ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
tasoz
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2008
ตอบ: 3
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2008, 7:46 pm |
  |
ในชีวิตของผู้คนปกติทั่วไป ทานอาหารทั้งที่เป็นเนื้อสัตว์ พืช ได้เบียดเบียนชีวิตพวกเขาเหล่านั้น แต่ก็มีเสียงจากคนบงกลุ่ม ว่า เค้าเป็นอาหาร เราไม่บาป ดูแล้ว มันเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวไปนิดนึงนะครับ อย่างคนที่ทำงานฆ่าสัตว์ตามโรงฆ่าสัตว์ มีคนประนาม หาว่าเค้าทำบาปทำกรรม แต่คนเหล่านั้นก็ทานเนื้อสัตว์ที่ได้จากโรงฆ่าสัตว์ทั้งสิ้น ..ใครว่า การรับประทานผัก ไม่บาป ผมคนนึงนะครับ ที่ว่าถ้าคิดถึงเรื่องบาป ไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วหันมากินผัก ก็บาปไม่แพ้กัน เลือดของผักก็คือยางที่ไหลออกมา ผักก็มีชีวิต ต้องการอาหาร อากาศ น้ำ ปัจจัยต่างๆไม่ได้ต่างไปจากสัตว์เลย แต่ทำไม คนบางคน จึงหลีกเลี้ยงที่จะยอมรับความจริง
ผมเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์นะครับ ก็เลี้ยงหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ปลาบางชนิดที่ผมเลี้ยงก็ต้องกินกุ้งฝอย ลูกปลาเป็นอาหาร ก็มีบ่นผมว่า ทำบาปทำกรรม แต่ที่บ้านเค้า ชอบแกงส้มลูกครอก(ลูกปลาช่อนตัวแดงๆ) วิธีทำคือ เอาน้ำใส่หม้อพอประมาณ หั่นผักบุ้งลงไปเป็นท่อนๆ แล้วก็เอาลูกปลาเป็น ล้างน้ำ แล้วใส่ลงไป เอาหม้อไปตั้งไฟ พอน้ำเริ่มร้อน ลูกปลาก็จะเข้าไปอัดแน่น ตายในข้อผักบุ้ง วิธีการกินนี้ ทรมานสัตว์นะครับ จะมาหาว่า คนกิน ทำแบบนี้ไม่บาป ผมว่า มันเป็นเหตุผลที่อุบาทศ์ที่สุดเลย เพื่อนผมเลี้ยงงู เอาหนูให้งูกินก็โดนคนอื่นว่า แต่ทำไม ไม่นึกดูมั่งละครับ ว่างู มันกินหนู ก็เพื่อเป็นอาหารเช่นกัน ไม่ต่างจากคนเลย ในธรรมชาติ งูกินเหยื่อ1ตัว(งูบนบกทั่วไป)สามารถอยู่ได้ประมาณ1อาทิตย์ และถ้างูขนาดใหญ่ กินแกะ1ตัว สามารถอยู่ได้นานถึงกว่า1เดือน หลายคนไม่ทราบอาจจะว่าผมเวอร์นะครับ แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ในขณะที่คนเรา กินอาหารวันละ3มื้อ แต่ละมื้อแทบจะไม่ขาดเนื้อสัตว์ ข้าวต้มกับปลาแห้งจานเดียว ปลาตัวเล็กๆต้องตายไปกว่า20-50ตัวในแต่ละจาน ละมื้อ ละคน ในการกินของคน เคยได้ยินว่า สมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่า อย่าไปบริโภคเนื้อสัตว์เลย มันเป็นบาป อย่าบริโภคพืชเลย มันเป็นบาป ทุกวันนี้เราก็ไม่ได้บริโภคพืช บริโภคสัตว์ แต่เรา...บริโภคอาหารผมโดนผู้คนหลายต่อหลายคน ถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาปหนา ผมก็ไม่เข้าใน ในเมื่อ ปลา งู หลายต่อหลายอย่าง มันกินไปก็เพื่ออยู่ งู กินได้ไม่ได้เคี้ยว กินเหยื่อทั้งตัว คงไม่ได้รับรสชาติอะไรมาก ปลา ก็งับและกลืน ก็คงไม่ได้รับรสชาติเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาทำไป เพื่อการอยู่รอด และเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างสมดุลให้ระบบนิเวศน์ของโลกไม่ให้ขาดสมดุล พวกเขาผิดหรือปล่าวครับ ที่กินแบบนี้ แล้วผมอยากทราบว่า พวกคุณ คิดว่า ผมเป็นคนเช่นไร บาปติดตัวมากขนาดไหนผมไม่ใช่เป็นคนโหดเหี้ยม ดูการกินของสัตว์เป็นเรื่องสนุก ผมก็ช่วยสังคมมาเยอะ ออกค่ายอาสา สร้างฝายกั้นน้ำ ทำบุญ ทำทาน ผมไม่ได้โฆษณาให้ตนเองดูดีนะครับ แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจ ว่า ผมไม่ได้มีเจตนาโหดเหี้ยมอะไรแบบนั้นเลย ขอืทราบความคิดเห็นของทุกๆคนที่จะกรุณาผมด้วยครับ ขอขอบคุณครับ |
|
|
|
  |
 |
น้อม
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2008, 11:03 pm |
  |
กินพืช จะเหมือนกินสัตว์ได้ไงกัน พืชกะสัตว์เป็นคนละประเภทเลยค่ะ สิ่งมีชีวิตแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ พืช สัตว์ และพวกเชื้อรา สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
ยางพืช กับ เลือดสัตว์ ก็สารเคมีคนอย่าง
ส่วนสัตว์อย่างหนึ่งกินสัตว์อีกอย่าง มันเป็นเรื่องของธรรมชาติที่ให้มีการควบคุมกันเอง ไม่ให้มีสิ่งใดที่มากเกินไป ... อย่าไปว่าการบริโภคเพื่ออยู่รอดของสัตว์กินเนื้อว่าทำบาป ธรรมชาติออกแบบมาอย่างนี้
ส่วนคน กินทั้งพืชกินทั้งสัตว์ แต่เราเลือกได้ที่จะกินอะไร (สมัยนี้ไม่เหมือนสมันดึกดำบรรพ์ ที่ต้องยังชีพด้วยการล่าสัตว์)
เดาใจว่าเจ้าของกระทู้ กำลังกลุ้มใจเรื่องถูกคนตราหน้าว่าบาปหนา ใช่ไหมคะ เอ่อ ต้องดูว่า คนที่พูดเนี่ยเป็นใคร ทำไมคุณจะต้องไปเชื่อเค้าคะ ถ้าว่างๆ มาอ่านบทความ หรือหนังสือในเวปนี้ซีคะ ดีๆ ทั้งนั้น เพื่อเพิ่มมุมมองใหม่ๆ ค่ะ |
|
|
|
  |
 |
tasoz
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2008
ตอบ: 3
|
ตอบเมื่อ:
25 พ.ค.2008, 9:25 am |
  |
ขอขอบคุณ คุณน้อมมากนะครับ |
|
|
|
  |
 |
โปเต้
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2008
ตอบ: 76
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
25 พ.ค.2008, 5:12 pm |
  |
ฟังดูคล้ายกับจะเปรียบเทียบว่า ฆ่ามด ฆ่ายุง ทุบหัวปลา เชือดไก่ เชือดวัว แล้วก็ฆ่าคน เป็นบาปเท่ากัน
แล้วก็เลยคล้ายจะสรุปว่า เมื่อบาปเท่ากันแล้ว ฆ่ามดได้ก็น่าจะฆ่าคนได้ เพราะก็บาปเหมือนกัน
อีกทีก็ ขโมยของ ขโมยเงินชาวบ้าน กับการขโมยลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์( โดยใช้ของปลอม ของเถื่อน) หรือซื้อเทปผี ซีดีเถื่อน เป็นบาปเท่ากัน
แหม ถ้ามันบาปเท่ากัน ก็หาช่องทางโกงเงินชาวบ้านซักหลายๆล้าน แล้วไปตั้งตัวเลย ไม่ดีก่าเหรอ ไหนๆก็ไหน จามานั่งเล่นวินโดว์เถื่อนอยู่ทำไม
พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงห้ามการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือผักนะคะ แม้พระเทวทัตจะขอให้บัญญัติในพระวินัย ว่าห้ามพระฉันเนื้อสัตว์ ก็ไม่ทรงยินยอม ทรงอนุญาติการฉันเนื้อสัตว์ ที่ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน เขาฆ่า หรือรังเกียจว่าเขาฆ่ามาเพื่อเฉพาะตน
ชีวิตมนุษย์นั้น คับแคบ หันไปทางไหนก็เป็นบาปหมดแหละค่ะ ถ้าจะเอาจริงๆ
พระพุทธเจ้าท่านให้เดินสายกลาง แม้กระทั่งการดื่มน้ำ
ท่านบัญญัติเพียงแค่ให้ใช้ที่กรองน้ำ เพื่อกันไม่ให้ดื่มตัวอะไรที่มันใหญ่เกินกว่าการกรองของผ้ากรอง
เพราะจะว่าไปแล้วมันก็มีสารพัดสัตว์ในน้ำที่เราดื่มกันอยู่ แม้จะต้มอย่างดีแล้ว เชื้อบางชนิดก็ยังทนทายาด สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในอุณหภูมิเกินจุดเดือด
เลือกทางสายกลางในการดำเนินชีวิตที่ต้องเบียดเบียนน้อยที่สุด
เอากุศลจิตเจนาเป็นตัวตั้ง ว่าเราไม่คิดที่จะเบียดเบียนใครแม้กระทั่งตัวเองให้เดือดร้อน ก็โอเคแล้ว
แล้วถ้าจะให้ยิ่งขึ้นไปกวานี้ ก็คือ การเผื่อแผ่ความปราถนาดี ความคิดที่ดีงาม ทั้งต่อตัวเอง และผู้อื่น อะไรที่พอจะอภัยกันได้ก็อภัยกันไป ยิ้มให้กันดีกว่าค่ะ โลกจะได้สดใส
 |
|
|
|
  |
 |
|