ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ชีวิตคืออะไร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2008
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ค.2008, 8:07 am |
  |
ช่วยบอกหน่อยนะครับพอดีแถวบ้านคนนับถือแก่นแท้ของพุทธแล้ว กลับไปไหว้ศาสนาพราหมณ์ซะงั้นครับ และห้อยจตุคามด้วยครับ ผมดีผมชอบอยู่หลักสายกลางเลยไม่ค่อยเชื่อครับ |
|
|
|
    |
 |
รุ่งลลิดา สกุลงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 21 ก.ค. 2007
ตอบ: 53
ที่อยู่ (จังหวัด): 75/8 ม.3 ม.จามจุรี 2 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 71120
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ค.2008, 3:09 pm |
  |
มนุษย์ที่ยังมีความยึดติด ยังคงต้องหาที่พึ่งไปเรื่อยๆต้นไม่บ้างแม่น้ำบ้าง ภูเขาบ้าง ขนาดมีรอยเท้าของพระพุทธองค์ให้เดินตาม มนุษย์ ก็ยังมีมิจฉาทิฏฐิอยู่อีกมาก อย่างไรก็ช่างเขาเถิด |
|
_________________ มีสติไว้ |
|
    |
 |
ใบโพธิ์
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ค.2008, 5:10 pm |
  |
|
  |
 |
ลองภูมิ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 17 มี.ค. 2008
ตอบ: 16
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ค.2008, 8:42 pm |
  |
ถ้าจะกล่าวว่า พระพุทธองค์ทรงไม่ได้แย้งเรื่องเทพ เทวดา แต่ทรงได้ชี้ว่า เรื่องเหล่านี้มิใช่หนทางในการพ้นทุกข์ ฉะนั้นการที่คนเราจะไปกราบไหว้พระภูมิ หรือเทพองค์ใดก็ไม่ใช่สิ่งแปลก แต่สำคัญที่ว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจและเป็นแบบอย่างในการทำความดี และอย่างน้อยเขาเหล่านั้นก็ย่อมเชื่อในเทพ เทวดา เชื่อในภพภูมิ เชื่อในเวรกรรม และสมมุติว่าคนเหล่านี้ไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้แล้ว ในเมืองนี้ จะมีแต่คนที่ไม่เชื่ออะไรเลยเต็มบ้านเต็มเมือง แบบนี้คงวุ่นวาย ชาวบ้านก็จะวุ่นวาย เพราะเขาไม่เชื่อในเรื่องเวรกรรม และการทำความดี
ถ้าเราจะชี้นำให้คนเหล่านี้เชื่อในพระพุทธองค์ ผมคิดว่าน้อยคนที่เขาเหล่านี้จะยอมตาม เพราะขนาดเรื่องเทพเทวดา ฉันยังไม่ไหว้เลย ประสาอะไรละ คิดแบบนี้ จะดีกว่า ให้คิดว่าสิ่งที่เขาเป็น ไม่ได้เดือดร้อนใคร แล้วทำไมเราต้องไปเดือดร้อนแทนเขาละ ก็เราใจเป็นกลางแล้ว ก็อย่าไปห้ามเขาเลยนะ ......สายกลาง ต้องกลางให้จริง สาธุ |
|
|
|
   |
 |
ชีวิตคืออะไร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2008
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 6:46 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
สมมุติว่าคนเหล่านี้ไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้แล้ว ในเมืองนี้ จะมีแต่คนที่ไม่เชื่ออะไรเลยเต็มบ้านเต็มเมือง แบบนี้คงวุ่นวาย ชาวบ้านก็จะวุ่นวาย เพราะเขาไม่เชื่อในเรื่องเวรกรรม และการทำความดี |
คุณลองภูมิครับ ถ้าทุกคนไม่เชื่อทุกอย่างก็ดีแล้วไม่ใช่หรอครับเพื่อปลดปล่อยอิสระภาพของตนเอง ไม่ใช่ไหว้ของสิ่งงมงาย
แม้ว่ามันจะทางใจก็เหอะแต่อย่างน้อยก็มีพวกปัญญาใช้ผลประโยชน์เรื่องเงินไม่ใช่หรอ คุณต้องคิดเรื่องนี้ด้วย
เขาก็โดนอิทธพลครอบงำเลยเกิดให้เป็นอย่างงี้ และพวกเราทั้งหลายเชื่อเรื่องของผู้ใหญ่อันไร้สาระมาตั้งแต่เด็ก เลยเกิดตามนํ้า แล้วก็ไหว้เพราะกลัวเลยต้องพึงพิ่งทางใจใช่ไหม |
|
|
|
    |
 |
ลองภูมิ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 17 มี.ค. 2008
ตอบ: 16
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 11:26 am |
  |
ถ้าคุณเชื่อในพุทธศาสนา คุณก็จงเชื่อในเรื่องเวรกรรม ถ้ามีเวรกรรม ใครทำสิ่งใดไว้ก็จะได้รับผลกรรมอย่างแน่นอน ไม่เร็วก็ช้า แล้วแต่กงกรรมของแต่ละคน
เดินตามคำสอนแต่อย่างเดินตามรอยเท้า เดินตามทางแต่อย่าเดินตามใจ เดินให้สบาย ต้องเดินทางสายกลาง สาธุ |
|
|
|
   |
 |
ชีวิตคืออะไร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2008
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 6:42 pm |
  |
นั้นหรอที่คุณเชื่อเรื่องเวรกรรมนั้นหรอ โดยคุณใช้เป้าหมายเป็นปลายทางความสำเร็จด้วยหรอ ถ้าเป็นยังงั้นผู้คนต้องมีกฏระเบียบเหมือนโดนกรงขังไว้
สำหรับผมแล้วไม่มีต้นทางกับปลายทางครับและผมไม่ได้มีป้ายชื่อศาสนาครับ
ผมไม่มีสังกัด ผมไม่มีลัทธิใดเลยครับ มีแต่ปลดปล่อยครับ |
|
|
|
    |
 |
ลองภูมิ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 17 มี.ค. 2008
ตอบ: 16
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 7:51 pm |
  |
จงไปดีเถิดครับ ผมจะสวดอ้วนว้อนให้ จะปลดปล่อยหรือปลดอะไรก็อย่าไปทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนนะครับ ทุกสังคมเขามีกฏหมู่อยู่และอย่างน้อยสังคมนี้ก็มีกฏหมายควบคุมด้วยอีกครั้งหนึ่ง การทำใครเดือดร้อน กฏหมู่จะเกิดขึ้น และความเดือดร้อนจะตามมา จงบินไปเถิด จงบินอย่างนกที่ไร้รัง จงหาตัวเองให้พบ แล้ววันหนึ่งคุณพบเอง จงบินจากนี้ไปเถิดอย่าเกาะติดเลย จะขาดอิสระภาพไป เดี๋ยวจะอดปลดปล่อยนะครับ |
|
|
|
   |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 8:00 pm |
  |
ชีวิตคืออะไร พิมพ์ว่า: |
ช่วยบอกหน่อยนะครับพอดีแถวบ้านคนนับถือแก่นแท้ของพุทธแล้ว กลับไปไหว้ศาสนาพราหมณ์ซะงั้นครับ และห้อยจตุคามด้วยครับ ผมดีผมชอบอยู่หลักสายกลางเลยไม่ค่อยเชื่อครับ |
ศาสนาพุทธ ถือกำเนิด มาจาก ศาสนาพราหมณ์ (ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงศาสนาอื่น) ดังนั้น ในศาสนาพุทธจึงยังคงยึดถือว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้าง (หมายถึงพระพรหม) เช่นเดียวกับศาสนา พราหมณ์ ฮินดู (หลายๆท่าน ไม่ต้องถกเถียงว่า ศาสนาพุทธมิให้เชื่อเรื่องพระพรหม ในกระทู้นี้เอาเฉพาะเรื่องก่อนเรื่องอื่นเอาไว้วันหน้า)
อีกทั้งพิธีกรรม ยังอำนวยให้ผู้ศรัทธาเชื่อเรื่องผีสาง เทวดา อยู่ (ใครอย่าบอกว่า ไม่มีนะ วันพระ เข้าพรรษา หรือ ว้นสำคัญอื่นๆ ที่เขาพากันนำข้าวปลาอาหารไปถวายวัด นั้นแหละ เป็นตัวชี้เหตุ)
อีกทั้ง ในสมัยโบราณ คนไทย และศาสนาพุทธในไทย ยังได้รับอิทธิพล ของระบบเทวราช จากพวก ขอม ให้เชื่อเรื่องเทพ เทวดา ฯลฯ จึงทำให้คนไทยติดยึดต่อต่อกันมา ขอรับ |
|
|
|
  |
 |
ratchadapa
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 05 ม.ค. 2008
ตอบ: 84
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 9:14 pm |
  |
นี้แหละ "อเหตุอปัจจยวาท"
 |
|
_________________ พวกเธอจงยินดีในความไม่ประมาท
จงระมัดระวังจิตของตน
จงถอนตนออกจากหล่มกิเลส
เหมือนพญาช้างติดหล่ม
พยายามช่วยตัวเอง |
|
  |
 |
มัทนา ณ หิมะวัน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ก.ย. 2007
ตอบ: 34
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2008, 9:57 pm |
  |
Indeterminism or accidentalism is the kind of wrong view
in Buddhist Paradigm ,right? Khun Ratchadapa
Khun Longpume, which prayer do u wish to pray in this situation ?  |
|
|
|
  |
 |
ชีวิตคืออะไร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2008
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2008, 6:53 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
จงไปดีเถิดครับ ผมจะสวดอ้วนว้อนให้ จะปลดปล่อยหรือปลดอะไรก็อย่าไปทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนนะครับ ทุกสังคมเขามีกฏหมู่อยู่และอย่างน้อยสังคมนี้ก็มีกฏหมายควบคุมด้วยอีกครั้งหนึ่ง การทำใครเดือดร้อน กฏหมู่จะเกิดขึ้น และความเดือดร้อนจะตามมา จงบินไปเถิด จงบินอย่างนกที่ไร้รัง จงหาตัวเองให้พบ แล้ววันหนึ่งคุณพบเอง จงบินจากนี้ไปเถิดอย่าเกาะติดเลย จะขาดอิสระภาพไป เดี๋ยวจะอดปลดปล่อยนะครับ
|
คุณลองภูมิครับ เข้าใจผิดแล้วครับผมไม่ใช่เป็นผู้นำคำสอนนะครับ
มีแต่พลังสร้างสรรค์ครับคิดริเริ่มครับ ในที่นี้เหมือนกับว่าผมเป็นเด็กที่ซนโน่นซนนี่ครับ
หวังว่าคุณจะเข้าใจ
อ้างอิงจาก: |
ศาสนาพุทธ ถือกำเนิด มาจาก ศาสนาพราหมณ์ (ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงศาสนาอื่น) ดังนั้น ในศาสนาพุทธจึงยังคงยึดถือว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้าง (หมายถึงพระพรหม) เช่นเดียวกับศาสนา พราหมณ์ ฮินดู (หลายๆท่าน ไม่ต้องถกเถียงว่า ศาสนาพุทธมิให้เชื่อเรื่องพระพรหม ในกระทู้นี้เอาเฉพาะเรื่องก่อนเรื่องอื่นเอาไว้วันหน้า)
อีกทั้งพิธีกรรม ยังอำนวยให้ผู้ศรัทธาเชื่อเรื่องผีสาง เทวดา อยู่ (ใครอย่าบอกว่า ไม่มีนะ วันพระ เข้าพรรษา หรือ ว้นสำคัญอื่นๆ ที่เขาพากันนำข้าวปลาอาหารไปถวายวัด นั้นแหละ เป็นตัวชี้เหตุ)
อีกทั้ง ในสมัยโบราณ คนไทย และศาสนาพุทธในไทย ยังได้รับอิทธิพล ของระบบเทวราช จากพวก ขอม ให้เชื่อเรื่องเทพ เทวดา ฯลฯ จึงทำให้คนไทยติดยึดต่อต่อกันมา ขอรับ |
ใช่คุณพูดถูก ยังมีคนที่ยังต้องพึ่งพิงอยู่ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุณเล่านะ ส่วนพวกเราเองก็แค่มองกับมองซึ่งพวกเราไม่สามารถไปเอาเรื่องของพุทธแท้กับเรื่องของผมไปสอนให้เขารู้ได้ใช่ไหม ถ้าทำจะเกิดความขัดแย้ง
ดังนั้นเราก็ไม่สามารถอยู่เหนือโดยอิทธิพลมากมายมาครอบงำในตัวพวกเรา(รวมผมด้วย) |
|
_________________ ที่ใดมีการเลือกหรือแบ่งแยก ที่นั้นย่อมมีการขัดแย้ง |
|
    |
 |
ratchadapa
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 05 ม.ค. 2008
ตอบ: 84
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2008, 8:57 am |
  |
มัทนา ณ หิมะวัน พิมพ์ว่า: |
Indeterminism or accidentalism is the kind of wrong view
in Buddhist Paradigm ,right? Khun Ratchadapa
Khun Longpume, which prayer do u wish to pray in this situation ?  |
คงไม่สวดมนต์อ้อนวอนหรอกค่ะ ใช้หลักพรหมวิหารนี้แหละ เมตตาก่อน กรุณาตามมา ถ้าไม่ได้ผลก็ต้องอุเบกขา
บางอย่างต้องใช้เวลานาน อาจจะหลายภพชาติ
 |
|
_________________ พวกเธอจงยินดีในความไม่ประมาท
จงระมัดระวังจิตของตน
จงถอนตนออกจากหล่มกิเลส
เหมือนพญาช้างติดหล่ม
พยายามช่วยตัวเอง |
|
  |
 |
ลองภูมิ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 17 มี.ค. 2008
ตอบ: 16
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2008, 11:36 am |
  |
"คุณลองภูมิครับ เข้าใจผิดแล้วครับผมไม่ใช่เป็นผู้นำคำสอนนะครับ
มีแต่พลังสร้างสรรค์ครับคิดริเริ่มครับ ในที่นี้เหมือนกับว่าผมเป็นเด็กที่ซนโน่นซนนี่ครับ
หวังว่าคุณจะเข้าใจ"
ผมว่าผมเข้าใจถูกนะ แต่มะเป็นไร ผมยังไม่ได้คิดว่าคุณเป็นผู้นำสอนของใครเลยเลยนะ จริงๆ เอาเป็นว่าคุณทำความเข้าใจในตัวคุณได้ก่อน ค่อยมากว่ากันใหม่นะ  |
|
|
|
   |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2008, 8:13 pm |
  |
ผู้ใช้ชื่อ ....ชีวิตคืออะไร เขียนว่า....
ใช่คุณพูดถูก ยังมีคนที่ยังต้องพึ่งพิงอยู่ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุณเล่านะ ส่วนพวกเราเองก็แค่มองกับมองซึ่งพวกเราไม่สามารถไปเอาเรื่องของพุทธแท้กับเรื่องของผมไปสอนให้เขารู้ได้ใช่ไหม ถ้าทำจะเกิดความขัดแย้ง
ดังนั้นเราก็ไม่สามารถอยู่เหนือโดยอิทธิพลมากมายมาครอบงำในตัวพวกเรา(รวมผมด้วย)
ตอบ...
ข้าพเจ้าจะแนะแนวการคิดในทางศาสนาให้คุณได้เข้าใจ สักพอสังเขป นะว่า....
มนุษย์ มีสภาพสมองสติปัญญา การได้รับการขัดเกลาทางสังคม ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ความคิด ความเข้าใจ ในศาสนาจึงแตกต่างจากกัน
คุณคิดว่า การที่เขานับถือศาลพระภูมิ เจ้าที่ นั้น ไม่ใช่ศาสนาพุทธแท้ หรือแก่นแท้ของศาสนาพุทธ
ความคิดอย่างนั้น คุณคิดผิดนะขอรับ
ในเมื่อมนุษย์ มีความคิดอ่าน มีสมองสติปัญญา ความรู้ ความเข้าใจไม่เหมือนกัน ดังนั้น ผู้ที่นับถือเจ้าที่เจ้าทาง ศาลพระภูมิ ก็เป็นสภาพการหลุดพ้นจากความทุกข์ทางใจ อย่างหนึ่ง แต่เป็นในทางปุถุชน ที่ได้รับการขัดเกลามาอย่างนั้น
คุณต้องทำความเข้าใจไว้อย่างหนึ่งว่า มีคนเป็นจำนวนมาก มีความอยาก มีความต้องการ คือ อยากได้เร็วๆ อยากมีผู้คุ้มครอง แบบที่วิเศษ ปกปักรักษา ชนิดที่มหัศจรรย์พันลึก แม้จะเป็นความรู้ความเข้าใจที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก ตามหลักพุทธศาสนา แค่สิ่งที่พวกเขาทำอยู่ ดันเป็นหลักของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ซึ่ง ก็เป็นหนทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ได้วิธีหนึ่ง
การจะให้ใครเขา เข้าถึงแก่นแท้ ของพุทธะ มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ดอกนะคุณ ถ้ามีความพยายาม
แล้วคุณก็ควรได้ทำความเข้าใจไว้ จะได้สบายใจ ว่า การนับถือศาลพระภูมิ เจ้าที่ ก็เป็นหนทางหลุดพ้นอย่างหนึ่ง และเป็นไปตามหลักธรรมในศาสนาพุทธด้วย เพียงแต่ วิธีการไม่ใช่ของศาสนาพุทธเท่านั้น |
|
|
|
  |
 |
ชีวิตคืออะไร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2008
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
07 พ.ค.2008, 7:10 am |
  |
ผมเริ่มเข้าใจแล้วครับ คุณBuddha ครับ แต่ถ้าคำถามที่ผมจะถามกลับไปว่า เราคิดในฐานะมนุษย์แล้ว นั้นคือผลสบายใจของปลายทางใช่ไหมครับ |
|
_________________ ที่ใดมีการเลือกหรือแบ่งแยก ที่นั้นย่อมมีการขัดแย้ง |
|
    |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
07 พ.ค.2008, 7:51 am |
  |
ชีวิตคืออะไร พิมพ์ว่า: |
ผมเริ่มเข้าใจแล้วครับ คุณBuddha ครับ แต่ถ้าคำถามที่ผมจะถามกลับไปว่า เราคิดในฐานะมนุษย์แล้ว นั้นคือผลสบายใจของปลายทางใช่ไหมครับ |
สิ่งที่ผมต้องการประการเดียวคือ ปลดปล่อยมนุษย์เป็นอิสระภาพจากเงื่อนไขๆ ต่าง
ตอบ.......
คุณยังไม่เข้าใจความคิดของมนุษย์ และความฝังใจในความรุ้ ในความเข้าใจของมนุษย์ อันเป็นจิตวิทยาของมนุษย์
อันมนุษย์บางกลุ่มบางพวก บางชุมชน หรือบางสังคมนั้น เมื่อได้รับการปลูกฝัง หรือได้รับการศึกษา ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจ จนจำไว้ได้แล้ว
สิ่งที่เขาได้ทำตาม ความรู้ ความเข้าใจของเขานั้น จะทำให้เขาเกิด ความรู้สึกว่า เขาสบายใจ พ้นจากความทุกข์ ตั้งแต่ต้น จนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขา
เขาเหล่านั้น มีความรู้ตามแนวทางศาสนาพุทธ คือ มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย และอื่นๆ แต่เขายึดถือว่า สิ่งที่เขากระทำ เป็นสิ่งที่ทำให้เขาพ้นทุกข์ ได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น ไม่ว่าจะต้นทาง หรือปลายทาง สภาพจิตใจของเขา พ้นจากความทุกข์ได้ เช่นกัน เพราะสภาพสภาวะจิตใจอันเกิดจากการ ได้รับการสัมผัส ทางอายตนะ คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ อันได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง แสง สี โผฏฐัพพะ นั้น จะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน หมายความว่า ถ้าคุณปฏิบัติตามแก่นแท้ทางศาสนาอย่างที่คุณเข้าใจ กับการที่เขาเหล่านั้น ปฏิบัติ ตามที่เขาเข้าใจ สภาพสภาวะจิตใจที่เกิดจะเหมือนกัน รูปแบบเดียวกัน คือทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ได้ทั้งต้นทางและปลายทาง เหตุเพราะเมื่อกระทำไปแล้ว ก็จะเกิด ความคิด อันจักเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิด สภาพสภาวะจิตใจที่เหมือนกัน อันนี้คุณต้องทำความเข้าใจให้ดี และควรได้ศึกษา สังเกต หรือหาประสบการณ์ด้วยตัวท่านเอง ก็จะรู้ได้ |
|
|
|
  |
 |
ชีวิตคืออะไร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2008
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
07 พ.ค.2008, 9:59 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
ถ้าคุณปฏิบัติตามแก่นแท้ทางศาสนาอย่างที่คุณเข้าใจ กับการที่เขาเหล่านั้น ปฏิบัติ ตามที่เขาเข้าใจ สภาพสภาวะจิตใจที่เกิดจะเหมือนกัน รูปแบบเดียวกัน คือทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ได้ทั้งต้นทางและปลายทาง เหตุเพราะเมื่อกระทำไปแล้ว ก็จะเกิด ความคิด อันจักเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิด สภาพสภาวะจิตใจที่เหมือนกัน อันนี้คุณต้องทำความเข้าใจให้ดี และควรได้ศึกษา สังเกต หรือหาประสบการณ์ด้วยตัวท่านเอง ก็จะรู้ได้
|
Code: |
คุณครับ มันคนละเรื่องกันครับ นั้นมันลายเซ็นครับแต่คุณเล่าเรื่องมาดีครับ
ตอนนี้เราอาจจะเปิดหัวข้อใหม่สำหรับกระทู้นี้เลยก็ได้ครับเพื่อเปิดถกธรรมะกับผมก็ได้ครับ |
' '
การที่คุณบอกว่าถ้าพ้นทุกข์ก็จะสบายใจจริงหรือเพราะว่าศาสนาบางทีใช้โครงการหรืออุดมคติ
เพื่อปลูกให้ตื่นจากการพ้นทุกข์ใช่หรือไหม ผมเองยังไม่รู้แต่เรามาสืบสวนกันนะเหมือนเราเป็นเพื่อนกันนะ
ดังนั้นคำถามคือสิ่งที่คนเราปฏิบัติคือศาสนาหรือสังคมหรอเปล่า คุณต้องถามตัวเองเพื่อแน่ชัดแต่ไม่ได้คิดนะแต่อยู่ที่จิตใจส่วนลึกเลย แต่คุณอย่ายอมรับมันหรือปฏิเสธมันไป เพราะความจริงอยู่ที่จิตลึกของฐานะมนุษย์เองละ
เพราะพวกเราจะต้องปฏิบัติตามที่สังคมที่สั่งสอนเพื่อมีหลักวินัยที่ดีหลังจากนั้นท่านโตขึ้นท่านก็จะได้เป็นผู้ดีใช่หรือไม
่มันจะได้เป็นระเบียบ แต่เด็กเล็กเขาไม่เคยหรือคิดที่สนใจเข้ากลุ่มนี้แต่เขาถูกกดข่มหรือบังคับจากอิทธิพลครอบงำ ซึ่งนี้เราไม่สามารถโทษได้ซึ่งมันจะไมีมีต้องโทษหรือว่าคำว่า "โทษ" กับใครเด็ดขาดแม้ว่าเขาคนนั้นอาจจะเป็นโจรขโมยหรืออาญชกรมือ1ก็ตาม
ซึ่งตัวผมเองก็ไม่สามารถบรรลุติภาวะ หรือตัวผมเองเป็นสถานะถึงแม้อายุจะเป็นหมายเลข16 เป็นอะไรไม่รู้แต่ผมบอกได้เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่งี่เง่า ที่ไม่ยอมรับเข้ากับสังคมใช่หรือไม่ (ที่คุณกำลังกล่าวถึง) เพราะพวกเราเองก็ยังถูกอิทธิพลครอบงำ (ผมด้วย)
ที่ผมรู้ความคิดคนส่วนใหญ่เขาคิดว่ามันต้องใช้เวลาเพื่อจะบรรลุความสำเร็จ ถึงแม้ท่านจะอ่านหนังสือหรือเรียนมารอบโลกท่านเองก็ไม่สามารถผู้เป็นชื่อว่า หรือสถานะตัวเองว่าผู้มีปัญญาหรืออ่านหนังสือเก่งที่สุดโลกก็ตามเพราะพวกท่านยังต้องใช้เวลาเพื่อกาย
ถึงแม้ถ้าใจแล้วไม่สามารถรักษาได้ อย่าบอกนะว่าท่านใช้เวลาเพื่อเตรียมสมาธิเพราะในทันทีที่คุณพูดว่า "ผมต้องพยายามนั่งสมาธิเพื่อจิตใจที่ดี" เมื่อนั้นท่านก็ยังมีจิตใจยังขลึงอยู่เลย
ดังนั้นแล้วคำถามที่แท้คือพวกเราต้องพึ่งพิงไหมครับ เพราะผมเองก็พึ่งพิงอาหาร, นํ้า , ที่อยู่ ' ' |
|
_________________ ที่ใดมีการเลือกหรือแบ่งแยก ที่นั้นย่อมมีการขัดแย้ง |
|
    |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
07 พ.ค.2008, 1:00 pm |
  |
คุณมาทำความเข้าใจ เกี่ยวกับศาสนา อีกสักเล็กน้อยว่า
"พฤติกรรม การกระทำ การดำเนินชีวิต ของสรรพสิ่งทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ล้วนแล้วแต่เป็น หลักการทางศาสนาทั้งสิ้น "
เพราะศาสนามีหลักการมาจาก พฤติกรรม การกระทำ การดำเนินชีวิต ของสรรพสิ่งทั้งหลาย
ศาสดาของศาสนาทุกศาสนา ย่อมต้องรุ้ดี รู้แจ้งแล้วว่า สมองสติปัญญา อุปนิสัยใจคอ รวมไปถึงพฤติกรรม ทั้งทางกาย วาจา และใจ ของแต่ละบุคคลนั้น ไม่เท่าเทียมกัน แตกต่างจากกัน ดังนั้น หลักธรรมคำสอนในทางศาสนา จึงมักเน้นให้บุคคลประพฤติดี ละความชั่ว
พฤติกรรม หรือการกระทำต่างๆ ของบุคคล ย่อมเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ไม่มากก็น้อย
ดังนั้น พฤติกรรม การกระทำ หรือการปฏิบัติ ทั้งทางกาย วาจา และใจ ในสังคม ที่เรามีส่วนร่วม ก็คือ ศาสนาอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากสภาพสภาวะจิตใจรุปแบบต่างๆ อันมีในหลักธรรมคำสอนของศาสนา
ศาสนาพุทธ ไม่ได้ห้าม หรือตำหนิ ติเตียน ผู้เคารพ กราบไหว้ พระภูมิเจ้าที่ หรือเทพเจ้าต่างๆ
แต่ศาสนาพุทธ สอนให้รู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนเกิดจากเหตุ และเหตุเหล่านั้น ล้วนก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ความทุกข์ ซึ่งในทางศาสนาเรียกว่า ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่ว่า กิเลสนั้น จะหยาบ หรือละเอียด จะหนา หรือบาง
แต่มนุษย์มีสมองสติปัญญา การเรียนรู้ การรับรู้ การเข้าใจในเรื่องต่างๆ ไม่เท่าเทียมกัน
ดังนั้น เมื่อมีคนสองคน มีความรุ้ต่างกัน มีความเข้าใจต่างกัน มีพฤติกรรม หรือการกระทำคนละแบบกัน แต่สภาพสภาวะจิตใจจะเป็นรุปแบบเดียวกัน คือ เป็นสภาพสภาวะจิตใจที่ในทางศาสนาเรียกว่า ธรรมะ
ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ที่กราบไหว้นับถือศาลพระภูมิ ย่อม มีสภาพสภาวะจิตใจ ที่เรียกว่า "เมตตา " คือปรารถนาให้ตัวเองพ้นจากความทุกข์ในบางเรื่องบางอย่าง พอกราบไหว้บูชาปุป เขาก็จะเกิดความเชื่อมั่น คือมีสมาธิดีในอันจะประกอบการใดใดเพื่อให้บรรลุถึงสิ่งที่เขาต้องการ แม้จะไม่ได้ตามจุดประสงค์ทั้งหมด หากได้ตามทีเขาต้องการเพียงเล็กน้อย เขาก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้
เมื่อเปรียบกับบุคคลสมมุติว่าเป็นคุณ ที่ปฏิบัติ ไปตาม สิ่งที่คุณเรียกว่า แก่นแท้แห่งศาสนา คุณก็ยึดถือ เอาตัวแก่นแท้นั้นไว้ และปฏิบัติ ตาม หากปฏิบัติได้ผลตามแก่นแท้นั้น หรือได้เป็นบางส่วน คุณก็หลุดพ้นจากความทุกข์ และสภาพสภาวะจิตใจของคุณที่ปฏิบัติ ตามแก่นแท้นั้น ก็เพราะ ความมี"เมตตา" คือปรารถนาให้ตัวเองได้ดีพบสุข "เหมือนกับบุคคลแรก ไม่มีผิดเพื้ยน |
|
|
|
  |
 |
muntana
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 108
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok , Thailand
|
ตอบเมื่อ:
07 พ.ค.2008, 4:32 pm |
  |
ไม่ควรไปไส่ใจในเรื่องความเห็น หรือ ความเชื่อผิดๆ ในการไปไหว้ศาลภูมิ เจ้าที่ แม้แต่ผีสางนางไม้ จอมปลวก หรือเทพเจ้า นอกศาสนาพุทธ ต่างๆ ต้องทำความเข้าใจชาวพุทธส่วนใหญ่ ยังเป็นพุทธเปลือกๆ ไม่เข้าใจ หรือ ศึกษาแก่นแท้ของศาสนา และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้ขาดปัญญาในการพิจารณา ถึงซึ่งสาระ ความหมายอันแท้จริง ของคำสอน แม้แต่การสวดอ้อนวอน ขอโชคลาภ มั่งมี อยู่เย็นเป็นสุข ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เป่าน้ำหมากพ่นน้ำมนต์ บูชายัญ บูชาไฟ ปกปลุกเสกเครื่องรางของขลัง พระเครื่องต่างๆ อันเป็นหนทางแห่งความเสื่อม อวิชชา อันไม่นำพาซึ่งหนทางดับทุกข์ที่แท้จริง ดังที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ ชาวพุทธที่แท้ควรหลีกเลี่ยง ถอยห่าง น้อมนำพระธรรมอันบริสุทธ์มาปฎิบัติ ทำความเข้าใจ ถึงข้อเท็จจริง ถึงแก่นหลักของคำสอน ถึงเรื่อง ศีล ไตรสิขา เรื่องอริยสัจ 4 มรรคองค์ 8 ทางสายกลาง
โลกธรรม มีลาภ มียศ มีสุข มีสรรเสริญ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ทุกข์ นินทา เป็นของคู่กันมาตั้งแต่โลกเกิดจนกระทั่งโลกดับ ไม่เว้นแม้แต่พระราชามหาจักรพรรดิ และ มหาเสนาบดีใดๆ
ในโลกธรรม เมื่อกราบไหว้ขอพรให้มี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็จะมีของแถมเป็น เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เป็นของแถมด้วยเสมอ แม้ไม่อยากได้แต่ก็ต้องได้ เหมือนเหรียญมีสองด้าน ชีวิตก็มีสองได้ คือได้สิ่งที่น่าปรารถนา และได้สิ่งที่ไม่น่าปรารถนา
พระพุทธเจ้าตรัสสั่งสอนไว้ว่า สุข เกิดในลำดับแห่ง ทุกข์ และทุกข์ เกิดในลำดับแห่ง สุข ไม่มีใครในโลกที่จะได้รับสุขโดยส่วนเดียว และไม่มีใครในโลกที่จะได้รับทุกข์โดยส่วนเดียว
แม้กระทั่งสุนทรภู่ก็เคยเขียนกลอนสอนใจไว้ว่า วิสัยโลกโศกสุขทุกข์ธุระ ย่อมพบปะไปจนกว่าจะอาสัญ ดูชีวิตของสุนทรภู่เป็นกรณีศึกษาก็จะเห็นชัด ความขึ้นลงของชีวิตสำหรับ กวีสี่แผ่นดิน ท่านนี้มีให้เห็นตั้งแต่เกิดจนตาย เช่นเดียวกับชีวิตทุกนางนายในโลกนี้
เมื่อใครก็ตามได้เสวยสถานะอันน่าปรารถนา จะต้องเตรียมทำใจยอมรับสถานะอันไม่น่าปรารถนาตามมาด้วยเหมือนกลางวัน-กลางคืน เหมือนน้ำขึ้น-น้ำลง
แห่งการหลุดพ้น จากวฎสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด ที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากการดำเนินปฎิบัติที่ถูกต้อง ดังที่กล่าว ทุกๆ สิ่งในโลกไม่จีรัง แน่นอน มีการเกิด ดับ ไม่สิ้นสุด |
|
|
|
   |
 |
|