Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นเพียงหัวข้อ........
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลุงดำ
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 24 พ.ย. 2007
ตอบ: 59
ตอบเมื่อ: 19 ธ.ค.2007, 5:54 pm
Buddha พิมพ์ว่า:
ตอบ..ตรงๆเลยนะว่า ยุคสมัย มันไม่เหมือนกัน แล้วมันจะเอายุคสมัยพุทธกาลมาเทียบกับยุคสมัยปัจจุบันได้หรือ พระสมณโคดม เป็นหน่อกษัตริย์ จำเป็นต้องมีงานทำด้วยหรือ คุณถามแบบไม่มีปฏิภาณไหวพริอะไรเลย แล้วเงินในสมัยนั้น ก็มีอยู่แต่เรียกเป็นอย่างอื่น นะ บ้างก็ใช้สิ่งของแทนเงินแลกสิ่งของซึ่งกันและกัน
แล้วคุณลุงดำ นะ ข้าพเจ้าบอกแล้วว่า หัดทำความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยซะ ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ ฯลฯ เอาแค่สองอย่างนี้ เป็นความทุกข์หรือไม่
คุณอย่าตอบแบบสมองฝ่อนะคุณ อย่าหลงประเด็น กำลังเสวนา กันเรื่อง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อย่า แถไปเรื่องอื่น
ถ้าการที่ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้จ่าย เป็นความทุกข์ แล้วจะใช้ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แก้ไขได้ไหม ตอบมาก่อนซิคุณ
ชักไบให้เรือเสีย เฉออกไปอีกเรื่อง คนละเรื่องคนละประเด็น
ที่ให้คุณลุงดำ ไปบวชก็บอกแล้วว่า จะได้ไปฝึกให้มีความคิดที่ละเอียดละออถี่ถ้วน ความรุ้มี แต่ไม่รู้จักใช้ความรู้ เขาเรียกว่า "คนไม่มีกึ๋น หรือคนไม่มีปฏิภาณไหวพริบ"
อ่านแล้วไม่มีการงง ถ้าเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจซิงง
เชิญเลยขอรับ เชิญจูงมือกันเดินไปตามประสาคนตาบอด(เปรียบเทียบนะไม่ใช่ด่า)
เจอช้างที่ไหน ก็คลำดูทั้งสองคนเลยนะ
อนึ่ง คุณลุงดำยังมีความเข้าใจในศาสนาไม่ค่อยถูกเรื่อง ศาสนาไม่ใช่มีอยู่แต่ในวัดนะ ไม่ใช่มีแต่พระสงฆ์ เป็นผู้ศรัทธาศาสนานะ
ประชาชน ไม่รู้กี่ล้าน นะคุณที่นับถือพุทธศาสนา ถ้า
พุทธศาสนา สอนไม่ได้ว่า ถ้าคนไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้จ่าย ควรจะทำอย่างไรดี แต่ดันไปสอนว่า ถ้าคนไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ ก็ต้อง ใช้หลัก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ก็คงได้หัวเราะกันหงายท้องละคุณ
และนี้คือสาเหตุที่ข้าพเจ้าตั้งชื่อกระทู้ว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นเพียงหัวข้อ... ไม่ใช่หลักธรรม
แล้วคุณทั้งสอง ทั้งคุณลุงดำ กับคุณน้ำใส
ก็อย่าคิดว่า คนที่ตอบคำถามของข้าพเจ้าได้ไม่มีนะ
คนที่ตอบคำถามของข้าพเจ้าได้มีอยู่นะ
เป็นเด็กผู้หญิงซะด้วย ก็ตอบแบบเด็กๆนั้นแหละ เพราะว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สามารถ แก้ปัญหาการไม่มีงานทำ และการไม่มีเงินใช้ได้
แต่ต้องคิดกัน 100 ตลบโน้นแหละ
เรื่องจริงนะขอรับ
แล้วเวลาจูงมือกันเดินไประวังตกท่อนะคุณทั้งสอง.........
โอย ลุงอยากจะขำ ว่ะ ขำ เอ่อ เอ่อ ขำ .......
พ่อBud ตั้งใจเถียงจนเมาแล้ว
หลานน้ำใส เขาไปนอนแล้ว เขาบอกกับลุงว่า ไปนอนดีกว่า เบื่อพ่อBud
พ่อช้างชูธง เขามาชวนจูงมือลุง หรือใครก็อ่านเข้าใจยากนิดหนึ่ง ......
แต่พ่อBud นี่ ไล่กัดเขา ไปทั่ว ใครก็ว่าไปหมด
............................................
พ่อBud จะโx... อธิบายแบบนั้น ก็เรื่องของพ่อ เถอะ
ภาษาไทย ก็เลิกคุยแล้ว
ความคิดรวบยอด ยังไม่ได้เลย
เขาเรียนกันจบแล้ว ต้องให้อธิบายละเอียดไปถึงไส้ถึงเซ็งจี้ ลุงก็ไม่เก่งขนาดพระพุทธเจ้า ท่านหรอก พระองค์อธิบาย ละเอียดยิ๊บแบบไม่ซ้ำก็ได้ ไม่หาอ่านในพระไตรปิฎกทั้งเล่ม เถอะพ่อ
......................................
คำว่าเงิน ไม่ต้องแปลว่าเงินก็ได้ จะแปลว่า ลาภก็ได้ ความโลภะก็ได้(นามธรรม)รู้จักไม๊ ทำไมเล่าพระสงฆ์ถูกบังคับใช้ของจำเป็นเพียง 8 อย่าง เขาให้ลาภมากมายทำไมไม่รับ คิดไม่ออกนะซิ ก็ไม่รู้จักทุกข์ มันเลยโX..อยู่ ใช้คำว่า อริยสัจ4 ตามแบบพระพุทธเจ้าไม่เป็น ดันไปใช้ตามเด็กน้อย ที่มีกิเลสอยู่ เวรกรรมของคนโX..
..........................................
โอย ยุคพระพุทธเจ้าหรือ
สอนแป็บเดี๋ยว รู้เลยว่า พ้นทุกข์คืออะไร ดับกิเลสคืออะไร
เขาเลยเลิกทำงานแล้ว ไปบวชเลย พ่อBud เอ๊ย
แกหลงมาจากเว็บอื่นหรือเปล่า เขาคุยเรื่องธรรมะกัน
เอ่อ เบื่อสอนคนแบบพ่อBud
เลิกคุยแล้ว เลิกคุย ต่อไปนี้ เจอพ่อBudที่ไหน เลิกคุยแล้ว
หลาน ๆทุกคน รับทราบ เอ่อ
_________________
ถ้ามีเวลาว่างเกินไป ก็ไปช่วยเขาทำงานบ้าน บ้าง เอ้อ
Buddha
บัวบาน
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
ตอบเมื่อ: 19 ธ.ค.2007, 8:02 pm
ต้องขอโทษ คุณน้ำใส เนื่องจากจำชื่อผิด ขอเปลี่ยนเป็นคุณช้างชูธงขอรับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณลุงดำ อย่ามั่ว คนอย่างคุณเขาเรียกว่า จอมบิดเบือนเลยละ เข้าใจเอง คิดเอาเอง ไม่ได้ดูอะไรเลยนะคุณ จะสอนให้ลุงดำว่า
คำว่า ลาภ นั้น มีความหมายว่า "ของที่ได้"(พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับพระธรรมปิฏก)
หรือมีความหมาย ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า " ของที่ได้มาโดยไม่คาดคิด"
ไม่ได้มีความหมายดังที่คุณ มั่วกล่าวมานะคุณลุงดำ
แล้วที่ให้คุณดูเด็กน้อยนั้น ก็เพราะคุณตอบไม่ได้ รู้จักอริยะสัจสี่ แต่ตอบไม่เป็น ก็เลยใช้ให้ไปเรียนกับเด็ก วัดไตรมิตร เพราะเด็กเขาตอบเก่ง ไม่ได้ให้คุณใช้อริยสัจสี่ตามเด็กน้อย
ความรุ้คุณมันก็แค่ถูถู ไถไถ เอาไว้คุยกับคนไม่รู้ละพอได้ ถ้าคุยกับเด็กวัดไตรมิตร ก็เสร็จเด็กมัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เพราะถ้าถามว่า ไม่มีเงินใช้ ไม่มีงานทำ เด็กมันคงหมุน 300 ตลบ ตอบจนได้
แต่คุณไม่มีกึ๋น เขียนมั่วไปเรื่อย อ่านเองเถอะ ไม่มีความรู้ แต่อวดว่ามีความรู้
ไปเถอะ จูงมือไปกับคุณช้างชูธง แล้วระวังนะ เจออะไร ก็คลำๆดูก่อน
แล้วเวลาจะบวช ก็ต้องทำความเข้าใจไว้นะว่า พระวินัย เขาไม่ได้มีไว้บังคับพระสงฆ์นะขอรับ แต่เขามีไว้เพื่อฝึกสภาพจิตใจและความคิด
คุณจะเอาพระสงฆ์ มาเปรียบกับประชาชนทั่วไปคงไม่ได้ดอกคุณ มันคนละประเด็น มั่ว มั่ว
ไปเถอะ ระวังสะดุดตอไม้นะคุณ
ลุงดำ
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 24 พ.ย. 2007
ตอบ: 59
ตอบเมื่อ: 19 ธ.ค.2007, 9:16 pm
Buddha พิมพ์ว่า:
ต้องขอโทษ คุณน้ำใส เนื่องจากจำชื่อผิด ขอเปลี่ยนเป็นคุณช้างชูธงขอรับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณลุงดำ อย่ามั่ว คนอย่างคุณเขาเรียกว่า จอมบิดเบือนเลยละ เข้าใจเอง คิดเอาเอง ไม่ได้ดูอะไรเลยนะคุณ จะสอนให้ลุงดำว่า
คำว่า ลาภ นั้น มีความหมายว่า "ของที่ได้"(พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับพระธรรมปิฏก)
หรือมีความหมาย ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า " ของที่ได้มาโดยไม่คาดคิด"
ไม่ได้มีความหมายดังที่คุณ มั่วกล่าวมานะคุณลุงดำ
แล้วที่ให้คุณดูเด็กน้อยนั้น ก็เพราะคุณตอบไม่ได้ รู้จักอริยะสัจสี่ แต่ตอบไม่เป็น ก็เลยใช้ให้ไปเรียนกับเด็ก วัดไตรมิตร เพราะเด็กเขาตอบเก่ง ไม่ได้ให้คุณใช้อริยสัจสี่ตามเด็กน้อย
ความรุ้คุณมันก็แค่ถูถู ไถไถ เอาไว้คุยกับคนไม่รู้ละพอได้ ถ้าคุยกับเด็กวัดไตรมิตร ก็เสร็จเด็กมัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เพราะถ้าถามว่า ไม่มีเงินใช้ ไม่มีงานทำ เด็กมันคงหมุน 300 ตลบ ตอบจนได้
แต่คุณไม่มีกึ๋น เขียนมั่วไปเรื่อย อ่านเองเถอะ ไม่มีความรู้ แต่อวดว่ามีความรู้
ไปเถอะ จูงมือไปกับคุณช้างชูธง แล้วระวังนะ เจออะไร ก็คลำๆดูก่อน
แล้วเวลาจะบวช ก็ต้องทำความเข้าใจไว้นะว่า พระวินัย เขาไม่ได้มีไว้บังคับพระสงฆ์นะขอรับ แต่เขามีไว้เพื่อฝึกสภาพจิตใจและความคิด
คุณจะเอาพระสงฆ์ มาเปรียบกับประชาชนทั่วไปคงไม่ได้ดอกคุณ มันคนละประเด็น มั่ว มั่ว
ไปเถอะ ระวังสะดุดตอไม้นะคุณ
ลุง ขำ ก็ ขำ สงสารมัน ก็สงสาร
เอ่อ
ขำ จริง ๆ ขำ
เอ่อ
ไม่เคยเลย ไม่เคยเห็น คนมันจะเถียงมาก ขนาดนี้เลย
สมองมันคิดจะเอาแต่ชนะ
เอา ลุงยอมแพ้ ก็ได้
ปล่อยเอง ไปดู ทุ่งหญ้า ดูทะเล ไปก่อน สติ จะได้กลับคืนมา
................................
เที่ยวสอน ผู้อื่นให้พิจารณา อย่างนี้ อย่างโน้น
เอ่อ
ถ้าลุงเป็นครู จะไม่ให้มันสอบผ่าน วิชา อริยสัจ 4
...............................
ถ้าพ่อBud เข้าใจถึง อริยสัจ 4
ก็จะไล่ไปถึง นิพพาน ได้
ถ้าไม่เข้าใจ ก็ต้องไปทำ กสิณ 40 เลือกเอาสัก กสิณ
เอ่อ
ดีนะ ที่พระพุทธเจ้า พระองค์มีทางออก ให้หลายทาง
ไม่งั้น พ่อBud ติดอยู่กับ ตัวหนังสือ ติดมาก
ติดขนาดว่า ห้ามต่างไปจากหนังสือ
เคยกินข้าว นับเม็ดไม๊ เมื่อไรจึงอิ่ม
เคยชั่งน้ำหนักข้าว ก่อนกิน ไม๊ กี่กิโล จึงอิ่ม
เอ่อ
ไม่เคย
ถ้าทำ ก็บ้า เพราะพวกนั้น มันกลัวผอม กลัวอ้วนไป มันบ้า
..........................................
เคยไม๊ ต้องกินข้าว ตรงเวลา 11.00 เป๊
ถ้ายังก็กินไม่ได้
เคยไม๊ ต้องหยุดกินข้าว ตรงเวลา 12.00 เป๊
ถ้ากินข้าวไม่ทันหมด ไม่ทันอิ่ม กินได้คำเดียว ให้ทิ้งข้าวหมด งั้นหรือ
ไอ้บ้า
จะเอาอะไรกับชีวิต พ่อเอ๊ย
ประมาณว่า ก็พอแล้ว
เรียกข้าว ก็โX อีก นึกว่ากินข้าวเปล่า มันพจนานุกรมมากไปหรือปล่าว
ไปรับประทานอาหาร ถุย......อยากจะอาเจียร
เอ่อ พ่อนักภาษาไทย
คิดตาม ทำตามคนอื่นบ้างนะพ่อ อย่าได้อวด..............มากเลย
ลุงไม่เก่งหรอก ลุงก็รู้แค่นี้ ลุงแก่แล้ว ไม่ช้าก็ต้องตาย ไม่ต้องแช่ง ก็ตาย ลุงไม่ถือหรอก พ่อเอ๊ย ลุงเป็นห่วง พ่อBud
ฟังชาวบ้าน ชาวพุทธ ชาวพระบ้าง ทั้งลุงทั้งพ่อBud ยังห่างนัก กับคำว่า อริยสัจ 4 อีกไกลเลย
เอ่อ
เมื่อไหร่น่า พ่อBud จะปาไอ้พจนานุกรม ทิ้งไป ดูธรรมชาติของคำ บ้าง
บางที มันหาคำอะไร มาแทน ไอ้เรื่องนั้นไม่ได้ มันก็เลยเอาอะไรที่มันใกล้ ๆ มาแทนก่อน ไม่งั้นมันตั้งคำนาม นั้นไม่ได้ ก็พูตต่อไม่ได้ พอพูดภาษาเทพ คำศัพท์สูง พ่อก็ไม่ได้ เพราะไม่มี ดิก ให้เปิดแล้ว
ความรู้สึก ให้ใช้บ้าง อย่าใช้แต่ตัวอักษร
ความรู้สึก ฟังแบบนี้ เข้าใจไม๊
รู้สึกร้องไห้ สะอึก สะอื้น เจ็บใจ น้ำตาไหล พลาก ไหล พลาก รู้สึกเป็นไม๊ ตอนเด็ก เจ็บใจ รู้สึกไม๊
ไม่ใช่ แปล เจ็บใจ ว่า ใจ มันโดน ตี ใจโดนเต๊ะ แล้วรู้สึกเจ็บ ถ้าแปล เจ็บ ว่าอย่างนั้น ลุงก็ต้องปล่อยไปตาม ดิก ของพ่อ เอ่อ
มันโX.. ที่ไปแกะทุกตัวอักษร ทุกตัวหนังสือ เอ่อ
คนไทย บางคน มันถึงเรียนภาษาอังกฤษ เพราะมันดันแปล แบบพ่อ นี่แหละ พ่อเอ๊ย
ไม่ต้องไปเปิด แปลเอง
ลาภ มันแปลว่า ทรัพย์สิน เงินทอง ของที่หามาได้เอง หรือ คนอื่นเขาเอาให้ก็ได้ เอาเป็นว่า มันเป็นของลุง ก็แล้วกัน
ลาภต่อลาภ งง ล่ะซิ ก็คือ เอาเงินต่อเงิน ไม่ได้แปลว่า เอาเหริยญบาทมาต่อเรียงกัน มันแปลว่า เอาเงินไปลงทุนทำให้ได้ลาภเพิ่ม เงินเพิ่ม ทรัพย์สินเพิ่ม เช่น บ้าน รถ มือถือ (ไม่ได้แปลว่า เอามือ ถือ มือ) กลัวมันแปล ตรงไปตรงมา เอ่อ ฯลฯ
พอมันมีมากเข้า ดูแลไม่ไหว ก็คนเขาขโมย กลัวเขา เอาของเราไปใช้ มันก็เลยทุกข์ เข้าใจไม๊ พ่อBud
.......................................................
_________________
ถ้ามีเวลาว่างเกินไป ก็ไปช่วยเขาทำงานบ้าน บ้าง เอ้อ
น้ำใส
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 31 พ.ค. 2004
ตอบ: 53
ตอบเมื่อ: 21 ธ.ค.2007, 8:35 am
มารายงานตัวครับ
อยากให้ลุงทั้งสอง ยิ้มกันกันสักนิดสักหน่อย แล้วโลกจะสดใส
บุญกริยข้อที่ 8. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการสนทนาธรรม
/
ลุงดำ
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 24 พ.ย. 2007
ตอบ: 59
ตอบเมื่อ: 21 ธ.ค.2007, 12:50 pm
เอ่อ
สวัสดี หลานน้ำใส
มาได้เวลาที่เหมาะเจาะ จริง ๆ
เอ่อ
เสียเวลาทำรูปอยู่ตั้งนาน ล่ะซิ เอ่อ อ้าว อ้าว เอ่อ
ลุงเป็นคนมีจริต แบบนี้ คงต้องค่อย ๆ แก้ไข
ผู้สนทนาธรรม ก็ต้องเลือกสนทนาธรรม เช่นกัน
ผู้สนทนาธรรม ก็เหมือนผู้สนทนาวิชาการเรื่องอื่น
อยากคุยเรื่องการเป็นหมอ ก็ต้องคุยกับหมอ
อยากคุยเรื่องทหาร ก็ต้องคุยกับทหาร
อยากคุยเรื่องศาสนาพุทธ ก็ต้องคุยกับพระสงฆ์ หรือจะคุยกับคนในเว็บบอร์ดนี้ก็ได้ (แต่ก็ต้องเลือกเหมือนกัน ) ต้องฝึกดูจริต ฝึกดูคำตอบ คำพูด คำจา ของเขา ว่ามันใช้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ ก็ค่อย ๆ ถอยห่าง ออกไป
ข้อดี ของเว็บบอร์ด ก็เลยเลือกได้ เลือกไม่คุยก็ได้ ไม่เห็นหน้า เห็นแต่ความคิดของเขา
หลานน้ำใส เอ๊ย
การสนทนาธรรม บางครั้งไม่จำเป็นต้องคุยทุกเรื่อง เรื่องที่รู้อยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว อย่าได้อวด อย่าได้เสนอตอบกระทู้ มันเหนื่อยนะที่ตอบโต้ เอ่อ
ทนไม่ได้ ก็ตอบนะ
บางครั้งไม่ต้องคุยก็ได้ อ่านของใครก็ได้ มีหลายคน เขาพูดดี เสนอดี พูดดีกว่า ลุง เยอะเลย ลุงก็ได้แค่อ่าน ไม่ได้สาธุ อนุโมทนา เอ่อ เสียดาย เสียดาย กลัวเปลืองHardDiskของเว็บมาส สะ เต้อร์ เอ่อ
_________________
ถ้ามีเวลาว่างเกินไป ก็ไปช่วยเขาทำงานบ้าน บ้าง เอ้อ
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 10:51 pm
ตามมาอ่านมาศึกษา เจริญในธรรมจ้า ท่านผู้รู้
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th