บุญสามารถลบล้างกรรมที่ทำได้จริงหรือ

ตอบเมื่อ: 29 เม.ย.2007, 1:56 pm

อยากขอความคิดเห็นคุณว่า จริงหรือไม่ที่มีความเชื่อกันว่า “บุญสามารถลบล้างกรรมที่ทำได้” หลายคนมักคิดกันว่าหากเราเกิดมาในชาตินี้ ฆ่าสัตว์หรือสร้างกรรมอื่นๆ ไว้มาก หากเราสร้างบุญหรือสะสมบุญไว้ก็สามารถลบล้างผลกรรมนั้นๆ ได้

ผมคิดว่ามันไม่จริง คุณคิดว่าอย่างไร ขอความเห็นด้วยครับ

ตอบเมื่อ: 29 เม.ย.2007, 4:30 pm

กราบสวัสดี คนเข้าใจ

บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ไม่ใช่เรื่องของความคิด แต่เป็นกฎธรรมชาติของทุกสรรพชีวิตในโลกมนุษย์ บุญไม่สามารถลบล้างกรรมที่ทำได้ สร้างกรรมไว้มากเท่าไหร่ หนักเข้าก็กลายเป็นวิบาก มีแต่ทำให้บรรเทาเบาบางด้วยการใช้กรรมหนักๆ นั้นด้วยการปฏิบัติธรรม แต่อย่างไรก็ต้องชดใช้ ไม่ว่ากรณีใดๆ

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา

ผีเสื้อ

ตอบเมื่อ: 29 เม.ย.2007, 7:24 pm

สวัสดีครับท่านเจ้าของกระทู้ สาธุ

______________________________

... ลองศึกษาจากพระสูตรที่ชื่อว่า "โลณกสูตร" ดูนะครับ
... คงจะแก้ข้อสงสัยของท่านเจ้าของกระทู้ได้ครับ

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=6566&Z=6646

______________________________

ขอให้เจริญในธรรมครับ สาธุ

==============================

ผู้เยี่ยมชม

กุศลกรรมให้ผลคือความสุข
อกุศลกรรมให้ผลคือความทุกข์

ไม่มีอะไรล้างกันได้ สีขาวก็สีขาว สีดำก็สีดำ ถ้าทำสีขาวมากๆหน่อยสีดำก็จะจางลง

ก็เท่านี้ไม่มีอะไรมากหรอก

ตอบเมื่อ: 30 เม.ย.2007, 9:05 am

บุญ บาป ไม่สามารถลบล้างกันได้เลย....

แต่ว่า สามารถสร้างบุญ เพื่อหนีบาปได้ กรรมชั่วที่ทำไว้ในอดีตที่คอยจะให้ผลนั้น เมื่อเราสร้างกุศลไว้เรื่อยๆ ในปัจจุบัน กุศลมีกำลังมากกว่าอกุลเมื่อไร บาปอกุศลก็อ่อนกำลังลงไม่สามารถให้ผลได้โดยสะดวก มีแต่กุศลที่ทำอยู่ตลอดในปัจจุบันนี้ ที่ให้ผลเป็นความสุข

มันก็เข้าทำนอง ทำบุญหนีบาป หรือ อาจจะพูดได้ว่า ลบล้างกันได้

ในทำนองเดียวกัน คนที่ทำความดีไว้ในอดีต กำลังสงผลในปัจจุบัน เป็นความสุขความเจริญอยู่ แต่ถ้า ไม่สร้างกุศลเพิ่ม แต่กลับประพฤติผิดศีลผิดธรรม ผลแห่งกรรมดีก็อ่อนกำลังลง ผลของความชั่วก็จะให้ผล เป็นความทุกข์เดือดร้อนแทน เช่นกัน

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2007, 1:22 am

บุญ กับ บาป สมมุตินะ บุญคือน้ำ บาปคือเกลือ อยู่ในอ่างเดียวกันปริมาณเท่ากัน
เราอยากกินน้ำจืดๆ เราก็ต้องเพิ่มน้ำไปอีก ๑๐ เท่า ๑๐๐ เท่าของเกลือ จึงจะกินน้ำที่จืดได้
เราอยากกินน้ำเค็ม เราก็ต้องเพิ่มเกลือไปอีกให้มันมากกว่าน้ำ

ตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 1:46 pm

บุญ กับ บาป ไม่ใช่สารเคมี ไม่สามารถล้างกันเองได้

แต่เราสามารถที่จะเลี่ยงผลบาปได้ ถ้าเราทำบุญไว้มากพอ

เปรียบเหมือน พายุใหญ่จะมา เราสร้างกระท่อมไว้ให้มิชิด แล้วเมื่อพายุมาเราก็อยู่ในกระท่อมที่ปิดมิดชิด

เราก็ไม่เปียกฝน รอพายุผ่านไป แล้วเราค่อยออกจากกระท่อม

เรื่องวิบากกรรมเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย เมื่อปัจจัยเปลี่ยนกรรมวิบากก็เปลี่ยนเช่นกัน

การทำความดีไว้เสมอ เป็นการสร้างปัจจัยที่ดี ย่อมเปลี่ยนชีวิตของตนได้

ดูตัวอย่างท่านองคุลีมาล ท่านยังหนีพ้นอบายภูมิได้

ตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 2:34 pm

ล้างไม่ได้แต่หนีได้ หนียังไง ก็หนีด้วยการทำดี เป็นการเดินหนี หนีด้วยการสวดมนต์ภาวนา ทำบุญในงานบุญต่างๆ เป็นการวิ่งหนี

แต่สุดท้ายการหนีแบบไหนก็ไม่สู้การหนีด้วยการอยู่กับปัจจุบัน รู้ปัจจุบันขณะที่ไหลเลื่อนเคลื่อตัวเป็นของสดใหม่อยู่ตลอดด้วยการมีสติกำหนดรู้เท่าทันไม่ปล่อยให้จิตตกเป็นทาสของ อดีต และอนาคต อันเป็นช่องทางที่จะทำให้ อกุศลต่างๆ เข้ามาได้ เรียกว่าเป็นการนั่งเครื่องบินหนีเลยครับ

จึงเห็นได้ว่ามันตางกันลิบเลย ใช่ไหมครับ แต่เราไม่ค่อยมีตังค์นั่งเครื่องบิน(ไม่มีความเพียรและปัญญหามากพอที่จะทำ)เลยไม่ค่อยมีใครขึ้นเครื่องบินหนีกัน

Be careful the Dark side; support only the Light side.

May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับท่าน

ตอบเมื่อ: 18 พ.ค.2007, 12:22 am

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=6566&Z=6646

ศึกษาดูก่อนครับ

ตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2007, 11:38 am

ทุกท่านตอบได้ถูกต้องแล้วค่ะ

บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ไม่สามารถลบล้างกันได้

อย่างที่หลายๆ คนเคยถามถึงเรื่องการทำบุญเอาหน้า
การทำบุญเอาหน้า บุญที่เขาทำ เขาก็ได้ค่ะ ส่วนบาปจากคิดหวังผล (ความโลภ) ก็ตองชดใช้เช่นกัน

สาธุ

ตอบเมื่อ: 31 ก.ค.2007, 5:46 pm

O^-^O

ทุกท่าน ตอบดี จังค่ะ

อนุโมทนาด้วยค่ะ สาธุ

ตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2007, 9:26 pm

บุญมิได้ลบล้างกรรมแต่เมื่อทำบุญมากๆเข้ากรรมนั้นตามไม่ทันหรือส่งผลไม่ได้ต่างหากครับ ลองหาหนังสือเกี่ยวกับว่า พระโสดาบันคือใคร หรืออ่านพระสูตร พระธรรมบท 5 เล่มดูก็พอจะเข้าใจในธรรมอันนี้ได้บ้าง ผมอ่านครบ 5 เล่มแล้วครับ พระไตรปิฎกเล่มสีแดง 100เล่มนะครับ

ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2007, 11:06 pm

กะว่าจะตอบ คงไม่ต้องแล้ว

ขออนุโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ และ ท่านที่เข้ามาตอบทุกท่านครับ

ตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2007, 8:26 pm