Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มหัศจรรย์ !?! เงาพระธาตุ 5 เงา ที่ “วัดพระธาตุดอยน้อย” อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
webmaster
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2004
ตอบ: 769

ตอบตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 7:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image
เงาพระธาตุซ้อนชั้นในวิหารหลังเปียง


มหัศจรรย์ !?! เงาพระธาตุ 5 เงา ที่ “วัดพระธาตุดอยน้อย”

หากเอ่ยถึง “เงาพระธาตุ” กูรูท่องเที่ยวส่วนใหญ่คงจะพุ่งเป้าไปที่วัดพระธาตุลำปางหลวง หรือพระธาตุจอมปิง ในจังหวัดลำปาง เพราะต่างก็เป็นเงาพระธาตุที่มีชื่อเสียงด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะเงาพระธาตุหรือพระธาตุหัวกลับที่วัดพระธาตุลำปางหลวงนั้น ถือว่าโด่งดังในระดับอันซีนไทยแลนด์เลยทีเดียว

แต่หากพูด “วัดพระธาตุดอยน้อย” แล้ว ส่วนใหญ่มักไม่คุ้นหู แต่ที่วัดแห่งนี้กลับมีเงาพระธาตุปรากฏให้ชมถึง 5 เงาด้วยกัน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ไม่น้อยเลย

Image
เงาพระธาตุ 1 เงา


รู้จักวัดพระธาตุดอยน้อย

วัดพระธาตุดอยน้อย เป็นวัดเล็กๆ ตั้งอยู่ในบ้านนางแตน ต.ท่าผา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เชื่อกันว่าวันแห่งนี้สร้างโดยครูบาศรีวิชัย โดยแต่เดิมบนดอยน้อยแห่งนี้มีป่าไม้หนาทึบอุดมสมบูรณ์ พระภิกษุสงฆ์ที่แสวงหาความวิเวกจึงได้แวะเวียนขึ้นมาปฏิบัติธรรม ชาวบ้านละแวกนั้นได้เห็นก็พากันศรัทธา ช่วยถางบริเวณป่าสร้างกุฏิไม้ไผ่มุงด้วยหญ้าคาถวายพระภิกษุให้ท่านได้อยู่อาศัยเพื่อปฏิบัติธรรม

Image
องค์พระธาตุที่ตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร (ที่เกิดเงาพระธาตุ)
ภายในบรรจุอัฐิพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



เวลาผ่านไปพระภิกษุสงฆ์ก็ได้หมุนเวียนกันขึ้นมาปฏิบัติธรรมบ้าง บางช่วงก็รกร้างเพราะขาดพระภิกษุสงฆ์ขึ้นมาพำนักอาศัย กระทั่งมีพระภิกษุสงฆ์มาพำนักอีกครั้ง ชาวบ้านที่ศรัทธาก็ได้สร้างเสนาสนะขึ้น เป็นต้นว่า กุฏิ เจดีย์ เพื่อให้พุทธบริษัททั้งหลายได้ไหว้บูชา เมื่อเริ่มมีศาสนวัตถุและสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้น คณะศรัทธาประชาชนก็ได้พร้อมใจกันตั้งเป็นวัดขึ้นโดยให้ชื่อว่า “วัดดอยน้อย” หรือบางคนเรียกว่า “ม่อนดอกด้าย” เมื่อประมาณ พ.ศ.2230

Image
พระประธานปางมารวิชัยในวิหารที่เกิดเงาพระธาตุ


กาลต่อมา วัดดอยน้อยก็รกร้างเพราะขาดภิกษุสงฆ์มาพำนักอาศัย ศาสนวัตถุทั้งหลายเสื่อมโทรมผุพังตามกาลเวลา จนกระทั่งในปี พ.ศ.2460 วัดดอยน้อยก็ได้รับการพัฒนาและบูรณะจาก หลวงปู่ครูบาญาณรังษี สิงห์แก้ว (ศิษย์ของครูบาศรีวิชัย) ด้วยการสร้างถาวรวัตถุเพิ่มขึ้นและท่านก็อยู่จำพรรษาเรื่อยมา

ในขณะที่หลวงปู่ครูบาญาณรังสี สิงห์แก้ว ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็ได้ชักชวน ครูบาอภิชัยขาวปี วัดพระบาทผาหนาม อ.ลี้ จ.ลำพูน ให้มาช่วยสร้างพระเจดีย์ และได้ทำหนังสือแจ้งทางการไปตามลำดับเพื่อขอให้ตั้งวัดดอยน้อย ขึ้นเป็นวัดโดยสมบูรณ์ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2461 ให้ชื่อว่า “วัดดอยน้อย” มีบริเวณพื้นที่ทั้งหมด 65 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย โดยมีหลวงปู่ครูบาญาณรังษี สิงห์แก้ว เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก

Image
รอยพระพุทธบาทที่ชาวบ้านในละแวกพบเจอใกล้ๆ บริเวณวัด


ในปี พ.ศ.2504 ทางวัดดอยน้อยได้รับเมตตาจาก ครูบาศรีวิชัย นำคณะศรัทธาสาธุชนทั่วทั้งหลายมาก่อสร้างพระวิหารขึ้นทางทิศเหนือของพระเจดีย์ พร้อมทั้งสร้างพระพุทธรูปรูปปูนปั้นปางมารวิชัยไว้ในพระวิหาร โดยเรียกกันว่า “วิหารหลังเปียง” สร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างแปลกแตกต่างจากวัดอื่นๆ แต่ที่แปลกกว่านั้นก็คือวิหารหลังนี้ปรากฏเงาพระธาตุให้เห็นถึง 5 เงาเลยทีเดียว

มหัศจรรย์เงาพระธาตุ 5 เงา

พระอธิการชรัด อริโย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยน้อย เล่าถึงความเป็นมาของการพบเงาพระธาตุในวัดพระธาตุดอยน้อยว่า “อาตมาพบเจอเงาพระธาตุโดยบังเอิญในปี พ.ศ.2548 พอดีตอนนั้นอาตมามานั่งสมาธิในวิหาร แล้วเห็นเงานกบินผ่านไปมา เลยเอาผ้าขาวมาขึงตรงที่มีรูหน้าประตูจึงเห็นเป็นเงารูปพระธาตุ จากนั้นจึงได้ไปดูเงาพระธาตุที่วัดพระธาตุจอมปิง ซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นเงาพระธาตุในลักษณะเดียวกัน”

Image
ทางขึ้นสู่ตัววิหารหลังเปียง วิหารที่ปรากฏเงาพระธาตุถึง 5 เงาด้วยกัน


สำหรับการเกิดเงาพระธาตุนั้น หลายๆ คนบอกว่านี่คือความมหัศจรรย์ขององค์พระธาตุ ในขณะที่นักวิชาการส่วนใหญ่ เชื่อว่าเงาพระธาตุเป็นปรากฏการณ์เดียวกับ “กล้องรูเข็ม” (Pinhole Camera) ที่ถูกค้นพบโดยชาวอาหรับเมื่อกว่า 3,000 ปี ที่ผ่านมา โดยชาวอาหรับผู้นั้นได้สังเกตเห็นภาพอูฐเดินกลับหัวบนผนังกระโจมด้านที่อยู่ตรงข้าม และในหลักการเดียวกันของกล้องรูเข็ม ทำให้แสงที่ส่องเข้ามาทางรูในห้องมืดทึบ เกิดจากการหักเหของแสงที่รูเล็กๆ บนผนัง แล้วไปส่องกระทบกับฉากทำให้เกิดเป็นเงาพระธาตุขึ้นมา

แต่สำหรับเงาพระธาตุที่วัดพระธาตุดอยน้อยในวิหารหลังเปียง ดูจะแปลกและแตกต่างจากเงาพระธาตุที่ปรากฏในวัดอื่นๆ เนื่องจากทางผนังฝั่งขวาของวิหาร (มองเข้าไปจากประตู) จะมีเงาพระธาตุ 5 เงา (จากคำยืนยันของเจ้าอาวาส) ปรากฏให้เห็นใน (กรอบ) ภาพเดียวกัน โดยมีลักษณะเป็นเงาของพระธาตุหัวตั้งซ้อนกันเป็นชั้นๆ 4 เงา และเงาที่ด้านข้างเล็กๆ (ส่วนบน) อีก 1 เงา ในขณะที่ฝั่งตรงข้าม (ฝั่งซ้ายของวิหารเมื่อมองจากประตูทางเข้า) ก็จะมีเงาพระธาตุหัวตั้งอีก 1 เงาปรากฏให้ชมกันอย่างชัดเจน

Image
วิหารพระพุทธเจ้า


สำหรับ “องค์พระธาตุ” ที่ให้กำเนิดเงานั้นตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร เป็นพระธาตุขนาดไม่สูงใหญ่ องค์พระธาตุสีดำ มีส่วนยอดเป็นสีทองเหลืองอร่าม

เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยน้อย เล่าว่า พระธาตุองค์นี้มีมาตั้งแต่ก่อนสร้างวัด ด้านในบรรจุอัฐิพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เดินตรงเข้าไปจะเจอกันวิหารอีกหลังหนึ่งคือ “วิหารรอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทที่ชาวบ้านพบที่ตรงเนิน ใกล้ทางรถไฟใกล้ๆ วัด จึงได้นำขึ้นมาไว้ที่วัด เมื่อปี พ.ศ.2530

Image
ซุ้มเจ้าอาวาส


ใกล้ๆ กับวิหารพระพุทธบาท มี “ซุ้มเจ้าอาวาส” ที่มีรูปปั้นอดีตเจ้าอาวาส 3 ท่าน ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้และมีชื่อในหนังสืออย่างถูกต้อง ได้แก่ ครูบาญาณรังษี สิงห์แก้ว, ครูบาอินปั๋น อินทวังโส และครูบาอภิชัยขาวปี และยังมี “วิหารพระพุทธเจ้า” สร้างในปี พ.ศ.2548 ภายในมีพระพุทธรูปปางโปรดพุทธมารดา ลักษณะพระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) บางแบบวางบนพระชานุ (เข่า) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) จีบนิ้วพระหัตถ์ บางแบบงอนิ้วพระหัตถ์

Image
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ผู้สร้างวัดพระธาตุดอยน้อยแห่งนี้


นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี “อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย” ที่ท่านเจ้าอาวาสได้เล่าว่า สร้างมาใน พ.ศ.2510 เพื่อระลึกถึงคุณของครูบาศรีวิชัยที่สร้างวัดและช่วยเหลือมาโดยตลอด ใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์มี “อุโบสถ” เล็กๆ หลังหนึ่ง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2460 ภายในมีพระพุทธรูปเก่าแก่มากมาย พระพุทธรูปบางองค์ต้องสร้างกรงครอบไว้เพื่อกันขโมย เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปทองสำริดด้านในเป็นทองคำ และถูกขโมยไปบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งผู้ที่ขโมยไปก็ต้องมีประสบเหตุเภทภัย อยู่ไม่เป็นสุขทุกข์ร้อนจนต้องนำพระพุทธรูปกลับมาคืนวัดทุกครั้งไป

และนี่ก็คือเรื่องราวและสิ่งที่น่าสนใจของวัดพระธาตุดอยน้อย ที่หากใครมีโอกาสได้เดินทางไปเยือนเมืองรถม้า ก็สามารถแวะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเงาพระธาตุ 5 เงาในวิหารหลังเปียงได้ แล้วจะพบว่าภาพเงาพระธาตุที่พบเห็นนั้นแตกต่างจากที่อื่นซึ่งดูแล้วน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

Image
พระพุทธรูปเก่าแก่ภายในอุโบสถ บางองค์หายเป็นประจำจึงต้องใส่กรงเอาไว้


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“วัดพระธาตุดอยน้อย” ตั้งอยู่เลขที่ 190 หมู่ 1 บ้านนางแตน ต.ท่าผา
อ.เกาะคา จ.ลำปาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 0-5428-4533


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2550 17:41 น.
 

_________________
ธรรมจักรดอทเน็ต
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง