไม่เป็นศัตรูกับพวกเราผู้เป็นพี่ซึ่งกำลังจะแย่งราชสมบัติ มิหนำซ้ำยังส่งพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของพระบิดามาให้พวกเรา ตำแหน่งกษัตริย์มีอยู่ตำแหน่งเดียว พวกเราทั้งหมดจะเป็นกษัตริย์มีอยู่ตำแหน่งเดียว พวกเราทั้งหมดจะเป็นกษัตริย์พร้อมกันทีเดียวย่อมไม่ได้ บัดนี้ น้องชายคนเล็กของเราก็ได้เป็นกษัตริย์แล้ว จึงขอให้เราทุกคนยอมรับและกลับไปครองเมืองตามที่พระบิดามอบให้ตามเดิมเถิด
เจ้าชายทุกพระองค์พอได้ฟังเจ้าพี่พระองค์โตตรัสดังนั้น ก็พระทัยอ่อนยอมปฏิบัติตาม และก่อนเสด็จกลับเมืองของตนก็ได้พากันเข้าเฝ้าพระเจ้าสังวรมหาราช พระอนุชา ถึงพระตำหนัก และเมื่อถวายบังคมแล้วก็ประทับนั่งบนราชอาสน์ที่ต่ำกว่า ส่วนพระเจ้าสังวรมหาราชก็ประทับนั่งบนพระแท่นสีหาสน์ภายใต้เศวตฉัตร ตรัสสนทนากับเจ้าพี่
เจ้าชายทั้งหมดประทับอยู่กับพระเจ้าสังวรมหาราชนานถึง 1 เดือน และก่อนลากลับทุกพระองค์ก็ถวายคำมั่นสัญญาว่า ขอเดชะมหาราช ขอพระองค์จงทรงพระเกษมสำราญในราชสมบัติเถิด หม่อมฉันทุกคนจะเป็นต่างพระเนตรพระกรรณคอยดูแลเมืองในปกครองให้เรียบร้อย ขอทรงอย่าวิตกกังวลเลย
พระเจ้าสังวรมหาราชทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรรม ตามคำแนะนะของพระอาจารย์ผู้เป็นบัณฑิต ส่งผลให้แว่นแคว้นพระองค์สงบสุขตลอดรัชกาล
นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มิตรแท้นั้นคือ มิตรที่หวังประโยชน์เพื่อมิตรอย่างแท้จริง ครูอาจารย์ที่ดีนับว่าเป็นมิตรแท้
................... เอวัง ...................
TU
บัวทอง
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
ตอบเมื่อ: 19 ธ.ค.2004, 3:48 pm
ขอขอบพระคุณ.....
คุณสอาด พักษร
artp009@yahoo.com
สมาชิกลำดับที่ : 27 เป็นพิเศษ
สำหรับการเป็นผู้พิมพ์เนื้อหาทั้งหมดของหนังสือ "นิทานธรรม ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์ โดย ธรรมสภา จำนวน 2 เล่ม..... ลงในเว็บธรรมจักร นะค่ะ
ขอให้การเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมและพระพุทธศาสนา นำมาซึ่งความ
เจริญรุ่งเรืองร่มเย็นในพระธรรมของพระพุทธองค์นะค่ะ คุณสอาด
Son
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 ต.ค.2005, 3:45 pm
นิทานเรื่องนี้ดีมาก
ชินาภรณ์ ดมโชคมงคล
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 19 ก.ค.2006, 6:26 pm
ให้ความรู้ดีมาก ขอให้คนอ่านกันเยอะๆๆๆๆๆๆ นะคะ เเละขอปรบมือให้
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2008, 1:38 pm
บ้านเมืองเราต้องการคนแบบนี้มากเลย
_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นิทาน-การ์ตูน
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th