ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
22 ต.ค.2005, 5:10 pm |
  |
ปาฏิหาริย์การขออโหสิกรรม
โดย สุวิไล บุญธวัชชัย
ก่อนอื่นดิฉันขอขอบคุณสามีที่อนุญาตให้นำเรื่องนี้มาเล่า เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่มีคู่ครองติดสุราหรืออบายมุขอื่นๆ ที่กำลังท้อแท้กับชีวิต ได้มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป
ชีวิตของดิฉันตั้งแต่เล็กจนโต มีแต่ความสุขสบาย ได้รับความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนดีๆจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี หลังจากจบการศึกษาไม่นาน ก็ได้แต่งงานกับสามีซึ่งมีฐานะและพื้นฐานทางครอบครัวที่ใกล้เคียงกัน คุณพ่อของสามีมีกิจการค้าส่วนตัว เมื่อเข้าไปเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวสามี คุณพ่อคุณแม่และน้องสาวของสามีดีต่อดิฉันมาก สามีก็ช่วยกิจการค้าของคุณพ่อ
ชีวิตสมรสของดิฉันราบรื่น ขณะที่มีลูกสาว ๓ คนที่น่ารัก (ลูกชายคนเล็กเกิดภายหลังวิกฤตการณ์ของครอบครัว) สามีเป็นคุณพ่อที่ดีของลูกๆ ไปไหนมาไหนจะไปทั้งครอบครัว วันหยุดส่วนใหญ่จะทำกิจกรรมร่วมกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปเที่ยวสวนสนุก แต่ความสุขทางโลกเป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเกิดมารวยหรือจน ต้องมาใช้กรรมที่ทำไว้ทั้งนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดิฉันก็เช่นเดียวกัน หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น เหตุการณ์ที่ทำให้ดิฉันเป็นทุกข์อยู่หลายปีเกิดขึ้นหลังจากแต่งงานประมาณ ๑๐ ปี สามีไปเข้าหุ้นทำการค้ากับเพื่อนๆ ตัวเขาไม่ได้เข้าไปบริหารแต่เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัท ทำไปได้ไม่นานก็เกิดขาดทุน ไม่มีใครเข้าไปรับผิดชอบ สามีดิฉันซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้จึงต้องเข้าไปสะสางหนี้สินทั้งหลาย
ชีวิตของดิฉันแปรเปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน เพราะสามีต้องไปทำงานที่บริษัทใหม่ หน้าที่การงานที่เขาเคยรับผิดชอบอยู่ที่กิจการของคุณพ่อก็ต้องโอนให้ดิฉันดูแลแทนทั้งหมด ตอนกลางวันดิฉันต้องดูแลร้าน มีปัญหาเกี่ยวกับการค้าก็ต้องหาทางแก้ไขเอง เพราะคุณพ่อป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพอง เข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ไม่สามารถเป็นที่ปรึกษาได้ ตอนกลางคืนก็ต้องดูแลลูกสาว ๓ คน และลุกชายคนเล็กซึ่งยังเล็กอยู่
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก เมื่อสามีดิฉันเข้าไปสะสางปัญหาต่างๆมากมายในบริษัทใหม่ ความเครียดกับงานก็เพิ่มมากขึ้น เขาเริ่มดื่มเหล้าเพื่อให้หลับในตอนกลางคืน จนกลายเป็นคนติดเหล้า ต้องดื่มทุกวัน เริ่มขาดสติและมีอารมณ์แปรปรวนเป็นประจำ บ่อยครั้งที่เขาไปงานสังคมและกลับบ้านดึก ดิฉันจะเป็นห่วงและไม่เข้านอนจนกว่าเขาจะกลับมา โรคปวดหลังที่เคยเป็นมาก่อนก็รุมเร้าดิฉันหนักขึ้น ถึงกลับเดินไม่ได้ต้องไปโรงพยาบาล ต้องทำกายภาพบำบัดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะหาย ดิฉันได้แต่ทุกข์กายทุกข์ใจอยู่คนเดียว ทุกครั้งที่กลุ้มใจมากๆก็จะเข้าห้องพระ จุดธูปอธิฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดิฉัน แม้จะสวดมนต์บทชินบัญชรคาถา เพื่อให้คลายทุกข์ ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ เนื่องจากดิฉันไม่ทราบวิธีการสวดมนต์ที่ถูกต้อง และไม่เข้าใจว่าสวดมนต์เพื่ออะไร ขณะที่ดิฉันแทบจะหมดอาลัยตายอยาก
อาจจะเป็นเพราะได้ทำบุญกุศลร่วมกับพี่สาวของดิฉัน อยู่มาวันหนึ่งพีสาวโทรศัพท์มาเล่าว่า ตั้งแต่ลูกๆ เขาไปเรียนเมืองนอก เขาว่างมาก จึงหยิบหนังสือสวดมนต์เล่มหนึ่งที่ได้จากงานศพของคนรู้จัก มาสวดทุกเย็นหลังเลิกงาน เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และรู้สึกว่าตัวเองใจเย็นลง จิตใจแจ่มใสขึ้น ตั้งแต่นั้นมาดิฉันก็หยิบหนังสือสวดมนต์ที่ได้รับจากงานศพเดียวกันมาสวดบ้าง (เป็นบทสวดมนต์เดียวกับที่หลวงพ่อจรัญแนะนำให้สวด)
การสวดมนต์และแผ่เมตตาที่จะทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันนั้น ทำได้ยากมาก เพราะการที่จะสำรวมกายสำรวมใจสวดมนต์ในตอนแรกๆ ต้องอดทนและฝืนใจตัวเองอย่างมากๆ คนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวดิฉันเองมักจะพูดว่าไม่มีเวลาสวดมนต์ ทำงานเหนื่อยทั้งวัน สวดมนต์ทีไรง่วงทุกที แต่อย่างที่เขาพูดว่า เมื่อใดมีทุกข์เมื่อนั้นก็จะพบธรรมะ เมื่อความทุกข์เพิ่มทวีคูณ ดิฉันก็พยายามหาทางขจัดทุกข์ให้เร็วที่สุด จากที่เคยสวดบทง่ายๆและไม่เคยแผ่บทเมตตา ในช่วงแรกๆก็ได้เริ่มสวดบทพาหุงมหากา บทพุทธคุณ (อายุของตัวเองบวกหนึ่งจบ) พร้อมทั้งอโหสิกรรมและแผ่เมตตาทุกครั้ง อานิสงฆ์จากการสวดมนต์ ทำให้ดิฉันมีสติอยู่กับตัวเองมากขึ้นและคลายจากความทุกข์ความกังวลเกี่ยวกับสามีลงมาก แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ อานิสงฆ์จากการสวดมนต์ ทำให้ดิฉันได้พบวิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อเจริญสติเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนกับธรรมะจัดสรรให้
หลังจากได้สวดมนต์ไม่นาน พี่สาวของดิฉันก็ได้นำหุงสือเล่มหนึ่งชื่อ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ของคุณสุทัสสา อ่อนค้อม มาให้อ่าน มีหลายอย่างในหนังสือเล่มนั้นที่เป็นพลังผลักดันให้ดิฉันใฝ่หาความรู้ทางธรรมะมากขึ้น ความศรัทธาต่อหลวงพ่อจรัญจากหนังสือเล่มดังกล่าว ทำให้พี่สาวและดิฉันขับรถไปที่วัดอัมพวันเพื่อฟังธรรมะจากหลวงพ่อโดยตรง ทุกครั้งที่ได้ฟังธรรมจากท่าน ดิฉันจะนำคำสอนจากท่านมาประยุกต์ใช้กับชีวิตตัวเอง
ดิฉันเริ่มมองตัวเองและแก้ไขสิ่งที่ตัวเองบกพร่อง ซึ่งแต่ก่อนมักจะโทษว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนอื่นทำมากกว่า โดยเฉพาะปัญหาสามีติดเหล้า จะโทษว่าเป็นเพราะเขาที่ทำให้เราเป็นทุกข์ และจะโกรธเขาทุกข์ครั้งที่เห็นเขาดื่มเหล้า แต่หลังจากได้สวดมนต์ปฏิบัติธรรม และฟังธรรมจากหลวงพ่อทำให้ดิฉันอยู่กับตัวเองมากขึ้น กลับมองปัญหาที่เกิดขึ้นว่า คงเป็นกฎแห่งกรรมที่เราทำไว้ชาติที่แล้ว จึงต้องมาประสบปัญหาเช่นนี้
ฉะนั้น เราควรอดทนใช้กรรมที่เราทำไว้ในอดีตอย่างมีสติ และไม่ควรเพิ่มกรรมใหม่ที่ไม่ดีในปัจจุบัน ดิฉันได้เริ่มต้นโดยขออโหสิกรรมจากสามี และอโหสิกรรมให้เขาเช่นกัน ไม่รื้อฟื้นสิ่งที่ไม่ดีในอดีต ปรับปรุงตัวเอง ลดทิฐิ พูดจาดีๆ กับเขา ไม่เอ่ยถึงเรื่องที่จะให้เขาเลิกเหล้า หลังจากที่ดิฉันปรับปรุงแก้ไขตัวเองไม่นาน สามีของดิฉันก็ค่อยๆ ลดการดื่มเหล้าลง จนถึงขณะนี้เขาเลิกดื่มแล้วและกลับมาเป็นคุณพ่อที่ดีของลูกๆ และเป็นสามีที่ดีของดิฉัน
การปฏิบัติธรรมนอกจากทำให้ดิฉันมีชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ดิฉันได้ระลึกถึงกรรมที่ได้ทำไว้กับผีเสื้อเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ดิฉันได้จับผีเสื้อมา ๔ ตัว และให้เพื่อนคนหนึ่งฉีดยากลางหลังทุกตัวเพื่อสต๊าฟไว้ส่งครูในวิชาชีวะ แต่หลังจากนั้นไม่นานดิฉันก็ฝันเห็นผีเสื้อยักษ์ตัวใหญ่บินเข้ามาหาดิฉันเพื่อจะมาทำร้าย จนดิฉันตกใจตื่น โดยไม่ทราบว่านี่คือความอาฆาตแค้นที่ผีเสื้อเหล่านั้นมีต่อดิฉัน จนกลายเป็นกรรมที่ดิฉันต้องชดใช้นานถึง ๑๐ ปี กับอาการปวดหลัง ที่ต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ทุกครั้งที่ปวดหลังดิฉันจะเดินไม่ได้ จะนั่งจะนอนก็ทรมานไปหมด กว่าจะดีขึ้นก็ต้องทำกายภาพบำบัดเป็นเวลา ๑ สัปดาห์ จนกระทั่งได้มานั่งกรรมฐาน จึงระลึกได้ว่า ที่ปวดหลังมาเป็นเวลา ๑๐ ปีนั้นเป็นเพราะกฎแห่งกรรมที่ทำไว้กับผีเสื้อ
ดิฉันจึงขออโหสิกรรมและแผ่เมตตาให้กับผีเสื้อเหล่านั้น หลังจากนั่งกรรมฐานติดต่อกันเป็นเวลาหลานเดือน ในที่สุดพวกเขาก็ยอมอโหสิให้กับดิฉัน เพราะอาการปวดหลังของดิฉันได้หายเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่ตอนนั้นเป็นเวลา ๔ ปีแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนปาฏิหาริย์ที่เกิดจากการขออโหสิกรรมโดยการเจริญกรรมฐาน
ดิฉันขอสรุปว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรามีทางออกที่ดีได้ ถ้าเรายอมลดทิฐิลง มองดูตัวเองก่อนเพื่อแก้ไขความบกพร่อง ให้อภัยและอโหสิกรรมผู้อื่น เรื่องในอดีตอย่าไปรื้อฟื้น ขอให้ตั้งสติเพื่อแก้ไขปัญหาในปัจจุบันการที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็โดยการเจริญกรรมฐานเท่านั้น จากประสบการณ์ชีวิตของดิฉันเอง การที่จะได้ของดีมักจะมีอุปสรรค ขอให้อดทน เริ่มจากสวดมนต์ อโหสิกรรม และแผ่เมตตาทุกวัน แล้วธรรมะก็จะจัดสรรเป็นขั้นเป็นตอนให้ได้มีโอกาสเจริญกรรมฐานในที่สุด ถึงแม้ต้องต่อสู้กับตัวเองและใช้ความอดทนอย่างสูงเพื่อทำให้เป็นกิจวัตร แต่พอทำได้แล้วจะรู้สึกไม่ยากเลย และจะพบแต่สิ่งดีๆ ที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ (ปัจจังตัง เวทิตัพโพ วิญญฺหิ)
...............................................................
คัดลอกมาจาก ::
หนังสือกฎแห่งกรรมเล่มที่ ๑๘
วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
http://www.jarun.org/ |
|
|
|
   |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
25 ต.ค.2005, 12:01 am |
  |
|
    |
 |
ddd
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 ธ.ค.2005, 9:28 am |
  |
|
|
 |
หวาน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ม.ค. 2006, 9:18 pm |
  |
น่าประทับจัยจัง  |
|
|
|
|
 |
คนน่ารัก
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ม.ค. 2006, 9:22 pm |
  |
|
|
 |
fai
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 มี.ค.2006, 2:52 pm |
  |
ประทับใจเรื่องราวของคุณมากค่ะ อยากให้คุณช่วยอธิบายขั้นตอนวิธีการนั่งกรรมฐานและวิธีอโหสิกรรมแผ่เมตตาได้ไหมคะ |
|
|
|
|
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
02 ก.ย. 2006, 4:42 am |
  |
ดิฉันก็กำลังปฏิบัติเหมือนที่คุณกรุณานำมาลง เพราะว่าเราเป็นที่พึ่งของเราเอง โชคดีที่คุณแม่พาเข้าวัดปฏิบัติธรรมแต่เด็กๆ จึงมีหลักชีวิตไว้ยึด ไม่งั้นพอเจอมรสุมก็คงขาดสติเหมือนกัน
อนุโมทนาด้วยนะคะ |
|
_________________ พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา |
|
   |
 |
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64
|
ตอบเมื่อ:
16 มี.ค.2007, 3:33 pm |
  |
 |
|
_________________ เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ |
|
   |
 |
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62
|
ตอบเมื่อ:
13 เม.ย.2007, 4:01 pm |
  |
ร่วมอนุโมทนาสาธุ อ่านแล้วได้ข้อคิดมากค่ะ  |
|
|
|
  |
 |
sailor moon
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 เม.ย.2007, 10:12 am |
  |
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
17 พ.ค.2007, 3:25 pm |
  |
ปัญหาที่คล้ายกันมาก ขอยึดเป็นข้อปฏิบัติตาม เผื่อบุญพาวาสนาส่งจะกรรมลดน้อยลงบ้าง |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2007, 3:28 pm |
  |
|
|
 |
montriya
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 15 ต.ค. 2007
ตอบ: 1
|
ตอบเมื่อ:
17 ต.ค.2007, 8:18 am |
  |
เมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค.50 รายการ VIP ช่อง 9 ได้ออกอากาศเรื่องของคุณRichyและเรื่องวิธีการแก้กรรมของเขา ผมได้ไปซื้อหนังสือที่เขาเขียนมาอ่านก็ได้ข้อคิดเรื่องกรรมมาหลายอย่าง..รวมทั้งวิธีการแก้กรรมซึ่งไปDownloadจากเว็บของเขามาอ่าน...ดีมากและทุกคนทำได้...ปรากฏว่าเว็บของเขามีคเข้าไปมากจนล่มเพื่ออำนวยความสะดวกกับท่านที่ต้องการผมได้ไปนำมาใว้ให้ท่านแล้ว
ไปDownloaที่เว็บนี้ได้เลยครับhttp://wpk-school.com |
|
|
|
  |
 |
พิทรายา
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 12 ส.ค. 2007
ตอบ: 103
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
|
ตอบเมื่อ:
27 ต.ค.2007, 10:20 am |
  |
 |
|
_________________ ความยึดมั่นถือมั่นทำให้เป็นทุกข์ |
|
  |
 |
Candy
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 21 ก.พ. 2008
ตอบ: 28
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.พ.2008, 10:25 pm |
  |
 |
|
_________________ หนทางสว่างด้วยแสงไฟ จิตใจสว่างด้วยแสงธรรม |
|
  |
 |
suvitjak
บัวบาน

เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
17 มิ.ย.2008, 4:12 pm |
  |
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมากครับ และเป็นกำลังใจให้ครับ  |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
  |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
15 ส.ค. 2008, 4:47 pm |
  |
ดิฉันขอสรุปว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรามีทางออกที่ดีได้ ถ้าเรายอมลดทิฐิลง มองดูตัวเองก่อนเพื่อแก้ไขความบกพร่อง ให้อภัยและอโหสิกรรมผู้อื่น เรื่องในอดีตอย่าไปรื้อฟื้น ขอให้ตั้งสติเพื่อแก้ไขปัญหาในปัจจุบันการที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็โดยการเจริญกรรมฐานเท่านั้น จากประสบการณ์ชีวิตของดิฉันเอง การที่จะได้ของดีมักจะมีอุปสรรค ขอให้อดทน เริ่มจากสวดมนต์ อโหสิกรรม และแผ่เมตตาทุกวัน แล้วธรรมะก็จะจัดสรรเป็นขั้นเป็นตอนให้ได้มีโอกาสเจริญกรรมฐานในที่สุด ถึงแม้ต้องต่อสู้กับตัวเองและใช้ความอดทนอย่างสูงเพื่อทำให้เป็นกิจวัตร แต่พอทำได้แล้วจะรู้สึกไม่ยากเลย และจะพบแต่สิ่งดีๆ ที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ (ปัจจังตัง เวทิตัพโพ วิญญฺหิ)
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
จะนำไปเป็นบทเรียนสอนชีวิต |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
|