Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ขอเชิญฟัง..พุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ข่าวประชาสัมพันธ์
ผู้ตั้ง
ข้อความ
muntana
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 108
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok , Thailand
ตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2008, 6:20 pm
ขอเชิญฟัง หัวข้อคือ
พุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์
มาขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า
ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจ
หัวข้อคือ พุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์
วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2551
เวลา 18:30-20:30 นาฬิกา
สถานที่ ณ หอประชุมพุทธคยา ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า
(รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม) หรือตามลิงก์
ชมรมคนรู้ใจ
บรรยายโดย ศ.นพ.คงศักดิ์ ตันไพจิตร,
พบ.(เกียรตินิยม), ศาสตราจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์คลินิก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซนต์หลุยส์ (Professor of Clinical Medicine, Washington University in St. Louis, USA)
ผู้แต่งหนังสือ
สติ-กุญแจไขชีวิต
ภาวนา ภาษาธรรม
Buddhism Answers Life
Essence of Life: Mindfulness & Self-Awareness
เมื่อปีพ.ศ. 2510 เคยบวชเป็นพระภิกษุในฉายาว่า ปญฺญวโร ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้มีโอกาสศึกษาปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ภายใต้การสอนจากพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
********************************************************************
พุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์
โดย ศ.นพ.คงศักดิ์ ตันไพจิตร
ปัจจุบันนี้วิทยาศาตร์และการแพทย์ได้เจริญก้าวหน้าไปมาก ได้มีการค้นพบว่ามนุษย์กับลิงชิมแปนซีมีพันธุกรรมที่ต่างกันไม่ถึง 2% แต่มนุษย์กลับสามารถพัฒนาเจริญก้าวหน้าไปห่างไกลจากลิงมาก จนอาจกล่าวได้ว่า มนุษย์ครองโลกได้สำเร็จ
การค้นพบ Mirror neurons (ประสาทเลียน) สามารถช่วยอธิบายให้เข้าใจถึงการเรียนรู้ภาษาและวิชาการต่างๆ ศิลปวัฒนธรรม ความเมตตาเห็นอกเห็นใจ ตลอดถึงอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การตรวจสมองด้วย functional MRI scan และ PET/CT scan สามารถบ่งบอกได้ว่า สมองส่วนใดกำลังทำงานในกิจต่างๆ เช่น เวลาโกรธ เป็นสุขหรือทุกข์ การอ่าน การพูด เป็นต้น สมองสามารถปรับตัวเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่คงที่ถาวรไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เคยเข้าใจกัน เซลล์ประสาทสามารถสร้างใยเชื่อมโยงเพื่อประสานงาน ทำหน้าที่ต่างๆ ให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมอย่างเต็มที่
การเจริญสติวิปัสสนากรรมฐานสามารถเปลี่ยนกระแสการทำงานของสมองจากด้านขวาเมื่ออารมณ์ขุ่นมัว มาอยู่ที่สมองด้านซ้ายส่วนหน้า ซึ่งบ่งบอกแสดงถึงอารมณ์สุข และยังมีผลในการเสริมสร้างเพิ่มพูนภูมิคุ้มกันต่อการฉีดแวคซีนต้านไข้หวัดได้ดีกว่าผู้ที่ไม่เคยเจริญสติมาก่อน
วิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแล้วว่า การรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส (Perceptual processing) ทำหน้าที่โดยสมองส่วนที่จำเพาะและต่างไปจากส่วนที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกับสมมติบัญญัติและความคิดปรุงแต่ง (Conceptual Processing) ซึ่งตรงกับหลักอภิธรรมได้บรรยายถึง วิถีจิต และการทำงานของจิต ไว้กว่า 2,400 ปีมาแล้ว อย่างน่าอัศจรรย์ ปัจจุบันได้มีการนำ สติ มาประยุกต์ใช้ในจิตบำบัด และใช้ในการช่วยเสริมรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้ผลดีมาก เช่นโรคปวดเรื้อรัง โรคสเก็ดเงิน โรคซึมเศร้า และมะเร็งบางประเภท เป็นต้น
พระพุทธองค์ยังทรงส่งเสริมเวชศาสตร์ป้องกัน โดยทรงห้ามพระสงฆ์ถ่ายอุจจาระและปัสสาวะลงในทางน้ำแม่น้ำลำคลอง ทรงสนับสนุนให้พระสงฆ์ใช้ไม้สีฟันตลอดถึงทรงบรรยายถึงประโยชน์ และโทษเมื่อไม่แปรงฟัน ซึ่งเป็นบันทึกแรกในโลกถึงแปรงสีฟัน พระศาสดาทรงดูแลภิกษุซึ่งป่วยหนักด้วยพระองค์เอง ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างให้สงฆ์ดูแลกันเอง ประดุจดั่งดูแลปรนนิบัติพระพุทธองค์ ทำให้ชาวบ้านสร้างโรงเรือนสำหรับดูแลพระสงฆที่อาพาธ ซึ่งเป็นแนวให้พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างโรงพยาบาลแห่งแรกของโลกสำหรับมนุษย์และสัตว์
พระพุทธองค์ยังได้แนะนำพระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์แคว้นโกศล ซึ่งเป็นคนอ้วน -ให้มีสติทุกเมื่อ และรู้ประมาณในการกิน ย่อมช่วยให้ไม่อึดอัด ทำให้แก่ช้าและอายุยืน - ซึ่งเมื่อทรงปฏิบัติตาม ได้ส่งผลดีที่ดีตามมา คือน้ำหนักลด ทำให้กระปรี่กระเปร่า และมีอายุยืนถึง 80 พรรษาเทียบเท่าพระพุทธองค์
นอกจากพระศาสดาจะทรงยอมรับว่า พระองค์ทรงชราภาพในปัจฉิมวัยแล้ว ยังทรงปรารภถึงความจริงอย่างยิ่งที่ยอมรับกันทั่วไปในหมู่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน โดยทรงตรัสว่า ในชีวิต ย่อมมีความตาย ในความหนุ่ม ย่อมมีความแก่ ในความมีสุขภาพที่ดี ย่อมมีโรค และไม่มีใครล่วงพ้นความตายไปได้ ซึ่งตรงกับหลักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบว่า เซลล์แต่ละเซลล์ได้ถูกกำหนดเวลาไว้แล้วว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไร แล้วจะฝ่อตายไปเอง แม้คนเราที่เกิดมา ร่างกายก็เริ่มเสื่อมโทรม และค่อยๆ แก่สุกงอมไปตามวัย ข้อชราก็เริ่มปรากฏตั้งแต่วัย 30 ปี มนุษย์เราแม้จะดูมีสุขภาพแข็งแรงดี แต่ต้องคอยกำจัดภัยที่คุกคามต่างๆ จากเชื้อโรคหรือแม้แต่มะเร็งที่อาจเล็ดลอดอยู่ในตน พระศาสดายังทรงเมตตาบรรยายลักษณะของแพทย์และพยาบาลที่ดีหรือเลว ตลอดถึง ลักษณะของคนไข้ที่ดีหรือเลว ไว้อย่างละเอียดลออ เพื่อให้ใช้เป็นแนวทางศึกษาและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง
พระพุทธองค์ยังทรงเมตตาประธานหลักในการสร้างสติ-ความรู้สึกตัวไว้ ด้วยการเจริญสติปัฏฐานสี่ ระลึกรู้ในกาย เวทนา จิต และธรรม เพื่อนำให้เห็นสภาวธรรมที่แท้จริงตามธรรมชาติว่า ปราศจากอัตตาตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวร ซึ่งปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ทางประสาทวิทยาได้ยอมรับว่า อัตตาเกิดขึ้นเป็นผลพลอยได้จากการทำงานของสมองเพื่อตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ และแม้จะพยายามค้นหาศูนย์หรือแหล่งของอัตตาตัวตนมานานกว่า 100 ปีแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็ยังค้นหาไม่พบ และยอมรับว่ามิได้มีอัตตาตัวตนอยู่จริง ซึ่งตรงกับหัวใจของพระพุทธศาสนาที่กล่าวว่า ธรรมทั้งปวงล้วนเป็นอนัตตา
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ข่าวประชาสัมพันธ์
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th