Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
น้ำเพื่อชีวิตและสุขภาพ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 14 พ.ค.2007, 5:38 pm
น้ำมีความสำคัญกับชีวิต เราอาจมีชีวิตอยู่ได้นานนับเดือนหากขาดอาหาร
แต่เราอยู่ได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้นหากขาดน้ำ ที่เป็นเช่นนี้เพราะ ร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงประมาณร้อยละ 60 สำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิงมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 50
การที่ผู้หญิงมีน้ำในร่างกายน้อยกว่าผู้ชาย เนื่องจากโดยโครงสร้าง ของร่างกายผู้หญิงมีเซลล์ไขมันมากกว่า ซึ่งเซลล์ไขมันจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่เพียงร้อยละ 10-15 เท่านั้น ในขณะที่เซลล์ของกล้ามเนื้อมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 70-75
บทบาทของน้ำในร่างกายคือ
* เป็นส่วนประกอบ ของเซลล์ต่างๆ
* เป็นตัวทำละลายสารอาหารและของเสีย
* ช่วยในการขนส่งสารอาหารและของเสียในร่างกาย
* มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารเพื่อสร้างเป็นพลังงาน
* เป็นสารหล่อลื่นข้อต่อต่างๆ และช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ความต้องการน้ำจะต่างกันไปตามอายุ ขนาดร่างกาย กิจกรรมที่ทำ สภาพแวดล้อม และสภาวะของร่างกาย โดยเด็กต้องการน้ำมากกว่าผู้ใหญ่ และสภาวะบางอย่างทำให้ร่างกายต้องการน้ำเพิ่มขึ้น เช่น มีไข้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย ท้องเสีย มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ เป็นต้น
น้ำเพื่อสุขภาพ
หลายท่านคงคุ้นเคยกับคำแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเพื่อสุขภาพที่ดี แต่เมื่อปี 2002 มีนักวิจัย ท่านหนึ่งพบว่าไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันว่า ผู้ใหญ่ที่สุขภาพแข็งแรงดี ซึ่งไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก มีความต้องการน้ำปริมาณมากเมื่ออยู่ในสภาวะอากาศร้อน จึงแนะนำให้ดื่มน้ำเมื่อรู้สึกกระหาย
และยังกล่าวอีกว่าน้ำที่ร่างกายต้องการนั้นอาจได้จากการดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มชนิดอื่น เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก็ได้ และในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2004 Institute of Medicine(IOM) ได้ออกคำแนะนำใหม่เรื่องการดื่มน้ำว่า ผู้ใหญ่ที่สุขภาพแข็งแรง สามารถใช้ความกระหายเป็นสิ่งกำหนดความต้องการน้ำได้ ซึ่งคำแนะนำนี้ไม่สามารถใช้ได้ในผู้ที่มีความจำเป็นต้องจำกัดน้ำ เช่น นักกีฬา หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่สุดขั้ว เช่น ร้อนจัด หรือหนาวจัด แม้ว่าทาง IOM ไม่ได้กำหนดปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการ
แต่ได้ให้คำแนะนำว่า ปกติผู้หญิงต้องการน้ำวันละประมาณ 11 แก้ว และผู้ชายต้องการวันละประมาณ 15 แก้ว ซึ่งปริมาณดังกล่าวเป็นปริมาณน้ำที่ได้จากทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยทั่วไปเราได้น้ำจากการบริโภคอาหารประมาณร้อยละ 20 ดังนั้นผู้หญิงควรดื่มน้ำวันละประมาณ 9 แก้ว และผู้ชายควรดื่มน้ำวันละประมาณ 12 แก้ว
น้ำกับการออกกำลังกาย
ในขณะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา การทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดความร้อน อุณหภูมิของร่างกาย สูงขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ จึงต้องมีการระบายความร้อน เหงื่อคือรูปแบบการระบายความร้อนอย่างหนึ่ง การออกกำลังกายหนัก เป็นเวลานาน อาจทำให้มีการสูญเสียน้ำจำนวนมาก และการออกกำลังกายในบางสภาวะ เช่นในสภาพอากาศร้อนและแห้ง เราอาจมีการเสียน้ำจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว
หากไม่ได้น้ำเข้าไปทดแทนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และอาจเกิดอาการดังต่อไปนี้ กระหายน้ำ ปากแห้ง หอบเหนื่อย หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ นอกจากนี้ความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดอาการ เช่น เป็นตะคริว หมดแรง หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หมดสติ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เสียชีวิตได้
ดังนั้นในการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ควรใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยมีข้อแนะนำดังนี้
ดื่มน้ำ 400-600 มิลลิลิตร ก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง
ดื่มน้ำ 150-350 มิลลิลิตร ทุก 15-20 นาที ขณะออกกำลังกาย
ควรดื่มน้ำตามเวลาที่กำหนด อย่ารอให้รู้สึกกระหายน้ำ
น้ำกับการควบคุมน้ำหนัก
บางท่านอาจเคยได้รับข้อมูลว่าน้ำช่วยในการลดน้ำหนักได้ แต่ในความเป็นจริง น้ำช่วยลดความกระหายได้แต่ไม่สามารถลดความหิวได้ ทั้งนี้เนื่องจากการจัดการกับความกระหายและความหิวของร่างกาย มีขบวนการที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า การดื่มน้ำก่อนอาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร ช่วยลดพลังงานที่ได้รับจากอาหารในแต่ละมื้อได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น น้ำจะช่วยลดน้ำหนักได้เมื่อดื่มน้ำ เปล่าแทนการดื่มเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง
นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหาร ที่มีน้ำเยอะจะช่วยลดน้ำหนักได้เนื่องจากทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น อาหารที่มีน้ำเยอะ จะมีปริมาณเยอะแต่ให้พลังงานต่ำ
มีการศึกษาที่พบว่าการรับประทานอาหารที่มีน้ำเยอะ ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีกว่าการเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ
ดังนั้นในผู้ที่ต้องการ ลดน้ำหนักควรเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำเยอะเป็นประจำ อาหารที่มีน้ำเยอะ เช่น ผัก ผลไม้ (ผักและผลไม้ส่วนใหญ่มีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 80-90) ปลา ไข่ (มีน้ำอยู่ประมาณร้อยละ 70) รวมถึงซุปใส แกงจืด เกาเหลา และก๋วยเตี๋ยวน้ำ เป็นต้น
จะเห็นว่าน้ำมีบทบาทหลายด้านในชีวิตของเรา การขาดน้ำทำให้เกิดความเจ็บป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ การใส่ใจกับสัญญาณเตือนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ความรู้สึกกระหายน้ำ ปากแห้ง มีไข้ ปวดศีรษะ ปัสสาวะมีสีเข้ม ทำให้เราทราบว่าร่างกายมีภาวะขาดน้ำ ควรมีการดื่มน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการหนักขึ้น และในเดือนที่อากาศเริ่มร้อนขึ้น เราอาจมีการเสียน้ำมากขึ้น ควรดูแลใส่ใจสุขภาพด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอกันด้วย
คัดลอกจาก...
http://women.sanook.com/health/know_eat/knoweat_39709.php
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร WOW FITNESS
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th