ไม่อยากเป็นอย่างนี้เลยค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

ตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2007, 4:16 pm

สวัสดีค่ะ

กลุ้มใจกับการที่เราเป็นคนแบบนี้ อยากจะปรับปรุงตัวค่ะ เพราะเป็นคนที่ทำอะไรเร็ว คิดเร็ว เป็นคนไม่รอบคอบเลย ทำงานพลาดบ่อยค่ะ เหมือนสับสนกับตัวเอง ที่หนักใจก็เพราะตอนนี้แต่งงานแล้วค่ะ แล้วแฟนเปิดบริษัทของตนเอง มีลูกน้องหลายคน ในส่วนงานที่ดิฉันทำก็เป็นงานเกี่ยวกับการเงิน ที่ต้องคอยดูเงินของบริษัท แต่ทำงานพลาดบ่อยค่ะ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนสะเพร่า ไม่รอบคอบ จริงๆ คิดว่าตนเองไม่เหมาะกับงานแบบนี้เลย พยายามที่จะตั้งสติหลายครั้งค่ะว่า เราต้องมีสตินะ จะทำอะไรต้องค่อยๆ คิดก่อนว่าจะทำอะไรก่อนหลัง แต่ดูเหมือนน้องที่ทำงานกับเรา ยังทำงานดีกว่าเราอีกค่ะ โดนแฟนว่าหลายครั้งมากเลย รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องน่ะค่ะ คิดหลายครั้งว่า ไม่อยากทำแล้ว แต่ถ้าไม่ทำตัวเองก็คงไม่มีทางเลือกมาก คงต้องกลับไปทำงานที่บ้านที่กรุงเทพ เครียดค่ะ แต่คิดว่าจะลองพยายามอีกสักหน่อย คิดว่าคนอย่างเราคงไม่แย่ถึงขนาดที่จะปรับปรุงตัวเองไม่ได้ เลยคิดอยากลองฝึกสมาธิดูบ้าง เผื่อหลายๆ อย่างจะดีขึ้น อยากให้คุณๆ แนะนำหน่อยน่ะค่ะ ว่าเราสามารถฝึกแบบไหนได้บ้างค่ะ หรือควรทำอย่างไรกับตัวเองดี ฟังเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายเหมือนที่คิดนะค่ะ ลองหลายครั้งแล้วก็ยังพลาดอยู่ดี

รบกวนด้วยค่ะ

ตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2007, 4:25 pm

มันเป็นคือสัจจะแห่งวัฏฏสงสาร ถ้าหากจะคิดว่ายังอยากอยู่ต่อก็ต้องทำใจ

ส่วนมากมักมีสาเหตุมาจากตัวเรา คือเราไปคิดให้มันซีเครียดเอง ขัดแย้งที่เราเอง ยิ่งเราคิดมากเท่าไร มันก็จะเป็นการผูกกรรม ผูกใจเจ็บ ก็เท่ากับว่าเรากระโจนเข้าไปร่วมเส้นทางวิบากร่วมกันกับเขาหรือที่จะรับบาปอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นเอง

พวกเราส่วนใหญ่มักคิดกันว่าสาเหตุนั้นมาจากภายนอก แต่ที่จริงเราต่างหากที่ไปเก็บมันมาคิดแล้ว เป็นเหตุให้เกิดการพูดการทำขึ้นมา กลายเป็นปัญหา

บางทีปัญหานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา แต่เราก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับเขา

ทางที่ดีเราจึงต้องเเริ่มแก้ไขจากตัวเรา ไม่เห็นความไม่ดีส่วนตัวเป็นปัญหาแล้วเกาะเกี่ยวอยู่ในห่วงความคิด แต่เห็นความขัดแย้งเป็นสะพานข้ามที่จะข้ามมันไป สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเพียงกระบวนการวิบากที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้เรียนรู้เพื่อทดสอบตัวเรา ว่าเราจะคล้อยตามหรือเป็นผู้กล้าเผชิญหน้ากับมัน
อย่างสงบเย็น

คนในโลกอาจเกือบทั้งหมดคือมิตรของเรา พวกเขาทั้งหลายคือความเป็นไปได้ แต่อะไรละครับที่ผลักดันให้เจอพวกเขาเหล่านั้น? กรรมใหม่ไงครับ มันเป็นแรงดึงดูดที่จะทำให้ได้พบกันกับคนร่วมงานที่ดีๆ

เปลี่ยนคนเก่าๆในวันวานของเราให้ดีขึ้น เพราะหากไม่เปลี่ยนก็สันนิษฐานได้ว่าจะเจอแต่เรื่องแบบเก่าๆอยู่ร่ำไป จงยกตัวเองให้สูงขึ้นด้วยกรรมที่ดีงาม เพราะมันก็เป้นเหตุให้คุณได้เจอเรื่องดีๆงามๆ ครับ

ยกระดับฐานะมันยากนัก ก็ไปยกฐานะกรรมให้สูงขึ้นดีกว่าว่าไหมครับ

อะไรจะเกิดขึ้นมันก็ด้วยกรรม พวกเขามีกรรมเป็นและวิบากที่ต้องทำต้องรับอยู่ตลอด

แต่เราจะต้องทำและรับให้ดีเท่านั้น

ส่วนเรื่องปัญหาความขัดแย้งในโลกที่คุณต้องเผชิญนั้น มันก็แก้ได้บ้างไม่ได้บ้าง บางที่เราไม่รู้จะแก้ยังไง ทำได้อย่างมากแค่ปล่อยมันไปเดี่ยวมันก็ดีเอง

ดังนั้นแก้ที่ตัวเรา เรานี่แหละคือความขัดแย้ง เป้นมนุษย์ทำอะไรก็ได้ สำคัญคือ จะทำแค่ไหนเท่านั้น

เมื่อคุณเป็นตัวอย่างได้แล้ว คนอื่นก็จะคล้อยตามคุณไปเอง เพราะใกล้คนเช่นไรติดใจคนแบบไหน ก็มีความโน้มเอียงที่จะเป็นคนเช่นนั้น ดูอย่างท่านองคุลีมาร สามรถเปลี่ยนจากมหาโจรผู้คร่าชีวิตมนุษย์เป็นอาชีพ กลายเป็นพระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบได้ภายในวันเดียว เพียงเมื่อพบยอดกัลยณอย่างพระพุทธเจ้า คุณเองก็เลือกเพื่อนร่วมงานที่ดีๆไว้

คนรักของคุณเขาว่าคุณ คุณก็แค่ฟังอย่างมีสติ ไม่ใช่ฟังแล้วเก็บไปคิดฟุ้งซ่านต่างๆหนา ที่เขาด่าว่าเราเพราะเขาอยากให้เราดีขึ้น ไม่อยากให้ต้องเป้นแบบนี้ ถึงแม้เขาจะไม่คิดก็ตาม แต่เราก็ผิดจริงในสายตาของเขา ดังนั้นก็ควรตรวจสอบตัวเอง โดยเอาคำว่าของเขามาพิจารณา

รักแท้นั้นมีแน่ แต่ที่แท้กว่าคือกิเลส

อย่าให้กิเลสมันเข้ามายึดครองความรักของคุณไป แต่จงนำเอากำลังแห่งสติในรูปของความเข้าใจปรึกษาหารือกัน เข้ามาช่วยในการป้องกัน

ฉะนั้นจงเป็นคนมีเมตตา และรู้จักให้อภัย อย่าผูกกรรม ไม่ใช้ว่าผมบอกคุณแล้วคุณจะทำได้เลย คุณต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ มีสติ มีสามธิในการเผชิญหน้ากับความทุกข์ความเศร้าทั้งมวล May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับท่าน ยิ้มขยิบตา

ตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2007, 4:28 pm

ไปบวชชีดู เรียนสมาธิ ฝึกจิต ง่ายๆ เอง

ผู้เยี่ยมชม

เมื่อก่อนผมก็เป็นบ่อยๆ ทำบัญชีเข้าเนื้อทุกที ต่อมาใช้วิธีหาสมุดพกติดตัวไว้ ทำอะไรเกี่ยวกับงาน เกี่ยวกับเงิน จดให้หมดเลย ทำทุกวัน เมื่อเราเอามาอ่านเราจะรู้เลยว่า เราลืมลงอะไรไปบ้าง และต้องเช็คบัญชีบ่อยๆ จะทำให้เราทำบัญชีลงตัวในที่สุดครับ

ส่วนการทำสมาธิเราก็ทำที่บ้านได้เลย นั่งท่าไหนก็ได้ แล้วก็จับลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าท่องในใจ พุท หายใจออกท่องในใจ โธ ทำแบบนี้เรื่อยไปครับ พอเอาไม่อยู่รู้สึกเครียดก็เลิก วันหน้าก็ทำใหม่ จะทำให้เรามีสติ ไม่หลงลืมง่ายครับ

ตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2007, 12:23 pm

ขอบคุณพี่ทุกคนมากค่ะ อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมาก ใช่ค่ะ คนเราจะเป็นแบบไหน เป็นอย่างไร ตัวของเรา เราก็ต้องกำหนดได้สิค่ะ จะพยายามฝึกฝนนะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ สาธุ

ผู้เยี่ยมชม

เมื่อก่อนผมก็เป็นเหมือนคุณ จะมากกว่าด้วยซ้ำตรงผมเป็นคนอารมณ์ร้อน
จนเมื่อซัก 2 ปีก่อนที่มาเจอเวปแห่งนี้ ค่อยๆศึกษาจากผู้รู้และกัลญาณมิตรในนี้

ผมใช้วิธีตามดูอารมณ์จิต ครับ พยายามรู้ตัวตลอดทุกลมหายใจ
แน่นอนมีบ้างที่หลุด แต่พอนึกได้ก็รีบดึงกลับมา

ค่อยๆฝึกครับ ไม่ต้องกะเกณฑ์ว่าต้องทำให้ได้อย่างนั้นอย่างนี้
เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะทีเดียว ทำอะไรก็มีสติมากขึ้น ใจเย็นขึ้น

ขอบคุณสังคมแห่งนี้ที่ให้สิ่งดีๆแก่ชีวิตผม สาธุ

ผู้เยี่ยมชม

การที่คนเราทำอะไร ไวไวคล่องเดคล่วและรวดเร็วนั้น ดีแล้ว แต่มีความแม่นยำกับสิ่งนั้นจึงจะสมบูรณืที่สุด คิดว่าหลายคนคงอยากทำได้แบบนี้นะแต่ใช่ว่าจะทำได้กันทุกคนไปใช่ไหม ความผิดพลาดนั้นมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้นี่นา อยู่ที่ว่าเราจะยอมรับข้อผิดพลาดนั้นไหมและพร้อมที่จะแก้ไขมันไหมเท่านั้นใช่ไหม ข้อเสียของคนเราบางสิ่งต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นเพื่อแก้ไข ไม่ใช่นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้สมบูรณ์ในทัน ไม่เหมือนกับการเปลียนเสื้อผ้าเสียที่ไหน ตัวนี้ไม่ดีเปลี่ยนเอาตัวที่ดีมาใส่เพื่อให้เราดูดี แต่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเราที่ดูดีใช่ไหม
ลองพยามลดนิสัยในการคิดเร็ว ทำเร็วลงสักนิด คิดก่อนทำดีที่สุด ทำเสร็จทบทวนกันพลาดนี่เป็นการป้องกันที่ดีที่สุด และต้องใจเย็นๆ หากให้ทายคุณเป็นคนใจร้อนมาก
ต้องทำให้ตัวเองใจเย็นขึ้น ลดความใจร้อน เพราะความใจร้อนเป็นสาเหตุแห่งการเกิดสติ ขาดความตั้งมั่น ขาดความละเอียด อันนี้เป็นสิ่งี่แก้ได้อย่ากังวลเลยนะ ใครก็เคยเป็นจะมากหรือน้อยเท่านั้น
ทางแก้ไขลองนั้งสมาถิดูนะ ให้กำหนดลมหายใจเข้าจนสุดว่า ( พองหนอ )
ให้กำหนดลมหายใจออกจนสุดว่า( ยุบหนอ )
เป็นการช่วยให้เกิดสมาธิ ให้จิตรู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ การฝึกเช่นนี้จะส่งผลให้เรารู้ตัวเองตลอดเวลาว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ไม่วอกแวก ทำให้ทำงานอะไรก็ทำได้ดีไม่ผิดพลาด ลองฝึกดูนะดีมาก นั่งใหม่ๆ ให้นั่งใช้เวลา 5 นาที ( ให้ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไรจะครบ 5 นาที ) เมื่อรู้สึกตัวเองว่าใจเริ่มเย็นลงบ้างแล้วนั่งได้นิ่งขึ้นแล้วค่อยเพิ่มเวลาเป็น 10 ,15
ตามลำดับนะ ลองดูนะ สู้ สู้

ผู้เยี่ยมชม

ทุกคนมีข้อผิดพลาดกันทั้งนั้น เมื่อเราผิดพลาดก็ตั้งใจทำให้ดีขึ้น

ผู้เยี่ยมชม

ฝึก "สติ" ค่ะ

หากมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะจิต มีจิตจดจ่อกับทุกอิริยาบถ ทุกการกระทำ
ทุกคำพูด และทุกความคิดของตน

ความเสี่ยงต่อการผิดพลาดทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็จะน้อยลงเรื่อยๆ ค่ะ

ตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2007, 9:35 am

พยายามรักษาสติ คือ ความไม่ประมาทต่อการทำทุกสิ่งทุกอย่าง ทำด้วยความมีสติ ไม่พลั้งเพลอ ถ้า พลาดก็ขอให้พลาดน้อย เมื่อเรารู้วว่าเราเป็นอย่างนี้แล้วเราก็พยายามตั้งสติ ว่าต้องใจเย็น ๆ ใช้สติควบคุม ถึงแม้ว่าตอนนี้เรายังทำไม่ได้ หรือทำไม่ได้ดี หรือพลาดพลั้งในบางครั้งบางคราว ก็อย่าท้อ เพราะเราต้องตั้งมั่นตั้งใจ และส่วนตัวผม คิดว่า คุณต้องทำได้ ถ้าหากคุณทำด้วยความตั้งใจ และใช้สติปัญญา หรือความไม่ประมาทในการควบคุม
สู้ สู้