ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สุกี้ยากี้
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 13 มี.ค. 2007
ตอบ: 14
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 2:13 pm |
  |
ขออนุญาต ขอข้อเสนอแนะจากผู้รู้ทั้งหลาย ว่าในขณะที่นั่งสมาธิไปได้สักระยะหนึ่งเกิดความรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครเอามีดมากรีดที่คอหอย จนทำให้นั่งไม่ได้ สอบถามจากหลายคนบอกว่าเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวร ได้กรวดน้ำ เเผ่เมตตาให้ประจำ อาการที่ว่าก็ยังไม่หาย ใจสงบ นิ่ง แต่นั่งสมาธิไม่ได้เลย ควรทำอย่างไรดีค่ะ |
|
|
|
  |
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 3:54 pm |
  |
เป็นอีกคนหนึ่งเช่นกัน ที่นั่งไม่ได้นานเพราะจิตเกิดอาการกลัว พอใจเริ่มนิ่งๆเป็นต้องลุกหนีทุกที กลัวเห็น อะไรที่มันทำให้ตกใจ
ผีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  |
|
|
|
  |
 |
ลมไหวไผ่เซ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 29 มี.ค. 2007
ตอบ: 10
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 8:00 pm |
  |
อึ๋ย..... อ่านแล้วรู้สึกสยองขวัญตามไปด้วยครับ
การทำสมาธิไม่ว่าท่าใดก็ตามต้องกระทำด้วย จิตสงบ ครับถึงจะเกิดผลดีกับผู้ปฏิบัติ
แนะนำให้สำรวจจิตของตนเองก่อนครับว่าเป็นคนที่หนักไปทาง จริตไหนใน 6 จริต จากนั้นก็หาวิธีฝึกกรรมฐานให้เหมาะกับจริตใหญ่ของตน
ฝึกกรรมฐานแล้ว อ่านหนังสือสนุกดีครับ ชอบมาก |
|
_________________ หนังสือคือเพื่อนแท้ที่ดีสุด สุด |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 8:02 pm |
  |
-ดังจขกท.เล่าความมา เป็นอารมณ์หนึ่ง ความคิดขณะหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรดอก แต่เราไปยึดไว้ มันจึงเกิดๆดับๆ (เป็นๆ หาย ๆ)
-ทำกรรมฐาน หรือ ทำสมาธิ หรือจะเรียกว่า เจริญสติ หรือ จะเรียกว่าทำวิปัสสนา เรียกอย่างไรก็ถูกทั้งหมด
-แต่ที่สำคัญไม่ใช่นั่งเฉย ๆ หรือนั่งคิดจัดแต่งอะไรๆ ตามความเห็นตน หรือตามความรู้สึกนึกคิดของตน หรือ เอาแต่นั่งบริกรรมภาวนาแต่ลมหายใจเข้า-ออกเพียงอาการเดียว
ต้องกำหนดรู้ ดูให้ทันความคิดต่าง ๆ ด้วย ตรงนี้สำคัญ
ไม่อย่างนั้นแล้ว เกิดความคิดอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง ก็จะยึดความคิดนั่นไว้ (อุปาทาน) ไม่ว่าดี (กุศล)
หรือไม่ดี (อกุศล)
จิตจะยึดไว้หมด
คิดดีก็อุปาทานความดี ติดดี
คิดไม่ดีก็อุปาทานไม่ดี ติดในสิ่งที่ไม่ดี
คิดเรื่องหวาดเสียวก็หวาดกลัว วิตกกังวลเป็นต้น
ดัง จขกท. นี้ ทำสมาธิภาวนาแล้ว เกิดความกลัวขึ้น แต่ไม่กำหนดรู้นามตามที่มันเป็น ตามที่มันคิด
ความคิด (กลัว)...จึงเกิดสลับไปมา
-เกิดความคิดใดขึ้น ท่านให้กำหนดจิตปักลงไปที่ความรู้สึกนั่นแหละ เพื่อตัดวงจรความคิดนั้น
แรกๆ อาจไม่หยุด (ดับ) ทันทีทันใด ทันใจจ๊อด เพราะสติและสมาธิยังน้อยอยู่
ภาวนาตามความรู้สึกนั้นแล้วปล่อย กลับไปภาวนาลมหายใจตามเดิม
ฝึกปฏิบัติใหม่ๆ ไม่พึงภาวนาจมแช่อยู่กับอารมณ์นั้นๆ ภาวนา กลัวหนอๆ แล้วทิ้งเลย
คิดอะไรขึ้นอีกก็ภาวนาตามนั้นอีก
ปฏิบัติแบบนี้แหละ อาการต่างๆ ดังกล่าวเป็นต้น จะค่อยๆ จางลงไปในที่สุด
เมื่อสติสมาธิสูงขึ้น แค่บริกรรมกลัวหนอๆ ความคิดนี้จะดับไปทันที ตามธรรมดาของมัน
หลักการเจริญสติปัฏฐานพึงเจริญให้ครบทั้งกายและใจ คือ
1 กายานุปัสสนา (ตามดูรู้ทันกาย)
2 เวทนานุปัสสนา (ตามดูรู้ทันเวทนา)
3 จิตตานุปัสสนา (ตามดูรู้ทันความคิด)
4 ธรรมานุปัสสนา (ตามดูรู้ทันธรรมคือนิวรณ์)
(ย่อๆ กายกับใจ)
กายก็คือภาวนาลมหายใจเข้า- ออก
ใจก็ คือบริกรรมภาวนาความรู้สึกนึกคิดทุกๆ อย่าง
ทำบ่อยๆ ทำมากๆ ทำให้ติดต่อต่อเนื่อง จึงจะได้ผล จึงจะเห็นผล
หลักปฏิบัติกรรมฐานโดยรวมก็เท่านี้ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 7:58 am |
  |
ยามปกติไม่ได้ทำสมาธิกรรมฐานเลย เราท่านเคยคิดนึกกลัวกันบ้างไหม กลัวสิ่งนั้นสิ่งนี้ บ้างก็กลัวผีเป็นต้น
ตอบว่าเคยด้วยกันทั้งนั้น
แล้วแก้ด้วยวิธีใดกันล่ะ
...บ้างก็แก้ด้วยการไม่อยู่คนเดียว ไปไหนยามค่ำคืนก็มีเพื่อนร่วมทางเป็นต้น
แต่เจ้าของกระทู้นี้กลัวขณะทำสมาธิอยู่ผู้เดียว เลยไม่มีทางออกไม่มีทางแก้
นั่นก็เพราะกิเลสมารมันกลัวเราจะหนีไปจากมัน จึงหาวิธีไม่ให้เราทำกรรมฐานทำสมาธิ ...
มีผู้แนะนำวิธีไว้ดีแล้ว เอาชนะกิเลสมารด้วยวิธีการนั้นเถิด |
|
|
|
|
 |
ภูเขาน้ำ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 8:51 am |
  |
คุณสกี้ยากี้
ขณะนั่งสมาธิ แล้วเกิดความรู้สึกแบบนี้อีก ให้ ตั้งอธิฐานจิต แผ่เมตตาให้เขา แล้วให้สัจจะ ว่าจะไม่ทำอีก(หมายถึงกรรมชั่ว) แล้วอาการจะค่อยๆ หายไปเอง
ปล. อ. เราเคยแนะนำเราแบบนี้อะนะ ไม่รู้จะได้ผลกับคุณหรือป่าว
 |
|
|
|
|
 |
chidsanucha
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 23 ม.ค. 2007
ตอบ: 6
|
ตอบเมื่อ:
05 เม.ย.2007, 4:31 pm |
  |
เหตุการที่เกิดขึ้น คล้ายผมครับ แต่ของผมเป็นเรื่องของตะขาบ ที่เข้ามาในห้องผม ตัวใหญ่มากครับ แต่ผมก็ฆ่ามันเนื่องจากกลัวมันจะทำอันตรายคนในบ้านและตัวผมด้วย หลังจากนั้นผมก็สวดมนต์และนั้งสมาธิ อุทิศ ส่วนบุญให้กับ ตะขาบตัวนั้นครับ ในขณะที่นั้นสมาธิครับ ตะขาบตัวที่ผมฆ่าครับ มันเข้ามาหาผม ตัวใหญ่และยาวมากกว่าเก่าเป็นเมตรๆเลยมาพันตามตัวผม และเข้าปากออกจมูกผมครับ นั้งที่ไรมาทุกทีครับ พอผมเห็นผมก็อุทิศกุศลทุกครั้งครับ จนตะขาบตัวนั้นเหลือตัวเล็กลงครับ จนเขาหายไปครับ และก็ไม่มาอีกจากนั้น และทุกวันนี้ครับ
วิธีของผมคือ
ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งครับ เมื่อเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้งสมาธิ ก็คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพียงสิ่งที่จิตปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง เป็นทุกขัง และอนัตตาครับ และก็อุทิศส่วนกุศลไปทุกครั้งที่เผชิญกับเหตุการที่เกิดขึ้นครับ และทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นเรื่อยๆครับ อันนี้ผมผ่านมาแล้วครับและได้ผมมากครับ สำคัญอย่าให้ความกลัวเข้ามาครอบงำเรา เพราะ ความกลัวก็เป็นตันหาอย่างหนึ่ง มันไม่เที่ยงครับ เดี่ยวมันก็สลายตัวไป ไม่มีอะไรเที่ยงครับแม้แต่ความคิดของเราเองครับ ปล่อยวางครับแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง และที่มันเที่ยงก็เพราะเราคิดว่ามันเป็นจริงครับ ที่จริงแล้ว มันเป็นเพียงความรู้สึกจากใจเราเอง และทำลายมันได้ด้วยคาวมเป็นจริงครับ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นคือ ทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และ สลายตัวไปในที่สุดครับ
ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะครับ
ชิษณุชา  |
|
|
|
  |
 |
scoutt
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
05 เม.ย.2007, 9:06 pm |
  |
การนั่งสมาธิของคุณ ได้กำหนดความคิดหรือไม่ ถ้ากำหนด ทั้งลมหายใจ ความคิด ความรู้สึกด้วย
ก็เป็น สติปัฎฐาน เมื่อทำสติปัฎฐานซึ่งเป็นวิปัสสนา ก็อาจเกิดญาณ ขึ้นได้ อารมณ์วิปัสสนา เกิดความกลัวก็เป็นญาณหนึ่ง |
|
|
|
|
 |
สุกี้ยากี้
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 13 มี.ค. 2007
ตอบ: 14
|
ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2007, 3:12 pm |
  |
ขอบคุณสำหรับทุกข้อเสนอแนะ ตอนนี้ดิฉันไม่มีความกลัวในการทำสมาธิแล้วค่ะ หลังจากที่ตัดอัตตาของตัวเองได้ ความรู้สึกนึกคิดทุกอย่างจิตเราไปปรุงแต่งมันขึ้นมาทั้งนั้น ไม่คิด ไม่ปรุงไม่แต่ง ก็ไม่เกิดความกำหนัดความกลัววิตกกังวล ขอบคุณมากค่ะ |
|
|
|
  |
 |
ภูเขาน้ำ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2007, 4:45 pm |
  |
สาธุ |
|
|
|
|
 |
อากง
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 18 มี.ค. 2007
ตอบ: 41
ที่อยู่ (จังหวัด): สตูล
|
ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2007, 7:03 pm |
  |
แนะนำให้หาอาจารย์ผู้รู้ทางด้านการทำสมาธิครับ ท่านเหล่านั้นต้องมีคำแนะนำที่ดีให้ได้แน่นอนครับ |
|
_________________ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ สติ ปัญญา |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2007, 10:48 pm |
  |
ตอนนี้ดิฉันไม่มีความกลัวในการทำสมาธิแล้วค่ะ หลังจากที่ตัดอัตตาของตัวเองได้ ความรู้สึกนึกคิดทุกอย่างจิตเราไปปรุงแต่งมันขึ้นมาทั้งนั้น ไม่คิด ไม่ปรุงไม่แต่ง ก็ไม่เกิดความกำหนัด ความกลัววิตกกังวล
ถูกต้อง...
-ความสุข ความทุกข์ เฉยๆ ความวิตกกังวล ความกลัว ไม่กลัว....
-อะไร ต่ออะไรอีกเยอะแยะ จาระไนไม่หมดสิ้น เกิดจากความคิดแต่ละขณะๆ
-ที่ท่านให้กำหนดรู้ดูปัจจุบันอารมณ์ ทุกๆ ขณะ ก็เพื่อให้โยคีได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ของสิ่งเหล่านั้น
เดี๋ยวมันเกิดมันหาย (ดับ) ไม่จีรัง ดังความกลัวที่เกิดและหายไปดับไปที่ถามมาตอนต้นนั้นแหละ
-ตอนนี้เรารู้ทันความกลัวแล้ว
ต่อไปก็ให้รู้ทันอย่างอื่นอีก และพึงระวังจะตกเป็นทาสของอารมณ์ความคิดอย่างอื่นอีก
แม้แต่อารมณ์ความรู้สึก ที่ไม่ต้องการให้เป็นสมถะ
ต้องการให้เป็นวิปัสสนา
นั่นก็เป็นอีกหนึ่งที่นักปฏิบัติตกเป็นทาสมัน คิดไปคิดมา ดิ้นรนจะให้พ้นสมถะ
ตะเกียกตะกายจะให้เป็นวิปัสสนา พลิกไปพลิกมา เล่นกับความคิดอยู่ทั้งกะปี
ลองดูลิงค์นี้
http://larndham.net/index.php?showtopic=25607&st=3 |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
z
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 23 ต.ค. 2007
ตอบ: 46
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ย.2007, 3:45 pm |
  |
...,ใช้ มรณานุสสติกรรมฐาน.... |
|
|
|
  |
 |
1เอง
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 29 ต.ค. 2007
ตอบ: 43
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ย.2007, 8:34 am |
  |
ก่อนอื่นก็สาธุกับคุณสุกี้ด้วยนะครับที่ตัดอัตตาลงได้เลยทำให้ไม่กลัว
ซึ่งความกลัวย่อมเกิดขึ้ได้กลับผู้ที่ฝึกใหม่ๆเป็นส่วนมากครับ
อยากเพิ่มเติมให้ใช้สติให้มากๆครับ และถ้ามีคำบริกรรมเข้ามาด้วยก็จะยิ่งดีครับ
โดยให้มีสติติดกับคำบริกรรม และให้คำบริกรรมติดแนบไปกับใจเราในขณะที่ทำสมาธิ
คำบริกรรมจะใช้คำใดก็ได้ที่คุณสุกี้ถนัดและบริกรรมภาวนาไม่ติดขัด โดยภาวนาต่อเนื่องกันไป
และเมื่อสติติดกับคำภาวนา และคำภาวนาติดกับใจได้แล้วเมื่อนั้นใจก็จะเป็นสมาธิเอง
โดยที่ใจมีที่ยึดเกาะก็คือคำภาวนานั้น ใจก็จะไม่ส่ายแส่ออกไปทางไหนๆ
ที่เป้นเหตุทำให้เราเห็นอะไรๆหรือทำให้เรารู้สึกกลัวขึ้นมาได้ครับ
เจริญในธรรมยิ่งๆครับคุณสุกี้ |
|
|
|
  |
 |
โฆสะโก
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 18 มี.ค. 2008
ตอบ: 4
ที่อยู่ (จังหวัด): สุราษฎร์ธานี
|
ตอบเมื่อ:
21 มี.ค.2008, 12:05 pm |
  |
ตอนสมัยผมบวชเป็นพระผมชอบนั่งสมาธิมาก และนั่งง่ายมากๆเพราะเราเป็นพระ จิตใจเราไม่ฟุ่งซ่าน อยู่ในการสำรวมกาย วาจา ใจ ถือศิลเคร่งครัดจิตเราเลยไม่นึกกลัวอะรัย กระผมคิดว่าการนั่งสมาธิต้องมีการฝึกให้บ่อยๆเข้าไว้แล้วจะดีครับ เมื่อจิตสงบ อารมณ์เยือกเย็น แสงสว่างก้อเกิดขึ้นอารมณ์เราก้อได้รู้สึกว่าสงบสุขสบายแล้วอยากจะอยู่ตรงนั้นให้นานๆเท่าที่อยู่ได้ แล้วปัญญาเราก้อเกิดขึ้นเองแม้ว่าจะคิดอะรัยก้อคิดได้อย่างละเอียดมาก นี้แหละเค้าเรียกว่า ศิล สมาธิ ปัญญา ทุกอย่างนี้ผมได้เรียนรู้กับตัวกระผมเองครับ ถ้าถามผมว่าผีมีจิงป่าวผมตอบได้เลยครับว่า....มีจิงคับ ผีหรือวิญญาญเป็นตัวเดียวกัน แต่ถ้าเราสวดมนเพวนานั่งสมาธิเค้าไม่มารบกวนเราหลอก ถ้าเค้ามารบกวนเราเค้าก้อมีบาปติดตัวเค้าไปอีกผีเค้าจะกลัวบาปมากๆ เค้าอยากได้สว่นบุญส่วนกุศลเรามากกว่า เพราะเค้าตายไปแล้วเค้าทำบุญไม่ได้แล้ว แต่เราสิยังไม่ตายก้อทำบุญกันใว้เยอะนะคับสักวันหนึ่งบุญนั้นจะได้ช่วยเราแน่นอนครับ นี้คือความคิดของกระผมครับ ทุกวันนี้ก้อทำอยู่นะครับ  |
|
_________________ จริงอยู่ที่ละ พระอยู่ที่จริง นิพานอยู่ที่สงบ |
|
  |
 |
|