Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 วิตก ๒ อย่างของพระพุทธเจ้า อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 19 เม.ย.2007, 8:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วิตก ๒ อย่างของพระพุทธเจ้า

และได้ตรัสแสดงถึงพระองค์เอง ในเวลาปรกติก็ได้ทรงวิตก
คือทรงตรึกนึกคิด ๒ อย่างอยู่เป็นประจำ คือ

เขมวิตกความตรึกนึกคิดที่เกษม อันหมายความว่าไม่เบียดเบียนใครอะไร อันเรียกว่าเขมวิตก

และความตรึกนึกคิดที่สงบสงัด โดยตรงก็คือสงบสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย อันเรียกว่าวิเวกวิตก

โดยปรกติพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงมีความเกษม คือความไม่เบียดเบียน เป็นที่มายินดี ยินดีอยู่ในความไม่เบียดเบียนอันเป็นความเกษม เพราะฉะนั้นวิตกคือความตรึกนึกคิดนี้ จึ่งได้บังเกิดขึ้นเที่ยวไปกับพระตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีความไม่เบียดเบียน เป็นที่มายินดี ยินดีอยู่ในความไม่เบียดเบียนว่า เราไม่เบียดเบียนอะไรใคร ด้วยความเป็นไป หรืออาการที่เป็นไปแห่งความตรึกนึกคิดนี้

อนึ่ง ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงพระองค์เอง ทรงมีความสงบสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นที่มายินดี ยินดีอยู่ในความสงบสงัด วิตกคือความตรึกนึกคิดนี้จึงบังเกิดขึ้นเที่ยวไปกับพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีความสงบสงัดจากอกุศล เป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงบสงัด ว่าอะไรเป็นอกุศล อะไรเป็นอกุศล ทั้งหมดละได้แล้ว ดั่งนี้

พระพุทธองค์เมื่อได้ตรัสถึงพระองค์เองดั่งนี้แล้ว จึ่งได้ตรัสสอนภิกษุทั้งหลาย
อันรวมถึงผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายว่า

ท่านทั้งหลายก็จงมีความไม่เบียดเบียน อันเป็นความเกษม เป็นที่มายินดี ยินดีอยู่ในความไม่เบียดเบียนและวิตกคือความตรึกนึกคิดนี้ก็จักบังเกิดขึ้นเที่ยวไปแก่ท่านทั้งหลาย
ผู้มีความไม่เบียดเบียน

เป็นที่มายินดี ยินดีอยู่ในความไม่เบียดเบียนว่า เราทั้งหลายจักไม่เบียดเบียนใครอะไร ด้วยอาการที่เป็นไปแห่งวิตกคือความตรึกนึกคิดนี้

อนึ่ง ท่านทั้งหลายพึงมีความสงบสงัดจากอกุศลทั้งหลายเป็นที่มายินดี ยินดีในความสงบสงัด ความตรึกนึกคิดนี้ก็จักมีแก่ท่านทั้งหลาย ผู้มีความสงบสงัดจากอกุศลทั้งหลายเป็นที่มายินดี ยินดีในความสงบสงัดว่า อะไรเป็นอกุศล อกุศลที่ยังไม่ละแล้ว เราก็จะละอกุศลนั้น ดั่งนี้

เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าเองได้ตรัสถึงพระองค์เองว่า โดยปรกติได้ทรงมีวิตกความตรึกนึกคิด ๒ อย่างอยู่เป็นประจำคือตรึกนึกคิดไม่เบียดเบียนอันเป็นความเกษม ไม่เบียดเบียนใครอะไรและมีความวิตกคือตรึกนึกคิดที่สงบสงัดจากอกุศลทั้งหลาย
ทรงละอกุศลทั้งหลายได้ ไม่ว่าอกุศลอะไรทั้งหมด

เขมวิตก วิเวกวิตก

และก็ตรัสสอนให้ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย พยายามที่จะทำความยินดีในความไม่เบียดเบียน คือในความเกษม ใครอะไรทั้งหมด คือไม่เบียดเบียนใครอะไรทั้งหมด ด้วยคิดว่าเราจะไม่เบียดเบียนใครอะไรทั้งหมด

คือสัตว์บุคคลอะไรทั้งหมด ทั้งที่เคลื่อนที่ได้ ทั้งที่เคลื่อนที่ไม่ได้ทั้งหมดไม่มียกเว้น
เรียกว่าเขมวิตก หรือเกษมวิตก หัดให้มีวิตกคือความตรึกนึกคิดดั่งนี้อยู่เป็นประจำ

ถ้าหากว่าจะมีความตรึกนึกคิดไปในทางเบียดเบียน
ด้วยเหตุแห่งโทสะความกระทบกระทั่งขัดใจโกรธแค้นขัดเคือง
ก็ให้หัดทำสติกำหนดรู้ตัวว่านี่เป็นอกุศลวิตก ไม่เกษมไม่สวัสดี ให้ละเสีย
ตั้งใจอยู่เสมอว่าเราจะไม่คิดเบียดเบียนใครอะไร
คือสัตว์บุคคลใครอะไรทั้งหมด ทั้งที่เคลื่อนที่ได้ ทั้งที่เคลื่อนที่ไม่ได้ ทั้งสิ้น
หัดให้มีเขมวิตกคือความตรึกนึกคิดอันเกษมดั่งนี้อยู่เป็นประจำ

กับหัดให้มีวิเวกวิตกคือความตรึกนึกคิดที่สงบสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
คือตรึกนึกคิดว่าอะไรเป็นอกุศล อะไรที่เป็นอกุศลนั้นที่ละไม่ได้
เราก็จะละอกุศลนั้น

ให้สงบสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
อันเป็นความสงบสงัดทางใจ
ประกอบกันไปกับความสงบสงัดทางกาย
ตามที่จะพึงเป็นไปได้
เรียกว่าเป็นการหัดปฏิบัติให้มีวิเวกวิตก

ความตรึกนึกคิดไปในวิเวกคือความสงบสงัด
จากอกุศลจิตทั้งหลาย
อกุศลกรรมทั้งหลาย
ที่เป็นอกุศลทั้งหมด
หัดปฏิบัติควบคุมจิตใจของตนอยู่ดั่งนี้

http://www.mahayana.in.th/tsavok/tape/128.htm
สาธุ
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 19 เม.ย.2007, 10:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุจ้า...คุณ I am

ขอบคุณนะคะ...ที่หมั่นนำธรรมะดีดีมาแบ่งปันญาติธรรมเสมอมา

เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

ยิ้ม สู้ สู้ ยิ้มแก้มปริ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง