Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
คนเก่าในปีใหม่
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
manin
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2005, 5:27 pm
manin( มนินทร์ )นักเขียนอิสระที่ทำตัวเป็นกระจกสะท้อนเรื่องราวทุกอย่างให้ปรากฏสู่สายตาของชาวโลก ขอฝากเรื่องราวที่ไหลออกมาจากจิตใจประดุจสายน้ำนี้ให้กับเพื่อนๆในเวปนี้ ( อย่าลืมหาหนังสือของผมอ่านนะครับมีวางขายทั่วประเทศ )
คนเก่าในปีใหม่ คนทุกคนมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากทารกเป็นเด็กน้อย จากเด็กน้อยกาลเวลาก็ผลักให้เติบใหญ่เป็นคุณจนทุกวันนี้ หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่อีกหลายสิ่งหลายอย่างคุณกลับอนุรักษ์เอาไว้ เสมือนกับ ไอศกรีมแท่งโปรดที่คุณพยายามแช่ใว้ในช่องฟิตก็ไม่ปาน อะไรคือสิ่งที่คุณอนุรักษ์ไว้ ใช่สิ่งที่คุณอนุรักษ์ไว้นั่นก็คือสิ่งเก่า ถึงแม้เวลาจะบอกว่าปีใหม่แล้วนะ แต่คุณก็จะไม่เปลี่ยนสิ่งนั้นเช่นเดียวกันกับมนุษย์ทั่วๆไป นับล้านๆปีที่มนุษย์ดำรงค์อยู่คู่กับความกลัว ความปรารถนาที่เพ้อฝันและหนทางทะยานอยากไปตามอำนาจของไอ้ตัวมีเขาที่คอยถือ 3 ง่ามทิ่มก้นคุณก็คือความโลภ การแข่งขันกันไปจุดสูงสุดเพื่อที่จะตกลงมาคือความน่าสังเวชของมนุษย์ ตอบผมทีว่า อะไรคือสิ่งเก่าในปีใหม่ ? ถ้าคุณกล้าพอ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2005, 11:45 pm
ความเก่าและความใหม่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย ชีวิตมนุษย์ได้อาศัย และเป็นเพียงแค่การอาศัยเท่านั้นเอง จะเป็นสิ่งเก่าหรือสิ่งใหม่ก็ไม่ได้มีอะไรที่แปลกไปเลย เมื่อสิ่งใดยังต้องอาศัยและจำเป็นต้องอาศัย ก็เป็นประโยชน์ในการอาศัย
การอาศัยคืออะไรเล่า ถ้าเราทานอาหาร เราก็อาศัยข้าวเลี้ยงชีวิต แต่ถ้าเราไม่รู้จักอาศัยนี้ เราจะทานเพื่อความอร่อยของลิ้น
เมื่อเรามองว่าวัตถุต่างๆนั้นมีไว้เพื่อเสพ เพื่อเสวย เราก็เห็นความทะยานอยาก แต่การมองชีวิตมิได้มีเพียงแง่เดียว เพราะว่าสิ่งต่างๆนั้นเราอาศัยใช้ก็ได้ เมื่ออยู่อย่างผู้อาศัย เช่นอาศัยโลก เราเป็นเพียงผู้พักพิงเท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นผู้ติดยึดที่จะเอา แต่เราจะมองมนุษย์แบบไหนหรือว่ามนุษย์จะเป็นอย่างเรามองปทั้งหมดนั้น เราก็จะเป็นเจาความคิดของทุกคนไป ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยจะเป็นเช่นนั้น
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 03 ม.ค. 2005, 12:18 pm
นักเขียนจำนวนไม่น้อย ฉกฉวยความคิดจากคนอื่น ฉกฉวยโอกาสจากความทุกข์ของคนอื่น เพียงเพราะตนเองมีโอกาสมากกว่าคนอื่น แต่ผลสรุปและการนำเสนอทางรอด มันวนเวียนหรือเปล่า หรือการทำหนังสือเล่มหนึ่งออกมา นอกจากผลประโยชน์แล้ว ยังยัดเยียดความเป็นตัวตนของตัวเองให้กับผู้อ่านหรือเปล่า การสรุปผลแห่งองค์รวมมีหรือเปล่า
หรือเป็นการนำเสนอ เพียงเพราะตนเองยึดอยู่ในสังคมที่ตนเองคิดว่าถูกต้องอยู่หรือเปล่า เมื่อไม่มีกระจก ก็จะไม่มีเงาสะท้อนออกมาให้เห็นเป็นภาพลวงตาอีกต่อไป นอกจากภาพแห่งความเป็นจริง
อะไรคือสิ่งเก่าในปีใหม่.....จิตเดิมแท้.....คือสิ่งเก่าในปีใหม่.....ที่เหลือเพียงหยด.....หยดอะไร.....หยดแห่งพุทธะ ที่ไม่มีการแบ่งแยก จิตเดิมแท้เหมือนกันหมด ไม่ว่าชาติไหนภาษาไหน ไม่มีแบ่งแยกว่าอยู่ประเทศใด
มณี ปัทมะ ตารา
สำเร็จ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 06 ม.ค. 2005, 6:27 pm
คุณมนินทร์มองเห็นภาพต่างๆที่เกิดขึ้นจริง..
มองแล้วทำตัวเป็นกระจก...ก็ดีไปอย่าง
ทำให้คนอื่นมองเห็นภาพตัวเองได้..ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ถูก
ถ้าหากมองไปนานๆ...จะมีคำถามเกิดตามมา...
ถามว่า...ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ?...
ถามว่า...จะไม่ต้องเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ?
การสาวไปหาเหตุก็จะเริ่มขึ้น...เรียกว่า..หาทางออก
ถ้าหากพิจารณาหาเหตุด้วยตนเอง....คงใช้เวลานาน
เฉกเช่นคนที่ซื้อหนังสือมาอ่าน...
รู้แล้วก็รู้แค่นั้น..คิดๆไป...ไม่นานเล่มใหม่ก็ออกมาอีก
วนเวียนไม่รู้จบ...จนสำนักพิมพ์ร่ำรวย..
วิธีการมองโลก....ไม่ต่างกับการมองตนเอง
สิ่งที่เกิดในตัวเองจะปรากฎให้คนอื่นเห็น
เช่นที่คุณมนินทร์...กำลังเห็นคนอื่น
อยากรู้เรื่องโลก...ต้องรู้ตนเอง
การจะรู้ตนเอง...ง่ายที่สุดคือฟังว่า...พระพุทธเจ้าสอนอะไร
เพราะเรื่องที่คุณมนินทร์สะท้อนออกมา...มันมีเหตุ
คนที่รู้เหตุดีที่สุดในโลกก็คือ..พระพุทธเจ้า..
คุณมนินทร์กำลังก้าวแรก...ยังมีอีกมากก้าว
ผมถือว่า...เป็นเรื่องที่ถูกทาง...ที่รู้จักมอง
แต่หากเป็นเพียงหนังตัวอย่าง....ชักจูงคนไปซื้อหนังสือ..
ก็ไม่แปลกอะไร...คนจำนวนมากก็ทำอย่างนี้
และมันเป็นอย่างนี้...มานานแล้ว...
ผมก็ขอเป็นกระจกให้คุณมนินทเห็นทางเดินของตัวเองร์บ้าง....เท่านั้นเอง
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 06 ม.ค. 2005, 10:07 pm
เรื่องของคนนี้เป็นเรื่องนานาจิตตัง ถ้าเราอยู่ในหมู่พระภิกษุผู้ปฏิบัติและมีความเพียร ก็จะไม่มองว่ามนุษย์เป็นอย่างนี้ ผมอยากให้ไปสัมผัสด้วยตนเอง เพราะนักเขียนจะต้องเข้าไปสัมผัสสิ่งต่างๆที่จะเอามาเขียน ไม่อย่างนั้นก้จะมองโลกอย่างผิวเผิน หรือฉาบฉวย และการแสดงความเห็นหรือความรู้สึกก็จะเป็นไปอย่างฉาบฉวย ว่ากันว่าเฮมมิงเวย์ต้องลงไปสู้วัวกระทิงแล้วเขียนเรื่องสั้นบรรยากาศการสู้วัว ดังนั้นเรื่องของเฮมมิงเวย์อ่านแล้ววางไม่ลง แม็กซิม กอร์กี้ ก็เอาเรื่องประสบการณ์คนยากจนมาเขียนอย่างเห็นภาพ สะท้อนงานทางศิลปะได้อย่างงดงามอันนี้ว่าเรื่องวรรณกรรม นักเขียนไทยก็ควรฝึกฝนในเรื่องการเข้าไปสัมผัสของจริง และหาประสบการณ์ ไม่อย่างนั้นก็ผลิตงานออกมาอย่างฉาบฉวย แล้วก็เรียกตนเองว่าเป็นนักเขียนแล้ว นักเขียนควรเรียนรู้อะไรมากและมีประสบการณ์ให้มาก
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th