ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 7:20 am |
  |
ตั้งใจจะถือศีล 5 แต่ก็มีข้อห้ามเมรัยที่บางครั้งอาจงดไม่ได้ มันรู้สึกขัดๆ ในใจจัง เพราะในชีวิตจริง ถึงแม้จะนานๆ ครั้ง ก็ยังต้องแก้วชนไวน์แก้วกัน เป็นพิธีในงานเลี้ยง เพื่อความครื้นเครง ...เฮ้อ จะมีธรรมกะเขา ก็ยังตัดบางอย่างออกไม่ได้ อยากจะบวชชีพรหมณ์ ก็งดลงครีมบนหน้าไม่ได้ กลัวผิวแห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควร
ข้อไหนๆๆ ก็ปฎิบัติได้ ยกเว้นสองข้อนี้แหละ |
|
|
|
  |
 |
thamma009
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 9:57 am |
  |
สวัสดีครับ มิตรธรรม
ศีล 5 เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส หากกิเลสหนา ปล่อยตัวเองไปตามกระแสโลก ก็จะเป็นคนผิดศีลอยู่ตลอดไป คำว่า ศีล แปลว่า ปกติ และปกติในที่นี้ก็คือ เป็นคนที่มีศีล เมื่อมีศีลแล้ว เขาเรียกว่า มนุษย์ เขาไม่เรียกว่า คน คนแปลว่าไอ้ตัวยุ่ง เป็นผู้มีตัณหา คนจะสวยไม่ใช่สวยด้วยเครื่องสำอางค์ ให้สวยด้วยใจ ด้วยศีล อานิสงส์ ของศีลก็มีอยู่แล้ว คือ ทำให้ผิวพรรณวรรณผ่องใส และเป็นผู้มีกลิ่นหอมอยู่เสมอทั้ง ตามลมและทวนลม แล้วเราจะหลงอะไรกับไวน์ กับงานเลี้ยงต่างๆ ก็สุขเพียงชั่วครู่ช่วยยามเท่านั้น แต่ศีลนั้นสุขได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้านะครับ |
|
|
|
|
 |
ลมไหวไผ่เซ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 29 มี.ค. 2007
ตอบ: 10
|
ตอบเมื่อ:
03 เม.ย.2007, 7:45 pm |
  |
การถือศีลสำคัญที่ใจ คือบริสุทธิ์ เจตนาไม่ก่อเกิดอกุศลจิต และการระวังไม่สร้างกรรมที่เบียดเบียนผู้อื่น ครับ
เรื่องสุราเครื่องดื่มมึนเมา ขอยกตัวอย่างของท่านโสกราตีส และ บัณฑิตจีนบางท่านในสมัยเก่าก่อน บุคคลที่ยกมากล่าวนี้ ดื่มเหล้าเหมือนน้ำครับ แต่ฤทธิ์ของเหล้าไม่ได้ครอบงำเขาเลย พวกเขาสามารถถกเถียงปรัชญาเรื่องยากได้หน้าตาเฉย ในขณะที่ตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยขวดเหล้าเปล่า พวกเขาดื่มก็เพียงแค่รักษาธรรมเนียมของสังคมเท่านั้นครับ ไม่มีเจตนาอยากดื่มเพื่อความสนุกสนานเอร็ดอร่อยแต่อย่างใด ( อยากทำแบบคนพวกนี้ได้บ้างแต่ร่างกายผมรับฤทธ์เหล้าไม่ได้เลย อีกอย่างกินเข้าไปแล้วมีแต่โรคตามมา )
แต่ถ้าเลี่ยงเหล้าวงสุราได้ก็ควรหลีกเลี่ยงเป็นการดีที่สุดครับ เสียสุขภาพไปเปล่าโดยใช่เหตุ
ส่วนเรื่องเครื่องสำอางครีมผัดหน้าบำรุงผิวนั้น อย่าคิดมากครับ จะเอาศีลให้ครบถ้วนทุกกระบวนการ ต้องดูด้วยว่าอยากได้ธรรมแบบไหน ธรรมของพระอรหันต์ ธรรมของพรหม ธรรมของโพธิสัตว์ ถ้ายังยึดติดทางโลกอยู่บ้าง เอาแค่พรหม หรือ โพธิสัตว์ ก็เพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องถึงขั้นละหมดสิ้นเสียทุกอย่างเช่นพระอรหันต์ดอกคุณท่าน
เรียนมาให้ทราบ เลือกปฏิบัติธรรมตามความเหมาะสมกับจิตตนดีกว่าครับ  |
|
_________________ หนังสือคือเพื่อนแท้ที่ดีสุด สุด |
|
  |
 |
chanin
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 27 เม.ย. 2006
ตอบ: 36
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 11:21 am |
  |
ศีลขาดไป 1 ข้อ ไม่ถือว่าศีลขาดทั้งหมด 5 ข้อ
หากเราสมาทานศีล ว่า
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
แปลว่า
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 เพื่อจะรักษาไว้ทีละข้อๆ พร้อมกับไตรสรณคมณ์
ถ้าขอแบบนี้ เกิดไปดื่มเหล้าเข้าไป ศีลไม่ขาดหมด ยังเหลืออีก 4 ข้อ
...................
แต่ถ้าขอสมาทานศีล แบบ ไม่มีวิสุง วิสุง คือ สมาทานว่า
มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ถ้าทำผิดข้อใดข้อหนึ่งถือว่า ศีลขาดทั้งหมด |
|
_________________ ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน |
|
  |
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 12:19 pm |
  |
ขอบคุณสำหรับทุกคห.ค่ะ ต่อไปนี้จิตคงสบายขึ้นเยอะ เวลารับศีล 5 หรือ 8 ถ้าเมื่อก่อนบอกตามตรงว่า ละอายจิต ละอายปากที่เปร่งออกไป (ทำไม่ได้ ยังมาเปร่งวาจารับอีก) |
|
|
|
  |
 |
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 10:14 pm |
  |
ตามอ่านคุณจิตงามครับ
รักษาศีลควรให้ครบ ศีลห้านี่ต่ำสุดแล้ว อ้างอิงจากที่เคยตอบกระทู้คุณจิตงามครับ ช่วงที่ชีวิตไม่ดี ห่างหายการทำบุญ อุตริคิดว่าถือแค่ศีล 4 แล้วไอ้ข้อที่ผิดเนี่ยคือ สุราเมรยมัชฌปมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขา ปะทัง สะมาทิยามิ เนี่ยแหละครับ ถ้าเป็นบางครั้ง ออกงานสังคม ไม่ได้ดื่มเพราะจงใจมอมเมาสติ ก็ไม่ถือว่าศีลขาด คงแค่ด่าง ต่อศีลได้ครับ |
|
|
|
    |
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 10:37 pm |
  |
ขอขอบคุณ แฟนคลับ
บางครั้งคนเราอยู่ในสังคม มันย่อมมีศีลหลุดไปบ้าง แต่มิได้หลุด ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร พระท่านคงไม่ถือสามั้งค่ะ เหตุเพราะเรายังอยู่บนทางโลก
เคยสังเกต ตัวเราเองเช่นกัน ที่พยายามรักษาศีล5ให้ครบ แต่คนนอกมักมองเราแปลก ตรงนี้มิได้สนใจเท่าใด แต่ข้อห้ามปดเท็จนี่ มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เพราะบางทีก็ต้องตอบเลี่ยงปดให้คนถาม จบการถาม จบการสงสัย เหมือนตอบไปเพื่อป้องกันตนเอง
การดื่มเช่นกัน มันก็เป็นเพื่อพิธี งานนึง อย่างเก่งไวน์ ไม่หมดโหล เอ้ยยย ไม่ใช่ค่ะ ไม่เกิน สามแก้ว เอง อิอิ ...เพื่อผิวพรรณ ดื่มไวน์แล้วผิวสวยค่ะ หมอสั่งมา |
|
|
|
  |
 |
aratana
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 02 พ.ย. 2006
ตอบ: 90
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยเอ็ด
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 10:37 pm |
  |
คิดดูดีๆ...
ส่วนมากจะผิด ข้อสุราแล้ว ขอ้ที่ตามมาคือ มุสาด้วย
นั่นแสดงว่า ความเป็นมนุษย์ขาดไปแล้ว 40% เหลือ 60%
ซึ่งถ้า ตายตอนนั้น แล้วเกิดเป็นคนอีก ก็จะเป็นคนแค่ 60% คือมีร่างกายเป็นคน แต่วิกลจริตไปเสีย
......................
ตัดใจเถอะ สุรา ไม่กินเลยดีที่สุด
จะเอา สุข หรือเอาเพื่อนขี้เมา
ตอนแรกที่เลิกดื่ม คล้ายๆกับ จะเสียมิตร
แต่พอเลิกจริงๆ มิตรที่จะเลิกคบนั่นแหละกลับมาเป็น บริวาร
ซึ่งเป็น "มิตรแท้" ถ้ามิตรเทียมจะไม่กล้ามาใกล้เลย ด้วยศีล ป้องกัน "คนมีศีล" นั่นเอง |
|
|
|
  |
 |
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 10:41 pm |
  |
เค้าว่ากันว่าถ้าพระท่านให้แล้วก็รับไว้ เพราะจากขณะที่เรารับ จนก่อนที่ศีลขอ้ใด ข้อหนึ่งจะขาด ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่ศีลเราครบ ก็พยายามให้เวลานั้นเนิ่นนานที่สุดครับ รักษาศีล เจริญเมตตา อานิสงส์จะทำให้ผิวพรรณผุดผ่องครับ อยู่ในอานิสงส์ 11 ข้อของการเจริญเมตตาครับ |
|
|
|
    |
 |
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 10:50 pm |
  |
อืม เราไม่ได้เพอเฟ็กไปเสียทุกอย่าง
คุณก็ถือว่าเป็นผู้มีจิตดีจิตงามนั้นแหละ เพราะมีสติดีพอที่จะระลึกชั่วดีต่างๆได้ มันก็เป็นทางไปสู่ความไม่พอใจในความชั่วนั้นแหละครับ ยิ่งสะสมมากเท่าไรก็ยิ่งมีพลังมากเท่านั้น
ผมอยากบอกว่า จงทำในสิ่งที่ดีๆต่อไป แม้ว่าจะได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็จงอย่าหยุดที่จะทำ เพราะพลังของเหล่านักธรรมคือ พลังที่ละอายต่อบาปนั้นเอง
May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับเจ้า สหายน้อย  |
|
_________________ ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด |
|
  |
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 11:08 pm |
  |
คุณ aratana การที่เราบอกว่า งดดื่มไม่ได้ ไม่ได้หมายถึงว่า ต้องดื่มให้เมา มีเพื่อนขี้เมา ไม่ใช่เช่นนั้นเลย การดื่ม มันเพื่อสังคม คนดื่มเป็นจะใช้ เครื่องเมาพอแค่เพลินเท่านั้น
การไม่ดื่มเลย ที่จริงมันก็ดีของคนนั้นไป ที่ร่างกายไร้สารมึมเมาเข้าร่างกาย แต่หมอบอกว่า ดื่มแค่พอเหมาะ ต้องพอเหมาะจริงๆนะ จะทำให้สุขภาพดีขึ้น เลือดลมดีขึ้น เพราะมีสิ่งเข้าไปกระตุ้น การดื่ม ไม่ใช่ดื่มทุกอาทิตย์ คนมีปัญญา จะรู้ว่าดื่มแค่ไหนจึงจะพอดี
เห็นด้วยกับ เศษพุทธทาสมากๆ เรายึดแบบคุณว่าแหละ สบายๆไม่เครียด เรื่องบุญ จะได้มาเท่าใด อยู่ที่ใจเราสุขมากกว่า สุขแบบไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร |
|
|
|
  |
 |
Atago
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
25 เม.ย.2007, 5:49 am |
  |
ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นระเบียบของธรรม มีศีลแต่ไม่ยึดมั่นในศีลจึงเห็นธรรม รักษาศีลเท่าชีวิต
แต่ไม่ติดในศีลนั้นเลย |
|
|
|
|
 |
|