ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
I am
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ค.2007, 8:11 am |
  |
ที่จริงทุกวันนี้โทษของกามปรากฏให้เห็นมิได้ว่างเว้น รุนแรงและหนักนักหนา ผู้ที่พัวพันในกามอย่างเต็มที่ อีกนัยหนึ่งก็คือผู้มีความใคร่รุนแรง เปรียบได้ดังคบพาลร้ายไว้ใกล้ชิด ย่อมพ้นไม่ได้จากโทษของกาม หรือของความใคร่ ที่เปรียบได้ดั่งโทษของพาลร้าย ย่อมพาให้ทำความผิดร้ายได้แน่นอน
ไม่ผิดจากที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงภาษิตไว้ว่า
“คบพาลพาลพาไปหาผิด”
การข่มขืนเกิดขึ้นได้
แม้ระหว่างลูกกับแม่
พ่อกับลูก
ครูกับศิษย์
เพื่อนกับเพื่อน
ซึ่งเป็นเรื่องน่าสลดสังเวชทั้งสิ้น
น่าอายอย่างยิ่งสำหรับเราทั้งหลายที่มีบุญ ได้เกิดเป็นมนุษย์ผู้พบพระพุทธศาสนา ที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงให้ความสำคัญแก่การควรไม่พัวพันในกามควรไถ่ถอนความประพฤติพัวพันในกาม ซึ่งเป็นสิ่งเลว สิ่งชั่ว เป็นธรรมเลว เป็นธรรมชั่ว.
โทษของกาม ที่เรียกได้ว่ากิเลสกาม เป็นตัณหา เป็นความใคร่ เมื่อกามเป็นกิเลสด้วยตนเอง การไม่หนีให้พ้นจากกาม ก็คือการไม่หนีให้พ้นกิเลสสำคัญ กิเลสร้ายแรง โทษของกามที่เป็นนามธรรมมีอยู่ในจิตใจ ยังจิตใจให้เร่าร้อนรุนแรง มีอำนาจบังคับให้แสดงออกทางกายเป็นรูปธรรมได้ด้วย
ดังปรากฏเป็นการฆ่า การข่มขืน และผลร้ายของกามที่เกิดจากนามธรรมก็ตาม หรือเกิดจากรูปธรรมก็ตาม หนักหนาเสมอกัน เพียงแต่เกิดในความรู้สึกทางจิตใจเผารนให้ร้อนแรง ขนาดทำให้แสวงทางดับความร้อนแรงยิ่งเพลิงเผา จนไม่รู้ถูกไม่รู้ผิด ไม่รู้ดีไม่รู้ชั่ว
การฆ่าการข่มขืนเกิดขึ้นเพราะความเผาไหม้ของกามกิเลสในจิตใจ และแทนที่จะใช้ธัมมะอันเป็นสิ่งเหมาะสมมีคุณค่าควรที่สุดแก่การดับเพลิงกาม กลับใช้น้ำมันอันเป็นเชื้อสำคัญที่สุดดับ
การลงมือสนองความใคร่หรือกามกิเลสที่แผดเผาใจให้ร้อนแรง ด้วยการข่มขืนฆ่า คือการสาดน้ำมันเข้าดับไฟกิเลส คือกามกิเลส หรืออีกอย่างหนึ่งของคำนี้ก็คือ กามตัณหา ความทะยานอยากในกาม ในความใคร่.
: แสงส่องใจ อาสาฬหบูชา ๒๕๔๘
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
..พักผ่อน ๒ วัน จะไปกราบหลวงตาฯ ที่สวนแสงธรรมครับ...  |
|
_________________ ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก |
|
     |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ค.2007, 4:05 pm |
  |
สาธุ สาธุ สาธุจ้า...คุณ I am
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
|