Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มาถกธรรมกันไหม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 9:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เจริญธรรมครับ

ถามเลยก็แล้วกัน
หลายคนมองความรักเป็นสิ่งที่ดี สวยงาม การให้อภัย การให้โดยไม่หวังผล
ความรักคือยาใจ ความหลัง เสน่หา สีชมพู .....อะไรต่อมิอะไรแล้วแต่จะคิดได้
แต่พระพุทธองค์ ทรงให้นิยามความรักแค่ว่า ทุกข์ เพียงคำเดียว
..............................................................................................................

เชิญมาถกกันเถอะครับ ว่า ความรัก สวยงามดุจที่ท่านพรรณา
หรือเป็นเพียง ทุกข์ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้

ถ้าหากความรักเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เราไม่ควรละจากความรัก..งั้นหรือ
หรือความรักเป็นเพียงความทุกข์..เราไม่ควรที่จะรัก...งั้นหรือ

เจริญธรรม สาธุ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
WRP
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 ธ.ค. 2007
ตอบ: 15

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 10:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความรักเป็นทุกข์อย่างยิ่งค่ะ แหะๆ ความรักที่ไม่ปนทุกข์ในโลกสมมุตินี้ยังหาไม่เจอเลยค่ะ
ยิ่งความรักแบบหญิงชายแค่ถูกรักก็เป็นทุกข์ได้แล้ว สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
นวโยคี
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2007
ตอบ: 20
ที่อยู่ (จังหวัด): bkk

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 8:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รักที่ต้องการครอบครอง เป็นรักที่มีความเห็นแก่ตัว เป็นรักที่มาจาก ตัณหา

ตัณหา คือต้นเหตุแห่งทุกข์ เป็น เหตุสมุทัย ดังนั้นรักแบบนี้คือ ทุกข์ อย่างแท้จริง

รักที่ปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ เป็นรักที่เกิดจาก เมตตา กรุณา เป็นรักที่มาจาก กุศลจิต

รักแบบนี้ เป็น กุศลธรรม เป็นรักที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 8:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามรอย พิมพ์ว่า:
เจริญธรรมครับ

ถามเลยก็แล้วกัน
หลายคนมองความรักเป็นสิ่งที่ดี สวยงาม การให้อภัย การให้โดยไม่หวังผล
ความรักคือยาใจ ความหลัง เสน่หา สีชมพู .....อะไรต่อมิอะไรแล้วแต่จะคิดได้
แต่พระพุทธองค์ ทรงให้นิยามความรักแค่ว่า ทุกข์ เพียงคำเดียว
..............................................................................................................

เชิญมาถกกันเถอะครับ ว่า ความรัก สวยงามดุจที่ท่านพรรณา
หรือเป็นเพียง ทุกข์ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้

ถ้าหากความรักเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เราไม่ควรละจากความรัก..งั้นหรือ
หรือความรักเป็นเพียงความทุกข์..เราไม่ควรที่จะรัก...งั้นหรือ

เจริญธรรม สาธุ


ตอบ คุณรอยธรรม
คุณช่างสรรหา คำมาตั้งเป็นกระทู้จริงๆนะ
ในทางพุทธศาสนา ไม่ได้ให้คำนิยามว่า "ความรัก คือ ความทุกข์" แต่เป็นนิยามของใครก็ไม่รู้ตั้งขึ้นมาภายหลัง
เพราะแม้แต่พระพุทธองค์ ก็ยังต้องนำเอาราหุล อันเป็นที่รัก ไปอยู่ด้วย แสดงให้เห็นว่า ความรักไม่ใช่ความทุกข์
ความรัก ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี หรือสิ่งที่สวยงาม อย่างที่คุณเขียนมา สิ่งที่คุณเขียนมา เป็นเพียงการเข้าใจความรักในเพียงแง่มุมหนึ่ง
ความรัก เป็นผล แห่งรูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ นั้นย่อมหมายความว่า
ความรัก เป็นผล แห่ง ความรู้ ความเข้าใจ เป็นผลแห่งการได้สัมผัส จากอายตนะ ดังที่ได้กล่าวไป และยังมีอีกมาก
สิ่งที่ทำให้เกิด ความทุกข์ ไม่ใช่ความรัก แต่เป็น รูป รส กลิ่น เสียงโผฏฐัพพะ ด้วยเช่นกัน เพราะหากจะคิดตามหลัก ตรรกวิทยา แล้ว ในเมื่อ
ความรัก เกิดจาก การได้สัมผัส รูป รส กลิ่นเสียง โผฏฐัพพะ
ความทุกข์ ก็ย่อมเกิดจาก การได้สัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ ด้วยเช่นกัน
เอาแค่นี้ก่อน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 10:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กระผมเห็นด้วยกับท่าน BUDDHA ครับ และกระผมมีความเห็นต่อยอดจากข้อความของท่านสักเล็กน้อยครับ การกระทบกัน ( ผัสสะ ) ระหว่างอายตนะภายยใน และภายนอก นั้นเป็นสภาวะธรรม ไม่สามารถบังคับได้ เกิดขึ้นตามเหตุ ปัจจัย แต่เวทนาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากสังขาร ( จิตสังขาร )ซึ่งสังขารตัวนี้ก็เป็นสภาวะธรรมอีกเช่นกัน ลักษณะของสังขารนั้นก็คือ เกิด - ดับ เมื่อพิจารณามาถึงตรงนี้แล้วกระผมเห็นว่า " ความทุกข์หรือความสุขที่เกิดขึ้นจากการเสวยอารมณ์ ( เวทนา )ที่มาจากการปรุงแต่งของสังขารจึงเป็นสภาวะธรรม บังคับไม่ได้ เกิดขึ้น ดับไป ตามเหตุปัจจัย " หาอะไรมาเป็นแก่นสารมิได้ ฉะนั้น ความรักในมุมมองของกระผมนั้นจึงเป็นสภาวะธรรม บังคับไม่ได้ เกิดขึ้น ดับไป ตามเหตุปัจจัย เหตุที่ยังรู้สึกสุข หรือทุกข์อยู่นั้นเพราะยังเปิด อวิชา ไม่ออก หรือยังไม่รู้แจ้งในสิ่งที่ควรรู้ ซึ่งสิ่งนี้กระผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น ปัญญาญาณ แต่กระผมก็รู้อยู่แต่ในสัญญา หาได้มีปัญญาญาณอย่างที่กล่าวมาแต่อย่างใด
ข้อความของกระผมนั้นเป็นความเห็นของกระผมที่พิจารณาตามความรู้และความเข้าใจในธรรมที่ได้ศึกษาและพิจารณาด้วยสติปัญญาของกระผมเอง หากไม่ถูกต้องหรือเป็นความเห็นที่ผิดก็ขอให้สหายธรรมช่วยชี้ทางที่ถูกต้องด้วยครับ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
sittidet
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2007
ตอบ: 53
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 1:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นด้วยกับคุณ budda ครับ แต่ผมอยากตอบในแนวของผมต่อนะครับ ความรักสำหรับคนทั่วๆไปนั้นส่วนมากจะรักจนเป็นเจ้าของโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวเลย เมื่อไรก็ตามที่เราเข้าไปเป็นเจ้าเข้าเจ้าของว่าเขาต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามที่เราคิด( คิดเอาเอง) เมื่อไม่เป็นอย่างที่ใจเราต้องการก็มีปัญหาเกิดขึ้น แล้วมันจะไม่ทุกข์ใจได้อย่างไรครับ เช่นเขาต้องรักเราคนเดียวตลอดไป เหมือนที่เราคิดว่าเราจะรักเขาคนเดียวตลอดไปเช่นกัน เมื่อมีใครเปลี่ยนไปก็เจ็บ หรือเหตุการณ์เหล่านี้อาจไม่เกิดอาจจะรักกันตลอดจนเมื่อมีใครคนหนึ่งตายไปก็ต้องเศร้าใจเพราะการจากลาอยู่ดีครับผมสุดท้ายแล้วมันทุกข์ไหมครับ "ไม่มีอะไรในโลกที่เราเข้าไปยึดติดแล้วไม่เป็นทุกข์" พุทธพจน์
 

_________________
ผู้ใดมีตนเป็นที่พึ่งนับว่าหาที่พึ่งอันหาได้ยาก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 7:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รักมีสองแบบ โลกีย แบบหนุ่มสาวรักกัน หวังสิ่งตอบแทน ครอบครองเป็นเจ้าของ และโลกุตตระ รักคุณธรรม ความดีงาม รักแบบไม่หวังผล เช่น พ่อแม่รักลูก ลูกรักพ่อแม่ รักในพระธรรมคำสอน เช่นกรณีที่มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับพระพุทธองค์ และพระราหุล รวมถึงพระญาติทั้งหลายของตถาคตท่าน ท่านมีกุศลเจตนาต่อท่านเหล่านั้น ก็ด้วยเพราะความรัก หากแต่ไม่ใช่แบบปุถุชน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 7:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รักแบบมีกิเลส ตัญหา มันก็ทุกข์เห็นๆ แต่ถ้ารักแบบไม่มีเงื่อนไข ก็จะเป็นสุขทุกฝ่ายค่ะ

ทุกท่านที่ถกกันมาเป็นความเห็นที่ดีแล้ว




เมื่อวานเพิ่งอ่านหนังสือ เรื่อง หลักรัก เผื่อมีใครสนใจก็ตามเวปข้างล่างนะคะ

http://www.thawsischool.com/dhamma-book/download/PrinLoveWeb.pdf
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ratchadapa
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 05 ม.ค. 2008
ตอบ: 84
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 8:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความรักต่อผู้อื่นเป็นสิ่งที่ serve อัตตาของตัวเองทั้งนั้น
แม้แต่ความรักของพ่อแม่ต่อลูก ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการรักตัวเอง เพราะมนุษย์ต้องการสืบตัวตนของตนเองต่อไป จึงผูกพันแน่นเหนียวต่อลูก
ลูกนั้นก็คือตัวแทนของตัวเองที่ถ่ายทอดเอาไว้ในโลก
แม้จะเป็นความเมตตา กรุณาที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน แต่ก็ต้องการบังคับควบคุม ให้เป็นไปตามที่ตนเองปรารถนา เมื่อไม่เป็นก็ย่อมต้องเกิดทุกข์

ไม่ต้องพูดถึงความรักที่เจือด้วยราคะที่หยาบกว่ากันหลายเท่า จะทุกข์กว่ากันกี่เท่าตัว ทุกข์ล้วนๆ
 

_________________
พวกเธอจงยินดีในความไม่ประมาท
จงระมัดระวังจิตของตน
จงถอนตนออกจากหล่มกิเลส
เหมือนพญาช้างติดหล่ม
พยายามช่วยตัวเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 9:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ เจริญธรรมครับทุกท่าน

ข้าพเจ้าได้อ่านทุกข้อความแล้ว ต่างคนก็แสดงความเห็นต่างๆกันออกไป
และดูเหมือนทุกท่านจะเห็นด้วยกับคำกล่าวของท่าน Buddha
ตัวข้าพเจ้าเองก็มิได้ตัดสินว่าไครถูกต้องแน่นอน แต่ว่าข้าพเจ้าเพียงอยากรู้ว่า
ความเห็นของทุกท่านที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เห็นสมควรอย่างไรว่า ควรจะ
มีความรัก หรือ ควรจะตัดมันออกไปซะ เพราะ รัก โลภ โกรธ หลง
ก็คือ อวิชชา แต่ทำไมทุกคนจึงให้ความสำคัญกับความรัก
และขอถกถามท่าน Buddha ว่าถ้าพระพุทธองค์ มิได้ทรงตรัส
ว่า รัก ก็คือ ทุกข์ แล้วเจ้าชายสิททัตถะ ทรงออกผนวชทำไมครับ...

ข้าพเจ้ามิได้ใช้ความคิดส่วนตัวนะครับ เพียงแต่เชิญให้ทุกท่านมาถกกัน
ว่า บทสรุป แล้วความรัก .....มันคือ อะไร เป็นอวิชชาที่จำเป็นที่สุดของ
สรรพชีวิต..อย่างนั้นหรือ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2008, 7:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถามเลยก็แล้วกัน
หลายคนมองความรักเป็นสิ่งที่ดี สวยงาม การให้อภัย การให้โดยไม่หวังผล
ความรักคือยาใจ ความหลัง เสน่หา สีชมพู .....อะไรต่อมิอะไรแล้วแต่จะคิดได้
แต่พระพุทธองค์ ทรงให้นิยามความรักแค่ว่า ทุกข์ เพียงคำเดียว
..............................................................................................................

เชิญมาถกกันเถอะครับ ว่า ความรัก สวยงามดุจที่ท่านพรรณา
หรือเป็นเพียง ทุกข์ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้

ถ้าหากความรักเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เราไม่ควรละจากความรัก..งั้นหรือ
หรือความรักเป็นเพียงความทุกข์..เราไม่ควรที่จะรัก...งั้นหรือ


ขออนุญาติร่วมแสดงความคิดเห็น ; อยู่ที่ความคิด คิดว่ารักเป็นเช่นไร คำตอบย่อมเป็นเช่นนั้น

เจริญในธรรมทุกๆท่าน
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 9:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

[quote="ตามรอย"] สาธุ เจริญธรรมครับทุกท่าน

ข้าพเจ้าได้อ่านทุกข้อความแล้ว ต่างคนก็แสดงความเห็นต่างๆกันออกไป
และดูเหมือนทุกท่านจะเห็นด้วยกับคำกล่าวของท่าน Buddha
ตัวข้าพเจ้าเองก็มิได้ตัดสินว่าไครถูกต้องแน่นอน แต่ว่าข้าพเจ้าเพียงอยากรู้ว่า
ความเห็นของทุกท่านที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เห็นสมควรอย่างไรว่า ควรจะ
มีความรัก หรือ ควรจะตัดมันออกไปซะ เพราะ รัก โลภ โกรธ หลง
ก็คือ อวิชชา แต่ทำไมทุกคนจึงให้ความสำคัญกับความรัก
และขอถกถามท่าน Buddha ว่าถ้าพระพุทธองค์ มิได้ทรงตรัส
ว่า รัก ก็คือ ทุกข์ แล้วเจ้าชายสิททัตถะ ทรงออกผนวชทำไมครับ...

Buddha...ตอบ

เรื่องนี้ต้องตอบกันยาว เวลาเน็ทจะหมด ขอติดไว้คราวหน้าขอรับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 12:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

="ตามรอย"] เขียนว่า........
เจริญธรรมครับทุกท่าน

ข้าพเจ้าได้อ่านทุกข้อความแล้ว ต่างคนก็แสดงความเห็นต่างๆกันออกไป
และดูเหมือนทุกท่านจะเห็นด้วยกับคำกล่าวของท่าน Buddha
ตัวข้าพเจ้าเองก็มิได้ตัดสินว่าไครถูกต้องแน่นอน แต่ว่าข้าพเจ้าเพียงอยากรู้ว่า
ความเห็นของทุกท่านที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เห็นสมควรอย่างไรว่า ควรจะ
มีความรัก หรือ ควรจะตัดมันออกไปซะ เพราะ รัก โลภ โกรธ หลง
ก็คือ อวิชชา แต่ทำไมทุกคนจึงให้ความสำคัญกับความรัก
และขอถกถามท่าน Buddha ว่าถ้าพระพุทธองค์ มิได้ทรงตรัส
ว่า รัก ก็คือ ทุกข์ แล้วเจ้าชายสิททัตถะ ทรงออกผนวชทำไมครับ...

buddha..... ตอบ

คุณตามรอย ข้าพเจ้าจะถามคุณตามตรง คุณอยากรู้เพื่อให้ได้รู้ หรือว่า อยากรุ้เพื่อนำไปเขียนหนังสือขาย นี้เป็นคำถามที่ตรงไปตรงมานะขอรับ
ถึงอย่างไรก็ตาม คำถามที่คุณสงสัย และถามมา นับได้ว่า มีประโยชน์ ต่อท่านทั้งหลายที่ได้เข้ามาศึกษา เรียนรู้ ในเวบฯนี้ ข้าพเจ้าก็จะตอบให้กับคุณ ตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ ของข้าพเจ้า ดังนี้
คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า พฤติกรรม หรือสภาพจิตใจ เยี่ยงใด ที่มนุษย์ ให้คำจำกัดความว่า ความรัก หรือ รัก
ความรัก แบ่งได้ตามแต่การครองเรือนของแต่ละบุคคล เช่น บิดา มารดา รักบุตร ,สามี รัก ภรรยา ,ภรรยา รัก สามี หรือ ท่านทั้งหลาย มีความรัก ต่อ ญาติโก โหติกา ทั้งหลายของท่าน และยังมีความรักอีกอย่างหนึ่ง คือ ความรักตัวเอง
หากท่านค้นหา พฤติกรรม และสภาพจิตใจ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ที่ก่อให้เกิดคำจำกัดความที่มนุษย์ให้ไว้ว่า "ความรัก"ได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกเรื่องที่คุณถามมา ทุกเรื่องที่คุณสงสัย มีคำตอบให้กับตัวคุณได้อย่างลงตัว และหมดจด
การอธิบายในเรื่องของพฤติกรรม และสภาพสภาวะจิตใจ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ของสิ่งที่เรียกว่า "ความรัก"นั้น กว้างมาก ข้าพเจ้าจึงกล่าวอธิบายอย่างสั้นๆ เพื่อให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า
คุณมีพ่อแม่หรือไม่ ถ้ามี คุณคงรู้ว่า พ่อแม่ของคุณ มีพฤติกรรม และสภาพสภาวะจิตใจ ความคิด อารมณ์ ความรู้ ต่อคุณ อย่างไร นั่นแหละความรัก ละคุณ
คุณมีเพื่อนไหม ถ้าคุณมีเพื่อน คุณรักเพื่อนคุณ หรือเพื่อนคุณรักคุณไหม แล้วทั้งคุณ และเพื่อนคุณ มีพฤติกรรม สภาพสภาวะจิตใจ ต่อกันและกัน อย่างไรบ้าง นั่น แหละความรัก นี้เป็นเพียงยกตัวอย่าง เพียงเล็กน้อย เพราะยังมีอีกมากในเรื่องของพฤติกรรม และสภาพจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ที่เรียกว่า "ความรัก"

ความรัก ในทางศาสนานั้น ตรงกับข้อธรรม หลายข้อ เช่น อิทธิบาทสี่ พรหมวิหารสี่ หิริ โอตัปปะ ขันติ โสรัจจะ และอื่นๆอีกหลายหมวดธรรม เพราะธรรมะที่ได้กล่าว ไป เป็นสภาพสภาวะจิตใจ อันก่อให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ ที่มนุษย์ เรียกว่า ความรัก
ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า ความรัก ถ้าจะกล่าวถึง คำว่า ความรัก
แต่ถ้าไม่กล่าวถึงความรัก สภาพสภาวะจิตใจต่างๆ พฤติกรรมต่างๆเหล่านั้น ในทางศาสนาเป็น ธรรมะ ตามที่ได้กล่าวไป
คุณพอจะได้คำตอบหรือยังว่า มนุษย์ควรมีความรักหรือไม่(หมายความถึงว่า ถ้าคุณจะใช้คำว่า ความรัก แทนธรรมะอื่นๆ)

ความรัก ไม่ได้ทำให้เกิดความทุกข์
แต่ ความทุกข์ เกิดจาก ความคิด ถ้าไม่คิด ก็ไม่เป็นทุกข์ (คำว่าทุกข์ ก็ไปขยายความเอาเอง)
และ ความรัก บางครั้ง ก็มิได้ก่อให้เกิด ความโลภ ความโกรธ ความหลง นี้กล่าวถึงในแง่ คำว่า ความรัก
ส่วนคำถามที่คุณถามว่า พระพุทธองค์ ออกผนวชทำไม
คุณก็ไปอ่าน พุทธประวัติเอาเองซิขอรับ ข้าพเจ้า ไม่ใช่เจ้าชายสิทธัตถะ
ข้าพเจ้า คือ Buddha (ล้อเล่นนะคุณ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ทศพล
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 10 ก.พ. 2008
ตอบ: 153
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 5:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกท่านครับ

เรานั้นเมื่อตายไปแล้ว

ไปอยู่บนสวรรค์พรหมณ์ งี้น่ะครับ

ยังภาวนาเพื่อได้นิพานได้ไหมครับ ซึ้ง

วานทีครับ
 

_________________
"ธรรมทาน คือ ทานอันสูงสุด"
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"

http://www.wimutti.net
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 8:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณตายไปแล้ว ไปอยู่สวรรค์ชั้นพรหมไม่ได้ดอกนะคุณ
คุณจะไปอยู่สวรรค์ชั้นพรหมได้ ต้องบรรลุหรือสำเร็จชั้น อรหันต์ขี้นไปเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 04 พ.ค.2008, 10:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Buddha

สวัสดีครับ สาธุ
(เพิ่งจะเห็นคุณ Buddha มีอารมณ์ขันเป็นครั้งแรก)

ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่าไม่ได้เอาไปเขียนหนังสือหนังสาอะไรหรอกครับ
จุดประสงค์หลักก็อยากให้ทุกทุกคนมาพูดเกี่ยวกับความคิดแง่มุมต่างๆ

ตัวข้าพเจ้าเองมองความรัก...เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร ไม่เป็นมากไปกว่าจิต
ที่ปรุงแต่ง มีคนบอกว่าความรักจำกัดนิยามไม่ได้ ข้าพเจ้าก็เลยไม่อยาก
ไปฝืนจำกัดนิยาม

ไม่ได้เปิดเว็บนานเกิดคำถามกับตัวเองอีกแล้วครับท่าน
ว่า การที่อยู่คนเดียว กับอยู่ด้วยกันหลายๆคนอย่างไหน
จะดีกว่ากัน ดังคำท่านกล่าวว่า
"อยู่คนเดียวแสนสบายแต่ไม่สนุก อยู่หลายคนแสนสนุกแต่ไม่สบาย"

ท่านคิดอย่างไร

เจริญธรรม
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 05 พ.ค.2008, 1:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความรักที่เกิดในใจนั้น อาจไม่แสดงอาการอะไรให้คุณได้รู้เลยก็ได้
ที่คุณว่า เห็นแล้วรู้สึกเฉยๆ แท้จริงแล้วคุณก็กำลีงเกิดสภาพสภาวะจิตใจที่ มนุษย์เรียกว่า ความรัก ก็ได้
ถึงอย่างไรก็ตาม ความรัก ไม่ใช่หลักธรรม ไม่ใช่การหรือคำสอน ในทางศาสนา ไม่ว่าศาสนาใดใดก็ตาม แต่เป็นเพียงคำอธิบาย เพื่อให้เกิด ความเข้าใจในพฤติกรรม หรือการกระทำ หรือสภาพสภาวะจิตใจ บางชนิด ของตนเอง และผู้อื่น เท่านั้นเอง ขอรับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง