ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สิริมงคล
บัวเริ่มพ้นน้ำ

เข้าร่วม: 26 ม.ค. 2007
ตอบ: 157
ที่อยู่ (จังหวัด): บุรีรัมย์
|
ตอบเมื่อ:
20 เม.ย.2007, 8:02 pm |
  |
พุทธคุณ - จาตุคาม
ที่นี่ขัดข้องวุ่นวาย
เหยียบกันตกตายเจ็บเกลื่อน
ทางธรรมถูกผิดบิดเบือน
ทางเถื่อนถูกเลื่อนแทนธรรม
พุทธคุณถูกฉุดลดค่า
ธรรมคุณถูกคว้าลงต่ำ
สังฆคุณถูกฉุดดิ่งดำ
ตกต่ำด้อยค่าดูแคลน
จตุคามรามเทพทั่ว
ปั่นตัวตั้งค่าเป็นแสน
เป็นล้านหาเช่าขาดแคลน
หวงแหนแลกด้วยชีวิต
งมงายครอบงำซ่อนเงื่อน
บิดเบือนพุทธภาษิต
พระธรรมไม่นำมาบูชิต
พระสงฆ์ไม่คิดนำมาบูชา
ส่งเสริมเทวาภิเสก
อุตม์เอกอวดอ้างสร้างค่า
ของปลอมของแท้มายา
อวดค่าอวดคุณสารพัน
ที่นี่วุ่นวายขัดข้อง
เกี่ยวดองคุณไสย์หมายมั่น
งมงายปลุกเสกเลขยันต์
ลืมคุณลืมขั้นพุทธธรรม
สิริมงคล ๒๐/๐๔/๕๐ |
|
|
|
  |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
20 เม.ย.2007, 10:31 pm |
  |
ฉาบปะคละอ้างทางพระ
พุทธะสอนมาหรือไฉน
ดั้งเดิมศาสนาเป็นอย่างไร
ทำไมงมโง่ดักดาน
นี่หรือคือทางแห่งพุทธ
ดูสุดตกต่ำพร่ำสาน
อวดอ้างสรรพคุณคุ้นตำนาน
สามานย์พาลครองสยองใจ
ไทยเราเกลากล่อมกายจิต
สอนผิดติดเสกเขกให้
หัวใจพุทธศาสน์คืออะไร
หรือใช่วัตถุเครื่องราง
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา
 |
|
|
|
   |
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
21 เม.ย.2007, 7:46 am |
  |
มุ่งหมดสิ้น ตัวกู และของกู
ใยจึงเหลือ"ตัวสู ผู้โง่เขลา"
เมื่อในใจ ไม่เห็น เป็นเขา-เรา
จะเหลือ"เขา ผู้โง่"ไว้ ทำไมมี
เมื่อหมดสิ้น ตัวกู และของกู
สงบรู้ จิตว่าง อย่างเต็มที่
ก็จะเหลือ แต่ปัญญา และปราณี
กล่าวเช่นนี้ เป็นนัย ไว้เตือนตน
ตรงประเด็น |
|
|
|
  |
 |
สิริฯ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 เม.ย.2007, 8:15 am |
  |
มันก็เป็นเช่นนั้นเองไม่เถียงหรอก
เพียงอยากบอกสังคมที่สับสน
ให้แสงธรรมส่องบ้างกลางมืดมน
อย่าสับสนงมงายเกินไปนัก
พุทธผู้รู้ผู้ตื่นเบิกบาน
สมนามขานชาวพุทธพิสุทธิ์ลักษณ์
เพียงเพราะโลภอยากได้ไร้ตระหนัก
จึงเสียหลักแย่งชิง....สิ่งวุ่นวาย....
ธรรมสวัสดิ์ ท่านตรงประเด็น
สิริมงคล |
|
|
|
|
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
21 เม.ย.2007, 1:33 pm |
  |
"สัตว์ต้องต้อน คนต้องนำ" เป็นคำสอน
พึงสังวร ดังวจี ชี้เฉลย
ปิยวาจา ผูกใจ ให้ชมเชย
คงจะเคย ได้รับ สดับมา
การเตือนคน อย่าใช้ วิธีต้อน
จะเดือดร้อน ด้วยมี ที่โทสา
พูดแนะนำ ด้วยจิต กรุณา
ใช้ปัญญา ชี้ช่วย ด้วยคำเย็น
สวัสดี คุณสิริมงคลครับ
ที่ผมเสนอมุมมองนั้น ผมเสนอในประเด็น "วิธีการ" เตือนคนครับ
แต่หลักการและเหตุผลในกลอนของคุณนั้น ผมเห็นด้วยในหลักใหญ่..... และรู้สึกเช่นกันว่า ชาวพุทธส่วนหนึ่ง ละทิ้งคำสอนอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า ไปพึ่งสรณะอย่างอื่นกันแทน
และอยากเสนอให้ดูโอวาทปาฏิโมกข์ข้อ "อนูปวาโท"..... เป็นหลักการที่พระพุทธองค์ท่านทรงแนะนำพุทธสาวกไว้ในการเผยแผ่ศาสนา
อย่างเช่น เรื่อง เทวดานี้เหมือนกัน......
แทนที่พระพุทธองค์ท่านจะตำหนิผู้คนในสมัยนั้นที่เป็นเทวนิยม (ไม่ว่าจะนับถือเทพหลายองค์ หรือเทพสูงสุดองค์เดียว)....... พระองค์กลับใช้กุศโลบายแนะนำ "เทวตานุสติ" คือ สอนให้คนประพฤติเทวธรรมแทน แทนที่จะไปคอยอ้อนวอนเทวดา..... กล่าวง่ายๆ คือ ให้คนเป็นเทวดาเสียเองเลย
ในยุคนี้ก็เช่นกัน แทนที่เราจะไปตำหนิ (แบบต้อน) คนที่ยังจะพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกตนอยู่
เราน่าจะ "พูดให้เขาคิด" หรือ "สะกิดให้เขาฟัง" ด้วยวาจาที่เป็นสุภาษิตดีกว่า
เป็นการมองต่างมุมน่ะครับ
ไม่เหมาะสมประการใด ขออภัยล่วงหน้า  |
|
|
|
  |
 |
สิริฯ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 เม.ย.2007, 5:21 pm |
  |
ครับเห็นด้วย แต่การแย่งชิงอะไรจนเหยียบกันตายนี่มันต้องมีสตินะ ศรัทธา ก็ต้องมีปัญญาควบคุมด้วย ของมีน้อยมันก็ต้องหมด ผู้ที่ไม่ได้ก็ต้องทำใจ ศรัทธาเคารพเทวดาก็มิใช่เรื่องนอกพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด แม้เทวดาเองก็ยังเคารพพระพุทธศาสนาอีกต่อหนึง เพียงแต่ทำอย่างไรอย่าเอาผลประโยชน์ทางการค้าเข้ามาเป็นเป็นเครื่องมือเอาเปรียบคนที่เขาศรัทธาจนเกินไปนัก ผมหวังอค่นั้นครับท่าน ตรงประเด็น ผมมิได้คิดอะไรในทางเสียหายตำหนิติโทษตามอัตตาคติ แต่อย่างใด ก็ได้แต่หวังว่าความคิดผมคงไม่ถึงขั้น นูปวาทะ ไปทำร้ายใครที่ไม่เห็นด้วย เพียงแต่มองต่างมุมกันได้
ขอบคุณครับ
สิริมงคล |
|
|
|
|
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
21 เม.ย.2007, 8:59 pm |
  |
ขอบคุณ ท่านสิริมงคล เช่นกันครับ  |
|
|
|
  |
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
25 พ.ค.2007, 6:58 am |
  |
ขออนุญาต
นำบทความที่น่าสนใจ ของท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์มาลงเพิ่มเติม
มีสาระ และมุมมองที่น่าสนใจ เกี่ยวกับกระทู้นี้
".........เทพองค์นั้นเป็นชาวพุทธที่ดี มีศรัทธามาทำหน้าที่ปกปักรักษาพระพุทธศาสนา มาบำเพ็ญความดี นับเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าชาวพุทธควรจะบำเพ็ญความดีอย่างเทพองค์นี้
ไม่ใช่ว่าเทพจตุคามฯ ทำความดี แต่คนคอยฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์จากการทำความดีของเทพ
ชาวพุทธควรเอาเทพที่ดีมาช่วยประกันใจตัวให้มั่นคงไม่หวาดหวั่นพรั่นกลัว และปลุกใจตัวให้มีกำลังใจเข้มแข็งที่จะทำการดีงามให้สำเร็จ ร่วมขบวนกับเทพนั้นในการบำเพ็ญความดีตลอดจนบารมีต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้ ......."
จาก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=12323
ท่านเจ้าคุณๆ ไม่ได้ตำหนิเทพจตุคามน่ะครับ....
แต่ท่านตำหนิ"คน"ที่เรียกตนเองว่าชาวพุทธ แต่ฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์จากการทำความดีของเทพ |
|
|
|
  |
 |
ราม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
25 พ.ค.2007, 1:41 pm |
  |
จตุคาม รามเทพ สิงสถิตย์
อยู่เป็นนิจ นิรันดร์ นานหนักหนา
ไม่รู้เห็น ไม่เป็น เช่นนำพา
ไม่รู้ว่า โลกมนุษย์ ยื้อยุดกัน
จตุคาม รามเทพ เทพสังหรณ์
ใยนิวรณ์ ครอบงำ คลำหานั่น
ให้สงสาร เหล่าผู้หลง มิเท่าทัน
ยังบ่ยั่น ดันทุรัง คลั่งกันจริง
จตุคาม รามเทพ เจ็บจิตนัก
ผู้คนชัก พาลงต่ำ น่าขำกลิ้ง
น่าอดสู มิรู้ความ ตามเป็นลิง
เที่ยวไล่วิ่ง เสาะหา มาครอบครอง
จตุคาม รามเทพ เหน็บเยาะเย้ย
มนุษย์เอ๋ย เจ้าว่าสูง กว่าทั้งผอง
แท้แท้แล้ว หาแตกต่าง จากทำนอง
ที่สุดต้อง กลับกลาย คล้ายดั่งมาร
จตุคาม รามเทพ เสพสุขแล้ว
ไม่มาแผ้ว ผ่านข้อง ห้วงสงสาร
ไม่ยุ่งเกี่ยว ด้วยคน มนต์จดจาร
ไม่ขอพาน พบมาร ในร่างคน
จตุคาม รามเทพ  |
|
|
|
|
 |
สิริมงคล
บัวเริ่มพ้นน้ำ

เข้าร่วม: 26 ม.ค. 2007
ตอบ: 157
ที่อยู่ (จังหวัด): บุรีรัมย์
|
ตอบเมื่อ:
25 พ.ค.2007, 7:21 pm |
  |
จตุคามรามเทพ เทวินท์
เทพรัตนโกสินทร์ สืบสร้าง
อีกองค์สยามินทร์ เทวราช
ทวยเทพทุกท้วนอ้าง ฤทธิเทพศักดา
ศักดามหาเทพ ครองเมือง
เสื้อเมืองทรงเมือง รุ้งแก้ว
ดลมนุษยเนือง สยามแคว้น
จงร่มเย็นเด่นแคล้ว คลาดคล้อยทุกข์ภัย
ใดใดที่รุมเร้า การเมือง
จงสงบสยบเคือง ทุกขโทษ
ปรองดองผ่องประเทือง ประเทศ
สามัคคีพีชโภชน์ สู่เทพ สาธุการ
สาธุชนสาธุการทั่ว ธานินทร์
สงบสยบยิน ยิ้มชื่น
สราญกาลถวิล ทวยเทพ ดาลดล
พลนิกรสลอนรื่น สุขถ้วน สยามชน นั้นเทอญ
สิริมงคล ๒๕/๐๕/๕๐
ธรรมสวัสดีครับทุกท่าน ที่แสดงความเห็น ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมากไปกว่า คนฉวยโอกาสเอาเปรียบเทพ หาผลประโยชน์ ๆ บนความศรัทธาของยุคสมัย สังคมขาด สรณะ ครับ ขอบคุณ |
|
|
|
  |
 |
บัวน้อย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 พ.ค.2007, 12:25 pm |
  |
บัวน้อย
กลางมหา ชลธี ที่กว้างใหญ่
สายน้ำไหล เอื่อยเอื่อย เรื่อยรี่ไหล
กลางท้องน้ำ กอบัว ชุช่อไกว
พริ้วลมไหว ไล้พรม ห่มอุ่นไอ
ใต้กอบัว บัวน้อย เริ่มผลิหน่อ
ตั้งตารอ รับอรุณ อันสดใส
แตกออกมา บัวน้อย ตามแนวไป
บัวบังใบ ใต้นที มิรีรอ
น่าสงสาร บางหน่อ ไม่ทันพ้น
เหนือสายชล เป็นภักษา แห่งปลาหนอ
บ้างก็ถูก ปูเต่า กลืนลงคอ
บ้างถูกยอ เกี่ยวขาด ไม่อาจเป็น
เปรียบดังเช่น มนุษย์ ผู้โง่เขลา
บัณฑิตเฝ้า สอนสั่ง ไม่รู้เห็น
สอนอย่างไร ไม่ฟัง แสนยากเย็น
สุดจะเค้น เป็นไปตาม ยถากรรม
บัวน้อยน้อย เติบโต ใต้ท้องน้ำ
อยู่ท่ามกลาง กอใหญ่ น่าเกรงขาม
พ้นจากภัย สัตว์น้ำ เข้าคุกคาม
ทุกโมงยาม เติบใหญ่ ใกลัผิวชล
เปรียบดังเช่น มนุษย์ ผู้ควรรับ
ควรสดับ คำสอน ให้เห็นผล
แจ้งประจักษ์ สอนซ้ำ ย้ำใจตน
เฝ้าพร่ำบ่น ตำรา กระจ่างใจ
บัวน้อยน้อย ลอยปริ่ม ริมแม่น้ำ
ใกล้ถึงยาม แสงระวี สาดแสงฉาย
เวลาใกล้ ทุกนาที อีกไม่นาน
ลุถึงวัน แสงแรก แห่งระวี
เปรียบดังเช่น มนุษย์ ใกล้รุ้แจ้ง
บัณฑิตแถลง แจกไว้ ให้ถ้วนถี่
ฟังบรรยาย ได้ธรรม นำชีวี
แสนเปรมปรี สัจจะ สว่างครัน
อรุณแรก สดใส สว่างแล้ว
บัวน้อยแพรว พรายเหนือน้ำ ยามรุ่งสาง
ลมเฉื่อยฉิว พัดมา เพียงเบาบาง
บัวสล้าง กลางนที ที่เกิดกาย
ยามบัวต้อง แสงอ่อนอ่อน ตอนฟ้าใส
กลีบเริ่มคลาย เบ่งบาน สะอาดสวย
เรียงเหลื่อมซ้อน กันไป ให้งงงวย
กลิ่นหอมอวล โชยไป ในทุกทาง
เปรียบดังเช่น มนุษย์ ปัญญาเลิศ
ช่างประเสริฐ เกิดมา เป็นที่หวัง
เป็นที่พึ่ง พักใจ เปี่ยมพลัง
แม้สอนสั่ง ไม่ทันไร ลุถึงธรรม
พุทธองค์ ทรงตรัส ว่ามนุษย์
ถึงที่สุด สี่เหล่า บ้างมีสาม
ให้พินิจ ตริตรอง ในเนื้อความ
ทุกทุกยาม อย่าล่วง ไปให้ทำดี
 |
|
|
|
|
 |
|