|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
amai
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ย.2004, 5:08 pm |
  |
วัวดำยอดกตัญญู
นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา
ที่เมืองพาราณสี แคว้นกาสี ในรัชกาลของพระเจ้าพรหมทัต มีวัวดำตัวหนึ่งถูกเจ้าของทอดทิ้ง ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นวัวดำ ส่วนพระอุบลวรรณาเถรีเกิดเป็นหญิงแก่ผู้รับเลี้ยงวัวดำ
วัวดำนั้นมีสีดำปลอดมาตั้งแต่กำเนิด พอโตเป็นวัวหนุ่มเจ้าของกลัวว่าจะไม่เป็นมงคล จึงจูงไปมอบให้แก่หญิงแก่คนหนึ่งช่วยเลี้ยงดู นางเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เพราะเหตุที่นางรักวัวดำนั้นมากนั่นเอง คนเลยเรียกวัวดำนั้นว่า อัยยิกากาฬก แปลว่า เจ้าดำของคุณยาย
วัวดำนั้นยิ่งโตยิ่งมีสีดำเข้ม ออกไปหากินกับวัวของพวกชาวบ้านอยู่ทุกวัน และได้รับยกย่องจากพวกวัวด้วยกันให้เป็นจ่าฝูงนำพวกตนออกหากิน
อย่าแตกฝูงไปไกลนะพวกเราเดี๋ยวจะเป็นอันตราย วัวดำจะบอกเพื่อนวัวด้วยกันอยู่เสมอๆ ก่อนออกหากิน ในป่าทึบนั้นมักจะมีสัตว์ป่าดุร้ายอย่างเสือและราชสีห์อาศัยอยู่ สัตว์พวกนี้จะคอยกัดกินพวกเราเป็นอาหาร ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย
นอกจากมีความรักต่อบรรดาเพื่อนวัวด้วยกันแล้ว วัวดำยังมีความรักต่อบรรดาเด็กลูกๆ ของชาวบ้านด้วย พวกเด็กเองก็รักวัวดำด้วยเช่นกัน เวลาที่วัวดำมาเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้านพวกเด็กก็จะพากันมารุมล้อมและเล่นกับวัวดำ บ้างก็จับเขาโหนบ้างก็จับหูดึง บ้างก็จับคอโหน บ้างก็จับหางดึง บ้างก็ขึ้นขี่หลัง วัวดำเองก็จะเล่นกับเด็กพวกนั้นอย่างสนุกสนาน เหมือนกับว่าเป็นคนหรือเป็นวัวด้วยกัน
วัวดำเป็นวัวยอดกตัญญู ยายที่เลี้ยงดูเขาเป็นคนยากจน เขาเห็นยายเป็นอยู่อย่างลำบากแล้วให้รู้สึกสงสาร และยิ่งเห็นยายรักเขาจริงเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ก็ยิ่งคิดถึงพระคุณของยายมากยิ่งขึ้นและคิดหาทางตอบแทนอยู่ตลอดเวลา
แม่ของเรายากจน แต่ก็สู้อุตส่าห์เลี้ยงเรามาเหมือนลูก เราควรจะรับจ้างหารายได้มาช่วยเหลือแม่ ให้พ้นจากความยากจนให้ได้
ตั้งแต่นั้นมา วัวดำออกหากินหรือเดินผ่านไปทางไหนก็คอยดูงานจ้างไปด้วย ซึ่งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ถึงได้มาก็มีรายได้เพียงนิดหน่อย ยังไม่พอถึงขั้นจะช่วยให้หญิงแก่พ้นจากความยากจนไปได้
(มีต่อ) |
|
|
|
    |
 |
amai
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ย.2004, 5:15 pm |
  |
วัวดำยังหางานจ้างไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งก็ได้งานใหญ่ค่าจ้างแพง เพราะเกวียน ๕๐๐ เล่ม บรรทุกสินค้าเต็มมาติดหล่มอยู่ใกล้ๆ หมู่บ้าน หัวหน้ากองเกวียนซึ่งเป็นชายหนุ่มลูกเจ้าของกองเกวียน สั่งการให้บริวารพยายามหาทางเอาเกวียนขึ้นจากหล่มให้ได้
เอ้า..... พวกเราช่วยกันหน่อย เขาสั่งการอย่างแข็งขัน
ช่วยแล้วเจ้านาย แต่ว่าวัวของเราแรงไม่พอที่จะลากเกวียนขึ้นได้ พวกบริวารร้องบอก
หล่มมันลึกมาก อีกทั้งเกวียนก็หนักมีสินค้าอยู่เต็ม
แล้วจะทำอย่างไรกันดี หัวหน้ากองเกวียนถามอย่างท้อแท้
ถ่ายสินค้าลงก่อน บริวารคนหนึ่งเสนอ
เป็นความคิดที่ดี หัวหน้ากองเกวียนพยักหน้ารับ
แต่ว่ามันจะช้ากันใหญ่ เอาไว้เป็นวิธีสุดท้ายก็แล้วกัน ลองหาวิธีอื่นดูก่อน
พวกบริวารต่างช่วยกันคิดหาวิธีลากเกวียนขึ้นจากหล่มด้วยวิธีต่างๆ นับตั้งแต่ตัดกิ่งไม้ใส่ลงไปในหล่มและเปลี่ยนวัวลากเกวียน ผลก็คือเกวียนยังติดหล่มลึกอยู่เหมือนเดิม ตะวันเริ่มร้อนแรงขึ้นทุกขณะ ทุกคนเริ่มท้อแท้
ขณะนั้นเอง วัวดำกับบรรดาเพื่อนวัวเริ่มออกหากิน หัวหน้ากองเกวียนเห็นวัวดำแล้วเกิดความหวังขึ้นมาทันที วัวตัวนี้ร่างกายใหญ่โต ดูท่าจะแข็งแรงพอที่จะลากเกวียนขึ้นจากหล่มได้ เขาคิดพร้อมกับร้องถามพวกเด็กเลี้ยงวัว
เฮ้ย..... ไอ้หนู วัวตัวนี้ของใครวะ
ของยายในหมู่บ้าน พวกเด็กตอบ ถามทำไมล่ะน้า
เกวียนข้าทั้งหมดนี้ติดหล่ม หัวหน้ากองเกวียนตอบ
อยากจะได้วัวแรงดีมาช่วยลาก ข้าเห็นวัวตัวนี้แข็งแรงดีเลยถามหาเจ้าของ เพื่อว่าจะจ้างมันมากช่วยลาก
เอาเลยนาย เอามันไปใช้ได้ ตอนนี้มันไม่มีเจ้าของหรอกพวกเด็กร้องบอกหัวหน้ากองเกวียนด้วยความหวังดี
ฝ่ายวัวดำได้ยินเรื่องที่หัวหน้ากองเกวียนกับพวกเด็กเลี้ยงวัวพูดกันตลอด และรู้สึกดีใจที่ได้ยินหัวหน้ากองเกวียนบอกว่าจ้าง
แม่จ๋า..... เขาคิด คราวนี้แม่คงไม่จนต่อไปอีกแล้วลูกจะได้ลากเกวียนตั้งห้าร้อยเล่ม ค่าจ้างครั้งนี้คงจะงามทีเดียว
หัวหน้ากองเกวียน ครั้นได้ยินพวกเด็กร้องบอกเช่นนั้นก็ดีใจ รีบเดินเอาเชือกมาสนตะพายวัวดำ แล้วจูงด้วยหมายจะให้มาลากเกวียน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะวัวดำไม่ยอมขยับเท้าก้าวเลยแม้แต่น้อย
ถ้าไม่ได้ตกลงเรื่องค่าจ้างเราก็ไม่ไป วัวดำยืนคิดนิ่งอยู่ในใจ
หัวหน้ากองเกวียนทราบความต้องการของวัวดำเป็นอย่างดีจึงเข้าไปใกล้ๆ แล้วบอกว่า
เจ้าวัวดำ ขอให้เจ้าช่วยข้าหน่อยเถอะ ช่วยลากเกวียน ๕๐๐ เล่มขึ้นจากหล่ม แล้วข้าจะให้ค่าจ้างเล่มละสองกหาปณะ รวมทั้งหมดก็หนึ่งพันกหาปณะ
วัวดำพอใจมากต่อราคาที่หัวหน้ากองเกวียนเสนอ ดังนั้น เขาจึงตอบตกลงและเดินไปที่เกวียนเล่มแรกทันที พวกบริวารของนายกองเกวียนก็จับเทียมเกวียนเล่มแรกนั้น จากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวัวดำลาก แล้วชั่วเวลาอึดใจเดียววัวดำก็ลากเกวียนเล่มแรกนั้นขึ้นมาจากหล่มได้สำเร็จ หัวหน้ากองเกวียนและบริวารต่างดีใจมาก
วัวดำลากเกวียนขึ้นหล่มได้ตามลำดับ แม้จะเหน็ดเหนื่อยบ้างแต่ก็ไม่อ่อนล้า เพราะมีความหวังอยู่ที่ค่าจ้าง ๑,๐๐๐ กหาปณะ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยให้แม่พ้นจากความยากจนได้ วัวดำลากเกวียนไปเรื่อยๆ ท่ามกลางพวกพ่อค้าเกวียนที่มองดูด้วยความชื่นชม จนกระทั่งสามารถลากได้หมดทั้ง ๕๐๐ เล่ม
หัวหน้ากองเกวียนรีบนับเงินแล้วห่อเป็นมัดไปคล้องคอวัวดำ แต่แทนที่วัวดำจะออกเดินทางไปบ้านหรือออกหากินต่อ เขากลับไปยืนขวางหน้าเกวียนของหัวหน้ากองเกวียนไว้ ทำให้ไม่สามารถออกเดินทางได้ เหตุที่วัวดำไปยืนขวางทางเช่นนั้นก็เพราะรู้ว่าหัวหน้ากองเกวียนให้ค่าจ้างไม่ครบตามที่ตกลงไว้ตอนแรก คือตกลงไว้ ๑,๐๐๐ กหาปณะ แต่ให้จริงเพียงแค่ ๕๐๐ กหาปณะ ฝ่ายหัวหน้ากองเกวียนก็เข้าใจได้ดีถึงกิริยาอาการของวัวดำ จึงยอมให้เพิ่มอีก ๕๐๐ กหาปณะ รวมเป็น ๑,๐๐๐ กหาปณะ
ครั้นได้ค่าจ้างครบแล้ว วัวดำก็หลีกทางให้เกวียนของนายกองเกวียนไปได้ แล้วตนเองก็รีบนำห่อกหาปณะ (ห่อเงิน) กับมาให้หญิงแก่ผู้เป็นเสมือนแม่ของตนที่กระท่อมในหมู่บ้าน หญิงแก่ดีใจมากที่ได้เห็นเงินจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสารวัวดำที่มาทำงานหนักเพื่อตน
ยาย..... เจ้าดำมันเก่งมาก มันรับจ้างลากเกวียนขึ้นจากหล่มตั้ง ๕๐๐ เล่มเกวียน พอได้เงินค่าจ้างมันก็รีบนำมาให้ยายเลยมันดีนะเจ้าดำนี่
หญิงแก่น้ำตาไหลพรากทันทีที่ได้ยินพวกเด็กเล่าเรื่องราวของวัวดำให้ฟัง นางเดินไปลูบหัววัวดำ ซึ่งบัดนี้นอนอยู่ใกล้ๆ เพราะความอ่อนเพลีย นางเอาน้ำอุ่นมาลูบตัวและทาน้ำมันให้เพื่อบรรเทาความปวดเมื่อย จากนั้นก็หาน้ำ-หญ้าที่มีรสอร่อยมาให้วัวดำกิน
วัวดำกับหญิงแก่อยู่ด้วยกันจนถึงวันตายอย่างมีความสุข เพราะเงิน ๑,๐๐๐ กหาปณะที่วัวดำหามาให้นั้นมากพอที่จะเลี้ยงดูกันไปได้ตลอดชีวิต
นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความกตัญญูเป็นคุณธรรมสำคัญที่ทำให้คนเข้มแข็งและอดทน เหมือนวัวดำมีความกตัญญูต่อหญิงแก่แล้วยอมทำงานหนักเพื่อตอบแทนพระคุณของนางฉะนั้น
.................. เอวัง .................. |
|
|
|
    |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ค.2006, 1:35 pm |
  |
สา..............ธุ  |
|
_________________ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว |
|
    |
 |
บ. ต้นไทร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 มิ.ย.2007, 7:43 pm |
  |
เป็นนิทานที่สอนใจได้ดีมากนะครับ แม้สัตว์เดรัจฉานยังรู้คุณและตอบแทนคุณเลย เราเป็นมนุษย์แท้ๆ ต้องรู้คุณแล้วตอบแทนด้วย พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี ถึงแม้ผู้นั้นจะทำความพินาศมาให้เราในภายหลังเพราะเหตูอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม เราก็ไม่ควรละความกตัญญูรู้คุณเสียเลย  |
|
|
|
|
 |
พี
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
19 มิ.ย.2007, 12:31 pm |
  |
ทำดีได้ดี สัตว์ยังรู้จักตอบแทนบุญคุณคน เราเป็นคนต้องทำให้ยิ่งกว่าสัตว์ |
|
|
|
|
 |
tiger36
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 06 ก.ย. 2007
ตอบ: 18
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2007, 7:29 pm |
  |
|
  |
 |
suvitjak
บัวบาน

เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
03 มิ.ย.2008, 4:09 pm |
  |
อนุโมทนาบุญครับ  |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
  |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |