ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
18 ธ.ค.2004, 11:32 pm |
  |
ชีวิตผมดีขึ้นเพราะกรรมฐาน
โดย เทอดศักดิ์ นาไชยธง
ผมเป็นชาวเพชรบูรณ์โดยกำเนิด ปัจจุบันอายุ ๒๗ ปี ได้มีโอกาสรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารเรือ ๒ ปี หลังจากพ้นหน้าที่มาแล้วเมื่อ ๔ - ๕ ปีที่ผ่านมา ก็ช่วยพี่สาวดูแลโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้ๆ กับพระสมุทรเจดีย์ บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนับเป็นอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้ดีพอสมควร จึงทำมาจนถึงทุกวันนี้
โดยปกติแล้ว ผมเป็นคนที่ไม่สู้จะมีจิตใจฝักใฝ่ทางพระ ทางธรรมเท่าใด ได้มีโอกาสมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ จรัญและวัดอัมพวัน ก็เพราะการแนะนำของผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักท่านหนึ่ง คือ นาวาเอกไพโรจน์ แก่นสาร แรกๆ ที่ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อและคำสอนของท่าน ก็รู้สึกสนใจเพียงเล็กน้อย จนเมื่อได้ยินบ่อยๆ เข้าก็รู้สึกศรัทธามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผมมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและการงานที่ทำอยู่ แล้วขอคำปรึกษาจาก นาวาเอกไพโรจน์ ท่านก็ยกคำสอนของหลวงพ่อมาเตือนสติ ให้ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
ผมจึงหาโอกาสมากราบหลวงพ่อที่วัดเป็นครั้งแรกในราวกลางปี ๒๕๓๙ ในการไปวัดครั้งนั้น ผมขับรถไปกับเพื่อน ซึ่งต่างก็ไม่รู้จักทางเข้าวัด แต่ก็หาพบจนได้ไม่ยากเย็นนัก เมื่อเข้าไปในบริเวณวัด รู้สึกว่าเป็นสถานที่ที่สงบร่มรื่น และชุมชื่นใจนัก ได้เห็นความเป็นอยู่ของผู้ปฏิบัติธรรมก็นึกชอบ เพราะไม่วุ่นวายหรือส่งเสียงดัง แยกอยู่เป็นสัดส่วน ไม่มีผู้ใดมารบกวนเลย แตกต่างจากวัดแถวบ้านผมเป็นอย่างมาก จึงพูดทีเล่นทีจริงกับเพื่อนว่า
ถ้าจะบวชก็ขอบวชที่วัดนี้แหละ สงบดี
หลังจากเดินชมบริเวณโดยรอบแล้ว จึงแวะที่กุฏิหลวงพ่อ (ชั้นล่าง) นั่งรออยู่นานหลายชั่วโมงเหมือนกัน จนหลวงพ่อลงมาพบญาติโยมที่รอกันอยู่จนแน่นห้องนั้น เมื่อรับถวายเครื่องสักการะต่างๆ แล้วหลวงพ่อได้เมตตาให้พรและสอนธรรมะ คำสอนของท่านฟังดูทันสมัย เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน มีข้อคิดคติธรรมที่ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม ทำให้ผมมีศรัทธามากยิ่งขึ้นไปอีก
ต่อมาอีกไม่นานผมได้มีโอกาสเข้าปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันเป็นครั้งแรก เพียง ๓ วัน ได้รับกรรมฐานและฟังหลวงพ่อบรรยายธรรมในวันพระ ผมจำได้แม่นยำว่า ท่านกรุณาสอนเรื่องพระคุณของมารดา - บิดา คำสอนของท่านช่างสะกิดใจผมเหลือเกิน เหมือนจงใจจะเทศน์โปรดผมโดยเฉพาะ เนื่องจากผมเองเคยโกรธบิดา และไม่ยอมคุยด้วยเป็นเวลาประมาณสิบปีแล้ว ถึงแม้วผมจะมาเรียนและทำงานที่กรุงเทพฯ นานๆ จะกลับบ้านที่เพชรบูรณ์สักครั้ง เมื่อพบกันก็ไม่พูดหรือทักทายท่านเลย จนนานวันเข้ากลายเป็นเรื่องปกติ
หลวงพ่อท่านสอนว่า ลูกคนใดถ้าไม่เคารพพ่อแม่ จะทำงานอะไรหรือประกอบการค้าใดๆ ก็หาความเจริญรุ่งเรื่องไม่ได้เลยในชีวิต ผมฟังคำสอนของหลวงพ่อแล้วก็หวนคิดถึงเรื่องของตัวเอง เริ่มเกิดสำนึกดีงามและรู้บาปบุญคุณโทษในการกระทำที่ไม่ดีของตนมากยิ่งขึ้น ในเรื่องการไม่พูดกับพ่อบังเกิดเกล้ามาเป็นเวลานาน
วันรุ่งขึ้น ระหว่างที่ผมกำลังปฏิบัติธรรมร่วมกับหมู่คณะนั้น ฉับพลันก็เกิดความรู้สึกคิดถึงบิดาขึ้นมาอย่างจับใจ อยากจะไปหาท่านในขณะนั้นเลย มีความตื้นตันใจจนน้ำตาเอ่อคลอเบ้าตา อยากจะร้องไห้ออกมาให้หายอัดอั้นตันใจ แต่ก็ไม่กล้า จำต้องข่มใจไว้ เมื่อครบกำหนดปฏิบัติ ก่อนกลับบ้านก็หวนนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อในเรื่องความกตัญญูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ความโกรธเคืองบิดาที่มีอยู่เดินจางหายไปสิ้น รีบหาโอกาสกลับบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พบบิดาจึงยกมือไหว้และเข้าไปทักทายพูดคุยกับท่าน ท่านรู้สึกงุนงง เพราะคิดไม่ถึงว่าลูกที่มึนตึงกับท่านมานับสิบปีจะปฏิบัติดีเช่นนี้กับท่าน เห็นได้ชัดเจนว่าท่านดีใจและมีความสุขมาก
ต่อมาเมื่อใกล้สิ้นปี ๒๕๓๙ สุขภาพร่างกายของผมไม่สู้ดี ล้มป่วยบ่อยมาก จนรู้สึกท้อแท้เบื่อหน่ายอะไรๆ ไปเสียหมด พยายามรักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นเท่าใดนัก จึงโทรศัพท์ไปเล่าในนาวาเอกไพโรจน์ ฟัง เพื่อขอคำปรึกษา ท่านจึงแนะนำให้หาโอกาสไปปฏิบัติกรรมฐานที่วัดอัมพวันอีก ซึ่งตรงใจผมพอดี เพราะคิดจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว ในการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ผมมีเวลามากขึ้น อยู่ที่วัดราว ๗ - ๘ วัน ได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อหลายครั้ง การเข้ากรรมฐานครั้งนี้ช่วยให้ผมรำลึกถึงบาปกรรมต่างๆ ที่ทำไว้แต่หนหลังมากมายหลายเรื่อง รู้สึกเสียใจและได้คิดว่าไม่น่าทำลงไปเลย หวนมาคิดถึงเรื่องอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของตนเอง ที่รักษาเท่าใดก็ไม่หายขาดสักที เชื่อเหลือเกินว่าเป็นผลจากเวรกรรมที่ทำไว้อย่างแน่นอน จึงขออโหสิกรรมและพร้อมที่จะชดใช้ให้หมดไป อะไรๆ คงจะดีขึ้นมาเอง ซึ่งก็ปรากฏจริงตามนั้นในภายหลัง กลับจากวัดคราวนี้สุขภาพกาย - ใจ ของผมเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ
ต้นปี ๒๕๔๐ ผมได้เข้าปฏิบัติกรรมฐานที่วัดอัมพวันอีกครั้งหนึ่ง และบวชเป็นภิกษุประมาณหนึ่งเดือนในเวลาต่อมา ในวันบวชนั้น พ่อ - แม่ พี่น้องของผมมากันพร้อมหน้า ผมรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะในขณะที่ก้มลงกราบเท้าบิดา - มารดา และตอนปลงผม ผมรู้สึกซึ้งใจในพระคุณของผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง กลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่อยู่ ในระหว่างครองเพศบรรพชิตผมได้ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรม รวมทั้งกิจต่างๆ ของสงฆ์เท่าที่โอกาสอำนวย พบภายหลังว่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทุเลาลงเป็นอันมาก สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งร่างกายและจิตใจ นับเป็นบุญโดยแท้ที่ผมได้มีโอกาสมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญและวัดอัมพวัน
หลังจากสึกขาลาเพศแล้วก็กลับมาทำงานที่เดิม คือช่วยพี่ชายดูแลโรงน้ำแข็ง มองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในชีวิตจิตใจของตนเอง จากคนที่ไม่เคยในใจในทางธรรมมาก่อน (แต่ก็ไม่เคยลบหลู่ดูถูกพระพุทธศาสนา) กลับเข้าใจชัดในพระคุณของพระศรีรัตนตรัย ซึ้งใจว่า วัดและพระพุทธศาสนาเป็นที่พึงทางใจของคนเราอย่างประเสริฐยิ่ง ช่วยให้เข้าใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ และความผิดชอบชั่วดีมากกาว่าแต่ก่อนเป็นอันมาก นิสัยใจคอก็ได้รับการขัดเกลาให้รู้จักเลือกประพฤติปฏิบัติแต่ในเรื่องที่ถูกต้องดีงาม
ปัจจุบันผมกล้ากล่าวอย่างภูมิใจว่า ผมมีความสุขเยือกเย็น มีจิตใจเมตตา และโอบอ้อมอารีมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด การดำเนินชีวิตโดยรวมจึงมีความเป็นปกติสุขตามสมควร เพราะกรรมฐานแท้ๆ ที่ช่วยให้ผมมีชีวิตที่ดีขึ้นเพียงนี้
สุดท้ายนี้ ผมขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณหลวงพ่อจรัญ ที่ได้เมตตาสอนธรรมะที่ช่วยเปลี่ยนนิสัยให้ดีกว่าเก่า รวมทั้งครูบาอาจารย์กรรมท่านทุกท่านที่ช่วยอบรมสั่งสอนแนะนำการปฏิบัติธรรม ตามแนวทางอันถูกต้องตามหลักของพระพุทธศาสนา ที่หลวงพ่อได้วางให้ลูกศิษย์ประพฤติปฏิบัติ
อีกท่านหนึ่งซึ่งผมจะลืมขอบคุณไม่ได้ก็คือ นาวาเอก ไพโรจน์ แก่นสาร ซึ่งเป็นผู้ชี้นำให้ผมมีโอกาสมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญและวัดอัมพวัน ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
............................................................................
จากหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่มที่ 10
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี |
|
_________________ "อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ" |
|
    |
 |
..ชัย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 ธ.ค.2004, 2:29 pm |
  |
โมทนาครับ สาธุ..สาธุ..สาธุ
..ชัย |
|
|
|
|
 |
สำเร็จ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ธ.ค.2004, 5:29 pm |
  |
อ่านเรื่องคุณสายลมนำมาลงแล้ว...ก็ยินดีด้วย...
ที่วัดอัมพวันนี้...ผมเองก็เคยไปบวชอยู่ 1 พรรษา.
สมัยนั้นท่านเป็นพระครูภาวนาวิสุทธิ์..(ประมาณปี พ.ศ.2517-18)
ผ่านมา 30 ปีแล้ว...
หลวงพ่อยังคงสุขภาพร่างกายเหมือนเดิม...ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ทุกวันตอนตี 4 ท่านลงโบสถ์สวดมนต์..
อ่านพระสูตรให้พระลูกวัดฟัง...วันละเรื่อง
ผมก็ได้ฟังแทบทุกวัน..
เสร็จแล้วแยกย้ายออกบิณฑบาตร
กลับมาฉันรวมกัน....แล้วแยกไปทำสมาธิ...ไม่วุ่นวาย
เวลาท่านสอนนั่งกรรมฐาน..ก็ได้ฟังพร้อมญาติโยม...
สมัยนั้นวัดยังไม่ค่อยพลุกพล่าน..
หาที่นั่งกรรมฐาน..ภายในวัดได้ทั่ว
เดี๋ยวนี้ทราบว่ามีคนไปปฏิบัติกันมาก..
เป็นเรื่องน่ายินดีครับ... |
|
|
|
|
 |
มน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
19 ม.ค. 2005, 9:05 pm |
  |
อนุโมทนาด้วยค่ะ
ที่เกิดมาชาติหนึ่งได้พบแก่นของพุทธศาสน์
 |
|
|
|
|
 |
ดวงเนตร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
16 ก.พ.2005, 9:38 am |
  |
........ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ ก็จะไปนั่งกรรมฐานที่วัดอัมพวันเหมือนกันกัน จะได้อยู่ที่วัดประมาณ 7 วัน และคิดว่าการไปครั้งนี้จะปฏิบัติให้ดีที่สุด
..........เพราะว่าหาโอกาสที่จะได้ไปนาน ๆ อย่างนี้ยากเหลือเกิน |
|
|
|
|
 |
ดวง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 ก.พ.2005, 6:37 pm |
  |
ได้มาปฏิบัติที่วัดอัมพวัน 2 ครั้งครับ ครั้งแรก 5 วัน ครั้งที่ 2 อีก 3 วัน และจะพยายามหาเวลาไปปฏิบัติอีก และพยายามปฏิบัติที่บ้านด้วย
ในช่วงที่มาปฏิบัติ พยายามและตั้งใจปฏิบัติอย่างมาก ได้ความสงบ ใจเย็นมากขึ้น ประกอบกิจต่างๆ ในชีวิตประจำวันด้วยความมี "สติ" มากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่ทราบและเห็นกรรมของตนเองในอดีตก็ตาม แต่หลักปฏิบัติของหลวงพ่อ ได้ช่วยให้ชีวิต "เย็น และสงบ" มากขึ้นทีเดียวครับ
คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์อย่างสูง เหมือนได้ detox จิตใจให้ใสสะอาดขึ้นครับ |
|
|
|
|
 |
เจไอเอ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 ก.พ.2005, 10:13 pm |
  |
อนุโมทนาสาธุค่ะ  |
|
|
|
|
 |
จิน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 มิ.ย.2005, 1:53 pm |
  |
เราก็เคยไปอยู่วัดอัมพวันมา 3 วันมีความสุขดีนะ สุขกายและสุขใจ ถ้าใครไม่เชื่อลองไปดูซิ |
|
|
|
|
 |
tik_dararat
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ค.2005, 4:01 pm |
  |
ดิฉันเคยไปนั้งอยู่ 7 วัน แต่ทำตัวไม่ดีเลย ไม่ตั้งใจปฏิบัติ เพราะกรรมหนารึเปล่าไม่ทราบ แต่หลับทุกที แต่ตอนนี้ดิฉันจิตใจร้อนรุ่ม หน้าตามีแต่สิว และผดผื่น เงินทองหาได้มาก แต่รายจ่ายก็มากตามๆมา ชีวิตทนทุกกับความผิดหวังและจิตใจที่มากด้วยความคิดทั้งดีและไม่ดี ไม่ปล่อยวางในหลายเรื่อง เรียกว่าดิฉันไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งที่ดิฉันเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ทำงานเป็นวิศวกรโรงงานที่มีชื่อเสียง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ชีวิตฉันมีความสุขขึ้น ฉันอยากเข้าถึงธรรมมะแบบคุณสายลมบ้าง อยากเป็นคนที่มีจิตใจเยือกเย็น มีแต่ความคิดที่ดี และมีแต่ความเมตตา ไม่ใช่ร้อนรุ่มและเป็นคนที่ปลงไม่ตกอย่างนี้ และถึงวันนี้ดิฉันถามตัวเองทุกวันว่าดิฉันต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต.........  |
|
|
|
|
 |
๛ลูกโป่ง๛
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ส.ค. 2005, 1:59 pm |
  |
ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดหลวงพ่อจรัญหลายครั้งเหมือนกันค่ะ
ทำให้ได้แนวทางในการดำเนินชีวิตที่ดี แก้ไขสิ่งที่ไม่ดี
ตัดสิ่งที่เกิน เติมสิ่งที่ขาด
ส่วนในปัจจุบันดิฉันก็ยังแวะไปทำบุญสม่ำเสมอ
เมื่อเราทราบแนวทางปฏิบัติธรรม ตามแนวสติปัฏฐาน 4 แล้ว
เราสามารถทำเองที่บ้าน หรือสถานที่ใดๆ ก็ได้ ตามความเหมาะสม
หลวงพ่อเคยสอนเอาไว้ว่า
ทำความดี ต้องเสมอต้นเสมอปลาย ชีวิตจึงจะดีไปตลอด
สร้างความดี ต้องลงทุนความลำบาก (ลำบากก็ทน)
สร้างความชั่ว ลงทุนความสบาย
(กินสบาย นอนสบาย)
สร้างความดี ต้องมีอุปสรรค อย่าเอากิเลสของคนอื่นมาใส่ตัว
หากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม หรือทราบรายละเอียดเกี่ยวกับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.jarun.org/v4/home.html |
|
|
|
|
 |
poivang
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ส.ค. 2005, 1:56 pm |
  |
เคยไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดอัมพวันมาประมาณสามสี่ครั้ง คนเยอะมาก ได้สวดมนต์เป็น เป็นเรื่องเป็นราวเป็นทำนองได้ ก็เริ่มต้นที่วัดนี้ ฝึกปฏิบัติตามที่นี่สอน จำได้ว่าหลวงพ่อท่านสอนว่าให้รีบสะสมหน่วยกิจเอาไว้ หลวงพ่อจรัญ  |
|
|
|
|
 |
หญิง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2005, 9:11 pm |
  |
ไม่เคยปฏิบัติธรรมเลย จะไปได้ไหมค่ะ ท่องอะไรก็ไม่เป็น เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรก อ่านแล้วรู้เลยว่าตัวเอง มีบาปเยอะมาก ไม่ค่อยได้ทำบุญเลย แต่จะคิดถึงแม่ตลอด เอาเงินซื้อของไว้ให้แม่ ไว้กิน ไว้ใช้ ตัวเองจะรู้สึกดีมาก และสบายใจที่ได้ทำให้แม่ แต่ไม่ค่อยได้ทำบุญ ขอคำแนะนำด้วยค่ะว่าจะไปวัดหลวงพ่อจรัลได้หรือเปล่า |
|
|
|
|
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2006, 8:47 pm |
  |
อนุโมทนากับบุญกุศลของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ |
|
|
|
   |
 |
แก้วลักษณ์
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 03 ส.ค. 2006
ตอบ: 35
|
ตอบเมื่อ:
23 ส.ค. 2006, 6:17 pm |
  |
อนุโมทนาสาธุ
ยินดีด้วยนะคะ ที่ธรรมะทำให้พบกับสิ่งดีๆ มากมาย
ขอให้บุญกุศลที่ทำไว้ เกื้อหนุนตลอดไปด้วยเถิด  |
|
_________________ ธรรมะคือความจริงของชีวิต |
|
  |
 |
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ค.2007, 12:20 am |
  |
ฟังแล้วอยากไปปฏิบัติบ้างจัง ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ตอนนี้ชอบอ่านธรรมะมาก
ยังไม่มีโอกาสได้ไปปฏิบัตเลย ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อคิด อนุโมทนา  |
|
_________________
 |
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
01 มิ.ย.2007, 7:59 pm |
  |
อนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ |
|
|
|
|
 |
suvitjak
บัวบาน

เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
29 พ.ค.2008, 11:41 am |
  |
ยินดีด้วยนะครับที่ได้ขัดเกลาตนเองครับ  |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
  |
 |
chill
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 ก.พ. 2008
ตอบ: 85
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2008, 10:04 pm |
  |
อนุโมทนานะคะ  |
|
_________________ มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี.. |
|
  |
 |
aprilsnow
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 21 ก.ย. 2008
ตอบ: 21
ที่อยู่ (จังหวัด): หาดใหญ่
|
ตอบเมื่อ:
21 ก.ย. 2008, 4:01 pm |
  |
หลวงตาจรัญ เป็นพระที่หนูนับถือมากค่ะ  |
|
|
|
   |
 |
|